“ฮือๆๆน้ำผึ้ง ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว คุณไม่รู้หรอกว่าฉันต้องทนรับกับความน้อยใจตั้งเท่าไหร่ ลูกชายของวรกัญญาอะไรนั้น ไม่รู้ว่าไปเอาใบรับรองจากโรงพยาบาลเมื่อสมัยก่อนของฉันมาจากไหน ธีร์ธวัชถึงได้ตบตีฉันขนาดนี้”วรรณวิมลร้องไห้ต่อหน้าธินิดา
“ผู้หญิงคนนี้เดิมทีฉันคิดว่าหล่อนจะโมโหฉันจนตายไปแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะกลับมา ทั้งยังเป็นประธานของโจนส์กรุ๊ปนั้นอีก โชคดีไม่ธรรมดาเลย หล่อนกลายเป็นลูกสาวของคุณโจนส์ได้ยังไงกัน คุณรู้ไหม?”ธินิดาดื่มกาแฟ สำหรับสิ่งเลวร้ายที่วรรณวิมลเผชิญมานั้น หล่อนไม่เห็นใจเลยแม้แต่น้อย ใครใช้ให้หล่อนหาเรื่องใส่ตัวเองล่ะ
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันก็รู้สึกว่าแปลกๆ ทำไมคุณโจนส์ถึงได้รับมุกดามาเป็นลูกสาวของตนเอง?ถ้าหากว่าต้องการเลี้ยงดูในฐานะภรรยา คุณนายเจนนี่ก็ต้องรู้ไม่ใช่เหรอ แต่ว่าคุณนายเจนนี่ก็ชอบหล่อนมาก นี่มันน่าแปลกจริงๆเลย”ในเวลานี้วรรณวิมลไม่มีเวลามานั่งร้องไห้อีกต่อไปแล้ว
วรกัญญาคนคนนี้พอกลับมาก็ตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับตน ตอนแรกก็บังคับให้ชดใช้ความผิดโดยการขอโทษหล่อนลงในหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ ตอนนี้ยังเปิดเผยความลับของตนเองให้ธีร์ธวัชรู้อีก ต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะทรมานตนอย่างไรอีก ตนเองจะต้องชิงลงมือก่อนจึงจะได้เปรียบ
“มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น ก็คือการทำให้ความทรงจำของวรกัญญากลับมา ฮ่าๆๆๆ มีเพียงการทำเช่นนั้น หล่อนถึงจะไม่ยอมให้อภัยชลธี และไม่คืนดีกับชลธี!”ธินิดาพูดขึ้นอย่างโหดเหี้ยม
“นั้นเป็นเพราะอะไรเหรอ?”วรรณวิมลถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“เรื่องนี้คุณไม่ต้องรู้หรอก ขอเพียงแค่คุณช่วยให้ความทรงจำของหล่อนกลับมาก็พอแล้ว หล่อนความจำเสื่อม สามารถเริ่มต้นใหม่ได้ทุกอย่าง แล้วพวกเราล่ะ?พวกเราก็จะยอมมองดูหล่อนมีความสุขชื่นมื่นต่อไปงั้นเหรอ?ฉันทำไม่ได้หรอก!”ธินิดาคนกาแฟที่อยู่ในแก้วไม่หยุด จนทำให้กาแฟกระเด็นออกมาจากแก้ว
“ฉันก็เหมือนกัน ฉันเกลียดผู้หญิงคนนี้จะตายอยู่แล้ว หากหล่อนยังมีชีวิตอยู่ดีมีสุข ฉันคงทนมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ไหวแน่ๆ”วรรณวิมลกัดฟันพลางพูดขึ้นว่า วรกัญญาเป็นตัวซวยของฉัน หากหล่อนยังมีชีวิตเป็นสุขได้ วรรณวิมลเธอเองคงนอนไม่หลับ
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ค่อยๆมาทรมานหล่อนกันเถอะ มาดูสิว่าพวกเราจะทำให้ความทรงจำของหล่อนกลับมาได้ยังไง พวกเขาไม่อยากให้ความทรงจำของหล่อนกลับคือมาไม่ใช่เหรอ ?พวกเรามาทำเรื่องดีๆกันเถอะ!ฮ่าๆๆๆๆ”ธินิดาหัวเราะอย่างมีความสุข
วรกัญญา ถ้าคุณรู้ความจริงแล้ว ใจของคุณจะเจ็บปวดมากขึ้นไหมนะ?
“ใครให้ดอกไม้คุณมาเหรอครับ?”ในทุกๆวันเมื่อชลธีเข้ามายังห้องทำงานของวรกัญญาก็มักจะเห็นดอกไม้สดช่อหนึ่งปักอยู่ในแจกัน
“ประธานประวีร์ เขายังรู้ด้วยนะว่าฉันชอบดอกกุหลาบสีชมพูที่สุด!” วรกัญญาสูดหายใจเข้าลึกๆ กลิ่นหอมหวานๆของดอกกุหลาบ ทำให้เธอชื่นชอบไม่น้อย
“คุณชอบดอกพุดซ้อนกับดอกมะลิไม่ใช่เหรอครับ?”ชลธีถามขึ้น
“อ่า?คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันชอบดอกพุดซ้อนกับดอกมะลิ?ขอเพียงเป็นดอกไม้ที่ดมแล้วหอมฉันก็ชอบทั้งนั้นแหละ คุณไม่รู้ใช่ไหมล่ะ?” วรกัญญารู้สึกว่าชลธีคนนี้ละเอียดอ่อนพอสมควร ยังไปหาข้อมูลในสิ่งที่ตนเองชอบ
“อ่อ ผมสั่งต้นดอกพุดซ้อนไว้กระถางหนึ่งพอดีเลย เดี๋ยวก็จะมาส่งแล้ว เดี๋ยวผมจัดการกับพื้นที่ตรงนี้ก่อน อีกสักพักจะได้เอาดอกพุดซ้อนวางไว้ตรงนี้”ชลธีนำดอกกุหลาบที่ประวีร์มอบให้กับเธอวางไว้อีกมุมหนึ่ง เขาเช็ดจุดที่สามารถมองเห็นได้ชัดจนสะอาด
“ประธานวรกัญญาดอกพุดซ้อนที่สั่งจองไว้มาแล้ว”เลขาอุ้มกระถางที่เต็มไปด้วยดอกพุดซ้อนเข้ามา พอเข้ามาไม่นานกลิ่นหอมของดอกพุดซ้อนก็ฟุ้งกระจายไปทั่ว หอมอ่อนๆสร้างความพึงพอใจให้ผู้คนเป็นอย่างมาก
“ประธานวรกัญญาดอกพุดซ้อนนี่หอมมากจริงๆ คุณดูสิ ดอกของมันเพิ่งบานใหม่ๆเลย สีขาวอวบสวยจริงๆ”ขณะที่เลขาถือกระถางอยู่และอยากที่จะดมอีกครั้งก็ถูกชลธีรับไปจากมือเสียแล้ว
“กระถางดอกไม้นี้ต้องวางไว้ตรงนี้ ดมแล้วหอม ช่วยให้มีชีวิตชีวาขึ้น เวลาทำงานจะได้สดชื่น”ชลธีนำดอกพุดซ้อนวางไว้ในมือของวรกัญญา
เดิมทีวรกัญญาต้องการที่จะสงวนท่าที โดยให้ชลธีนำดอกพุดซ้อนออกไป แต่ว่าต่อมาเมื่อได้กลิ่นหอมฟุ้งของดอกไม้นั้นก็อดใจไว้ไม่ไหว
“วางไว้ตรงนี้ก็แล้วกัน คุณไปชงชามาให้ฉันหน่อยแก้วหนึ่ง” วรกัญญาไม่อยากให้ชลธีเห็นท่าทีพึงพอใจเป็นอย่างมากของเธอ จึงหาเรื่องไล่ให้เขาออกไป
“ประธานวรกัญญาฉันรู้สึกว่าชลธีเหมือนว่าจะมีใจให้คุณไม่น้อยเลยนะคะ แต่ว่าเขาก็หล่อขนาดนั้น ทั้งยังเป็นลูกชายของบริษัทฮอนดากรุ๊ปอีก เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้สมองมีปัญหา แต่ว่าดูเหมือนว่าตอนนี้เขากลับมาเป็นปกติแล้ว”เมื่อเห็นว่าชลธีออกไปแล้ว เลขาก็ขยับเข้ามาอยู่ด้านหน้าของวรกัญญาพลางพูดเมาท์
“คุณไม่มีอะไรทำใช่ไหม?มา เอาอันนี้แบ่งไปแต่ละแผนก” วรกัญญาถูกเลขาคนนี้เห็นเป็นตัวตลกเสียแล้ว เธอหยิบเอกสารกองหนึ่งมอบให้กับเขา เดิมทีต้องการให้ชลธีเป็นคนจัดการ แต่เวลานี้คงทำได้เพียงมอบให้หล่อนไปก็เท่านั้น
เลขาคนนี้คุณโจนส์ใช้งานหล่อนมาโดยตลอด แม้ว่าจะชอบทำตัวน่าขบขันไปบ้างแต่ประสิทธิภาพในการทำงานไม่เลวเลย เพียงแต่ว่าท่าทีของคนดูตลกไปบ้างก็เท่านั้นเองวรกัญญาพึงพอใจในตัวหล่อนเป็นอย่างมาก
ชลธีชงชากลับมา วรกัญญากำลังดมกลิ่นหอมของดอกไม้อยู่ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอพึงพอใจกับดอกไม้ในกระถางนั้นเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นชลธีผลักประตูเข้ามา วรกัญญาก็ยืดตัวตรงขึ้นทันทีแล้วรีบทำงานต่อ
“ประธานวรกัญญาชาในวันนี้เป็นดอกเก๊กฮวยผสมกับผู่กงเอง ได้ยินว่าสามารถลดอาการอักเสบของสายตาได้”ชลธีนำชาวางไว้ด้านหน้าของวรกัญญา
“อ่อ ดีมากเลย เชิญคุณนั่งก่อน” ในเวลานี้วรกัญญายังไม่รู้ว่าจะมอบหมายให้ชลธีทำอะไร เพียงแต่ให้เขานั่งลงก่อน
สิ่งที่ชลธีทำดีต่อตน ไม่ใช่ว่าตนจะไม่รู้ เพียงแต่ว่าเธอไม่อยากมีใจให้กับชลธี เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ขอเพียงแค่คิดถึงชลธีขึ้นมา ในใจของตนเองก็รู้สึกเจ็บปวด
“ผมว่าผมกลับห้องทำงานของผมดีกว่านะครับ ไปดูสักหน่อยว่ามีเรื่องอะไรต้องจัดการไหม ผมจะได้จัดการให้เรียบร้อย”ชลธีรู้สึกว่าตนอยู่ที่ห้องทำงานของวรกัญญานั้นไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองสักเท่าไหร่
“งั้นก็ได้ คุณไปเถอะ ถ้าฉันมีธุระอะไรฉันจะเรียกคุณเอง” วรกัญญารู้สึกว่าการทำเช่นนี้ดีที่สุด เพียงแต่ว่ารู้สึกเกรงใจที่จะต้องพูดเช่นนั้นออกไป
ชลธีผลักประตูแล้วเดินออกไป วรกัญญากลับไม่สามารถทนดูต่อไปได้อีกแล้ว ในหัวของเธอเริ่มคิดฟุ้งซ่าน ใบหน้าของชลธีมักผุดขึ้นมาให้หัวของเธอ
หัวใจของเธอเริ่มบีบตัวแน่นจนเจ็บปวดอีกครั้ง เธอรู้สึกเจ็บปวดจนเหงื่อเริ่มไหลออกมาก เธอหยิบยาออกมาจากกระเป๋าและกินยาไปสองเม็ด
ไม่ได้ชลธีคนนี้ไม่สามารถที่จะอยู่ใกล้เธอได้ อาการของหัวใจของเธอบีบรัดตัวขึ้นอย่างเจ็บปวดทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หรือว่าคนคนนี้เคยมีความขัดแย้งกับเธอมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขาเข้าใกล้เธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?วรกัญญาใช้มือกุมที่หัวใจของตนเธอเริ่มคิดที่จะหาวิธีขับไล่ชลธีออกไป
แต่ว่าหลังจากที่กินยานี้เข้าไปแล้ว หัวใจของวรกัญญาก็ยังคงมีอาการเจ็บปวดอยู่ เจ็บจนเธอค่อยๆล้มลงไป จนท้ายที่สุดเธอนั่งลงกับพื้น ไม่สามารถที่จะคลายอาการเจ็บปวดนี้ลงมาได้ จนเธอต้องนอนขดอยู่ที่พื้น
“ประธานวรกัญญา ประธานวรกัญญา?”ขณะที่ชลธีนำเอกสารที่ตนจัดการเรียบร้อยแล้วเข้ามายังห้องทำงานของวรกัญญา กลับพบว่าวรกัญญาไม่ได้อยู่บนเก้าอี้ ส่วนเขาก็ไม่เห็นว่าเธอได้เดินออกไปข้างนอก
“ฉันอยู่ตรงนี้!” วรกัญญาที่อยู่บนพื้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอิดโรย