“คุณป้ากับประธานชลธีนี่คือ?” วรกัญญาเห็นท่าทีที่แปลกประหลาดของพวกเขาทั้งสอง พวกเขาคิดว่าอักลี่เป็นอะไรเหรอ?
“พ่อแม่ของผมคิดถึงหลานชายจนเป็นบ้าไปแล้ว อาจจะเป็นเพราะเห็นว่าอักลี่น่ารัก ก็เลยอยากจะอยู่กับเขาอีกสักพัก”ชลธีทำได้เพียงอธิบายเช่นนี้ พ่อแม่ของเขาคิดถึงหลานชายจนแทบจะเป็นบ้าจริงๆ แต่ว่าก็ไม่เคยเร่งรัดเขามาก่อน เพราะว่าในใจของ นีรชายอมรับวรกัญญาเป็นสะใภ้เพียงคนเดียวมาโดยตลอด ส่วนคนอื่นๆนั้นไม่ชอบเลยแม้แต่คนเดียว
วรกัญญาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ดูมีเหตุผลเหมือนกัน ทุกครั้งที่พ่อแม่ของเธอมายังฝรั่งเศสก็มักที่จะมาหาอักลี่ก่อนใคร หัวใจของคนแก่เธอเข้าใจดี
ชุติภาสและนีรชาอุ้มอักลี่เข้าไปในห้อง ชุติภาสเดินไปหาของบางอย่าง ส่วนนีรชาอุ้มอักลี่ชมบรรยากาศภายในห้อง
“อักลี่ทำไมแม่ของหนูถึงเรียกหนูว่าอักลี่ล่ะ?”นีรชาไม่เข้าใจว่า เด็กน้อยหน้าตาหล่อเหลาขนาดนี้ ทำไมถึงตั้งชื่อให้ว่าอักลี่
“ฮ่าๆๆๆคุณย่าอักลี่เป็นชื่อที่หนูตั้งให้ตัวเองครับ จริงๆผมชื่อนันทิวรรธน์ เดิมทีมีชื่อเล่นว่านันทิแต่ว่าผมไม่สามารถออกเสียงได้ ผมก็เลยเรียกตนเองว่าอักลี่พวกเขาก็เลยเรียกผมว่าอักลี่ “อักลี่อธิบายให้นีรชาฟัง
อ่อ เป็นแบบนี้นี่เอง เพราะนีรชาเองก็คิดว่าเด็กคนนี้จะชื่ออักลี่ได้ยังไงกัน
“หาเจอแล้ว หาเจอแล้ว”ชุติภาสเปิดเจอรูปถ่ายใบหนึ่ง ในรูปนั้นก็มีเด็กหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง และก็ถ่ายตอนที่เขาอายุหกขวบกว่า
“ว้า ฉันรู้สึกว่าเหมือนกันเป๊ะๆเลย ใช่จริงๆด้วย อักลี่คนนี้เป็นหลานชายของพวกเรา เป็นหลานชายของพวกเราจริงๆ เป็นหลานชายของพวกเราจริงๆ”นีรชาตื้นตันใจจนร้องไห้ออกมา
อักลี่ก็มองดูคุณปู่และคุณย่าที่ทั้งยิ้มและทั้งร้องไห้ด้วยความประหลาดใจ และไม่รู้ด้วยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“คุณย่า คุณปู่ พวกคุณเป็นอะไรไปเหรอครับ?”อักลี่เอียงศีรษะมองไปยังคนแก่ทั้งสองคน
“อ่อ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร คุณปู่และคุณย่านึกถึงเรื่องที่น่าดีใจอยู่เรื่องหนึ่ง”ชุติภาสก็อยากเข้าไปกอดอักลี่เหมือนกัน แต่ว่า นีรชากลับอาลัยอาวรณ์ ทั้งสองวางอักลี่ไว้บนเตียง ทั้งสองจะได้ดูด้วยกัน
“ชุติภาส เรื่องเรื่องนี้เรารู้กันแค่สองคนก็พอแล้ว ตอนนี้ห้ามบอกเรื่องนี้ให้วรกัญญากับชลธีรู้เด็ดขาด มุกความจำเสื่อม บางทีอาจจะมีอะไรบางอย่างปิดบังพวกเราอยู่ ส่วนชลธีก็ยิ่งบอกไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะถ้าบอกไปแล้วเขาจะต้องอดใจไว้ไม่ไหวแน่ๆ ตอนนี้พวกเราต้องตรวจสอบข้อมูลว่าในปีนั้นนอกจากการตายของณิชพนแล้ว ยังเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกบ้าง จะต้องมีเหตุผลที่จะสามารถอธิบายกับมุกได้”ไม่นานนีรชาก็คิดวิธีการบางอย่างออก หล่อนกับชุติภาสว่าห้ามพูดเรื่องนี้กับใครอย่างเด็ดขาด
รูปตอนเด็กๆของชลธีเหมือนกับอักลี่ในตอนนี้ไม่มีผิด แต่ว่าตอนนี้ปู่ปรัณเสียชีวิตไปแล้ว ตอนนี้มีเพียงชุติภาสกับนีรชาเท่านั้นที่รู้ว่าชลธีกับอักลี่หน้าตาเหมือนกันไม่มีผิด
พวกเขาต่างคิดว่าในเวลานี้ตนคงไม่สามารถพูดออกไปได้ รอจัดการเรื่องต่างๆให้ชัดเจนก่อน ค่อยประกาศเรื่องที่น่ายินดีนี้ออกไป
ชุติภาสเก็บรูปนั้นซ่อนไว้อีกครั้ง จากนั้นทั้งสองก็อุ้มอักลี่ออกมา
ทั้งสองราวกับคนไม่มีอะไรทำ อุ้มเด็กน้อยเดินเล่นทั่วบ้าน ทั้งยังให้คนนำอาหารอร่อยๆจำนวนมากมาให้อักลี่ จนลืมวรกัญญาและชลธีไว้ข้างหลัง
ขณะที่รับประทานอาหาร นีรชาก็ดูแลอักลี่ด้วยตนเอง ทำให้วรกัญญาผ่อนคลายลงมาก อักลี่กับนีรชาสนิทสนมกันมาก นีรชาป้อนข้าวให้กับเขา เขาก็ป้อนอาหารให้กับนีรชาเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก จนทำให้ในใจของชุติภาสรู้สึกหึงหวง
“อักลี่น่ารักจริงๆเลย มา คุณปู่มีอะไรจะมอบให้ จี้ทองคำอันนี้ให้หนูก็แล้วกัน”ชุติภาสควักจี้ทองคำออกมาจากกระเป๋า ดูจากสีแล้วไม่ใช่ของใหม่ น่าจะเป็นทองเก่าแก่
“ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้องค่ะ ประธานชลธี ท่านเกรงใจเกินไปแล้ว” วรกัญญารีบโบกมือ จี้ทองคำอันนี้ดูก็รู้ว่ามีมูลค่ามาก ด้านนอกเป็นทองคำ จี้ด้านในเป็นหยก
“เอ๊ะประธานวรกัญญาคุณเกรงใจเกินไปแล้ว พวกเราก็แค่เอ็นดูอักลี่มากเป็นพิเศษ ก็เลยอยากจะมอบของเล็กน้อยให้กับเขา มอบให้เขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ พวกเราไม่ได้มีความหมายอย่างอื่น”จู่ๆชุติภาสก็กระตือรือร้นทำให้ชลธีรู้สึกแปลกใจ แต่เมื่อเขามองดูท่าทางของอักลี่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เด็กน้อยท่าทีแบบอักลี่คงไม่มีใครที่จะไม่ชอบเขา
“ประธานวรกัญญาคุณรับไว้เถอะครับ พ่อของผมเอ็นดูอักลี่มากเป็นพิเศษ ไม่รู้จะแสดงออกมาด้วยวิธีใด จึงทำได้เพียงให้ของขวัญ”ชลธียิ้มพลางอธิบายกับวรกัญญา
“ถ้างั้นก็ได้ค่ะอักลี่ขอบคุณคุณปู่สิ” วรกัญญาเปลี่ยนความคิดของเขาไม่ได้ จึงทำได้เพียงให้อักลี่รับจี้ทองคำนั้นไว้
หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็ให้ชลธีกับชุติภาสเป็นคนดูแลอักลี่ ส่วนนีรชาพาวรกัญญาไปยังสวนดอกไม้ของตนเอง
นีรชาปลูกพืชสมุนไพรจีนไว้ในสวนดอกไม้จำนวนมาก ทั้งยังมีดอกไม้สดมากมายหลายชนิด บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นของดอกไม้และกลิ่นยาผสมกัน
“กานต์นี่คือดอกจินอิ๋นฮวา คุณน่าจะเคยเห็นแต่แบบที่ขายอยู่ในร้านขายยา คุณดูสิดอกที่สดใหม่หอมขนาดไหน ใช้ทำเป็นหมอนจินอิ๋นฮวา สามารถให้อักลี่ใช้ได้ ช่วยบรรเทาอาการร้อนในและช่วยให้นอนหลับสบาย ดีมากเลย”นีรชาชี้ไปยังต้นเลียนาชนิดหนึ่งแล้วพูดขึ้นกับวรกัญญา
“ยังมีอันนี้ คุณต้องเคยเห็นแน่นอนผู่กงเอง ต้นไม้ชนิดนี้เลี้ยงง่าย เดิมฉันแค่โยนเมล็ดทิ้งไว้ แต่พอผ่านฤดูใบไม้ผลิไปเท่านั้น ทุกหนทุกแห่งก็เต็มไปด้วยพืชชนิดนี้ ผู่กงเองชนิดนี้มีใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน อย่าคิดว่ามันไม่มีราคาอะไร ใช้ทำเป็นยามีประสิทธิภาพมากชาดอกไม้ที่ฉันทำให้คุณก็ใช้ดอกของผู่กงเองนี่แหละ”นีรชานำทางให้กับวรกัญญา พร้อมทั้งแนะนำดอกไม้ในสวนของตนเอง
พวกเขาเดินมาระยะไกลอย่างไม่รู้ตัว วรกัญญาก็รู้จักสมุนไพรหลายชนิดมาก
ทั้งสองต่างเด็ดผู่กงเองและผักป่าเป็นจำนวนมากไว้ในมือ นีรชาเตรียมที่นำผู่กงอิมต้มน้ำร้อนเพื่อให้อักลี่ดื่ม
วรกัญญารู้สึกว่าตอนที่นีรชาได้พบกับตนนั้น หล่อนก็ชอบตนไม่น้อย แต่ว่าตอนนี้เมื่อได้เจอกับ อักลี่ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ล้วนโยง อักลี่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ยกตัวอย่างเช่น หมอนก็จะทำให้อักลี่ ของกินก็ทำให้อักลี่แม้แต่จะต้มน้ำก็จะทำให้อักลี่ดื่ม
มีคนดีกับลูกของตนขนาดนี้วรกัญญาก็รู้สึกดีใจไม่น้อย
หลังจากออกมาเดินข้างนอกตั้งนานแล้ว ทั้งสองก็เตรียมที่จะกลับเข้าไปในบ้าน
วันนี้ถือว่าเงียบพอสมควร ย่านิ่มพร้อมทั้งคนอีกมากมายไม่อยู่ นีรชาก็ถือว่าได้ใช้ชีวิตที่สงบสุขสองสามวัน
สำหรับเรื่องของธีร์ธวัช ในช่วงเวลานี้ทุกคนต่างไม่มีเวลามาสนใจ ผลการตรวจร่างกายของวรรณวิมลออกมาแล้ว หล่อนไม่มีความสามารถในการตั้งครรภ์จริงๆ หล่อนทนไม่ได้ที่จะต้องขายหน้าจึงกลับบ้านพ่อแม่ของเธอไป
แต่ว่าธีร์ธวัชต้องคอยดูแลคนท้องโดยตลอด จึงไม่มีเวลาไปรับหล่อน สถานการณ์เช่นนี้ช่างหน้ากระอักกระอ่วนใจยิ่งนัก
หากเป็นเมื่อก่อนนีรชาก็ยังพอที่จะจัดการได้ แม้ว่าธีร์ธวัชไม่มีเวลา หล่อนก็จะไปรับวรรณวิมล แต่ว่าตอนนี้เรื่องทุกอย่างย่านิ่มเป็นคนตัดสินใจ และย่านิ่มเองก็ไม่ได้คิดที่จะไปรับวรรณวิมล ส่วนนีรชาก็คงไม่ต้องไปยุ่งกับเรื่องไร้สาระนี้
ขณะที่ทั้งสองเดินมาอยู่บริเวณด้านหน้าประตู กลับพบว่าด้านในมีเสียงเอ๊ะอะโวยวาย เสียงนั้นราวกับเป็นเสียงของธีร์ธวัช เขากำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคนอยู่ น้ำเสียงหยาบคายเป็นอย่างมาก
ธีร์ธวัชกำลังดูแลคนท้องอยู่ไม่ใช่เหรอ?แล้วทำไมถึงมาโผล่ที่บ้านได้ล่ะ?