แสงอาทิตย์ร้อนดั่งนั่งบนเปลวไฟ เผาผลาญดวงตาของมุกดาเสียจนเริ่มพร่ามัวยิ่งไปอีก เธอพุ่งออกไปด้วยความเร็วจนเกินไป รถที่อยู่ข้างหน้าจึงหักหลบไม่ทันแล้วพุ่งชนมุกดาเข้าอย่างจัง
ได้ยินเพียงแค่เสียง “ปัง” เท่านั้นมุกดาถูกชนเข้าเสียแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น?” เสียงของผู้ชายที่ดูเย็นชาและน่าดึงดูดดังขึ้นมาจากเบาะหลัง
“ท่านประธาน ดูเหมือนว่าจะมีคนวิ่งมาชน ผมจะลองต่อไปดูครับ” คนขับรถรู้สึกแค่เพียงว่ามันผ่านไปเพียงชั่ววูบ ไม่ทันได้มองอะไรให้ชัดเจน
ชายที่นั่งอยู่ด้านหลังไม่พูดอะไร คนขับเปิดประตูลงจากรถ เพื่อที่จะลงไปตรวจสอบดู
มุกดาโดนชนจนล้มหงายหลังลงไปนอนกับพื้น ตอนนี้เธอไม่รู้สึกมึนหัวอีกแล้ว ความโกรธที่สุมอยู่ในใจก็ไม่มีแล้ว หลงเหลือไว้เพียงความรู้สึกปวดระบมบั้นท้าย
“คุณผู้หญิง คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?” พอคนขับรถเห็นท่าทางที่ดุร้ายของมุกดาแล้ว ก็เริ่มรู้สึกเครียดขึ้นมาแล้ว
ตอนนี้มุกดากำลังหอบหายใจเพราะรู้สึกปวดสะโพก ไม่อยากจะพูดอะไรเลยจริงๆ
คนขับรถยังถามเธออีกสองคำ แต่เธอก็ไม่พูดอะไร แล้วเอื้อมมือคว้าอากาศ เพียงแค่คิดอยากจะลุกขึ้นมา เมื่อคนขับรถเห็นก็เข้าใจความหมายของเธอทันที แล้วเข้าไปช่วยพยุงเธอขึ้นมา
พอมุกดาลุกขึ้นยืนได้แล้ว ก็พิงอยู่ที่รถ เมื่อยืนได้มั่นคงดีแล้ว เธอก็รู้สึกว่าวันนี้ตัวเองซวยมามากพอแล้ว ก่อนหน้านี้ก็ถูกคนนำตัวไปร่วมหลับนอนกับชายแปลกหน้า จากนั้นก็ถูกพบว่าลอบคบชู้จนต้องถูกหย่า พอมาเดินบนถนน ก็ยังถูกรถชนอีก
ตอนนี้เธอเตะไปที่รถยนต์ Maybach สีดำอย่างรุนแรงด้วยความโกรธไปหนึ่งที ถึงค่อยคลายความโกรธในใจลงไปได้บ้าง
ในตอนที่เธอกำลังจะเตะลงไปอีกครั้ง กระจกรถยนต์ก็ค่อยๆ ลดลง เผยให้เห็นใบหน้าของชายที่นั่งอยู่ด้านใน พระเจ้า! บนโลกใบนี้จะมีใบหน้าที่หล่อเหลาไร้ที่ติแบบนี้ได้อย่างไร?
มุกดาลดเท้าที่ชะงักอยู่กลางอากาศลง
ตอนแรกก็นึกว่าธีรเมทหล่อพออยู่แล้วนะ แต่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ กลับทิ้งห่างธีรเมทไปไกลถึงทะเลแปซิฟิก
“ยังมีแรงเตะรถได้ คงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก จ่ายเงินค่าเสียเวลาให้เธอไปซะ” เสียงเย็นชาของผู้ชายคนนั้นพูดออกมาหนึ่งประโยค เพียงแค่นั้นก็ทำให้ความโกรธของมุกดานั้นเพิ่มสูงขึ้นไปอีก
“คุณคิดว่าคุณนั่งรถหรูแล้วจะวิเศษมากอย่างนั้นสิ? มีเงินฟาดหัวอย่างนั้นเหรอ? ถึงกูจะไม่มีเงิน แต่ก็ไม่ใช่คนที่คุณจะให้เงินจำนวนนั้นฟาดหัวได้” มุกดาชี้ไปที่ผู้ชายรูปหล่อคนนั้น แล้วด่าอย่างไม่สนใจภาพพจน์เลยสักนิด
แต่พอผู้ชายคนนั้นพูดจบ ก็เลื่อนกระจกรถขึ้น ไม่สนใจเธออีกต่อไป มุกดารู้สึกเหมือนกำลังทุบลงบนปุยนุ่นก็มิปาน
“คุณผู้หญิง นี่เงินครับ เจ้านายของพวกเรากำลังรีบ คุณไปตรวจที่โรงพยาบาลด้วยตัวเองก่อนเถอะ” คนขับรถได้หยิบธนบัตรร้อยหยวนปึกหนาออกมาแล้วยื่นให้มุกดาจริง ๆ
มุกดารับเงินไปอย่างโกรธเคือง ในขณะที่คำขับรถคิดว่าสามารถใช้เงินแก้ไขเรื่องนี้ได้สำเร็จแล้ว มุกดากลับเปิดประตูหลังด้วยความเร็วสูง แล้วขว้างเงินปึกหนาใส่หน้าผู้ชายรูปหล่อคนนั้นตรง ๆ จากนั้นวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
ชลธียังคงตกตะลึงกับเงินที่ปลิวว่อนเหล่านั้นอยู่ ความจริงแล้วตอนที่มุกดาเปิดประตูนั้น เขายังคิดอยู่ว่าผู้หญิงคนนั้นคงจะมาพูดขอบคุณตัวเอง แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า สุดท้ายจะเป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร
“จะ เจ้านาย คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” คนขับรถรู้สึกตกใจจนพูดตะกุกตะกัก
ชลธีหยิบธนบัตรหนึ่งใบที่ปลิวติดหน้าตัวเองออก เขาเพียงแค่พูดกับคนขับรถอย่างราบเรียบว่า
“เก็บเงินขึ้นมาเถอะ!”
เขามองดูเงาที่จากไปอย่างรีบร้อนเพราะกลัวจะโดนจับของมุกดา มุมปากก็อดที่จะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มไม่ได้
ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจจริง ๆ ตอนที่เธอเห็นตนเมื่อสักครู่นี้ จำตนเองไม่ได้เลยเหรอ? เรื่องเมื่อคืนมันน่าเหลือเชื่อเกินไปจริง ๆ นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะเดินไปผิดห้อง แล้วยังถูกผู้หญิงคนนี้ยั่วยวนอีก
มุกดาวิ่งอย่างรวดเร็ว รถคันเมื่อกี้นั้น เธอเองก็พอจะมองออกว่าเป็นรถหรูคันหนึ่ง คนที่จะนั่งรถแบบนั้นได้ จะต้องร่ำรวยแน่
ตอนนี้ตัวเองเป็นแค่ลูกคุณหนูล้มละลาย ไม่ควรจะหาเรื่องคนแบบนี้แน่นอน เมื่อกี้นี้ใจร้อนมากเกินไป ถ้าหากยังมีครั้งต่อไป ก็คงจบเห่ เพราะตอนนี้เธอยังต้องใช้เงินอีก
มุกดาจึงกลัวว่าคนที่อยู่บนรถคันนั้นจะมาสร้างความลำบากให้ตัวเอง เธอก็เลยรีบวิ่งอย่างรวดเร็ว เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอจะไปที่ไหน
ในเวลานี้เอง ก็มีคนวิ่งเข้ามา แล้วตบเบา ๆ บนไหล่ของมุกดาอย่างกะทันหัน ทำเอามุกดาตกใจจนกรีดร้องออกมา