“น้ำผึ้ง เธอว่าทำไมคนตระกูลสุวรรณเลิศทำไมถึงเชื่อใจยัยมุกดากันนักนะ พวกเราก็ใช้มาหลายวิธีแล้ว หล่อนแก้ตัวแค่ไม่กี่คำก็พ้นข้อกล่าวหาแล้ว น่าโมโหจริงๆเลย” พอวรรณวิมลรู้เรื่องในบ้านแล้ว ก็มาหาธินิดาทันที
ธินิดาดื่มน้ำชาด้วยท่าทีที่สง่างาม เธอขมวดคิ้วเป็นปม มุกดาโชคดีจริงๆเลยนะ ในบ้านถึงได้มีคนช่วยหล่อนพูดเยอะขนาดนี้ และชุติภาสยังขอโทษหล่อนอีก หล่อนได้เซ็นสัญญากับโรสและยูริสจริงๆด้วย
พอคิดได้ว่ามุกดาได้เซ็นสัญญากับโรสและยูริส ธินิดาก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมาทันที เธอรู้จักกับโรสมาตั้งนานหลายปี ตอนแรกคิดว่าครั้งนี้โรสจะให้หน้าตัวเอง ยังไงก็ต้องร่วมงานกันสักงาน แต่หล่อนทำเหมือนกำลังรำมวยจีน ไม่สนใจเธอเลยด้วยซ้ำ
แต่ทำไมใช้วิธีเดียวกันมุกดาถึงได้รับความสนใจจากโรสกับยูริสล่ะ? น่าแปลกใจจริงๆ
“ไม่ต้องรีบหรอก ตอนนี้พวกเราจะต้องให้ชุติภาสกับชลธีรู้สึกรำคาญมุกดาให้ได้ ส่วนคนอื่นพูดแล้วก็ไม่มีประโยชน์ คนบ้านนั้นมีแต่คำพูดของชลธีและชุติภาสสำคัญ” ธินิดาวิเคราะห์จากเนื้อผ้าของเรื่อง
“งั้นพวกเราควรทำยังไงกันดี ฉันอยากเห็นมุกดาไม่ได้ดี หล่อนไม่ดีฉันจะมีความสุขมาก น้ำผึ้ง เธอเข้าไปอยู่บ้านพวกเราได้ไหม บ้านของเรามีย่าที่แก่เกินไปและเริ่มไม่มีอำนาจอะไรแล้วด้วย แม่ของธวัชเขาก็ไม่มีความรู้อะไร มีแต่ฉันคนเดียว ฉันรู้สึกว่าตัวคนเดียวสู้พวกเขาไม่ได้เลย” วรรณวิมลขอร้องให้ธินิดาย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลสุวรรณเลิศ
“เธอจะบ้าไปแล้วหรือไง! ฉันจะใช้ข้ออ้างอะไรย้ายเข้าไป? แฟนของชลธีเหรอ? ฉันไม่ได้หน้าด้านขนาดนั้นนะ เป็นแค่แฟนก็เข้าไปอยู่บ้านพวกเธอแล้ว ต่อไปพวกเราตระกูลยืนนานจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?” ธินิดาสั่งสอนวรรณวิมลที่ไม่รู้จักกาลเทศะ ผู้หญิงคนนี้ไม่มีสมองหรือยังไงกันนะ?
“อ้อ ขอโทษด้วยนะ ฉันไม่ทันคิดน่ะ น้ำผึ้งเธออย่าโกรธเลยนะ” วรรณวิมลตอนนี้เองก็ไม่มีวิธีอื่นเหมือนกัน เธอก็ต้องพึ่งธินิดาช่วยตัวเองคิดหาวิธี
“ช่างเถอะ เธออย่าใจร้อนไป ฉันรู้แล้ว เธอไม่ต้องเร่งฉัน ฉันจะคิดหาวิธีที่ดีเอง วิธีที่ดีที่สุด ให้ทุกคนสามารถตัดขาดจากมุกดาได้”
“อืมๆ ฉันไม่เร่งเธอแล้ว เธอคิดไปช้าๆแล้วกัน คิดช้าๆนะ” วรรณวิมลอยากไล่มุกดาออกจากตระกูลสุวรรณเลิศที่สุด ตัวเองถึงจะได้กำไลที่แสดงถึงการเป็นนายหญิงในตระกูล
เธอยังคงระวังธินิดาอยู่ ถ้าธินิดาแต่งงานกับชลธีจริง งั้นเธอก็เป็นสะใภ้เอก ถึงตอนนั้นเรื่องที่ตัวเองตั้งใจทำมาทั้งหมดก็เสียเปล่าน่ะสิ เธอจะต้องเป็นนายหญิงของตระกูลสุวรรณเลิศให้ได้ เธอจะทำให้ตระกูลสุวรรณเลิศได้มีจุดยืนในพระนครอีกครั้ง
“อืม มากินของอร่อยก่อนเถอะ ไม่ต้องรีบนะ พวกเราจะต้องคิดแผนการที่ดีที่สุด มีเพียงแบบนี้ ถึงจะทำครั้งเดียวแล้วสบายได้ในทีเดียว เธอเข้าใจไหม?” ธินิดามองดูหน้าอกของวรรณวิมล ว่ากันว่าหน้าอกใหญ่ไร้สมอง แต่นี่ไม่มีทั้งหน้าอกและสมอง น้อยครั้งที่จะเห็นจริงๆ
พอนึกถึงตรงนี้ธินิดาก็ยืดอกตัวเอง แต่ผู้หญิงที่มีทั้งหน้าอกและสมองนั้นไม่ได้เห็นกันบ่อยๆนะ เธอรู้สึกหัวใจฟูมากจริงๆ
“รู้แล้วจ้ะๆๆ” วรรณวิมลพูดเอาใจ สายตาเธอมองไปที่หน้าอกของธินิดา หน้าอกนั้นไปทำมามั้ง? มีอะไรให้ภูมิใจกัน แค่จ่ายเงินเธอก็มีได้แล้ว
ทั้งสองนั่งลงอีกครั้ง แล้วดื่มชากินขนมว่าง
“กริ๊ง~” ทั้งสองกำลังคิดวิธีชั่วๆกันอยู่นั้น โทรศัพท์ของธินิดาก็ดังขึ้น ธินิดาเห็นว่าเป็นแม่ตัวเองปรีณาพรรณโทรมา เธอก็รีบรับสายทันที
“น้ำผึ้ง รีบมาโรงพยาบาลเร็วเข้า แม่อยู่โรงพยาบาล อย่าโทรหาพวกพี่ชายนะ รีบมาเร็วๆนะ” ปรีณาพรรณพูดในโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงที่รีบร้อน
“ค่ะ ได้ค่ะแม่ เดี๋ยวหนูจะรีบไป” พอธินิดาได้ยินว่าแม่ตัวเองเข้าโรงพยาบาล เธอก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีเอาเสียเลย
“อ่อน พวกเราแยกย้ายกันตรงนี้แล้วกัน ฉันไปโรงพยาบาลก่อน เธอกลับก่อนเลยนะ ฉันมีข่าวแล้วติดต่อเธอเอง” พูดจบธินิดาก็หยิบกระเป๋าแล้วรีบไปทันที
“แม่คะ แม่เป็นอะไรคะ? ทำไมถึงรีบแบบนี้?” พอมาถึงโรงพยาบาล ธินิดาก็เห็นปรีณาพรรณที่มีสีหน้าซีดเซียว
“น้ำผึ้ง มาแล้วเหรอ แม่อยากบอกว่าเหมือนแม่จะตรวจสอบเจอมะเร็งตับเลย และยังเป็นระยะสุดท้ายด้วย ทำยังไงดี?” ปรีณาพรรณรู้ว่าจุดจบจะเป็นยังไง เธอตกใจไม่เบาเลย และรู้สึกช่วงนี้เจ็บตรงบริเวณหน้าท้องข้างซ้ายบ่อยๆด้วย
“ว่าไงนะ? แม่คะ นี่มันตรวจสอบผิดหรือเปล่าคะ?” พอธินิดาได้ยินว่าแม่ตัวเองอาจจะเป็นมะเร็งตับ แล้วยังระยะสุดท้ายด้วย เธอก็ตกใจจนอึ้งไปเลย
“แม่ก็สงสัยเหมือนกัน เอาแบบนี้ บอกพ่อกับพี่ชายไปก่อนว่า พวกเราไปเที่ยวเล่นต่างประเทศกันสองคน แม่อยากลองไปตรวจสอบดูที่ต่างประเทศน่ะ” ปรีณาพรรณไม่ไว้ใจการตรวจสอบที่นี่เสียเท่าไหร่ เธอยังไม่อยากตายตอนนี้ เธอยังไม่เล่นลูกชายและลูกสาวตัวเองแต่งงานเลย ฉะนั้นตัวเองจะยังตายไม่ได้
“งั้นจะบอกพ่อกับพี่ชายไหมคะ?” ธินิดาถามปรีณาพรรณ
“ไม่ๆ ไม่ต้องบอกพวกเขา แม่ไม่อยากให้พวกเขารู้เรื่องนี้ ยิ่งเป็นพ่อด้วย แม่สงสัยว่าเขามีเมียน้อยข้างนอก ถ้ารู้ว่าแม่ป่วย พวกเขาคงดีใจมากแน่ แม่จะไปตรวจสอบก่อนแล้วค่อยว่ากัน ลูกก็บอกพี่ชายไปว่าออกไปเที่ยวเล่นที่เมืองนอกนะ จากนั้นพวกเราก็ไปด้วยกัน” ปรีณาพรรณพูดกับธินิดา
ที่นี่เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในพระนคร เธอไม่เชื่อละก็ คงต้องไปตรวจสอบเองที่ต่างประเทศ
“ได้ค่ะแม่ หนูจะบอกพี่ชายเดี๋ยวนี้เลย” ธินิดาน้ำตาไหลไม่หยุด เธอรู้ว่าความคิดตัวเองได้มาจากแม่ทั้งนั้น ถ้าแม่ไม่อยู่แล้ว ก็คงต้องพึ่งตัวเองแล้ว
………
“ชล ทำไมแม่ยังไม่กลับมาล่ะ?” มุกดานอนลงบนเตียง นีรชายังไม่กลับมาสักที เธอคิดถึงท่านมาก บ้านหลังนี้ถ้านีรชายังไม่กลับมาละก็ คงวุ่นวายไปหมดแน่
“พ่อไปหลายครั้งแล้ว เหมือนว่าจะมีบางเรื่องที่ยังไม่ได้จัดการ ในเมื่อแม่ตกลงแล้วว่าจะกลับมา แม่ก็ต้องกลับมาแน่นอน แม่เป็นคนรักษาคำพูดน่ะ” ชลธีลูบผมของมุกดาเบาๆ เขายังคงจัดการธุระในคอมเล็กๆน้อยๆ
“นี่ ชล นายว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ? หรือว่าเป็นเพราะพวกเราทำอะไรผิดหรือเปล่า? ย่าถึงได้ไม่ชอบฉันน่ะ” มุกดาเคารพคนแก่มาก แต่เธอคิดไม่ออกว่า ทำไมย่านิ่มถึงไม่ชอบตัวเองกันนะ
“เธอไม่ใช้เงินเสียหน่อย จะทำให้ทุกคนชอบเธอได้ยังไง? มีฉันชอบเธอคนเดียวก็พอแล้ว คนอื่นเธอไม่ต้องไปสนใจหรอก ฉันจะบอกข่าวดีกับเธอ เธอจะต้องดีใจมากแน่ นั่นก็คือหนังสือพิมพ์ที่รายงานข่าวเรื่องเธอกับประวีร์หายไปจากพระนครแล้ว อีกอย่างหนังสือพิมพ์ที่รายงานข่าวว่าเธอกับย่าทะเลาะกัน ก็ล้มละลายแล้วล่ะ” ชลธีบอกข่าวนี้กับมุกดา
“หายไปแล้ว? น่าแปลกจัง นายทำเหรอ? ชลธี?” มุกดาคิดว่าในพระนครคนที่มีความสามารถแบบนี้มีแค่ไม่กี่คน น่าจะเป็นสามีตัวเองนะ?
“ที่ล้มละลายน่ะฝีมือฉันเอง แต่หายไปเรื่องนี้ฉันไม่ได้เป็นคนทำนะ เพราะฉันหาที่อยู่ของสำนักพิมพ์นั้นไม่ได้” แต่ถึงแม้ชลธีจะไม่ได้เป็นคนทำ เขาก็แอบได้ยินมาว่าใครเป็นคนทำ