แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 205 ผู้ช่วยประธานคนใหม่

“ประธานวรกัญญาคะ ข้อมูลรายละเอียดของคนที่สมัครงานเข้ามาอยู่นี่ค่ะ คุณดูแยกตามแผนกได้เลยค่ะ” เลขาให้วรกัญญาดูข้อมูลเกี่ยวกับพนักงานใหม่ที่รับสมัครเข้ามา

“ส่งพวกนี้ไปให้ฝ่ายบุคคลตรวจสอบเถอะ ปกติพวกคุณทำกันยังไงก็ทำอย่างนั้น จริงสิ ผู้ช่วยที่ฉันต้องการต้องมีความสามารถอเนกประสงค์ โดยเฉพาะการดื่ม และสามารถเป็นบอดี้การ์ดได้ด้วยนะ” วรกัญญาแค่ระบุความต้องการของตัวเอง เธอมักจะไปข้างนอกบ่อยจึงไม่สะดวกหากพาณฐวรไปด้วยตลอด เพราะณฐวรมีอาชีพจิตรกรเป็นของตัวอยู่แล้ว ซึ่งผู้ช่วยที่เธอต้องการหานั้นไม่เจาะจงเพศ

“ได้ค่ะ เราตัดสินใจได้หนึ่งคนแล้วค่ะ กำลังรอการอนุมัติจากฝ่ายบุคคล ถ้าตรวจสอบผ่านแล้ว ฉันจะพาเข้ามาพบคุณค่ะ” เลขารู้สึกว่าวรกัญญาเป็นคนที่ค่อนข้างพูดด้วยง่าย และเธอก็เชื่อใจลูกน้องมาก

เมื่อว่างแล้ว วรกัญญาจึงโทรหาพ่อกับแม่ “ฮัลโหลค่ะคุณพ่อคุณแม่ พวกคุณชินกับฝรั่งเศสแล้วหรือยังคะ เอวของคุณพ่อเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นบ้างไหมคะ”

“อ้อ มุกเหรอ เอวของคุณพ่อของหนูไม่ค่อยดี หนูอาจจะต้องอยู่ในประเทศสักพักนะ ลำบากหนูแล้ว” ใจจริงธาราวดีไม่เต็มใจให้มุกกลับประเทศ แต่ครั้งนี้ไม่มีทางเลือก แต่ไม่ช้าก็เร็วอย่างไรลูกก็ต้องได้พบหน้ากับชลธี ไม่สามารถหนีได้ไปตลอดชีวิต ต่อจากนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการสรรค์สร้างของคนทั้งคู่

“ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ ฉันทำงานที่ไหนก็ได้ อยู่ที่นี่ก็ไม่ต่างกันหรอกค่ะ” วรกัญญารู้สึกว่าแม่เกรงใจตนเกินไป ห้าปีมานี้เธอชอบทำงาน ทำงานไม่หยุด มีแค่ตอนที่ทำงานเท่านั้น จิตใจเธอถึงได้สงบ ทันทีที่หยุด ใจเธอจะเจ็บปวด ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

สองแม่ลูกคุยกันอีกสักพัก ก่อนจะวางสายไปอย่างไม่เต็มใจ

อาการบาดเจ็บที่หลังส่วนล่างของคุณโจนส์เกี่ยวข้องกับไต ซึ่งยังคงต้องรอผล

วรกัญญาคุยทักทายกับครอบครัวไปแล้วทำงานต่อ หลังจากฝ่ายบุคคลได้ผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ในที่สุดก็นำผู้ช่วยชายคนหนึ่งมาพบวรกัญญา

“ประธานวรกัญญา ท่านนี้เป็นผู้ช่วยที่สมัครเข้าในครั้งนี้ครับ ทุกด้านดีมาก และยังพูดภาษาต่างประเทศได้หลายภาษาด้วยครับ หน่อยก้านก็ไม่เลว และดื่มได้ดีมากครับ” ผู้จัดการฝ่ายบุคคลแนะนำกับวรกัญญา

วรกัญญาเงยหน้าขึ้นมอง เธอชะงักไป ผู้ชายคนนี้คือคนที่ช่วยตนและล่วงเกินตนที่งานประชุมประจำปีไม่ใช่เหรอ

แต่ปัจจุบันบนใบหน้าผู้ชายคนนี้ที่ประดับรอยยิ้มเล็กน้อย ดูเป็นปกติอย่างมาก

“ตรวจแล้วหรือยังว่าเขามีอาการเจ็บป่วยอะไรหรือเปล่า” วรกัญญารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้น่าจะมีความผิดปกติอะไรสักอย่าง

“ไม่มีครับ การตรวจร่างกายสมบูรณ์แบบ สุขภาพดีครับ” ผู้จัดการฝ่ายบุคคลตอบ เขาคิดว่าตัวเองได้ทำโดยละเอียดแล้ว

เวลานี้วรกัญญาเพิ่งรู้สึกเสียใจภายหลังนิดหน่อย น่าจะตรวจสอบดูก่อน เธอก็จะได้ไม่เอา แต่ตอนนี้แผนกบุคคลบรรจุแล้ว จู่ๆ จะไม่เอาก็ดูจะไม่ไว้หน้าฝ่ายบุคคล ต่อจากนี้ได้แต่ทำให้เขาลำบาก ทำให้เขารู้ว่ามันลำบากจนต้องลาออกไปเองดีที่สุด

เมื่อวรกัญญาตัดสินใจได้แล้วเธอจึงพยักหน้า

ชลธีเห็นว่าวรกัญญาไม่ได้ไล่ตัวเองออกโดยทันที แต่ในขณะที่เธอเลิกคิ้วระหว่างคิดตัดสินใจ เขาคุ้นเคยมาก อย่างไรก็ตามเขาจะไม่ปล่อยให้เธอปิดโอกาสของตน

ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเห็นประธานวรกัญญาค่อนข้างพอใจ จึงออกไปอย่างวางใจ เขาได้อธิบายข้อควรระวังให้กับชลธีไว้มากมาย คนคนนี้น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

“ประธานวรกัญญาครับ ให้ผมรินน้ำให้คุณสักแก้วไหมครับ คุณเองก็ทำงานเหนื่อยแล้ว เดี๋ยวมีอะไรที่ต้องทำให้ผมทำให้ดีไหมครับ” วันนี้ชลธีสวมสูทราคาถูกกว่าปกติ แต่ถึงแม้ว่ามันจะราคาถูก ก็ยังทำให้เขาดูหล่อเหล่าสง่าผ่าเผย ธรรมชาติที่สวรรค์สรรสร้างให้รวมกันอยู่ตรงนี้

“ได้” วรกัญญาคิดว่าตนไม่ควรทำเกินไป เธอไม่ควรทำให้ผู้ชายคนนี้ลำบากตั้งแต่สัปดาห์แรก ต้องให้เขาผ่อนคลายจนลืมระวัง และต่อจากนั้นก็รอหาข้าอ้างไล่เขาไป

ชลธีจึงรีบไปรินน้ำให้หนึ่งแก้ว และยังใส่น้ำตาลเล็กน้อย เขามั่นใจว่าเขาจะได้รับการยอมรับ ดังนั้นจึงเตรียมทำให้วรกัญญาอย่างดี

“ประธานวรกัญญา น้ำของคุณครับ” ชลธียื่นน้ำอุณหภูมิปกติให้กับวรกัญญา

ผู้ชายคนนี้หาเรื่องไม่หยุดหย่อนจริงๆ ให้น้ำอุณหภูมิปกติกับตน แถมยังใส่น้ำตาล ทำไมเขาถึงใส่น้ำตาลในน้ำ หรือว่าเขารู้ว่าตนมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

วรกัญญาครุ่นคิดจนดื่มน้ำไปทั้งแก้วโดยไม่รู้ตัว

“คุณรินกาแฟให้ฉันสักแก้ว” วรกัญญาพูดกับชลธี เขาต้องไม่รู้แน่ว่าตนเป็นคนไม่ดื่มกาแฟ ทำให้เขารินกาแฟให้ตนจนเคยชินแล้ว คราวหน้าก็จะได้มีข้ออ้าง

ชลธีชะงักไปครู่หนึ่ง แต่เขาก็ยังรับคำแล้วออกไป

ครั้งนี้ชลธีออกไปข้างนอกค่อนข้างนาน แต่วรกัญญาได้กลิ่นกลมกล่อมของชาดำ ลอยผ่านเข้ามาในห้อง

จากนั้นชลธีก็เดินเข้าประตูมา เขาไปที่ห้องชา ใช้เตาต้มชาดำเอง มุกชอบดื่มแค่ชา เขาเชื่อว่าเธอไม่ได้เปลี่ยนไป ต่อให้ตอนนี้เธอไม่ต้องการรู้จักตน เขาก็สามารถใช้การกระทำของตัวเองสื่อไปให้เธอเปลี่ยนได้

“มาแล้วครับประธานวรกัญญา ชาดำของคุณครับ” ชลธีวางชาดำลงตรงหน้าวรกัญญา น้ำชาสีใส ใบชาที่ต้มจนเดือด ลอยบนผิวน้ำราวกับหญิงสาวกำลังเต้นรำ

“ฉันไม่ชอบคนอวดฉลาด ทั้งทั้งที่สิ่งที่ฉันต้องการคือกาแฟ แต่คุณกลับชงชาดำให้ฉัน” วรกัญญาเพียงเหลือบมองชาดำ แววตาที่ชื่นชมยังไม่ทันจางหาย เธอก็เริ่มตำหนิชลธีแล้ว

“กาแฟหมดแล้วครับ ดังนั้นผมจึงชงชาดำครับ” ชลธีพูดทันที เขารู้ว่ามุกดาต้องจงใจทำให้ตนลำบากแน่ ดังนั้นจึงคิดขอแก้ตัวเอาไว้แล้ว

วรกัญญาไม่ได้พูดอะไรอีก เธอหยิบชาดำขึ้นมา ดมกลิ่นมันครู่หนึ่ง แล้วจึงก้มหน้าเป่ามัน ก่อนจะจิบไปอึกหนึ่ง เทคนิคการชงชาก็ไม่เลว

“เอาเถอะ ก่อนอื่นคุณลงไปถามเลขาว่าโต๊ะทำงานของคุณอยู่ที่ไหน มีเรื่องอะไรฉันจะให้คนไปแจ้งคุณ” วรกัญญารู้สึกว่าการที่ผู้ชายคนนี้ยืนอยู่ในห้องทำงานของตัวเอง มันทำให้เธอรู้สึกหดหู่มาก

“ครับ” ชลธีไปอย่างเชื่อฟัง

ชลธีไปแล้ว วรกัญญาถึงได้เพิ่งลิ้มรสชาดำ ชาดำนี้ไม่ได้มาจากโรงน้ำชาของบริษัทแน่นอน เป็นชาต้าหงเผาคุณภาพเยี่ยม หรือว่าผู้ชายคนนี้พกเอาของพวกนี้ไปไหนมาไหนเพื่อเอาใจผู้หญิง แต่จากลักษณะที่ดูไม่แย่นี้แล้ว คงไม่หรอกมั้ง

ในเวลาต่อมา วรกัญญานั้นไม่รู้ว่าเป็นอะไร จิตใจของเธอเต็มไปด้วยเงาของชลธี ผู้ชายคนนั้นมีเวทมนตร์หรือไง พอพบหน้าแล้วก็ลืมไม่ลงงั้นเหรอ

ไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้ตนทำงานไม่ได้แน่ ต้องไม่ให้มารแบบนี้มาวนเวียนอยู่ตรงหน้าตนอีก

“ฮัลโหลคุณเลขาคะ คุณจัดผู้ช่วยคนนั้นให้อยู่ห่างจากฉันหน่อย พยายามอย่าให้มาวนเวียนในระยะสายตาฉัน มีเรื่องอะไรฉันเรียกหาเขาเอง” วรกัญญาครุ่นคิด ก่อนเธอจะโทรไปหาเลขา

จากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึก วรกัญญาเตรียมไล่เงาของผู้ชายที่ชื่อชลธีออกไปจากใจของตัวเอง

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset