แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 182 มรสุมของตระกูลสุวรรณเลิศ

มุกดาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ลงมา ธินิดาเทน้ำให้เสร็จแล้ว เธอเห็นมุกดาลงมา ก็รีบวิ่งไปยื่นน้ำให้มุกดา

“ไม่ต้องหรอก เธอวางไว้ตรงนี้แหละ ตอนนี้ฉันยังไม่อยากดื่ม” มุกดาพูดกับธินิดา

แต่ธินิดากลับเอียงตัว ล้มลงไปทางมุกดา มุกดาเอามือบังไว้ จากนั้นก็ได้ยินเสียง “กรี๊ด!” ดังลั่นบ้าน น้ำร้อนนั้นสาดลงบนเท้าของธินิดา เท้าของเธอแดงเถือกไปหมด

“ตายแล้ว! เธอไม่ดื่มก็ไม่ต้องดื่มสิ จะสาดน้ำร้อนๆแบบนี้ให้คนอื่นทำไม? จริงๆเลย ชล รีบส่งน้ำผึ้งไปโรงพยาบาลเร็ว เดี๋ยวหนังก็ลอกออกจนหมดหรอก” ย่านิ่มดึงตัวมุกดาออกไป เธอเป็นห่วงเท้าของธินิดาเหลือเกิน มีตุ่มใสๆขึ้นเต็มเท้าแล้ว

ชลธีเห็นตุ่มใสขึ้นเต็มเท้า มองดูแล้วก็น่าเห็นใจอยู่หรอก ตอนนี้ในบ้านก็มีเขาคนเดียวที่ไปส่งได้ คงให้ชุติภาสผู้เป็นพ่อไปส่งธินิดาที่โรงพยาบาลไม่ได้หรอก ไม่มีทางอื่น เขาเลยอุ้มธินิดาขึ้นมาออกจากห้องรับแขกไป

“ตายแล้ว เวรกรรมจริงๆเลย เท้าบาดเจ็บขนาดนี้ ต่อไปจะเดินยังไงล่ะเนี่ย” ย่านิ่มพูดตามหลัง

มุกดาก็บาดเจ็บที่เท้าเหมือนกัน แต่เธอกลับไม่เคยถามไถ่อาการเลยสักครั้งเดียว

มุกดาเห็นเท้าธินิดาที่มีตุ่มใสขึ้นเต็ม แม้เธอจะรู้ว่าธินิดาตั้งใจทำแบบนี้ แต่ตอนนี้อธิบายไปก็ไม่มีประโยชน์

“ฉันไปด้วย?” มุกดาอยากตามชลธีไปโรงพยาบาลด้วย แต่กลับถูกสิริกรขวางไว้เสียก่อน

“เธออย่าไปวุ่นวายเลย ตอนนี้เท้าของหนูน้ำผึ้งบาดเจ็บอยู่ เธอจะไปทำอะไร?” สิริกรพูดเหมือนว่ามุกดาเป็นต้นเหตุที่ทำให้ธินิดาเป็นแบบนี้เลย

“ไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว ชลไปคนเดียวก็พอ ส่วนคนอื่นๆก็รออยู่ที่บ้านนั่นแหละ” ชุติภาสตอนนี้ก็ออกมาเบ่งอำนาจ ในบ้านนี้ทำไมถึงไม่เคยสงบเลยนะ

“เดี๋ยวฉันโทรหานิตย์ ให้เขารีบตามไปที่โรงพยาบาลนะ ตอนนี้แล้วยังทำงานที่บริษัทอีก คงลำบากน่าดู” ตอนนี้เองสิริกรก็นึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาลูกชายตัวเอง ชลธีอุ้มธินิดาไปก็เป็นเรื่องฉุกเฉิน นั่นเป็นลูกสะใภ้ของตัวเองเลยนะ จะใครมาเอาเปรียบไม่ได้

ชลธีอุ้มธินิดาขึ้นรถและมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล คนในบ้านยังไม่ทันได้พูดอะไร ชุติภาสก็หน้าบูดหน้าตึงแล้ว เขาจะบ้าตายเพราะบ้านหลังนี้แล้วนะ

เขาตัดสินใจแล้วว่า แม้จะต้องคุกเข่าอ้อนวอนนีรชา ก็ต้องเชิญเธอกลับมาให้ได้ บ้านหลังนี้จะขาดคนควบคุมไปไม่ได้เลยจริงๆ

“บ้านหลังนี้ไม่มีคนดูแลไม่ได้จริงๆ ชุติภาส ลูกเคยคิดเรื่องนี้บ้างไหม?” ตอนนี้เองย่านิ่มก็พูดถึงปัญหานี้ขึ้นมาอย่างเหมาะเวลา

“อืม ผมรู้ครับแม่ บ้านหลังนี้ต้องการคนดูแลจริงๆ” ชุติภาสพยักหน้า เขาก็เพิ่งคิดปัญหานี้ได้เหมือนกัน

“นั่นสิ ดูสิตอนนี้บ้านหลังนี้วุ่นวายขนาดไหน พ่อของลูกก็เพิ่งจากไปได้ไม่นาน บ้านหลังนี้ก็ เห้อ~ ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ” ย่านิ่มมีตัวเลือกในใจอยู่แล้ว

“ครับ พรุ่งนี้ผมจะไปพานีรชากลับมา ถึงจะต้องมัดกลับมา ผมก็จะมัดเธอกลับมาให้ได้” จนถึงตอนนี้ชุติภาสก็ยิ่งรู้แล้วว่า นีรชาสำคัญมากแค่ไหน เมื่อก่อนเรื่องทุกอย่างใน้บานก็มีนีรชาเป็นคนจัดการ ชุติภาสไม่ต้องทำอะไรเลย

ย่านิ่มได้ยินชุติภาสพูดแบบนี้ เธอก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที กว่าจะบีบบังคับให้นีรชาออกไปได้ แล้วเอาสิริกรมา ถ้านีรชากลับมา บ้านหลังนี้ก็เปลี่ยนไปเลยน่ะสิ

“ลูก เรื่องนี้อย่าเพิ่งรีบเลยนะ น้ำผึ้งเพิ่งบาดเจ็บ ต้องรักษาตัวระยะหนึ่ง พวกเราต้องดูแลเธอดีๆ ไม่งั้นต่อไปถ้าพ่อแม่เธอมา พวกเราจะไม่มีหน้าเจอเขาเอานะ” ย่านิ่มได้ยินว่าจะพานีรชากลับมา เธอก็อยากห้ามทันที

“ไม่รีบได้ยังไง บ้านหลังนี้มีแต่เรื่องเต็มไปหมด ถ้านีรชาไม่กลับมา ฉันก็จะไม่กลับมาเหมือนกัน” ชุติภาสกลับหลังหันเดินออกไปอย่างโมโห ภรรยาของตัวเอง เขาก็ยังตัดสินใจเองไม่ได้งั้นเหรอ

“นี่ นี่ ลูก แม่ไม่ได้หมายความอย่างนั้น” ย่านิ่มจะให้ชุติภาสไปง่ายๆแบบนั้นไม่ได้นะ ถ้าเขาไปแล้ว ชลธีก็จะต้องไปแน่ งั้นบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ ค่าใช้จ่ายมาจากไหนล่ะ?

แต่ชุติภาสหงุดหงิดใจมาก เขาไม่ได้กลับไปที่ห้องนอนตัวเอง ห้องนอนนั้นมีแค่ตัวเองคนเดียว ดูเงียบเหงามาก เขามาที่ห้องหนังสือของคุณปู ไปดูรูปของปู่ปรัณ

“พ่อครับ ผมทำอะไรผิดจริงๆใช่ไหมครับ? ทำไมเรื่องทุกอย่างถึงกลายเป็นแบบนี้ ผมอยากให้ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างสงบ ตอนนั้นพ่อก็หมายความแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ? แต่ตอนนี้ทำไมถึงไม่เหมือนความคิดผมเลย?” ชุติภาสถามพ่อตัวเอง

แม่ก็อายุเจ็ดสิบกว่าแล้ว อยู่ข้างนอกนั้นคนเดียว เขารีบแม่กลับมานั่นเป็นเรื่องที่ผิดมากเลยเหรอ? แม่จะให้สิริกรมาดูแลตัวเองด้วย บอกว่าดูแลมาหลายปีจนชินไปแล้ว นี่มันผิดมากเลยเหรอครับ?

แต่ทำไมทุกอย่างถึงไม่เป็นเหมือนเดิมล่ะ? นีรชาโกรธเลยกลับไปบ้านแม่ ระหว่างพวกสะใภ้เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ชอบมีคนบาดเจ็บตลอดเลย

ไม่ได้ จะต้องรับนีรชากลับมาให้ได้ จะต้องให้เธอได้อำนาจนายหญิงของตระกูลสุวรรณเลิศ

ชุติภาสคิดดีแล้ว เขาก็ออกมาจากห้องหนังสือของปู่ปรัณ เขาหยิบเสื้อผ้า บอกกับคนในห้องว่าเขาจะออกไปสองสามวัน จากนั้นก็เดินออกไปทันที

ตอนนี้เองมุกดากลับรู้สึกสบายใจ เพราะทุกคนก็ต่างยุ่งกันหมด และไม่มีใครมาทำท่าเป็นศัตรูกับตัวเอง

ย่านิ่มเห็นชุติภาสไปแล้ว เธอก็พาสิริกรกลับห้องนอนตัวเอง มุกดานั่งอยู่ในห้องรับแขกคนเดียว เธอมองดูละครวุ่นวายเรื่องนี้ ต่างคนต่างจัดฉากขึ้นมาเอง แสดงละครแบบนี้ทุกวัน เห้อ~ เธอรู้สึกเหนื่อยแทนพวกเขามากเลย มีชีวิตเรียบง่ายสงบสุขไม่ดีกว่าเหรอ?

ชลธีไม่ได้กลับมาทั้งคืน และไม่ได้โทรศัพท์มาด้วย มุกดาลองโทรไปหาเขา แต่โทรศัพท์กลับปิดเครื่องไว้

มุกดานอนลงบนเตียง อ่านหนังสือ ในใจก็คิดเรื่องช่วงนี้ในบริษัท ในตอนนี้เองก็มีสายแปลกหน้าโทรเข้ามา

มุกดาวางสาย แต่สายนั้นกลับโทรเข้ามาอีก

“ฮัลโหล ใครคะ?” มุกดารับสาย

“มุก ฉันเอง คืนนี้ฉันอาจจะกลับไม่ได้ เมื่อกี้โทรศัพท์แบตหมดน่ะ ฉันกลัวว่าเธอจะเป็นห่วง ดังนั้นเลยใช้โทรศัพท์สาธารณะโทรหาเธอ เธอก็นอนก่อนเลยนะ” สายนั้นคือสายที่ชลธีโทรมา

ได้ยินเสียงของชลธี มุกดาก็วางใจแล้ว แม้ในใจจะยังไม่สบายใจอยู่ก็ตาม แต่เธอก็เลือกที่จะเชื่อใจชลธี

ชลธีวางสายไป จัดการเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงของตัวเอง

นั่งลงบนเก้าอี้ยาวด้านนอกห้องพักผู้ป่วย ปรีณาพรรณงี่เง่าแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ชลธีคิดไม่ถึงเลย ลูกสาวโดนน้ำร้อนลวกเท้า เธอก็จะไปหามุกดาอยู่ได้ บอกจะให้มุกดาโดนลวกเท้าเหมือนกัน ถึงจะให้อภัยมุกดา

ทะเลาะกันทั้งคืน ชลธีก็เหนื่อยเหมือนกัน สุดท้ายเขาเลยสัญญาว่าจะเฝ้าธินิดาอยู่ตรงนี้ ปรีณาพรรณถึงยอม

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset