วรกัญญากำหมัดแน่น เรื่องที่พูดในคลิปวีดิโอ เธอไม่ได้เชื่อทั้งหมด แต่ว่าพอนำเรื่องทั้งหมดมารวมกันดู ชลธีก็เป็นเหมือนที่ในคลิปวีดิโอพูดจริงๆ
“ชลธี คุณจะต้องจ่ายค่าตอบแทนที่คุณทำมาทั้งหมด” วรกัญญาสาบานกับตัวเองในใจ
หลังจากที่วรกัญญาเป็นลมไป ท่าทางที่ปฏิบัติต่อชลธีก็ดีขึ้นมาก ทำให้ชลธีรู้สึกประหลาดใจที่ได้รับความโปรดปรานเล็กน้อย
“ประธานวรกัญญา ผมพาอักลี่ไปเล่นน้ำตรงนั้นได้มั้ยครับ?” ชลธีพาอักลี่ มาขอคำแนะนำจากวรกัญญา
“ไม่ต้องเรียกฉันว่าประธานวรกัญญาแล้ว ฉันไม่ใช่ภรรยาของคุณหรือไง? คุณเรียกฉันว่ากานต์ก็พอแล้ว” คำพูดของวรกัญญาทำให้ชลธีไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ตรงไหน เขาเงยหน้ามองดวงอาทิตย์สักพัก ขึ้นทางทิศตะวันออกนี่นา
“ประธานวรกัญญา กานต์ วันนี้คุณเป็นอะไรไป?” ชลธีท่าทางไม่ค่อยแน่ใจ
“ไม่มีอะไร ฉันคิดได้แล้ว ฉันเป็นภรรยาของคุณ ในเมื่อเราไม่ได้หย่ากัน แน่นอนว่าก็ต้องอยู่ด้วยกัน หรือว่าคุณอยากจะหย่ากับฉัน?” ขณะที่วรกัญญาพูดคำพูดนี้บนใบหน้าก็ยิ้มบางๆ
“ไม่ใช่แน่นอน ผมไม่หย่ากับคุณแน่นอน กานต์ ผมมักจะรู้สึกว่าคุณดูผิดปกติเสมอ” ชลธีมองดูวรกัญญาที่ยิ้มบางๆ ให้กับตัวเอง เขาอยากจะเอื้อมมือออกไปสัมผัสสักหน่อย ดูว่าวรกัญญามีตรงไหนที่ผิดปกติ
“ปล่าว ฉันก็แค่คิดได้แล้วน่ะ” วรกัญญาพูดกับชลธีอย่างเขินอาย
“ถ้างั้นอักลี่เป็นลูกของผม?” ชลธีลองถามหยั่งเชิงวรกัญญา
“แน่นอนสิ ฉันอยู่ที่ฝรั่งเศสก็ไม่ได้แต่งงานกับผู้ชายคนอื่น แน่นอนว่าต้องเป็นลูกของคุณ ไม่อย่างนั้นฉันยังมีผู้ชายคนอื่น แล้วฉันไม่รู้งั้นหรอ?” วรกัญญาบอกชลธีอย่างมั่นใจมาก อักลี่ก็คือลูกของเขา
“อักลี่ ได้ยินมั้ย? ลุงเป็นพ่อของนาย นายก็คือลูกชายของลุง” ชลธีได้รู้ความจริงนี้ เขาดีใจสุดๆ ที่แท้อักลี่เป็นลูกชายของเขาจริงๆ กังวลมาตลอดว่าวรกัญญามีผู้ชายคนอื่นแล้ว
“งั้นคุณก็เป็นพ่อของผม พ่อฮะ เราไปเล่นน้ำกันเถอะ” ในใจของอักลี่ยังคงอยากจะเล่นน้ำอยู่ตลอด แม้ว่าตัวเองจะค่อนข้างตกใจกับความจริงที่มีพ่อนี้
“ได้สิ ได้สิ เราไปเล่นน้ำกัน แม่พึ่งจะออกจากโรงพยาบาล เราเดินช้าๆ กันหน่อย เล่นน้ำเสร็จเราก็ไปกินข้าวกันนะ” ชลธีในเวลานี้ตื่นเต้นดีใจไม่ไหวแล้ว เขาต้องโทรศัพท์ไปหาพ่อแม่เดี๋ยวนี้เลย บอกว่าอักลี่ก็คือลูกของตัวเอง
“ฮัลโหล แม่หรอ ผมอยู่ซูริก อืม ดีครับ ดีมาก แม่ผมจะบอกเรื่องหนึ่งให้นะ อักลี่น่ะเป็นลูกของผม เขาเป็นลูกชายของผม” ชลธีพูดอย่างตื่นเต้นดีใจ
แต่ว่าคนในโทรศัพท์กลับสงบนิ่ง นีรชาพูดออกมาอย่างนิ่งเรียบประโยคหนึ่งว่า:”เรารู้ตั้งนานแล้ว”
“รู้ตั้งนานแล้วหรอ?” ชลธีตะลึง พ่อแม่ของตัวเองรู้ว่าอักลี่เป็นลูกชายของตัวเองมานานแล้ว งั้นทำไมพวกเขาไม่บอกตัวเองล่ะ?
“ใช่สิ เขาหน้าตาเหมือนลูกตอนเด็กๆ ไม่มีผิด แม่ก็ต้องรู้แน่นอนสิว่าเขาเป็นหลานชายของแม่!” นีรชาทำท่าทางมั่นใจอย่างไม่ต้องสงสัย
พ่อแม่ของตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแกล้งลูกเสียจริงๆ ชลธียอมแพ้พวกเขาเลย สองคนดีใจสุดๆ ตั้งนานแล้ว กลับให้เขาคอยตรวจสอบวรกัญญามาตลอด
“โอเค แม่ แม่ชนะ ผมจะพาอักลี่ไปเล่นแล้ว ไม่คุยแล้ว” ชลธีไม่รู้จะบรรยายถึงพ่อแม่ของตัวเองยังไงดี เลยไม่พูดอะไรละกัน ความคับข้องใจในใจเพิ่มขึ้นเรียบร้อยแล้ว
“อืม โอเค ลูกต้องดูแลหลายชายของแม่ดีๆ นะ” นีรชาตอนท้ายก็รับสั่งชลธี ทำให้ชลธีคิดว่าตัวเองถูกเก็บมาหรือเปล่า
ชลธีพาอักลี่เล่นแถวๆ น้ำ วรกัญญาก็นั่งมองอยู่ด้านข้าง ในหัวของเธอหมุนอย่างรวดเร็ว แต่ว่าบนใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มบางๆ ตลอด
ดีมาก! ชลธี! คุณอยากจะฆ่าล้างฉันไวๆ ไม่ใช่หรอ? ถ้างั้นฉันจะอยู่กับคุณละกัน ดูสิว่าสุดท้ายแล้วใครจะชนะ
“อักลี่บอกลาพ่อสิจ๊ะ” วรกัญญาอุ้มอักลี่ที่ง่วงมาก ให้เขาบอกลาชลธี
อักลี่พูดประโยคหนึ่งอย่างขอไปที แล้วก็ผล็อยหลับไปบนไหล่ของวรกัญญา
“ชล ฉันไม่อยากเที่ยวแล้ว คุณจองตั๋วเครื่องบินวันมะรืนนี้ละกัน เราจะกลับกันแล้ว ในเมื่อเราเป็นสามีภรรยากัน เราก็ควรคิดสักหน่อยว่าต่อไปจะใช้ชีวิตอย่างไร ถึงตอนนั้นฉันจะไปพบพ่อแม่ของคุณนะ” วรกัญญาพูดกับชลธี
“อืม อืม ได้สิ ได้สิ ผมเองก็มีความคิดแบบนี้เหมือนกัน ในเมื่อเราเป็นสามีภรรยากัน แยกจากกันบ่อยๆ ก็ไม่ดีเท่าไหร่ จะต้องมีวิธีแก้ปัญหาสักอย่าง” ชลธีได้ฟังคำพูดของวรกัญญา เขาก็รู้สึกตื่นเต้น
“ถ้างั้นราตรีสวัสดิ์” วรกัญญาก็บอกลาชลธี
“ราตรีสวัสดิ์” ชลธีมองวรกัญญาปิดประตูแล้ว เขาถึงกลับไปยังในห้องนอนของตัวเองฝั่งตรงข้าม
“ทำไมไม่เที่ยวอีกหน่อยล่ะ? แป๊บเดียวก็กลับมาแล้ว?” คุณนายเจนนี่มองดูลูกสาวและหลานชายของตัวเองกลับมา เธอรู้สึกเหนือความคาดหมาย ทั้งๆ ที่จองการเดินทางของหนึ่งเดือนให้วรกัญญา แต่ว่านี่แค่หนึ่งสัปดาห์กว่าๆ ทั้งสองก็กลับมาแล้ว
“แม่ เที่ยวจนเกือบหมดแล้ว ไม่ค่อยมีอะไรสนุก หนูอยากกลับมาทำงานมากกว่า แม่ แม่กลับฝรั่งเศสไปดูแลพ่อได้แล้วนะ หนูไม่เป็นอะไรแล้ว” วรกัญญาพูดกับคุณนายเจนนี่
“ลูกไม่เป็นไรจริงๆ นะ กานต์ ลูกยังต้องดูแลตัวเองดีๆ ลูกดูร่างกายของลูกสิอ่อนแอลงเรื่อยๆ มักจะเป็นลมบ่อยๆ แม่ไม่วางใจจริงๆ ” เรื่องที่วรกัญญาเป็นลมในซูริก คุณนายเจนนี่รู้แล้ว
“อ๋อ แม่ นั่นมันอุบัติเหตุ หนูไม่เป็นไรแล้ว ถ้าไม่ได้ทำงาน หนูจะยิ่งรู้สึกอึดอัดขึ้นไปอีก” วรกัญญาออดอ้อนคุณนายโจนส์ คำพูดที่เธอพูดด้านหลังเป็นความจริง ถ้าเธอไม่ได้ทำงาน จะทำให้ตัวเองมีความวู่วามอย่างหนึ่งอยากจะไปฆ่าชลธี
“โอเค โอเค ลูกไม่อยากจะพักผ่อน แม่ก็ไม่รู้จะทำไง ได้แค่ให้ลูกทำงานต่อไป งั้นพรุ่งนี้แม่จะกลับไปดูแลพ่อลูกแล้วนะ ลูกอยู่ที่นี่ด้วยตัวเองดีๆ ล่ะ อย่าป่วยอีกเด็ดขาด” คุณนายเจนนี่รับสั่งแล้วก็รับสั่งกับลูกสาวของตัวเอง
“อืม ค่ะ แม่วางใจเถอะ” วรกัญญาก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำไมถึงทำคุณนายเจนนี่ชอบได้ขนาดนี้ ในช่วงห้าปีที่ตัวเองความจำเสื่อม ล้วนเป็นสามีภรรยาโจนส์ที่ดูแลตัวเอง พวกเขาเคยบอกตัวเองว่าพวกเขาเป็นพ่อแม่ของตัวเอง
แต่ว่าบิดาของตัวเองคือณิชพน ตัวเองชื่อว่ามุกดา แต่เธอยังคงต้องขอบคุณสามีภรรยาโจนส์ ห้าปีนี้ที่ดูแลและเชื่อมั่นในตัวเอง
คุณนายเจนนี่เห็นวรกัญญายืนกรานที่จะทำงาน เธอก็ทำได้แค่ไปดูแลคุณโจนส์ ลูกไปพักผ่อนหย่อนใจสองสามวันครั้งนี้ ไม่รู้ว่าจะมีผลลัพธ์ยังไง เพียงแค่กลับมาแล้วก็มองไม่ออกว่ามีอะไรเปลี่ยนไป แล้วก็ไม่รู้ว่าเรื่องของเธอกับชลธีแก้ไขปัญหาเป็นยังไงบ้างแล้ว