“ประธานวรกัญญาเพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยดูแลผมในช่วงระยะเวลานี้ พ่อแม่ของผมอยากที่จะเชิญคุณกับอักลี่ไปเป็นแขกที่บ้าน เพราะยังไงคุณก็ไม่มีญาติพี่น้องที่นี่ แม่ของผมถูกชะตาคุณมาก วันเสาร์นี้คุณว่าเป็นยังไงครับ?”ชลธีค่อยๆชักชวนทีละสเต็ปทีละสเต็ป เขาอยากให้วรกัญญาไปเป็นแขกที่บ้านของเขา
“ไปบ้านของคุณ?ฉันว่าไม่น่าจะดีมั่งคะ พวกเราก็ไม่ได้สนิทกันมาก แม้ว่าจะค่อนข้างถูกชะตากับคุณป้า แต่ว่าเมื่อคิดถึงคนในครอบครัวของคุณแล้ว ฉันว่าไม่ดีกว่าค่ะ”วรกัญญาปฏิเสธทันที เธอจะหอบลูกไปบ้านผู้ชายทำไมกัน?
“จริงๆแล้วก็มีอีกอย่างหนึ่งคือแม่ของผมต้องการเชิญคุณไปที่บ้าน เพราะอยากจะปรึกษาเรื่องเทคนิคการทำชาดอกไม้ บ้านของผมมีสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ ในสวนมีดอกไม้ทุกชนิด แม่ของผมชอบสมุนไพร ดังนั้นคุณไปดูที่บ้านผมได้ คิดซะว่าไปเยี่ยมญาติก็แล้วกัน”ชลธีก็ได้รับข่าวสารจากนีรชา หล่อนต้องการเชิญเธอชิมอาหารที่หล่อนทำด้วยตนเอง
อีกอย่างวันเสาร์ที่บ้านก็ไม่มีคนนอกพอดี ย่านิ่มกับสิริกรจะไปนอนวัดที่อยู่ใกล้ๆสองสามวัน ธีร์ธวัชยังคงต้องดูแลคนท้อง ปกตินิตย์รวีร์จะไม่พักอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว ช่วงนี้วรรณวิมลก็โกรธจนกลับบ้านพ่อแม่ของเธอไปแล้ว โอกาสนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ครอบครัวจะได้รวมตัวกันอีกครั้ง
“ที่บ้านคุณปลูกพืชสมุนไพรด้วยเหรอ?คุณป้าพิถีพิถันในเรื่องการชงชาจริงๆ แต่ว่าครอบครัวแบบคุณจะต้องมีคนอาศัยอยู่จำนวนมากแน่ๆ ฉันเกรงว่าจะไปรบกวน”ไม่ใช่ว่าวรกัญญาจะไม่อยากไปพบนีรชา แต่ในทางกลับกันเธอชอบคุณป้าคนนี้มาก เพียงแต่ว่าที่บ้านนั้นจะต้องมีคนเยอะ เธอกลัวว่าจะไม่สามารถรับมือไหว
“ไม่เป็นไรครับ วันเสาร์มีเพียงพ่อกับแม่ผมเท่านั้นที่อยู่ คนอื่นๆต่างออกไปแล้ว ดังนั้นประธานวรกัญญาคุณสามารถพูดคุยกับแม่ของผมไปอย่างสบายใจเลย”แววตาที่มีความหวังเป็นอย่างมากของชลธี ทำให้วรกัญญารู้สึกไม่อาจที่จะฝืนใจได้ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงมีความคิดที่อยากจะไปบ้านชลธี และยังอยากไม่พูดคุยกับนีรชาด้วย ชลธีคนนี้มีป่วยเป็นอะไรหรือเปล่า
“งั้นก็ได้ เพราะยังไงอักลี่ก็อยากที่จะไปเล่นกับคุณ ถ้างั้นวันมะรืนนี้ฉันจะพาเขาไปเที่ยวที่บ้านคุณ คุณส่งที่อยู่มาให้ฉันได้เลยนะคะ ฉันจะใช้จีพีเอสนำทาง”วรกัญญารับปาก เมื่อได้ยินว่าที่บ้านของเขาไม่มีใครอยู่ เธอก็รู้สึกใจเต้นวรกัญญามีเรื่องคุยหลายๆเรื่องที่เหมือนกับนีรชา และเธอเองก็ชอบที่จะคบค้าสมาคมกับเพื่อนต่างวัย
เมื่อชลธีเห็นว่า เขาไม่ต้องเปลืองน้ำลายในการพูดมากก็สามารถโน้มน้าววรกัญญาได้แล้ว ในใจก็รู้สึกดีใจอย่างบ้าคลั่ง เขาอยากจะเจออักลี่แล้ว
“ประธานวรกัญญาเดี๋ยวผมจะตั้งจีพีเอสให้คุณไว้ให้อย่างเรียบร้อยเลยดีกว่าครับ เมื่อถึงเวลานั้นคุณจะได้เปิดนำทางได้ทันทีเลย”ชลธีไปยังโรงจอดรถอย่างดีอกดีใจ และตั้งจีพีเอสให้กับวรกัญญาจนเสร็จเรียบร้อย
“แม่ พวกเราจะไปบ้านของลุงชลธีใช่ไหมครับ?”เหตุการณ์ครั้งที่แล้ว วรกัญญาได้อธิบายให้อักลี่ฟังแล้วแล้วว่าพ่อของเขาไม่ใช่ชลธี
“ใช่แล้วครับ คุณย่าของเขาเป็นคนที่มีเมตตาและอ่อนโยนมากๆ ลูกต้องเรียกท่านว่าคุณย่านะครับ”วรกัญญาอธิบายกับอักลี่อย่างอดทน
“อืม ได้ครับอักลี่ก็มีคุณย่าแล้ว”ตั้งแต่เล็กอักลี่ได้มีโอกาสแค่เรียกเพียงแค่คุณตากับคุณยายเท่านั้น เด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างๆกันก็มาจากประเทศจีนเหมือนกัน หล่อนมีครบทุกอย่างอักลี่อิจฉาเหลือเกิน
เมื่อได้ยินคำพูดของลูกชาย ในใจของวรกัญญาก็รู้เจ็บแปลบ แม่ของตนรวมทั้งน้องชายแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยบอกตนเลยว่าพ่อของอักลี่คือใคร ตนเองก็นึกไม่ออกเช่นเดียวกัน
พ่อแม่รักตนมาก แน่นอนว่าการที่ท่านทำแบบนี้จะต้องมีเหตุผลแน่ๆ บางทีพ่อของอักลี่อาจจะเคยทำร้ายตนอย่างแสนสาหัส
วรกัญญาลูบศีรษะของลูกชาย เธอไม่ได้อธิบายอะไร มีคุณย่าให้เด็กน้อยได้เรียกก็ไม่เลวแล้ว ความฝันในใจของเขาก็เป็นจริงแล้ว
การเดินทางตามจีพีเอส แม้ว่าวรกัญญาจะขับอ้อมนิดหน่อย แต่ในที่สุดเธอก็หาคฤหาสน์ตระกูลสุวรรณเลิศจนเจอ
สถานที่แห่งนี้ทำให้วรกัญญารู้สึกว่าเหมือนตนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เพียงแต่ว่านึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน บางทีคฤหาสน์ของเศรษฐีก็คงเหมือนๆกัน ตนเห็นมามากก็อาจจะจำสลับกันก็เป็นไปได้
“กานต์ ที่รักของฉัน เมื่อได้ยินว่าคุณจะมา ฉันดีใจมากเลย เด็กคนนี้ ?”เมื่อนีรชาเห็นอักลี่ จู่ๆหล่อนก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี
“คุณย่าครับ ผมคืออักลี่”อักลี่มองไปยังนีรชาที่สง่างามและใจกว้าง เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน ว้าว คุณย่าของตนสวยกว่าคุณย่าของเด็กผู้หญิงข้างบ้านที่ฝรั่งเศสเสียอีก ในใจของอักลี่ภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก
“อักลี่?”นีรชาอุ้มอักลี่ขึ้นมา เด็กคนนี้ หล่อนไม่อยากพูดอะไรแล้ว
“อืม คุณย่า คุณย่าสวยมากเลยครับ สวยกว่าคุณย่าของเพื่อนบ้านอีก “อักลี่พูดกับนีรชา เขาชอบคุณย่าคนนี้มากเหมือนกัน
“อ่อ ความหมายของอักลี่ก็คือตอนที่พวกเราอยู่ที่ฝรั่งเศส เด็กผู้หญิงข้างบ้านมีคุณย่าอยู่คนหนึ่ง เขาบอกว่าคุณสวยกว่าคุณย่าของเด็กผู้หญิงข้างบ้านคนนั้น”วรกัญญาคิดว่านีรชาไม่เข้าใจความหมายของอักลี่ จึงรีบร้อนที่จะอธิบาย
“อ่อ เป็นแบบนี้นี่เอง ขอบคุณมากอักลี่ หนูยังพูดชมคุณย่าเก่งอีก?ฉลาดจริงๆ”แต่ว่าเมื่อนีรชาพูดจบก็อุ้มอักลี่เดินเข้าไปในบ้าน และไม่ได้คุยกับวรกัญญาต่ออีก
“ชุติภาส ชุติภาส คุณมาที่นี่เร็ว คุณรีบมาเร็ว ฉันจะให้คุณดูแก้วตาดวงใจคนหนึ่ง “นีรชารีบเดินเข้าไป หล่อนเข้าไปหา ชุติภาส
“คุณป้า เป็นอะไรไป?” เมื่อวรกัญญาเห็นนีรชาอุ้มอักลี่เข้าไป เธอจึงถามชลธี
“อาจจะเป็นเพราะว่าแม่ของผมชอบเด็กน้อยเป็นพิเศษ อยากจะให้พ่อของผมเห็นอักลี่ อักลี่หล่อขนาดนั้น และน่ารักขนาดนั้นใครๆก็ชอบ”ชลธีทำได้เพียงอธิบายเช่นนั้นออกไป
“ไป พวกเราไปกันเถอะ”ชลธีพาวรกัญญาเข้าไปยังห้องรับแขก
เมื่อเห็นห้องรับแขก วรกัญญา เหมือนจะคิดขึ้นมาได้ว่าตนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ที่แท้การตกแต่งของตระกูลสุวรรณเลิศค่อนข้างเหมือนกับการตกแต่งของบ้านตน ถึงว่ารู้สึกคุ้นตา วรกัญญาจึงได้ปล่อยวางลง
ชุติภาสถูกภรรยาของตนตะโกนเรียกอย่างรีบร้อน จากนั้นยังฉุดดึงตนไปในที่ที่ไม่มีใครอยู่
“ทำไมเหรอบัว คุณพบอะไรเข้าแล้วเหรอ?”ชุติภาสคิดว่านีรชาพบสิ่งที่ผิดปกติของวรกัญญา
“คุณดูแก้วตาดวงใจคนนี้สิ”นีรชาพาอักลี่ไปให้ชุติภาสดู
เมื่อชุติภาสเห็นท่าทางของอักลี่ เขาตะลึงงัน เด็กคนนี้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะ?
“ไป พวกเราขึ้นไปข้างบน ไปยังห้องของพวกเราค่อยพิสูจน์” ในเวลานี้ชุติภาสจูงมือนีรชาเตรียมที่จะขึ้นไปข้างบน
“พ่อครับแม่ครับพวกคุณจะพาอักลี่ไปไหนเหรอครับ?”เมื่อชลธีเห็นพ่อแม่ของตนทำตัวลับๆล่อ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาต้องการที่จะทำอะไร
“อ่อ คือเป็นแบบนี้ เด็กคนนี้หน้าหล่อเหลามากเลย พวกเราเตรียมที่จะมอบของขวัญให้กับเขา แม่จะพาเขาไปเลือก”นีรชาพูดโกหก
“คุณย่าครับ ไม่ต้องหรอกครับ ผมไม่อยากได้ของขวัญ”เมื่ออักลี่ได้ยินว่าคุณย่าจะมอบของขวัญให้กับตน เขาก็รีบปฏิเสธ แม่เคยบอกแล้วว่าอย่ารับของจากคนอื่นส่งเดช แม้แต่เป็นคนย่าก็อย่ารับ
“แม่……”เมื่อชลธีเห็นท่าทีที่แปลกๆของพ่อแม่ตนในวันนี้ ก็กลัวว่าวรกัญญาจะโกรธ ขณะที่เขากำลังอยากจะพูดอะไรต่อกับ นีรชา นีรชาและชุติภาสก็อุ้มเด็กน้อยคนนั้นขึ้นไปข้างบนเสียแล้ว