“แม่ แม่ครับ เลิกงานแล้วเหรอ?” อักลี่เห็นวรกัญญากลับมาบ้านแล้ว เขาก็รีบวิ่งเข้ามาหา กอดขาของวรกัญญาเอาไว้
“ใช่จ๊ะ แม่เลิกงานแล้ว อักลี่ วันนี้อยู่บ้านลูกทำอะไรบ้าง?” วรกัญญาย่อตัวลงไป อุ้มอักลี่ขึ้นมา
“ผมอยู่บ้านวาดรูปครับ แม่ ดูสิผมวาดสวยไหม?” อักลี่หยิบผลงานชิ้นเอกของตนเองที่อยู่ในบ้านให้วรกัญญาดู
บนกระดาษ น่าจะสามคนสินะ ผมยาวๆหยิกเล็กน้อยน่าจะเป็นผู้หญิง แล้วก็อีกคนหนึ่งที่ไม่มีผม ตรงกลางเป็นคนตัวเล็กๆที่ไม่มีผมเช่นกัน
“นี่ลูกวาดอะไรเหรอ? ลูกรัก?” วรกัญญาดูไม่เข้าใจเลย นี่เป็นพระกับอะไรงั้นเหรอ?
อักลี่มองแม่ของตนเอง เขาวาดได้อย่างชัดเจนนะ นี่ไม่ใช่ครอบครัวเหรอ?
“คนนี้คือแม่ คนนี้คืออักลี่ คนนี้คือพ่อ” อักลี่ชี้ๆคนบนภาพวาดกำลังอธิบายให้วรกัญญาฟัง
“แม่ผมหยิก พ่อกับอักลี่ไม่มีผม พวกเราสามคนอยู่ด้วยกัน น่ารักมากเลยครับ” อักลี่รู้สึกว่าตนเองวาดเก่งใช้ได้เลยนะ ทำไมแม่ถึงดูไม่เข้าใจล่ะ?
“อ้อ อย่างนี้เอง แม่นี่โง่จัง อักลี่วาดเก่งมาก เก่งมากเลยลูก แม่ชอบมากเลยจ๊ะ แม่จะเอาภาพนี้ไปติดผนัง”
ดวงตาของวรกัญญาชุ่มชื้นขึ้นมาแล้ว เธอก็ไม่รู้ว่าพ่อของลูกตนเองเป็นใคร แต่เธอซาบซึ้งใจคนคนนั้นมาก ที่ให้ลูกชายที่น่ารักเช่นนี้แก่ตนเอง
“แม่ครับ แม่ก็รู้สึกว่าผมวาดดีใช่ไหม? ฮ่าๆๆ ผมก็คิดอย่างนั้น พ่อของผมหน้าตาอย่างนี้ใช่ไหม?” อักลี่กำลังมองคนหัวล้านตัวสูงใหญ่บนภาพ เขาวาดตามลักษณะของชลธี ถึงตอนนี้จะมองไม่ออกว่าคนคนนี้หน้าตายังไง
“อื้ม ใช่จ๊ะ พ่อของลูกก็หน้าตาแบบนี้แหละ” วรกัญญาพูดอย่างแน่ใจ เธอไม่รู้ว่าความหมายของอักลี่ก็คือถามว่าพ่อหน้าตาเหมือนชลธีใช่หรือเปล่า เธอจึงตอบไปเรื่อยเปื่อย
ในใจของอักลี่เบิกบาน เขารู้สึกว่าชลธีเหมือนพ่อของตนเอง แล้วก็เป็นพ่อของตนเองอย่างที่คิดเอาไว้เลย
สองแม่ลูกเข้าใจความหมายของอีกฝ่ายผิดไป แต่ความเข้าใจผิดนี้เป็นความเข้าใจผิดที่สวยงาม
ตอนที่ชลธีกลับมาจากข้างนอก ก็มีคนบอกเขาว่า มีผู้ชายคนหนึ่งมาพบเขา รอเขาอยู่นานแล้ว
ชลธีมาถึงในห้องทำงานของตนเอง เขามองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นผู้ชายที่ไหนเลย
เขาจึงเดินเข้าไป คิดว่าผู้ชายคนนั้นอาจจะกลับไปแล้ว
ตอนที่กำลังคิดจะนั่งบนเก้าอี้ เขาถึงรู้สึกว่าในห้องนี้ยังมี “ผู้ชาย” อีกคนอยู่จริงๆ เพียงแต่ ผู้ชายคนนี้กำลังหลับอยู่บนโซฟา
อักลี่สวมเสื้อยืดสีดำ ท่อนล่างเป็นกางเกงยีนส์ขาสั้นสีเข้ม ตัวก็เล็ก แล้วยังนอนขดตัวอยู่บนโซฟาอีก ยากที่จะมองเห็นจริงๆ
อักลี่มาหาตนเองงั้นเหรอ? ชลธีรู้สึกขำ เขายังเห็นที่พื้นมีกระดาษแผ่นหนึ่ง เหมือนด้านบนยังมีภาพวาดอีกด้วย
ชลธีนั่งยองๆลงไปด้านหน้าของอักลี่ เก็บกระดาษที่มีภาพวาดขึ้นมา
บนกระดาษวาดคนสามคนเอาไว้ ผู้หญิงหนึ่งคน ผู้ชายหนึ่งคนกับเด็กหนึ่งคน นี่เป็นครอบครัวสินะ? หรือว่าอักลี่วาดพ่อแม่ของเขากับเขางั้นเหรอ?
ชลธีรู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูก ผู้ชายคนไหนที่โชคดีอย่างนี้? ได้แต่งงานกับมุกแล้วยังมีลูกชายที่น่ารักขนาดนี้
ชลธีรู้สึกว่าตนเองอิจฉาจะแย่แล้ว แต่คนสืบข่าวที่ฝรั่งเศสยังไม่ตอบกลับมาอย่างแน่ชัด บอกแค่ไม่พบว่าวรกัญญาอยู่กับผู้ชายที่ไหน มีเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่ไปเยี่ยมเธอบ่อยๆ
กำลังค้นหาตัวผู้ชายคนนั้นอยู่ ชลธีรู้สึกว่าตนเองควรจะคุยกับผู้ชายคนนี้ให้ชัดเจนหรือเปล่า วรกัญญาเป็นภรรยาของตนเอง เขายังไม่ได้หย่ากับเธอ การแต่งงานของพวกเขาจึงเป็นโมฆะ แต่อักลี่เขารับได้ เพราะลูกไม่ควรแยกกับแม่ ชลธีคิดดีแล้ว ว่าต่อไปตนเองต้องทำยังไง
“พ่อ?” คำแรกที่อักลี่ตื่นขึ้นมา ก็เรียกชลธีว่าพ่อ
ชลธีกำลังมองอักลี่ ถามขึ้น “เราเรียกอาว่าอะไรนะ?”
“คุณลุง ผมมองผิดไปครับ” อักลี่พูดขึ้นด้วยความหวั่นเกรง เหมือนเขาให้ชลธีกลายเป็นพ่อของตนเองแล้วจริงๆ แม่ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าพ่อหน้าตาแบบนี้?
“ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไร อักลี่ พ่อของเราเหมือนอามากใช่ไหม?” ชลธีลูบผมของอักลี่ กำลังมองอักลี่ที่ตาปรือด้วยความง่วง
“ครับ เหมือนมากเลย” อักลี่พูดอย่างมั่นใจ เขาหวังว่าชลธีจะพูดกับตนเองว่า เด็กน้อย พ่อก็เป็นพ่อของลูกนั่นแหละ
แต่ชลธีไม่ได้พูด ในใจของอักลี่จึงผิดหวังมาก
แต่ทว่าชลธียังมองออกว่านั่นเป็นรูปครอบครัวสามคน อักลี่ก็พอใจแล้ว คนเยอะแยะที่ไม่รู้ว่าเขาวาดรูปอะไร เป็นพ่อของตนเองนี่แหละที่สายตาเฉียบแหลม
“พ่อครับ โอ๊ะ ไม่ใช่คุณลุงครับ วันนี้คุณลุงไปไหนมา? ผมรอคุณลุงตั้งนานแล้ว” อักลี่พูดกับชลธี
“อ้อ วันนี้อาออกไปทำธุระน่ะ อักลี่ เราคิดถึงพ่อแล้วใช่ไหม? ทำไมพ่อของเราถึงไม่เคยมาหาเราเลยล่ะ?”
ลูกกลับมาตั้งหลายเดือนแล้ว แต่ยังไม่เคยเจอพ่อของเด็กเลย
“พ่อผมก็คุณลุงไงครับ” อักลี่ชี้ไปที่ชลธี
เดิมทีชลธีกำลังนั่งยองๆอยู่ ได้ยินอักลี่พูด ตนเองก็ตกอกตกใจ เจ้าเด็กคนนี้!
“อักลี่ เราไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? ลุงจะพาเราไปหาหมอนะ” ชลธีเอาแต่รู้สึกว่าวันนี้เด็กคนนี้แปลกมากๆ ทำไมถึงเรียกตนเองว่าพ่อตลอดเลย คงไม่ได้ไข้ขึ้นไม่สบายใช่ไหม?
“ไม่ครับ คุณลุง ผมสบายดี ผมแค่แอบออกมาหาคุณลุงเท่านั้นเอง งั้นคุณลุงไปส่งผมกลับบ้านเถอะครับ อีกเดี๋ยวแม่เห็นเข้า จะโมโหเอา” อักลี่ก็ไม่รู้ว่าตนเองมานานขนาดไหนแล้ว ถึงยังไงเขาก็แอบหนีออกมา
“ได้ งั้นลุงจะไปส่งเรากลับเดี๋ยวนี้เลย” แค่ชลธีได้ยินว่าอักลี่แอบหนีออกมา ก็เป็นห่วงมาก เขายังเด็กขนาดนี้ มาได้ยังไงน่ะ
แต่ความเป็นห่วงของเขายังไม่ทันได้พูดออกมา วรกัญญาก็ผลักประตูเข้ามาอย่างแรง
“อักลี่ ลูกมาที่บริษัทได้ยังไง ไม่บอกพี่เลี้ยงสักคำ ลูกอยากให้แม่ตกใจตายหรือไง?” วรกัญญาเจออักลี่แล้ว ก็ผลักชลธีออกไป นั่งยองๆลงไปกอดอักลี่แน่น แล้วร้องไห้ออกมา
ตอนที่พี่เลี้ยงที่บ้านโทรมาบอกว่าไม่เจอตัวคุณหนู ทำให้เธอขวัญกระเจิงไปหมดเลยจริงๆ
“แม่ แม่บอกว่าเขาคือพ่อของผมไม่ใช่เหรอครับ? ผมก็วาดตามหน้าตาของเขา ผมคิดว่าเขาที่แม่พูดถึงก็คือพ่อ” อักลี่ชี้ไปที่ชลธีแล้วพูดขึ้น ตอนนี้เขาก็ไม่รู้แล้วว่าควรเรียกว่าพ่อหรือคุณลุงดี
ตอนนี้วรกัญญาถึงเห็นว่าในมือของลูกยังถือภาพวาดของเมื่อวานอยู่เลย
คนคนนี้คือชลธีงั้นเหรอ?
วรกัญญามองใบหน้ากลมบนภาพวาด ภายในดวงตาก็เป็นจุดสีดำกลมๆเล็กๆข้างใน ไม่มีจมูก ปากเป็นเส้นตรง นี่คือชลธีเหรอ?
ชลธีก็มองๆ นี่เหมือนเขาจริงๆ เขารู้สึกอย่างนั้น
“ชลธี คุณคิดว่านี่เหมือนคุณไหม?” วรกัญญาเห็นชลธีไม่พูดไม่จา จึงส่งกระดาษแผ่นนั้นไปให้เขา