ณฐวรกลับมาหลังจากไปร่วมงานนิทรรศการศิลปะ ตอนที่เขาไปได้พาอักลี่ไปด้วย เขาอยากพาอักลี่ไปเที่ยวเล่นสักหน่อย สร้างสายสัมพันธ์ระหว่างน้าหลาน
ตั้งแต่เล็กณฐวรรู้ว่าตัวเองยังมีพี่สาวอีกคนอยู่ในประเทศ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงให้ตนแยกกับพี่สาว คุณพ่อคุณแม่พูดกับตนตลอด ต่อไปพี่สาวกลับมา ต้องดีกับพี่สาว ต้องยอมให้พี่สาว
ณฐวรเตรียมต้อนรับพี่สาวกลับบ้านตั้งนานแล้ว ครั้งแรกที่คุณโจนส์จัดปาร์ตี้ ตอนที่แม่บอกกับตนว่าคนที่ชื่อมุกดาคนนี้เป็นพี่สาวของตน เขาอยู่ในอารมณ์ความรู้สึกที่ตื่นเต้นมาก
แม้พี่สาวจะไม่รู้ว่ามีน้องชายแบบนี้ แต่เขาก็ถือว่ามุกดาเป็นพี่สาวของเขา
ต่อมาแม้เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คุณพ่อคุณแม่ถึงได้พาพี่สาวกลับมา แถมพี่สาวยังสูญเสียความทรงจำ แต่ตราบใดที่พี่สาวกลับมา ครอบครัวได้อยู่ด้วยกัน มันก็ดีแล้ว
“คุณแม่ๆ คุณน้าพาผมไปเที่ยวเล่นหลายที่เลยครับ มือของคุณน้ามีพลังวิเศษ เขาเอาพู่กันวาดไปบนกระดาษอย่างสบายๆ เลย แล้วมันก็มีสิ่งสวยงามมากมายออกมาด้วยแหละครับ” อักลี่เห็นแม่ ก็พูดคุยเจื้อยแจ้วเกี่ยวกับคนเป็นน้าให้แม่ฟังไม่หยุด
“โอ้ว งั้นหนูอยากเก่งเหมือนคุณน้าไหมจ๊ะ” วรกัญญาอุ้มอักลี่ และจูบแก้มน่ารักของเขา
ไม่ได้เจอลูกนาน เธอเองก็ค่อนข้างคิดถึง ตอนที่อยู่ฝรั่งเศส ไม่ว่าตอนไหนอักลี่ก็ไม่เคยห่างจากเธอเลย
“ไม่อยากครับ อยากเป็นเหมือนคุณแม่” อักลี่ส่ายหน้า ถึงแม้แบบคุณน้าจะวิเศษมาก แต่เขารู้สึกว่าคุณแม่ทำงานหนัก เขาต้องเป็นเหมือนคุณแม่ ต่อไปจะได้แบ่งเบางานคุณแม่ได้ ให้คุณแม่ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นอีก
“เหมือนกับแม่เหรอ เพราะอะไร” วรกัญญาคิดไม่ถึงว่าอักลี่จะอยากเหมือนตัวเอง เป็นแบบนี้เหนื่อยมากเลยนะ
“คุณแม่เหนื่อยมาก ผมอยากช่วยคุณแม่ครับ” อักลี่แสนฉลาดเฉลียว ใจเขารู้ว่าตัวเองไม่มีพ่อ แต่เขาไม่เคยถามวรกัญญาว่าพ่อของตัวเองไปไหน
ที่คุณแม่ไม่บอกแน่นอนว่ามีเหตุผล เขาสามารถรอได้ รอวันที่คุณแม่อยากบอก
“เด็กดี แม่ไม่ได้เหนื่อย เพื่อหนูแล้วแม่ไม่เหนื่อยจ้ะ” วรกัญญากอดอักลี่ เธอสะเทือนใจมาก ลูกคนนี้ตั้งแต่ยังเล็กไม่เคยทำให้ตนหนักใจเลย เป็นเด็กที่ฉลาดมาก แต่เขารู้เหตุรู้ผลเกินไป การรู้เหตุรู้ผลแบบนี้ทำให้วรกัญญาเสียใจต่อเขามาก
เด็กทุกคนมีพ่อ แต่วรกัญญาไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกใคร และไม่รู้ว่าทำไมตนถึงท้อง แต่สิ่งเหล่านี้มันไม่สำคัญ การให้กำเนิดเด็กคนนี้ เธอรู้สึกว่าความพยายามของตัวเองทั้งหมดมันคุ้มค่าแล้ว
“พี่ครับ ผมอาจจะต้องไปอีกสองเดือนนะ ต้องพานักเรียนไปสเก็ตช์ภาพ นักเรียนกำลังจะจบการศึกษาแล้ว ครั้งนี้คงพาอักลี่ไปด้วยไม่ได้ คุณคนเดียวดูแลเด็กด้วยคงต้องลำบากแน่เลย” ณฐวรพูดด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อวรกัญญา
“ไม่หรอก ตอนที่ฉันอยู่ฝรั่งเศสไม่ใช่ว่าฉันก็ดูแลคนเดียวเหรอ ที่บ้านมีพี่เลี้ยงเด็กตั้งเยอะ ไม่ต้องกลัว แกไปเถอะ ไม่ต้องห่วงเรื่องที่บ้าน” วรกัญญารู้ว่าน้องชายเป็นห่วงตนมาก ตลอดหลายปีที่ฝรั่งเศส น้องชายเดินทางตลอด ไปเยี่ยมตนกับอักลี่บ่อยครั้ง ถ้าไม่รู้ยังคิดว่าเขาเป็นพ่อของอักลี่เลย
“ก็ได้ครับ งั้นผมจะไปแล้วนะ” ณฐวรกำชับหลายสิ่งกับคนในบ้าน ก่อนจะไปอย่างวางใจ
“อักลี่ หนูอยากไปเที่ยวเล่นไหม” โรงเรียนอนุบาลของอักลี่ยังไม่มีการติดต่อให้เรียบร้อย เวลานี้ผู้คนยังอยู่ในช่วงวันหยุด ทุกวันอักลี่ได้แต่อยู่บ้านอ่านหนังสือ และเล่นของเล่น
“อยากครับ แต่ถ้าคุณแม่ไม่ว่างก็ไม่เป็นไรครับ” อักลี่พูดก่อนคิด แต่รู้สึกว่าคุณแม่ยุ่งมาก เขาจึงเปลี่ยนคำพูดของเขาอีกครั้ง
“สัปดาห์นี้แม่ทำงานล่วงเวลา จากนั้นพอถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ แม่จะพาหนูไปเที่ยว ดีไหม”
“จริงเหรอครับ ดีครับ ดีมากเลย” แม้อักลี่จะรู้เหตุรู้ผล แต่อย่างไรเขาก็เป็นแค่เด็กสี่ขวบ ทันทีที่ได้ยินว่าสามารถออกไปเที่ยวเล่นได้ เขาก็ยังคงมีความสุขเหลือล้น
เพื่อให้คำมั่นสัญญากับอักลี่ ตลอดสัปดาห์นั้นวรกัญญาทำงานล่วงเวลาทุกคืน จัดการทุกอย่างที่ต้องจัดการ เธอทำงานล่วงเวลาชลธีก็ไม่กลับ เขาอยู่เป็นเพื่อนเธอตลอด อาหารทั้งเย็นและค่ำเขาไม่ซื้อก็ทำ ให้แน่ใจว่าวรกัญญาจะได้รับสารอาหารที่ดี
“คุณไม่ต้องทำงานล่วงเวลาเป็นเพื่อนฉัน ฉันมีธุระถึงได้ทำแบบนี้ คุณกลับตรงเวลาได้เลย” วรกัญญาพูดกับชลธี ทุกๆ วันให้ผู้ชายคนนี้อยู่เป็นเพื่อนตน เธอยังรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่หน่อยๆ
“ผมเป็นผู้ช่วย ท่านประธานทำงานอยู่ ไหนเลยผมจะมีเหตุผลกลับบ้าน งั้นผมจะเป็นผู้ช่วยประสาอะไรล่ะครับ” ชลธีเข้าใจที่วรกัญญาทำงานล่วงเวลา เพราะเพิ่งมาบางทีอาจยังไม่คุ้นเคยนัก วรกัญญามีพรสวรรค์ในเชิงธรกิจอันนั้นเขารู้ แต่เหมือนว่าไม่จำเป็นต้องพยายามขนาดนี้
“งั้นก็ดี คุณตามสบายเถอะ ฉันจะจัดการกับเอกสารอีกสองสามฉบับ ช่วยรินชาให้ฉันด้วย” วรกัญญาเห็นชลธีไม่กลับ เธอก็ไม่ได้บังคับ จะกลับไม่กลับก็เชิญเถอะ
วรกัญญาก้มหน้าก้มตาทำงาน ชลธีนั่งอยู่แถวนั้นเงียบๆ
“พระนครมีที่เที่ยวเล่นสนุกๆ อะไรบ้าง สถานที่ที่เหมาะสำหรับเด็ก” จู่ๆ วรกัญญาก็นึกขึ้นมาได้ จึงถามชลธี
“เรื่องนี้ผมไม่ค่อยรู้ แต่ผมสามารถไปสอบถามให้ได้ ผมจะไปถามเดี๋ยวนี้ครับ” ชลธีออกจากห้องไปทันที เขาไปจัดการให้เสร็จเดี๋ยวนั้น
วรกัญญาเห็นชลธีออกไป เธอเองก็ทำงานอย่างหนักด้วย และมันเกือบจะเสร็จแล้ว สัปดาห์นี้เธอจะพาลูกไปเที่ยวเล่นสักสองวัน
ไม่นานชลธีก็เข้ามา เขาเขียนข้อมูลที่ตัวเองได้ฟังมาลงกระดาษแผ่นหนึ่ง จากนั้นก็วางไว้บนโต๊ะของวรกัญญา แล้วเขาก็นั่งเงียบๆ อยู่แถวนั้นอีกครั้ง และทำการวางแผนเส้นทางการเดินทางไปเที่ยว
เมื่อถึงเวลาห้าทุ่ม วรกัญญาก็ทำงานเสร็จ เธอบิดขี้เกียจ ขยี้ตา แล้วเอากระดาษจดบันทึกที่วางอยู่บนโต๊ะมาดูครู่หนึ่ง
“นี่เป็นแผนที่เส้นทางที่ผมร่าง คุณลองดูสิครับ ถ้าคิดว่าเหมาะสมแล้ว ผมจะไปจัดการให้” ชลธีพูดกับวรกัญญา
“ฉันคิดว่านี่ค่อนข้างไม่เลว แต่คุณไม่ต้องไป ฉันไปกับคุณนายจันวิภาก็พอ” วรกัญญาบอกปัดชลธีตรงๆ
ชลธีคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะถูกรังเกียจขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่โกรธ คุณรังเกียจผม แต่ผมไม่รังเกียจคุณ ผมมีทางออกเสมอ
“ได้ครับ งั้นผมจะไปแจ้งคุณนายจันวิภา ให้เธอเตรียมพร้อม ประธานวรกัญญา คุณวางแผนจะไปเมื่อไรครับ” ชลธีเดินเข้าไปหาข้างๆ วรกัญญา แล้วช่วยนวดไหล่ให้เธอเบาๆ
เดิมทีวรกัญญารู้สึกขัดแย้งมาก การถูกผู้ชายสัมผัส เธอไม่ค่อยชิน
แต่ไม่นานเธอก็รู้สึกสบายมาก ทำงานล่วงเวลาบ่อยครั้งเธอจึงมีปัญหาคอบ่าไหล่ การถูกชลธีนวด ความตึงเครียดของร่างกายเธอจึงค่อยๆ ผ่อนคลาย