ชลธีระเบิดคำพูดออกมากองใหญ่ วรกัญญาได้ยินชลธีเรียกตัวเองว่ามุก ในหัวใจที่แต่เดิมไม่มีความเจ็บปวดกลับเกิดความเจ็บปวดขึ้นมาลางๆ
“ชลธี คุณเอาใหญ่แล้วนะ กรุณาเรียกฉันว่าประธานวรกัญญา” วรกัญญาเชิดหน้าขึ้น
ชลธีถูกขัดจังหวะคำพูด เมื่อครู่เขาร้อนใจเกินไป จึงไต่ถามไปโดยลืมการเรียก
“ประธานวรกัญญาไม่ทราบว่าคุณอยากทานอะไร อยากดื่มอะไรไหมครับ” วรกัญญายังคงให้น้ำเกลือ ชลธีจึงถามอย่างระมัดระวัง
“ฉันอยากทานขนมเกาลัด แบบที่คุณซื้อมาคราวก่อน ถ้าดื่ม ก็ซื้อช็อคโกแลตร้อนให้ฉันแล้วกัน” ทุกครั้งที่วรกัญญารู้สึกเจ็บปวด จะชอบทานของหวานๆ เป็นพิเศษ
“ได้ครับประธานวรกัญญาผมจะไปซื้อเดี๋ยวนี้ คุณอยู่ที่นี่นะผมจะไปเรียกพยาบาลมาดูแล คุณก็นอนพักสักหน่อยนะครับ” เมื่อชลธีได้ฟังคำพูดของมุกดาแล้ว เขาก็เร่งรีบเดินออกไป
ในไม่ช้าพยาบาลคนหนึ่งเข้ามา เธอยิ้มให้วรกัญญา “ประธานวรกัญญาคุณพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ ฉันจะช่วยดูแลคุณอย่างดี เมื่อน้ำเกลือหมดฉันจะช่วยเปลี่ยนให้ คุณวางใจนะคะ”
“งั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณคุณมาก ฉันจะนอนสักหน่อยแล้วกัน” เมื่อครู่แม้จะไม่ได้สติไปเป็นเวลานาน แต่จิตใจของวรกัญญากลับไม่ได้พักผ่อน เธอฝันร้ายตลอด เห็นแต่สีแดงฉานไปทั่ว มันทำให้เธอเจ็บปวดมาก
หัวใจไม่เจ็บ วรกัญญาก็ผ่อนคลาย เธอนอนลงบนเตียง และหลับไปอย่างรวดเร็ว
ชลธีไปที่โรงน้ำชาของนีรชา จัดขนมเกาลัดสองกล่องเรียบร้อย ก่อนจะไปที่ร้านเครื่องดื่มเพื่อซื้อช็อกโกแลตร้อนให้วรกัญญา
เมื่อเขากลับมาก็ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว เวลานี้วรกัญญากำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง พยาบาลอยู่ข้างๆ เฝ้าดูน้ำเกลืออย่างทุ่มเทใส่ใจ
ชลธีให้พยาบาลออกไป แล้วเขาก็คอยเฝ้าอยู่ข้างๆ วรกัญญาด้วยตัวเอง
วรกัญญาหลับสบายเป็นพิเศษ ไม่ได้ฝันร้ายและไม่มีใครรบกวน
ถ้าไม่ใช่เพราะหิวนิดหน่อย วรกัญญาคาดว่าคงต้องมืดก่อนตัวเองถึงจะตื่น เธอทำงานกินเวลาทุกวัน จึงยากที่จะได้พักผ่อนสักครั้ง
“ชลธี” คนแรกที่วรกัญญาเรียกหาก็คือชลธี
“ครับ ผมอยู่ตรงนี้ ตื่นแล้วเหรอครับ ดื่มน้ำสักแก้วก่อนนะครับ เดี๋ยวค่อยทานของว่าง” ชลธีได้ยินวรกัญญาเรียกตน เขาก็รีบลุกขึ้นยืน เดินเข้ามาหาเธอ
วรกัญญารับแก้วน้ำมา ดื่มหมดภายในหนึ่งลมหายใจ จากนั้นก็ทานขนมเกาลัด แล้วร่างกายก็สดชื่นขึ้น
ดูเหมือนว่าน้ำเกลือจะเกือบหมดแล้ว วรกัญญาก็จะได้กลับแล้ว
“ประธานวรกัญญาต้องการพักผ่อนอีกหน่อยไหมครับ” ชลธีถาม
“ไม่ต้องแล้ว ตอนนี้ฉันสบายดีแล้ว ฉันจะกลับ วันนี้เสียเวลาไปหนึ่งวันแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ และฉันต้องทำงานล่วงเวลาอีก” วรกัญญาบิดขี้เกียจ หยุดพักหนึ่งวันก็พอได้ ถ้าให้เธอหยุดพักทุกวัน เธอไม่ชินเลยจริงๆ
ชลธีช่วยประคองวรกัญญาออกจากโรงพยาบาล และกลับไปที่บริษัท ตอนนี้คนในบริษัทเลิกงานแล้ว
“ประธานวรกัญญาเราทานข้าวกันก่อนแล้วค่อยทำงานล่วงเวลานะครับ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะหิว หิวแล้วคุณอาจจะมีอาการเจ็บหัวใจอีก” ที่หน้าประตูบริษัท ชลธีพูดเสนอกับวรกัญญา
“ไม่แล้วๆ ฉันเพิ่งทานของว่างไปไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวหิวค่อยว่ากัน” วรกัญญาต้องการขึ้นข้างบนไปทำงานล่วงเวลาเลย
แต่ชลธีกลับดึงเธอเดินข้ามถนนไป ตรงนั้นมีร้านอาหารเปิดใหม่ พวกโธรณีเคยมาทาน รู้สึกว่าค่อนข้างอร่อย จึงแนะนำให้กับชลธี
วันนี้ชลธีจึงได้พาวรกัญญาไปลองพอดี
“นี่ ชลธี ชลธี ฉันบอกคุณว่าฉันไม่ทานข้าวไง ฉันไม่ทานข้าว” วรกัญญาแทบจะเรียกได้ว่าถูกชลธีอุ้มข้ามถนน จนมาถึงร้านอาหาร
วรกัญญาโมโหมาก จึงทำไม่สนใจชลธี ชลธีสั่งอาหารที่เธอชอบทาน และเริ่มสรรหาคำพูดมาพูดกับเธอ
“ประธานวรกัญญาขนมเกาลัดเป็นอาหารไม่ได้ มันเป็นของที่ย่อยง่าย เดี๋ยวไม่นานคุณก็หิวแล้ว”
“อาหารที่ดีที่สุดในร้านอาหารนี้คืออาหารทะเล ในนี้มีอาหารทะเลหลายชนิดเลย คุณต้องชอบทุกอย่างแน่นอน”
“คุณดูสิ กุ้งนี่สดไหม คุณลองชิม รสชาติดีมากเลยนะครับ แสนดีแนะนำให้ผม บอกว่าเหมาะกับรสปากของคุณ” ชลธีพูดอย่างนั้นแล้วแกะเปลือกกุ้งยื่นให้วรกัญญา
วรกัญญาหันหน้าหนีไปอีกทาง ใจของเธอโกรธมาก ชลธีคนนี้นับวันยิ่งจะเอาใหญ่ ไม่สนใจคำพูดตนอีกต่อไปแล้ว
“ทานเถอะ คุณอย่าเพิ่งโกรธ ทานเสร็จแล้วอยากด่าผมยังไงก็เชิญเลยครับ แต่ตอนที่ทานอาหารต้องจริงจัง เวลานี้ต้องฟังผมครับ” ชลธียืนกรานที่จะเอากุ้งเข้าปากวรกัญญา
วรกัญญาเคี้ยวๆ เธอพบว่ากุ้งทอดร้านนี้ดีมาก นุ่มนวลละลายในปาก แถมรสชาติยังอร่อยสดใหม่
สายตาของเธอมองไปยังอาหารทะเลอีกครั้ง ของในนี้มีเยอะมากจริงๆ นั่นแหละ มีหอยเป๋าฮื้อ มีหอยกาบ และยังมีกุ้งด้วย มันน่าอร่อยมาก
เธอมองไปที่สีสันสีแดงๆ รู้สึกว่าในปากน้ำลายกำลังไหล
ชลธีที่อยู่ข้างๆ ยื่นช้อนมาให้ วรกัญญารับช้อนมา ลองชิมข้าวผัดทะเล ซึ่งก็อร่อยมากไม่แพ้กัน
จากนั้นก็ไม่มีการวางตัวอีก วรกัญญาเอาข้าวผัดทะเลมาวางตรงหน้าตนแล้วทานมันจนหมด รวมถึงกุ้งที่ชลธีปอกเปลือกให้ตัวเองก็เอาทั้งหมดมาจิ้มมัสตาร์ดทานด้วย
เธอทานจนท้องป่อง แล้วชลธีก็มาพร้อมไอศกรีมถ้วยเล็กๆ อีก
วรกัญญาก็ไม่อดใจอีกต่อไป ทานมันจนหมด จากนั้นเธอก็เดินหน้าต่อไม่ได้อีกแล้ว
“ฉันทานอิ่มแล้ว” วรกัญญาถอนหายใจออกมา
แต่เวลานี้เธอเพิ่งพบว่าชลธีเหมือนจะไม่ได้ทานอะไรเลย วันนี้ทั้งวันเหมือนจะไม่ได้ทานอะไรสักอย่าง ตลอดเที่ยงเอาแต่เฝ้าตัวเอง บ่ายไปซื้อขนมเกาลัดให้ตน เขาไม่มีเวลาทานอาหารเลย
“ชลธี ทำไมคุณไม่ทานอาหาร” วรกัญญารู้สึกว่าตนควรใส่ใจพนักงานหน่อย
“ผมไม่หิวครับ” ชลธีพูดด้วยรอยยิ้ม
คนที่ไม่ได้ทานอะไรทั้งวัน บอกไม่หิวผีที่ไหนจะเชื่อ
วรกัญญาหยิบเมนูอาหารขึ้นมาดูครู่หนึ่ง ใจเธอสัมผัสได้อย่างหนึ่ง อาหารในร้านนี้มีแต่อาหารทะเล ดังนั้นชลธีจึงทานอะไรไม่ได้
แต่เขากลับต้องการพาตนมาที่นี่เพื่อให้ทานอย่างสุขใจ ส่วนเขายังคงหิว
“ไปเถอะ” วรกัญญาก็ไม่ถามชลธีอีกว่าจะทานข้าวไหม เพราะในร้านนี้ เขาไม่มีอะไรจะทาน
ชลธีตามเธอออกไป
“ชลธี คุณเห็นตรงนั้นไหม เราไปที่นั่นกัน” วรกัญญาชี้ไปยังร้านอาหารที่อยู่ไกลออกไปพลางพูดกับชลธี
“ไม่ต้องหรอกครับไม่ต้อง ประธานวรกัญญาไปทำงานก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมไปทานเองก็ได้” ชลธีกลัวว่าจะเป็นการถ่วงเวลาเลิกงานของวรกัญญา และยังมีอักลี่รอเธออยู่ที่บ้านด้วย
“วันนี้ฉันไม่ไปทำงานล่วงเวลาแล้ว ฉันจะไปเป็นเพื่อนคุณทานข้าว ทานข้าวแล้วคุณก็ส่งฉันกลับบ้านด้วย” จู่ๆ วรกัญญาก็รู้สึกว่าเธอไม่ทำงานล่วงเวลาหนึ่งวัน ยังสามารถทำมันให้เสร็จได้ เพียงแต่เธอกลัวว่าเมื่อกลับบ้านไป ตอนที่อยู่คนเดียว เธอมักจะรู้สึกโดดเดี่ยวเป็นพิเศษ