เดิมทีตำรวจอยากไกล่เกลี่ยให้ยุติความขัดแย้ง ทว่าคราวนี้วรกัญญาไม่ยินยอม เธอไม่พูด ไม่ได้หมายถึงจะรังแกเธอได้ง่ายๆ เจอคนที่ก่อความวุ่นวาย แล้วจะให้แสดงท่าทีเมตตาอยู่ตลอดคงไม่ได้หรอกนะ?
“งั้นก็ได้ ทำตามที่ว่าเมื่อกี้แล้วกัน คุณผู้หญิงคนนี้ คุณก็ขอโทษเขาเถอะ” ตำรวจก็ไม่อยากยุ่งเรื่องของคนอื่นอีกแล้ว เลยให้วรรณวิมลขอโทษวรกัญญา
ทว่าวรรณวิมลไม่ยอมเสียหน้า จะให้เธอขอโทษวรกัญญาได้อย่างไรกัน เธอเป็นถึงย่าของคุณชายสองแห่งตระกูลสุวรรณเลิศ มุกดาเธอเป็นเพียงแค่ลูกสาวของตระกูลที่เคยมีฐานะแล้วตกอับคนหนึ่ง ยังต้องให้เธอขอโทษ ไม่ส่องกระจกดูสภาพตัวเองก่อนว่าเป็นอย่างไรเลยจริงๆ
วรรณวิมลเงยศีรษะขึ้น เดิมทีคิดอยากใส่ร้ายมุกดา ทว่ากลับให้มุกดาช่วยตัวเองเสียแล้ว แต่ว่าไม่เป็นไร ขอเพียงรู้ว่ามุกดากลับมาแล้ว เธอจะต้องให้หล่อนรับผิดชอบผลที่ตามมา
“เอาล่ะ ผมจะไปแล้ว พวกคุณจะจัดการอย่างไรนั้นก็ค่อยๆ จัดการไปแล้วกัน ผมไม่มีเวลามาเล่นเป็นเพื่อนพวกคุณ” วรรณวิมลจัดผมเผ้าของตัวเอง เธอก็อยากจะไปแล้ว
ตำรวจก็ไม่ยุ่งแล้ว เรื่องขอโทษนั้น พวกเขาจัดการให้ไม่ได้ การขอโทษเป็นเรื่องของความสมัครใจ พวกเขาจะบังคับให้คนขอโทษไม่ได้
“ได้ งั้นตอนนี้ฉันก็ฟ้องร้องผู้หญิงคนนี้ข้อหาใส่ร้ายฉัน สถานีตำรวจของพวกคุณก็ต้องรับพิจารณาคดีใช่ไหมล่ะคะ? ถ้าหากพวกคุณไม่รับพิจารณาคดี งั้นฉันก็จะไปยื่นฟ้องที่ศาล วิดีโอกล้องวงจรปิดเมื่อกี้ แล้วมีพวกคุณสองคนเป็นพยานบุคคล หลักฐานของฉันเพียงพอแล้ว” วรกัญญากล่าวกับตำรวจสองคน
ฟ้องข้อหาใส่ร้าย เป็นคดีที่ตำรวจต้องจัดการ ทว่าวรรณวิมลกลับไม่ให้ความสำคัญ
“ฟ้องฉัน? พวกคุณรู้ไหมว่าฉันเป็นย่าของคุณชายสองแห่งตระกูลสุวรรณเลิศ พวกคุณกล้าลงมือกับฉันเหรอ? ไม่อยากอยู่เอ้อระเหยที่เมืองหลวงไปวันๆ อีกแล้วจริงๆ ใช่ไหม?” พอวรรณวิมลได้ยินมุกดาจะฟ้องตัวเอง เธอก็ไม่กลัว ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลสุวรรณเลิศกับสำนักงานตำรวจนั้นดีมาก มุกดาไม่สามารถทำอะไรเธอได้
“ฉันอยากไม่อยู่ไปวันๆ หรอก เอาล่ะ ฉันจะโทรหาทนายของฉัน” เดิมทีวรกัญญาอยากเหลือทางรอดทางหนึ่งไว้ให้วรรณวิมล เธอไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ แต่ว่าผู้หญิงคนนี้เหมือนหมาบ้าที่กัดเธอไม่ยอมปล่อย
เมื่อวรกัญญาโทรศัพท์ ไม่นานก็มีคนโทรหาตำรวจสองคนนั้น
หลังจากตำรวจสองคนนั้นรับสายแล้ว ก็โค้งตัวร้อยแปดสิบองศาในทันที
“ประธานวรกัญญา ขออภัยด้วยครับ เราสองคนมีตาหามีแววไม่ จำคุณไม่ได้ ทำให้คุณไม่ได้รับความยุติธรรม” ตำรวจที่อายุมากคนนั้นรินน้ำให้วรกัญญาแก้วหนึ่งในทันที
“ประธานวรกัญญาเชิญนั่งครับ เกี่ยวกับเรื่องที่คุณฟ้องว่าวรรณวิมลใส่ร้ายนั้น เราจะจดบันทึกให้ทันทีและจะพยายามตรวจสอบอย่างรวดเร็ว จะให้คำตอบที่น่าพอใจแก่คุณอย่างแน่นอนครับ” ตำรวจพูดกับวรกัญญาจบ ก็หันหน้าไปคุยกับวรรณวิมล
“เมื่อกี้คุณกุเรื่องใส่ร้ายจริงๆ ถ้าหากคุณขอโทษประธานวรกัญญา ตามความต้องการของประธานวรกัญญาละก็ เดิมทีเรื่องนี้ก็จะให้แล้วกันไป แต่ว่าตอนนี้ประธานวรกัญญาฟ้องคุณแล้ว พวกเราต้องเก็บหลักฐานในทันที” ตำรวจคนนั้นไม่ให้เกียรติวรรณวิมลเลยแม้แต่นิดเดียว
“เอ๊ะ พวกคุณรู้ว่าฉันเป็นใครไหม? พวกคุณยังทำแบบนี้กับฉัน ฉันเป็นถึงย่าของคุณชายสองแห่งตระกูลสุวรรณเลิศ ฉันก็จะโทรหาทนายของตระกูลสุวรรณเลิศเหมือนกัน” พอวรรณวิมลเห็นว่าแล้วไม่รู้ว่าวรกัญญาโทรศัพท์หาใคร เรื่องราวทั้งหมดเลยผกผัน เธอไม่พอใจมาก ทนายของตระกูลสุวรรณเลิศของพวกเขาเป็นทนายความที่ดีที่สุดในเมืองหลวง ไม่เชื่อว่าจะสู้มุกดาไม่ชนะ
เป็นไปตามคาด หลังจากโทรศัพท์แล้ว ไม่นานทนายของตระกูลสุวรรณเลิศก็มาถึงที่นี่ เขาเป็นถึงทนายความที่รับใช้ตระกูลสุวรรณเลิศ และมีชื่อเสียงในเมืองแห่งนี้ ในเมื่อย่าของคุณชายสองแห่งตระกูลสุวรรณเลิศไม่ได้รับความเป็นธรรม เขาย่อมต้องมาจัดการอย่างแน่นอน
ทนายคนนั้นมาถึงสถานีตำรวจ เขามองวรกัญญาอย่างยโส แม้จะไม่มองแล้ว แต่ความยโสของเขายังอยู่ ทว่าหลังจากมองดูแล้ว ท่าทีของเขาก็อ่อนลง
คนคนนี้คือคุณหญิงคนก่อนของชลธีนี่ เคยเป็นรองประธานของบริษัทฮอนดากรุ๊ป ดูเหมือนตอนนี้เป็นประธานของโจนส์กรุ๊ปแล้ว ก่อนหน้านี้เคยลงหนังสือพิมพ์ คนคนนี้เก่งกว่าชุติภาสประธานบริษัทฮอนดากรุ๊ปในตอนนี้เสียอีก
“คุณอยู่ที่นี่งั้นหรือ ต้องการให้ผมทำอะไรครับ?” การเปลี่ยนแปลงของทนายความคนนั้น ทำให้วรรณวิมลไม่ดีใจเป็นอย่างมาก
“เดี๋ยว นายเป็นทนายความของตระกูลไหน ทำไมนายถึงช่วยหล่อนไม่ช่วยฉันล่ะ ตระกูลสุวรรณเลิศของเราจ่ายเงินเลี้ยงดูนายนะ ผู้หญิงคนนี้มีความสามารถอะไรกัน เป็นแค่นังปีศาจจิ้งจอกตัวหนึ่ง!” สองเท้าของวรรณวิมลใกล้จะกระโดดขึ้นมาอยู่แล้ว
ผู้หญิงคนนี้เอาแต่พูดว่านังปีศาจจิ้งจอก ทำให้ วรกัญญาหงุดหงิดมาก ให้เกียรติกับคนที่ไม่ให้เกียรตินั้นนับว่ามีน้อยมาก
วรกัญญาเดินไปแล้วยกมือตบหน้าวรรณวิมล
“ใครเป็นนังปีศาจจิ้งจอก? คุณหน้าตาน่าเกลียดเดิมก็น่าสงสารอยู่แล้ว ยังต้องอิจฉาคนอื่น ฉันว่าคุณคงโดนผู้ชายทิ้งมาใช่ไหม ตอนนี้ถึงได้แว้งกัดคนไปทั่วเหมือนอย่างคนบ้าอย่างนั้น?”
“เธอตบฉันเหรอ?” วรรณวิมลกุมใบหน้าของตัวเองไว้ เธอยังอยากกระโจนตบกับวรกัญญา ทว่าทนายกับตำรวจกลับขวางไว้ ผู้หญิงคนนี้ช่างไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไรเสียเลย สมควรถูกตบให้ตายนัก
“ไม่เป็นไร คุณวรรณวิมล คุณสามารถเลือกว่าจะขอโทษประธานวรกัญญา หรือกักตัวเป็นเวลาหนึ่งเดือน” ตำรวจปราบวรรณวิมลให้อยู่หมัด
วรรณวิมลร้องตะโกนเสียงดัง “เธอไม่ใช่ประธานวรกัญญาอะไรนั่นหรอก เธอหลอกพวกคุณอยู่ เธอคือมุกดา เธอก็คือมุกดาในอดีต”
“ช่างโง่เขลาเสียจริง แม้แต่ประธานวรกัญญาของโจนส์กรุ๊ปก็ไม่รู้จัก คุณก็ควรจะพอได้แล้ว” ทนายเอ่ยเสียงเบาดูถูกวรรณวิมล
คราวนี้วรรณวิมลก็ไม่พูดจาแล้ว อะไรนะ? เธอคือประธานของโจนส์กรุ๊ปเหรอ? ผู้หญิงคนนี้จัดการคุณโจนส์ให้อยู่ในกำมืองั้นเหรอ? คุณโจนส์ถึงยกโจนส์กรุ๊ปให้เธอไป แล้วบอกว่าไม่ใช่ปีศาจจิ้งจอก
ทว่าหลังจากวรรณวิมลรู้เรื่องนี้แล้ว เธอก็ประพฤติตัวดี โจนส์กรุ๊ปไม่ใช่ที่ที่ใครก็สามารถก่อเรื่องได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นประธานของโจนส์กรุ๊ป บริษัทฮอนดากรุ๊ปของพวกเขาอยากร่วมมือกับโจนส์กรุ๊ปจึงได้ลงทุนลงแรงไปมาก ช่วงก่อนหน้านี้เคยได้ยินพ่อผัวของชุติภาสพูดถึงเรื่องนี้
“ได้ ฉันจะตีข่าวลงหนังสือพิมพ์ขอโทษประธานวรกัญญา และจะขอโทษประธานวรกัญญาในโทรทัศน์อย่างเป็นเปิดเผย” คนฉลาดเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถเอาชนะได้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั้น ย่อมยอมเสียเปรียบเสียดีกว่า กว่าบริษัทฮอนดากรุ๊ปจะได้ร่วมมือกับโจนส์กรุ๊ปนั้นไม่ง่ายเลย ถ้าหากเธอก่อกวนแผนการนั้น พ่อผัวของชุติภาสนั่นจะโกรธเกลียดเคียดแค้นตัวเองอย่างแน่นอน
“ถ้าอย่างนั้น ประธานวรกัญญาคุณคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ ให้เป็นไปตามนี้ไหมครับ? ยังต้องการให้หล่อนทำอะไรไหม?” ทนายความแสดงท่าทีความเคารพวรกัญญา จนแทบจะเรียกว่าแม่แล้ว
“ช่างเถอะ เอาตามนี้แล้วกัน ฉันก็ไม่อยากทะเลาะให้เป็นเรื่องใหญ่โต ได้สั่งสอนเธอนิดหน่อยก็พอแล้ว” วรกัญญาโบกมือ ผู้หญิงแบบนี้ เธอไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยด้วย ช่างโง่เขลาเบาปัญญาและอ่อนต่อโลกเหลือเกิน
“ยังไม่ขอบคุณความเมตตาของประธานวรกัญญาอีก? คุณเนี่ยนะ ก่อเรื่องไม่ดูคนเลย” ที่จริงทนายความของตระกูลสุวรรณเลิศกำลังช่วยวรรณวิมลอยู่ เพียงแต่วรรณวิมลนั้นโง่เขลา จึงดูไม่ออก