“น้ำผึ้ง เธอก็หมั้นกับนัตย์รวีร์ก่อนแล้วกัน ไม่เป็นไรหรอก นัตย์รวีร์เป็นคนซื่อบื้อ อาจจะเข้าใจความหมายที่เธอสื่อยากหน่อย ขอแค่เธอกับวรรณวิมลร่วมมือกัน ก็จะไล่มุกดาออกไปได้ เท่านี้ก็สำเร็จแล้ว เรื่องการหมั้นก็สามารถยกเลิกได้ทุกเมื่อเหมือนกัน” ปรีณาพรรณพูดกับธินิดา ธินิดาถึงได้ตกลงหมั้นกับนัตย์รวีร์
“อีกอย่าง ถ้ามุกดาไม่ยอมออกจากตระกูลสุวรรณเลิศ งั้นฉันก็คงต้องใช้วิธีสุดท้าย นั่นก็คือให้หล่อนตายไปพร้อมฉันเลย” ปรีณาพรรณพูดอย่างดุเดือด
“แม่คะ แม่อย่าพูดแบบนี้เลย หนูรักแม่นะคะ แม่จะไปไหนไม่ได้นะคะ” ธินิดากอดเอวปรีณาพรรณไว้
ปรีณาพรรณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้ายหลังจากกลับมาจากต่างประเทศ เธอยังไม่ได้บอกกับสามีและลูกชายตัวเอง มีแค่ธินิดารู้คนเดียว
“แม่คะ แม่ไปรักษาเถอะค่ะ ตอนนี้การรักษาพัฒนาไปไกลแล้ว หมอจะต้องรักษาแม่ได้แน่นอนค่ะ” ธินิดาโน้มน้าวปรีณาพรรณ
“ลูก นั่นเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งนั้น มะเร็งตับระยะสุดท้าย แม้จะเป็นเทพก็รักษาไม่หายหรอก แม่ไม่อยากไปรับกรรมนั้นนะ ถึงแม้ต้องตายแม่ก็ต้องลากคนไปด้วย ลูก แม่ทำเพื่อลูกได้ทุกอย่างเลยนะ” ปรีณาพรรณกอดลูกสาวตัวเองไว้แน่น ลูกสาวก็เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของเธอ
ดังนั้นทั้งสองก็คุยกันว่าจะเข้าตระกูลสุวรรณเลิศยังไงดี ตอนนี้ไม่ว่าลูกสาวจะทำอะไร ปรีณาพรรณจะสนับสนุนเต็มที่ ขอแค่ลูกสาวมีความสุข แม้ต้องตายเธอก็ยอม
เรื่องการหมั้นหมายระหว่างตระกูลสุวรรณเลิศกับตระกูลยืนนานเป็นข่าวดังลือไปทั่วพระนคร แต่ไม่ได้พูดถึงความรักของทั้งสองเลย มีแต่ชื่อเสียงของสองตระกูลที่โด่งดังไปทั่ว
“ได้ยินว่าชลธีของตระกูลสุวรรณเลิศชอบธินิดาไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมถึงหมั้นกับคนโตนัตย์รวีร์ได้ล่ะ?” หลายคนต่างก็วิจารณ์กัน และมีหลายคนก็ไม่เข้าใจว่าทำไม
“เธอไม่รู้เหรอ ชลธีหลงเสน่ห์ยัยสุนัขจิ้งจอกอยู่ ทำให้เขาทิ้งคุณธินิดาที่แสนดีและอ่อนโยนไป” มีคนแอบนินทาใส่นมใส่ไข่
“เธอว่าไงนะ? ใครคือสุนัขจิ้งจอก? ฮะ!?” จันวิภาได้ยินได้ยินคนพูดแบบนี้ก็กระโดดออกมาทันที แค่เข้าห้องน้ำยังได้ยินแบบนี้ ทำให้เธอโกรธมาก
“ใครอ่อยประธานชลธี คนนั้นก็คือสุนัขจิ้งจอกนั่นแหละ” ผู้หญิงคนนั้นดูจะไม่ยอมง่ายๆ เธอจ้องมองจันวิภา ท่าทางเหมือนจะตบจันวิภา
“ถ้ากล้าก็ลองพูดอีกทีดิ!” จันวิภาเลิกแขนเสื้อขึ้นเตรียมตบคนตรงหน้า ผู้หญิงคนนี้ดูไม่คุ้นหน้าเลย ไม่รู้ว่ามาจากไหน
“ไม่สิ ที่นี่เป็นห้องน้ำของบริษัทฮอนดากรุ๊ป เธอเป็นใคร ทำไมถึงมาสร้างข่าวลือในบริษัทฮอนดากรุ๊ป?” ตอนนี้เองจันวิภาก็สังเกตเห็นว่าเธอไม่รู้จักผู้หญิงตรงหน้าเลย น่าจะไม่ใช่พนักงานของบริษัทฮอนดากรุ๊ปนะ
“ฉันไม่ใช่พนักงานของบริษัทฮอนดากรุ๊ปหรอกนะ ฉันมาคุยเรื่องธุรกิจต่างหาก” ผู้หญิงมองบนอย่างแรง ท่าทางเหมือนจะดูถูกจันวิภามาก
จันวิภามองดูผู้หญิงตรงหน้า เธอกำลังจะลงมืออยู่แล้วเชียว แต่ทันใดนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่าเคยเจอผู้หญิงคนนี้ที่ไหน ผู้หญิงคนนี้ก็คือคนที่งี่เง่าคนนั้นไงที่เจอบนภูเขาฟ้าร้อง
“ฉันรู้แล้วว่าเธอคือใคร เธอก็คือผู้หญิงที่ไปเดทกับณัฐวรรธน์บนภูเขาฟ้าร้อง ฮ่าๆๆ เธอแอบมีชู้ลับหลังสามี แล้วไปเที่ยวกับผู้ชาย แถมยังพาลูกตัวเองไปอีก หน้าไม่อายจริงๆเลยนะ” จันวิภาชี้หน้าพูดความลับของผู้หญิงคนนั้นออกมาเสียงดัง
“เธอ เธอคือผู้หญิงคนนั้น เธอกำลังใส่ร้ายป้ายสีฉันนะ เธอรู้ไหมว่าฉันคือใคร?” ผู้หญิงโง่คนนี้ยังไม่รู้ว่ากำลังหาเรื่องใครอยู่
“ฉันก็ต้องรู้อยู่แล้วเธอคือใคร เธอก็คือผู้หญิงชั่ว เธอมาคุยธุรกิจ เธอคิดว่าประธานชลธีของเราจะร่วมงานกับเธอเหรอ? นอกเสียว่าเขาบ้าไปแล้วจริงๆ” จันวิภาตื่นเต้นขึ้นมาก็พูดพล่ามโดยไม่ทันได้ยั้งคิดก่อน
“พิมพ์ เมื่อกี้ผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรน่ะ? ทำไมฉันไม่รู้เรื่องเลย?” มีเสียงหยาบดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“คุณไม่เข้าใจก็เป็นเรื่องปกติมาก แต่ผมยังได้ยินว่ามีคนบอกว่าผมบ้า ทำไมผมถึงไม่รู้ล่ะ?” เสียงของชลธีดังขึ้นจากด้านหลัง
จันวิภาทะเลาะกับผู้หญิงคนนั้นจนเดินออกมาจากห้องน้ำ ตอนนี้เองชลธีกับพันเลิศก็คุยกันเสร็จพอดี
ตอนแรกเห็นว่าทั้งสองกำลังจะทะเลาะกัน อยากเข้าไปดึงตัวออกมา สุดท้ายเดินเข้าไปใกล้ก็ได้ยินว่ามีคนบอกว่าตัวเองบ้า
“อุ๊ยตายจริง! ประธานชลธี ลมอะไรหอบคุณมาที่นี่กันคะ? รองเท้ามีฝุ่นเกาะนิดหน่อย ฉันช่วยคุณเช็ดนะคะ” จันวิภาก้มหัวลงไป เช็ดรองเท้าหนังที่ไม่มีฝุ่นเกาะอยู่จริง
“พอแล้ว รองเท้าหนังของผมไม่มีฝุ่นหรอกนะ พวกคุณทำอะไรกัน ไหนว่ามาสิ” ชลธีมองดูผู้หญิงสองคนตรงหน้า
ที่จริงพันเลิศก็หล่อดีนะ แต่รอยสักที่โผล่ออกมาตรงหลังมือ อีกอย่างอายุก็ยังไม่เยอะ แต่กลับไว้หนวดเครา ท่าทางดูจะดุมาก
“พิมพ์ เมื่อกี้คำพูดของคุณคนนี้ฉันไม่เข้าใจ เธออธิบายให้ฉันที” พันเลิศมองภรรยาตัวเองด้วยดวงตาที่เฉียบคมคลายเสือดาว
“คือว่า คือฉันก็ไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร พวกเราแค่หยอกกันเล่นๆน่ะ” พิมพ์กลัวพันเลิศ ถ้าเรื่องที่ตัวเองมีชู้ถูกพันเลิศรู้เข้า เขาคงไม่ปล่อยตัวเองไปง่ายๆแน่
“คุณครับ คุณกำลังหยอกเล่นกับภรรยาผมเหรอครับ? แต่เหมือนว่าในหมู่เพื่อนของภรรยาผมไม่มีคุณนะครับ” คำพูดนี้แม้พันเลิศจะพูดกับจันวิภา แต่มันหมายความว่ายังไง ทุกคนก็ต่างรู้ดี
“วันนี้เธอไม่มีอะไรทำเหรอ?” ชลธีมองจันวิภา ทำให้จันวิภาที่เตรียมดูเรื่องสนุกต้องรีบวิ่งหนีไปก่อน
“อ้อ ขอโทษนะ เกือบลืมไปเลย วันนี้ฉันมีเรื่องสำคัญต้องไปทำ ฉันไปก่อนนะคะ พวกคุณคุยกันไปช้าๆเลยค่ะ” จันวิภารีบวิ่งหนีอย่างเร็ว
คนอื่นๆที่เห็นท่าทางของพันเลิศ ก็ไม่มีความกล้าที่จะดูต่อ และแอบหนีกันไปหมด
พิมพ์มองดูผู้ชายสองคนที่มองตัวเองอยู่ เธอกลัวจนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
“ประธานชลธี ต้องขออภัยจริงๆ การร่วมงานวันนี้ผมถอยให้คุณสิบเปอร์เซ็นต์แล้วกัน ถือว่าเป็นการขอโทษ พิมพ์ พวกเราไป” พันเลิศพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนกับชลธี
แต่ความอ่อนโยนของเขา กลับทำให้พิมพ์ยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ ยิ่งพันเลิศอ่อนโยนมากเท่าไหร่ คนคนนั้นก็จะอนาถมากเท่านั้น
มองดูพันเลิศพาภรรยาตัวเองกลับไป ชลธีกลับรู้สึกพันเลิศดูน่าสนใจดีนะ ยอมถอยเปอร์เซ็นต์ให้ตัวเอง ถ้าเป็นแบบนี้ละก็ พิมพ์ผู้หญิงคนนี้คงแย่แน่
พันเลิศทำแบบนี้เพียงแค่อยากข่มอารมณ์โกรธของตัวเองไว้ พันเลิศในตอนนี้จะต้องคิดว่าตัวเองเสียหน้ามากแน่ๆ
“เอาล่ะ ดูอะไรกัน ยังดูกันไม่พอหรือไง? จะต้องให้ฉันพูดกับทศพรไหม? คำพูดเดียวของเธอ อาจทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งตายได้เลยนะ!” ชลธีพูดกับจันวิภาที่แอบดูอยู่หลังเสานั้น