มุกดารับกล้องถ่ายรูปนั้นมา เพื่อดอกไม้ ยังให้ตัวเองลาหยุด ต้นทุนนี้มากเกินไปไหม?
เพียงแต่มุกดาไม่ได้พูดอะไร มือของเธอก็เจ็บมาก อยู่บ้านพักผ่อนก็ดี เพียงแค่ไม่รู้ว่าต้องโดนหักเงินเท่าไหร่ ตัวเองเพิ่งจะทำงานได้สองสามวันก็ลาหยุดแล้ว ยังมีประธานที่วิปริตคนนั้น ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับตัวเองยังไง
ช่างมัน เงินคือหาได้ตลอด ไม่ได้ก็เปลี่ยนงานก็ได้แล้ว
มุกดาไปหานัทธ์ต้องการหนังสือหนึ่งเล่ม ก็นั่งลงด้านข้างดอกไม้ เฝ้าดอกไม้นั้น รายละเอียดของดอกไม้เธอก็ไม่รู้จัก เพียงแค่มองกิ่งก้านและใบสีเขียวอ่อนของดอกไม้ ดอกไม้ที่ยังไม่เบ่งบานมีสีชมพู
มองดูการเจริญเติบโตของดอกไม้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก มีชีวิตมายี่สิบปีแล้ว มุกดาเวลาที่ตัวเองรู้สึกเบื่อหน่าย ก็ไม่เคยทำเรื่องแบบนี้
“คุณหญิง นี่คือยา เวลาที่กินอาหารเที่ยงผมมองเห็นบนมือของคุณได้รับบาดเจ็บแล้ว?”ช่วงบ่ายนัทธ์ก็ส่งยามาให้เธอ
“อ้อไม่เป็นไร ขอบคุณลุงนัทธ์” มุกดารับยาขี้ผึ้งนั้นมา ด้านบนเป็นภาษาฝรั่งเศส ไม่ใช่ร้านยาธรรมดาแน่นอน
เวลาที่รอคอยอย่างเบื่อหน่าย มุกดาก็เอนหลังบนเก้าอี้ก็จะนอนหลับไปแล้ว ถ้าหากไม่ใช่สายโทรศัพท์ของจันวิภา มุกดาก็ยังไม่รู้จริงๆว่าตัวเองจะนอนหลับไปถึงเมื่อไหร่
“มุก วันนี้ฉันพบคนวิปริตคนหนึ่งในบริษัท เป็นคนวิปริตมากจริงๆ ทำให้ฉันโกรธมาก ฉันไปหาเธอ แต่ว่าแผนกเลขานุการเลขาบอกว่าเธอลาหยุดแล้ว เธอเป็นอะไร?ป่วยแล้วเหรอ?”จันวิภาพูดไม่หยุด
มุกดาไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามไหนเธอก่อนดี
“ฉัน ฉัน ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดกับเธอยังไง คือว่าจันทร์ สองสามวันนี้ฉันอาจจะไม่ไปทำงานแล้ว ฉันมีธุระนิดหน่อย” มุกดาไม่รู้ว่าควรจะเปิดปากพูดยังไง
“อ้อ มุก ช่วงนี้เธอไม่ได้มีเรื่องอะไรปิดบังฉันใช่ไหม?เธอมีเรื่องอะไรที่ลำบากใจก็ต้องพูดกับฉัน ฉันสามารถช่วยเธอได้” จันวิภารู้สึกว่าช่วงนี้มุกดาผิดปกติเล็กน้อย
“อืม ได้เลย มีโอกาสฉันจะค่อยๆบอกเธอ เพียงแต่ตอนนี้ไม่ค่อยสะดวก” มุกดาก็คิดอยากจะพูดกับจันวิภา แต่ว่าตอนนี้เหมือนถูกกักบริเวณ ไม่มีอิสระ
“งั้นก็ได้ รอให้เธอทำงานแล้ว ฉันเลี้ยงเธอกินกุ้งมังกรแดงของร้านเจ้านั้น นานมากที่ไม่ได้ไป คิดขึ้นมาก็รู้สึกอยากจะกินมากแล้ว ” จันวิภาสุดท้ายก็พูดแบบนี้
วางสายโทรศัพท์ มุกดากับจันวิภาก็ถอนหายใจ
กินข้าวเย็นเสร็จ มุกดาก็ขึ้นเตียงนานแล้ว ความรู้สึกของเธอไม่ค่อยดี ทำเรื่องอะไรก็ไม่มีชีวิตชีวา
หัวค่ำ จิ้งหรีดโดยรอบกำลังร้องตอบโต้กัน ลมกลางคืนกำลังพัดเบาๆ มุกดานอนหลับสนิทมาก เธอนอนอยู่นอกผ้าห่ม
ชลธีมองดูมุกดา เธอวางมือไว้เหนือศีรษะ จับมือของเธอค่อยๆวางลงด้านล่าง ตุ่มพุพองนั้นก็แตกแล้ว แต่ทว่ายังแดง และเหนียว
ควักกล่องเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ชลธีนำมือของเธอวางไว้บนขาของตัวเอง ทายาขี้ผึ้งลงบนหลังมืออย่างพิถีพิถัน
ความรู้สึกเย็นทำให้มุกดาผ่อนคลายมาก เธอเปล่งเสียงออกมา ขยับเล็กน้อย นำขาของเธอวางไว้บนขาของชลธี
นอนหลับก็ยังไม่ซื่อตรง ชลธีนำขาของมุกดาวางลงไป เพียงแต่อุณหภูมินั้นไม่ปกติ ทำให้ชลธีอดไม่ได้ที่จะแตะลงบนหน้าผากของมุกดา
ไม่แปลกใจเลยว่าเธอนอนหลับสนิทเช่นนี้ เดิมทีก็คือมีไข้แล้ว
ชลธีให้นัทธ์ ไปหาหมอประจำตระกูล มาตรวจมุกดา
“คุณชาย คุณหญิงคือไม่กี่วันมานี้ได้รับอากาศหนาวและลมเย็น และยิ่งช่วงนี้จิตใจมีความกลัดกลุ้ม ดังนั้นก็ก่อให้มีไข้”หมอประจำตระกูลพูดกับชลธี
“อืม รักษาเธอทันที” เสียงของชลธีมีความร้อนใจโดยที่เขาไม่รู้ตัว
หมอก็ให้น้ำเกลือมุกดาทันที เทแอลกอฮอล์ออกมานิดหน่อย เขาก็จะเช็ดตัวให้มุกดา
“ผมทำเอง พวกคุณออกไป” ชลธีห้ามการกระทำของหมอไว้
หมอกับนัทธ์มองชลธี ถอยออกไปเงียบๆ
มุกดาสะลึมสะลือด้วยพิษไข้ ชลธีเวลาที่เช็ดตัวให้เธอ เธอดึงมือของชลธี เรียกพ่อไม่หยุด
รอจนกระทั่งเวลาที่มุกดาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอรู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตชีวา เมื่อคืนนอนหลับสบายมาก
หลังมือก็ไม่เจ็บมากแล้ว มองดูหลังมือของตัวเองแห้งสบาย ไม่ได้รู้สึกเหนียวเหมือนเมื่อวานที่ตุ่มพุพองแตก
เธอเปลี่ยนเสื้อผ้า ไปดึงผ้าม่านเปิดออก แสงแดดที่ร้อนส่องแสงเข้ามา
ท้องร้องขึ้นมาไม่หยุด มุกดารู้สึกว่าท้องของตัวเองหิวมาก
“ลุงนัทธ์อรุณสวัสดิ์” มุกดาลงมาชั้นล่างทักทายลุงนัทธ์
“อืม อรุณสวัสดิ์”นัทธ์ตอบอย่างลังเล เป็นเวลาบ่ายสี่โมงแล้ว ยังอรุณสวัสดิ์?
“มีของกินไหม?ฉันหิวมากเลยค่ะ” มุกดาลูบท้องของตัวเอง
“มี มี คุณหญิงคุณนั่งลงก่อน ก็มาทันเสิร์ฟทันที”นัทธ์ให้มุกดานั่งลง ของกินก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว
โจ๊กหนึ่งถ้วย ผักดองสองสามถ้วย มองเห็นมุกดาก็ไม่มีความอยากอาหารแล้ว
“ลุงนัทธ์ ฉันอยากกินพวกเนื้อ” มุกดาไม่ได้ขยับตะเกียบ
“ไม่ได้ เมื่อคืนคุณมีไข้ ให้น้ำเกลือทั้งคืน หมอบอกว่า สองสาววันนี้สามารถกินได้เพียงโจ๊ก ไม่สามารถกินของมันของคาว”นัทธ์พูด
มุกดามองลุงนัทธ์อย่างน่าสงสาร เมื่อคืนตัวเองมีไข้เหรอ?ทำไมเธอไม่รู้?งั้นเมื่อคืนคือหมอดูแลตัวเองทั้งคืน?
“กินข้าวเถอะ ยังไงก็สามารถกินได้แค่อันนี้”นัทธ์ไม่ได้ปรึกษาหารือ
มุกดากินโจ๊กด้วยความเจ็บปวดทรมาน เธอจึงพบว่าตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสี่โมงแล้ว แย่แล้ว ไม่ใช่ให้ตัวเองเฝ้าดอกไม้เหล่านั้นเบ่งบานเหรอ?นี่ทำให้ยุ่งยากแล้ว
มุกดารีบวิ่งขึ้นไปชั้นบน หยิบกล้องถ่ายรูปและวิ่งไปในสวนดอกไม้ ยังดี ดอกไม้เหล่านั้นยังไม่เบ่งบาน และไม่ได้บาน
“คุณหญิง วันนี้คุณไม่ต้องเฝ้าอยู่ที่นี่แล้ว เมื่อวานคุณก็มีไข้วันนี้ไม่สามารถจะมีไข้ได้อีก ไม่อย่างนั้น…”นัทธ์มองเห็นมุกดายังไปที่สวนดอกไม้ ก็รีบให้เธอเข้าบ้าน
เมื่อคืนคุณชายอยู่เฝ้าทั้งคืน วันนี้ตอนเช้าจึงออกไป ถ้าหากว่าคุณหญิงป่วยอีก งั้นคุณชายอาจจะโกรธแน่
“แต่ว่า เขาไม่สามารถมองเห็นแสงแดดไม่ใช่เหรอ?นี่ยังเป็นดอกไม้ที่เขาชอบที่สุด ถ้าหากพลาดโอกาสนี้แล้ว เขาคงจะเสียใจมาก” มุกดาคิดว่าสามีของตัวเองไม่สามารถมองเห็นแสงแดด ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแรงมาก
“คือว่า ไม่เป็นไร คงจะอีกหลายวันถึงจะบาน เพียงแต่ร่างกายของคุณหญิงสำคัญที่สุด”นัทธ์ไอเล็กน้อย เขาก็คิดไม่ถึงว่ามุกดาจะแยกไม่ออกความแตกต่างของดอกไม้พลาสติกกับดอกไม้จริง
“งั้นลุงนัทธ์ ฉันสามารถจะออกไปเดินเล่นได้ไหม ก็คือไม่ต้องให้คุณไปส่งและไปรับฉัน ฉันไปเอง และกลับมาเอง”รับของผู้อื่นมาเมื่อเกิดปัญหาขึ้นก็ไม่กล้าเอาเรื่องกับเขา มุกดาเอาเงินของคนตระกูลนี้มาแล้ว พูดจาก็เปลี่ยนเป็นระมัดระวังมาก
“ได้สิ คุณชายเพียงแค่กลัวว่าคุณหญิงไปกลับไม่สะดวก ดังนั้นจึงให้พวกผมไปรับส่งคุณหญิง คุณมีอิสระ อยากไปที่ไหนก็สามารถไปได้”นัทธ์คิดว่าการกระทำของตัวเองทำให้มุกดาเข้าใจผิดแล้ว
เธอเป็นคุณหญิง ไม่ใช่นักโทษ เพียงแค่คิดว่าเธอไม่มีรถ ไปที่ไหนก็ไม่สะดวก ดังนั้นจึงไปรับส่งเธอตลอด
มุกดาไม่รู้ว่าทำไม ได้ยินคำพูดนี้ของนัทธ์ หัวใจของเธอก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา เธอคิดว่าสามีขี้เหร่เกินไป กลัวว่าตัวเองจะหนีดังนั้นให้นัทธ์ติดตามตัวเองตลอด
เดิมที เขากลัวว่าตัวเองจะไม่สะดวก ยังเป็นคนที่คิดละเอียดรอบคอบ
“จริงเหรอ ดีจังเลย ลุงนัทธ์ วันนี้ตอนเย็นฉันอยากออกไปสักหน่อย ฉันสามารถเรียกรถกลับมาได้ ก่อนสี่ทุ่ม ฉันกลับมาแน่นอน”ได้ยินว่าตัวเองสามารถออกไปได้ และสามารถออกจากบ้านคนเดียวได้ มุกดาตื่นเต้นจนอยากจะกระโดดขึ้น
“อืม ได้ งั้นพวกเราก็จะไม่เตรียมอาหารเย็นให้คุณหญิงแล้ว จริงสิ คุณหญิง อันนี้คุณหยิบไปด้วย”บนมือของนัทธ์มีบัตรสีดำหนึ่งใบ
“อะไร?” มุกดาหยิบบัตรมาอยู่ในมือ เป็นบัตรวีไอพีของธนาคาร
“นี่คือคุณชายให้คุณใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด หนึ่งเดือนมีแค่หนึ่งแสน คุณหญิง คุณอย่าคิดว่าน้อย ถ้าหากหลังจากนี้คุณชายดีใจแล้ว สามารถเพิ่มให้คุณ”คำพูดของนัทธ์ทำให้มุกดาเกือบจะทำบัตรในมือร่วง
ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดหนึ่งเดือนหนึ่งแสน ยังน้อย?
“คุณชายพูดว่า คุณหญิงจำเป็นต้องหยิบไป ไม่อย่างนั้นจะไม่ให้คุณออกไป”นัทธ์เห็นมุกดาจะคืนบัตรนั่น ก็รีบพูดอีกหนึ่งประโยค
มุกดาจำเป็นต้องนำบัตรเก็บให้ดี เวลานี้เธอไม่ได้สนใจอะไรมากแล้ว เธออยากจะไปพบจันวิภา นำเรื่องราวทุกอย่างของตัวเองในช่วงนี้บอกเธอ