แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 247 คุณไม่อยากรู้เหรอ

วรกัญญาละสายตาจากธีรเมท ธีรเมทมองแผ่นหลังวรกัญญาแล้วเขาก็ยิ่งชอบ ตอนนั้นทำไมตนถึงไปตกหลุมรักผู้หญิงอย่างเมธพรคนนั้นกันนะ

“คุณแม่ ในโรงเรียนอนุบาลมีเพื่อนเยอะไหมครับ” อักลี่นั่งข้างวรกัญญา เขาเอาแต่ถามไม่หยุด

“เยอะจ้ะ มีเพื่อนเยอะแยะเลย หนูสามารถเล่นสนุกกับพวกเขาได้” วรกัญญาบอกกับอักลี่

“แล้วพวกเขาจะไม่ทำร้ายผมเหรอครับ” อักลี่กังวลมาก

“ไม่หรอกจ้ะ อีกอย่าง หนูฝึกฝนการต่อสู้มาแล้ว หนูยังต้องกลัวพวกเขาอีกเหรอ” วรกัญญาปลอบอักลี่

“แต่คุณครูพวกผมบอกว่า เราจะไปทำร้ายใครอย่างอิสระไม่ได้” อักลี่พูดอย่างจริงจังมาก

“ทำร้ายใครอย่างอิสระไม่ได้ แต่ถ้าทุกคนทำร้ายหนู หนูจะไม่ป้องกันตัวเหรอ หรือว่าการที่เขาทำร้ายหนูนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง” วรกัญญามองลูกชายที่มีความเป็นสุภาพบุรุษ รู้สึกกลัวว่าเขาออกไปข้างนอกแล้วจะถูกรังแก

“อ้อ งั้นได้ครับ ผมจะพูดเหตุผลกับเขาก่อน” อักลี่พูดอย่างมั่นใจ ในโลกของเขา คนทุกคนล้วนมีเหตุผล

วันนี้เป็นวันแรกในโรงเรียนอนุบาลของอักลี่ เขาประหม่านิดหน่อย ตอนที่อยู่ฝรั่งเศส เขาก็ไปโรงเรียนอนุบาลเช่นกัน ไม่รู้ว่าเหมือนกับที่นี่ไหม

“คุณแม่ต้องอย่าลืมมารับผมนะครับ” สำหรับตนที่คุณแม่ทำงานล่วงเวลาทุกวัน อักลี่จึงกังวลมาก

“จ้ะ คุณแม่จำได้ หนูวางใจเถอะจ้ะ มีเรื่องอะไรก็พูดกับคุณครูนะ” วรกัญญามอบอักลี่ให้ครูอนุบาล

“ว้าว วันนี้เด็กคนนี้น่ารักจัง เหมือนดาวดวงน้อยๆ เลย” ป้าคนหนึ่งในโรงเรียนอนุบาลมองอักลี่แล้วเอ่ยชม

“เพื่อนตัวน้อย หนูชื่ออะไรเหรอจ๊ะ” พวกคุณป้าล้อมเข้ามา กระตือรือร้นต่ออักลี่เป็นพิเศษ

“ผมชื่อนันทิวรรธน์ครับ ชื่อเล่นว่าอักลี่ คุณครูครับ พวกคุณเรียกผมว่าอักลี่ก็ได้” อักลี่เองก็ไม่ถือตัว แถมยังปากหวานด้วย ไม่นานครูในโรงเรียนอนุบาลก็ชอบเขามาก

การได้รับการศึกษามาอย่างดี ทำให้อักลี่มีเหตุผลและดูเป็นผู้ใหญ่แตกต่างจากเด็กวัยเดียวกัน

เขาสามารถช่วยครูทำเรื่องบางอย่างได้ และยังแบ่งปันอาหารของตัวเองกับเพื่อนๆ ครูมองนันทิวรรธน์อย่างไรก็ยังชอบ

ครูหลายคนมาหานันทิวรรธน์ตลอดทั้งเช้า และคุยโม้กันไปว่ามีเด็กที่ดูดีกว่าภาพวาดเข้ามาเรียนในชั้นอนุบาลสอง

ตอนมื้อเที่ยง ชั้นอนุบาลสองกับชั้นอนุบาลสามอยู่ห่างกันไม่ไกล ขณะที่อักลี่ไปเติมอาหาร มีเด็กชายตัวสูงชั้นอนุบาลสามคนหนึ่งมาเบียดอักลี่ ผลักอักลี่ออกไปข้างๆ แล้วตัวเองก็เติมอาหารก่อน

“นายเบียดคนอื่นได้ยังไง” มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่กับอักลี่ถูกเบียดจนล้มลง แต่เด็กชายตัวใหญ่กลับหันหลังเดินหนีไป

“นายหยุดนะ นายขอโทษผู้หญิงเลยนะ” อักลี่ประคองเด็กผู้หญิงขึ้น และตะโกนใส่เด็กชายตัวใหญ่

“ขอโทษ? ขอโทษอะไร ฉันอยู่ที่ไหนก็เป็นแบบนี้ ทุกคนต้องยอมให้ฉัน” เด็กชายตัวใหญ่คนนั้นดูไปแล้วคงจะอายุมากกว่าห้าขวบ ตัวสูงกว่าอักลี่

“แต่เรามาเข้าแถวก่อน นายแซงแถวไม่พอยังจะมาเบียดคนอื่นอีก” สาวน้อยพูดกับเด็กชายคนนั้น

เวลานี้ครูทุกคนกำลังดูแลเด็กในขั้นอนุบาลหนึ่ง จึงไม่ได้สังเกตเห็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตรงนี้

“เบียดอะไร ฉันไปเบียดเธอยังไง” เด็กชายชั้นอนุบาลสามอาศัยความสูงของตัวเอง และความแข็งแรงกว่าเด็กอีกสองคน เขาจึงไม่กลัว

เด็กชายคนนี้ในขณะที่พูดยังจงใจเบียดเข้าหาเด็กผู้หญิงด้วย

อักลี่เริ่มโมโหนิดหน่อยแล้ว เขาปกป้องเด็กผู้หญิงไว้ข้างหลังตัวเอง แล้วปล่อยให้เด็กผู้ชายคนนั้นผลักตน

“นี่ๆ เธอทำอะไร เธอเด็กชั้นอนุบาลสามรังแกเด็กชั้นอนุบาลสองทำไม” เวลานี้มีครูเข้ามา เห็นอักลี่กำลังปกป้องเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเข้าพอดี และกำลังถูกเด็กชายชั้นอนุบาลสามรังแก

ครูทุกคนต่างมีความประทับใจในตัวอักลี่มาก ดังนั้นจึงต่างว่าเด็กชายชั้นอนุบาลสาม

เด็กชายถลึงตาใส่อักลี่ แม้ปากเขาจะพูดขอโทษ แต่ในใจกลับหงุดหงิดมาก คิดว่าเมื่อไรเขาจะต้องสั่งสอนอักลี่ให้ได้

“เธอไม่เป็นอะไรนะ” อักลี่ถามเด็กผู้หญิงคนนั้น

“ไม่เป็นไร ขอบคุณนายมากนะ” เด็กผู้หญิงพยักหน้าบอกขอบคุณอักลี่ แล้วตัวเองก็เดินไป

อักลี่เองก็กลับไปยังที่นั่งของตัวเอง แล้วเริ่มทานอาหาร วันนี้เป็นวันแรก อักลี่รู้สึกว่าอาหารที่นี่อร่อยดี

“ประธานวรกัญญาประธานวรกัญญาโปรดหยุดก่อน ฉันมีธุระกับคุณค่ะ” ธินิดาเห็นวรกัญญาลงจากรถ เธอก็รีบวิ่งเข้ามา

วรกัญญาหยุดก้าวเดิน เธอมองธินิดา นี่คือภรรยาของฟิลลิปไม่ใช่เหรอ ได้ยินว่าเป็นเลขาของเขาด้วย บางทีอาจมีเรื่องเกี่ยวกับโครงการร่วมธุรกิจกับตน

“ประธานวรกัญญาขอบคุณที่รอฉันค่ะ” ธินิดามายืนตรงหน้าวรกัญญา เธอรู้สึกว่าวรกัญญาอาจจะได้รับอิทธิพลจากการอยู่ในแวดวงธุรกิจ เพราะตอนนี้ออร่าของเธอแข็งแกร่งมาก

“คุณนายธินิดา คุณมีเรื่องอะไร” วรกัญญายื่นสิ่งที่ถืออยู่ในมือให้เลขาใบเตย

“คืออย่างนี้ค่ะประธานวรกัญญาพอจะสะดวกเมื่อไรคะ” ธินิดาพูดกับวรกัญญา

“เรื่องเกี่ยวกับอะไรคะ ถ้าเป็นเรื่องการร่วมธุรกิจ คุณมาหาฉันได้ในอีกหนึ่งชั่วโมง วันนี้ฉันมีประชุม” วรกัญญาไม่สนใจสิ่งอื่นใดนอกจากการร่วมธุรกิจ

“งั้นได้ค่ะ อีกหนึ่งชั่วโมงฉันจะมาหาคุณ” ธินิดาพูดกับวรกัญญาหนึ่งประโยค แล้วเธอก็เดินไปนั่งรอวรกัญญาอยู่แถวๆ นั้น

วรกัญญามองดูเวลา แล้วขึ้นชั้นบนไปประชุมก่อนที่จะสายเกินไป

ตรงเวลามาก หลังจากการประชุมจบลง ธินิดาก็มาที่ห้องทำงานของวรกัญญา

ห้องทำงานของวรกัญญาเรียบง่ายมาก แต่กลับแสนอบอุ่น ไม่มีสิ่งอื่นใด มีเพียงกระถางดอกพุดซ้อนที่เจริญงอกงามอยู่บนโต๊ะทำงาน กลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้อง

“เชิญนั่งค่ะ คุณนายธินิดา ไม่ทราบว่าคุณฟิลลิปมีความคิดเห็นอะไรเกี่ยวกับการร่วมธุรกิจคะ” วรกัญญาถามธินิดาตรงๆ

“คุณฟิลลิปมีข้อคัดค้านมากมายเกี่ยวกับการร่วมธุรกิจ แต่เขาอาจจะเคารพคุณโจนส์ จึงยอมผ่อนผันให้คุณ แต่วันนี้ที่ฉันมาไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ค่ะ เป็นเรื่องอื่น” ธินิดายกกระเป๋าเอกสารในมือของตัวเองขึ้นมา

“ความหมายของคุณนายธินิดาคือต้องการคุยกับฉันในเรื่องส่วนตัวเหรอ แต่เรื่องส่วนตัวของคุณฉันไม่สนใจ ฉันยังมีงานต้องทำอีกเยอะ ขออภัย เชิญกลับไปเถอะ” วรกัญญามองดูท่าทางยโสโอหังของธินิดา ก็รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในมือของเธอไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่

“ประธานวรกัญญาคุณไม่อยากรู้จริงเหรอว่าเหตุใดเมื่อห้าปีก่อนคุณถึงสูญเสียความทรงจำ คุณไม่อยากรู้จริงเหรอว่าพ่อของลูกคุณเป็นใคร คุณอยากพัวพันอยู่กับคนไร้หัวใจตลอดไปจริงเหรอ” ธินิดาถามวรกัญญาเป็นชุด ทำให้วรกัญญาต้องหยุดนิ่ง

ทั้งหมดนี่เธออยากรู้มาก แต่ก็กลัวที่จะรู้เช่นกัน พ่อแม่ไม่ได้บอกตนว่าทำไมอักลี่ถึงไม่มีพ่อ นั่นหมายความว่าพ่อของอักลี่เป็นคนที่ทำร้ายตนมากที่สุด

“ฉันไม่อยากรู้!” วรกัญญาค่อยๆ สงบอารมณ์ตัวเอง เธอเค้นออกมาทีละคำช้าๆ

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset