เมื่อวรรณวิมลเห็นกระดาษสองสามใบนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป ของสิ่งนี้ทำไมถึงได้อยู่ในมือของธีร์ธวัชได้ เมธพรบอกว่าทำหายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?หรือว่าถูกธีร์ธวัชเก็บได้?แต่ว่าก็หลายปีมาแล้ว ทำไมถึงเพิ่งเอาออกมาตอนนี้ล่ะ
“ของสิ่งนี้เอามาจากไหน จะต้องมีคนอยากจะทำร้ายฉันแน่ๆ ก็เลยจงใจเอาออกมา”วรรณวิมลทิ้งกระดาษสองสามแผ่นไปอย่างไกล ราวกับเห็นผี หล่อนคิดว่าขอเพียงหล่อนไม่ยอมรับก็พอแล้ว
“ทำร้ายคุณ?หลักฐานชิ้นนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นหลักฐานเมื่อหลายปีมาแล้ว หากมีคนต้องการทำร้ายคุณ แล้วทำไมถึงต้องรอมาถึงตอนนี้ล่ะ? ผู้หญิงหน้าด้านคนนี้ ยังจะมาเสแสร้งทำเป็นผู้หญิงไร้เดียงสาอีก ทำให้ผมต้องทนรับความไม่ยุติธรรมนี้มาตั้งหลายปี บนหัวของผมไม่รู้ว่าโดนสวมเขาไปตั้งเท่าไหร่แล้ว มีแต่คนคอยหัวเราะเยาะผมอยู่!”
ธีร์ธวัชรู้สึกว่าตนเป็นตัวตลก รู้ทั้งรู้ว่าวรรณวิมลเป็นคนแบบนั้น แต่ก็ยังซ่อนกระดาษแผ่นนี้ไว้ หากไม่ใช่เพราะวันนี้เด็กน้อยคนนี้ค้นเจอ เขาก็ยังคงเป็นคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย!
ใช่แล้ว ทำไมที่บ้านเราถึงมีเด็กได้ล่ะครับ เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร?ในเวลานี้ธีร์ธวัชถึงได้นึกถึงเด็กคนนั้นขึ้นมาว่ามาอยู่ที่บ้านของตนได้อย่างไร?
“แม่ เด็กคนเมื่อกี้คือใครครับ ทำไมถึงได้มาอยู่ที่บ้านของเราได้ครับ?”ธีร์ธวัชถามนีรชา
“เด็กคนนั้นเป็นเพียงลูกของแขกคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับคุณ ตอนนี้คุณควรที่จัดการเรื่องของตนเองให้ชัดเจนเสียก่อน ไม่ใช่เรื่องของคนอื่น”นีรชาพูดกับธีร์ธวัช
ธีร์ธวัชครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก็น่าจะจริง เด็กคนนั้นเป็นใครไม่สำคัญ ที่สำคัญก็คือภรรยาของตนเอง
“ไม่ใช่ของคุณงั้นเหรอ ผมจะบอกคุณให้นะวรรณวิมล หมอคนนี้ผมรู้จัก ตอนนี้ก็ยังคงทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนั้น ของพวกนี้ล้วนมีการเก็บประวัติไว้ สามารถที่จะค้นหาได้ หากไม่ใช่ผมจะล้างมลทินให้กับคุณ แค่ถ้าใช้คุณต้องคิดให้ดีนะว่าผมจะฟ้องคุณขึ้นศาลอย่างแน่นอน”
เมื่อธีร์ธวัชเห็นว่าจะทำยังไงวรรณวิมลก็ไม่ยอมรับ เขาอยากชกหล่อนอีกสักครั้ง
คุณหมอที่ใช้การรับรองทั้งสองคนนี้ ธีร์ธวัชรู้จักพอดี หมอคนหนึ่งเป็นหมอเจ้าของไข้ที่รักษากิ๊กของเขา ใบรับรองที่หล่อนเป็นคนออกจะต้องเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน
“ธวัช ธวัช ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น จะต้องมีคนปลอมแปลงเพื่อใส่ร้ายฉันอย่างแน่นอน ตอนที่ฉันแต่งงานกับคุณ ฉันบริสุทธิ์จริงๆ คุณต้องเชื่อฉันนะคะ ต้องเชื่อฉัน” เมื่อถึงเวลานี้วรรณวิมลจึงได้รู้สึกกลัว เธอจึงไม่ได้ทำตัวดื้อรั้นอย่างเมื่อก่อนแล้ว
ตอนที่ผู้ชายรักคุณ สามารถทนต่อความดื้อรั้นเอาแต่ใจของคุณได้ แต่ว่าหากผู้ชายไม่ได้รักคุณแล้ว คุณจะดื้อรั้นเอาแต่ใจให้ใครดูกัน?
“ผมเชื่อคุณ?ผมอยากจะเชื่อคุณมาก งั้นคุณก็บอกมาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น?หรือว่าการทำแท้งกับผ่าตัดซ่อมแซม คนอื่นแอบใช้ชื่อของคุณ?งั้นคุณก็บอกผมมาสิว่าใครเป็นคนใช้ชื่อของคุณ?”ธีร์ธวัชคิดว่าหากวรรณวิมลยอมรับ บางทีเขาอาจจะลองพิจารณาดูว่าจะหย่าหรือไม่หย่า
แต่ว่าดีท่าทีจากตอนนี้ เขาคงไม่ต้องครุ่นคิดอีกต่อไปแล้ว ผู้หญิงแบบนี้ เขาไม่เอาแน่ๆ
“ธวัช ธวัช พวกเราแต่งงานกันมาสิบกว่าปีแล้ว คุณน่าจะเข้าใจฉันดี ทำไมคุณถึงไม่เชื่อฉันล่ะ แต่กลับเชื่อกระดาษพวกนั้น ?”วรรณวิมลเริ่มกุศโลบายสายสัมพันธ์
ธีร์ธวัชรักเธอมากมาโดยตลอด หล่อนคิดว่าตนน่าจะสามารถหลอกธีร์ธวัชต่อไปได้
“วรรณวิมล คุณพอได้หรือยัง แน่นอนว่าผมจะต้องเชื่อกระดาษพวกนั้น เพราะว่าของพวกนั้นแม้ว่าจะไม่สามารถพูดได้ แต่ว่ามันก็ซื่อสัตย์ ไม่เหมือนของบางอย่างที่พูดได้ แต่กลับเป็นคนโกหกหลอกลวง!”ธีร์ธวัชผลักวรรณวิมล
“ธวัช ฉันรับปากที่จะยอมให้เด็กคนนั้นเข้ามาอยู่ในตระกูลสุวรรณเลิศ ฉันรับปากคุณทุกอย่าง คุณอย่าโมโหเลย เป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่ควรที่จะผลักลูกของคุณออกไป ธวัช คุณให้อภัยฉันได้ไหมคะ?”วรรณวิมลเงยหน้าขึ้น ในสายตาของธีร์ธวัชไม่มีความรักเหมือนเมื่อก่อนหลงเหลืออยู่อีกแล้ว เหลือเพียงใบหน้าราวกับท้องผูก
“หย่ากันเถอะ ผมไม่อยากใช้ชีวิตกับคนโกหกหลอกลวงอีกต่อไปแล้ว คุณไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ก็เพราะเหตุผลนี้ใช่ไหม?ทำไมผมถึงคิดไม่ถึง”ธีร์ธวัชก็ไม่อยากที่จะพูดกับวรรณวิมลอีกต่อไปแล้ว เขาหันหลังแล้วจากไป
เดิมทีจะกลับมาเอาบัตรเอทีเอ็ม คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาพบเจอกับเรื่องแบบนี้
หากเป็นเมื่อก่อนธีร์ธวัชก็คงจะอาลัยอาวรณ์วรรณวิมลอยู่บ้าง เพราะคิดว่าเธอแต่งงานกับตนอย่างบริสุทธิ์ อย่างน้อยตนเองก็ควรที่จะมีความรับผิดชอบต่อหล่อน
แต่ว่าตอนนี้ไม่ต้องแล้ว เขาก็คลายความกังวลลงมาก ผู้ชายก็มักที่จะหาเหตุผลมาชดเชยความผิดที่ตนนอกใจเพื่อทำให้ใจของตนสมดุล
“ธวัช ธวัช คุณอย่าไปเลย คุณอย่าไปเลย”วรรณวิมลอยากที่จะกอดขาของธีร์ธวัชไว้ แต่ว่าธีร์ธวัชกลับเตะหล่อนออกด้วยความรังเกียจ จากนั้นก็จากไปไม่แม้แต่จะหันกลับมา
“แม่ แม่ พ่อ พ่อ พวกคุณตัดสินใจให้ฉันหน่อย ฉันควรทำยังไงดีคะ ฉันควรทำยังไงคะ?”วรรณวิมลมองดูธีร์ธวัชที่เดินออกไปอย่างเด็ดเดี่ยว หล่อนจึงหันไปหานีรชาและชุติภาส หล่อนไม่สามารถไปจากตระกูลสุวรรณเลิศได้ ตระกูลสุวรรณเลิศนี้เป็นถึงเศรษฐีในพระนคร ไม่ง่ายเลยที่ตนจะแต่งงานเข้ามาในตระกูลนี้ได้ จะอย่าไม่ได้อย่างเด็ดขาด
“รอคุณย่าคุณกลับมาแล้วค่อยว่ากันเถอะ คุณกลับไปรักษาตัวก่อนแล้วกัน คุณเป็นแบบนี้ก็ไม่ควรเดินไปทั่ว ใครเห็นเข้ามันจะไม่ดี”นีรชาไม่อยากที่จะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องสกปรกพวกนี้ ไม่ใช่เพราะย่านิ่มจะจัดการทุกอย่างไม่ใช่เหรอ?งั้นก็รอให้หล่อนมาจัดการก็แล้วกัน
วรรณวิมลไม่มีหนทางอื่น ใบหน้าของหล่อนเจ็บปวดเป็นอย่างมาก หล่อนไม่อยากกลับไปบ้านของพ่อแม่แล้ว จึงทำได้เพียงกลับไปยังห้องนอนของตนเอง
“เอ้อ นี่มันเรื่องอะไรกัน ของสิ่งนี้ทำไมถึงอยู่ในห้องของชลีได้ อีกทั้งธวัชยังมาเห็นพอดีอีก อยากจะหลบหนีก็หลบไม่พ้น”ชุติภาสถอนหายใจ
“เรื่องที่ตนเคยทำไว้ แน่นอนต้องมีสักวันถูกเปิดเผยออกมา บนโลกใบนี้ไม่มีความลับที่จะเป็นอมตะตลอดไป ชุติภาสคุณกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ฉันจะไปหามุกกับอักลี่”นีรชาไม่เห็นหน้าอักลี่สักพัก หล่อนก็คิดถึงเขาเป็นอย่างมาก
“ผมไม่เหนื่อย ผมก็อยากไปหาอักลี่เหมือนกัน”ชุติภาสก็คิดถึงอักลี่แล้วเหมือนกัน ดังนั้นสองสามีภรรยาจึงเดินไปที่ โรงเรือนดอกไม้ที่ควบคุมอุณหภูมิด้วยกัน เพื่อไปหาสามคนพ่อแม่ลูกที่อยู่ที่นั้น
“ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ สนุกจังเลย แม่ครับ ผมชอบที่นี่”อักลี่นั่งอยู่บนชิงช้าแกว่งไปแกว่งมา เขารู้สึกว่าตนใกล้จะโบยบินแล้ว ของเล่นชิ้นนี้สนุกมาก
“อักลี่ อักลี่ กระหายน้ำแล้วใช่ไหม ฉันเอาไอศกรีมมาให้”นีรชาเมื่อเข้าประตูมาก็ได้ยินเสียงหัวเราะใสแหลมของอักลี่ หล่อนนำไอศกรีมที่ตนทำมาวางไว้เบื้องหน้าของอักลี่
“คุณย่า คุณย่า คุณย่าเล่นอันนี้ไหมครับ สนุกมากเลยครับ”เมื่ออักลี่เห็นคุณปู่และคุณย่ากลับมาก็แบ่งปันสิ่งที่ตนมองว่าสนุกให้กับพวกเขาทั้งสอง
“ของอันนี้พวกเราเล่นไม่ได้หรอก มาอักลี่มากินไอศกรีมก่อนแล้วค่อยเล่นต่อดีไหม?”นีรชานำไอศกรีมวางไว้บนโต๊ะ เพื่อให้อักลี่กิน
ดอกไม้ในโรงเรือนนั้นราคานั้นราคาล้วนแพงมาก ดอกไม้หลายชนิดล้วนเป็นดอกไม้หายากที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ นีรชาชอบเลี้ยงดอกไม้ ชอบปลูกสมุนไพร ทุกครั้งที่ย่านิ่มและคนอื่นๆทะเลาะกันในห้องรับแขก หล่อนก็จะมาที่นี่เพียงลำพังเพื่อดื่มด่ำกับความสงบที่ได้จากดอกไม้และหญ้าสมุนไพรสีเขียว
“คุณย่า คุณกินก่อนเลยครับ” อักลี่เปิดไอศกรีมออกมา มองไปยังสีที่สวยงามนั้น แล้วใช้ช้อนตักขึ้นมาช้อนหนึ่งส่งให้นีรชา