ชลธีเดินตรงไปหาวรกัญญา เธอรู้สึกว่ามีความกดอากาศสูงเคลื่อนที่มาหาตนเอง
“คุณหยุดอยู่ตรงนั้นเลย ชลธี ฉันจะไปดูว่าเสื้อของคุณแห้งหรือยัง” วรกัญญาลุกลี้ลุกลน เธอรีบลุกขึ้นจากที่นั่งของตนเอง วิ่งไปในห้องพักผ่อน ปิดประตู “โครม”
พิงประตูใหญ่ วรกัญญารู้สึกว่าตนเองตื่นเต้นมาก เมื่อสักครู่เป็นอะไรไป? ทำไมถึงกลัวชลธี? เขามีความหมายอะไร? เป็นเขาที่ติดค้างตนเอง!
แม้ในใจของวรกัญญาเอาแต่เตือนสติตนเองแบบนี้ แต่เธอกลับอ่อนลงครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ชลธีคนนี้เหมือนกับยาพิษ ตนเองสัมผัสแล้วสะบัดไม่หลุด แถมยังมีความเป็นห่วง
ทำให้อารมณ์ของตนเองคงที่สักพักหนึ่ง วรกัญญาลูบใบหน้าร้อนผ่าวของตนเอง จิตใจสงบลงเหมือนเดิม เธอจึงไปดูเสื้อของชลธี เขาคนนี้เป็นอะไรไป ซักเสื้อไม่ยอมบีบให้แห้ง? น้ำตั้งเยอะแยะแบบนี้ เขาต้องรอให้แห้งไปถึงเมื่อไหร่?
วรกัญญาจึงไปบีบเสื้อของชลธีให้แห้ง เธอโทรหาเลขา ให้นำเสื้อแบบเดียวกันมาเดี๋ยวนี้ ขืนให้ชลธีอยู่ตรงนี้ไปเรื่อยๆ คงไม่ใช่ความคิดที่ดี
จัดการทุกอย่างเรียบร้อย วรกัญญาถึงจะออกมา ในเวลานี้เธอเห็นแววตาของชลธีเย็นลงมากแล้ว ไม่มีความคิดเพ้อเจ้อเมื่อสักครู่นี้
ชลธีก็กลับมานั่งลงกับที่เช่นกัน เขานั่งเงียบๆ เหมือนรูปแกะสลักที่สวยงาม
“คุณทำให้เสื้อของผมแห้งแล้วเหรอ?” ชลธีได้ยินเสียงประตู จึงเอ่ยถามวรกัญญา
“เปล่า แต่ฉันให้คนซื้อตัวใหม่ให้คุณ อีกสักพักจะมาส่ง แล้วคุณก็ไปซะ” วรกัญญากลับมาที่นั่งของตนเอง เปรียบเทียบกับชลธีจิ้งจอกเฒ่าคนนี้ ตนเองยังอ่อนประสบการณ์เกินไป
“งั้นผมต้องขอบคุณใช่ไหม ที่ช่วยซื้อเสื้อตัวใหม่ให้ผม แต่ผมเป็นคนยึดติดกับสิ่งของเก่ามาก ถึงคุณจะซื้อเสื้อตัวใหม่ให้ผม ผมก็ยังจะรอเสื้อตัวเก่าผมแห้งแล้วค่อยกลับ ผมจะไม่ทิ้งเสื้อตัวเก่าให้คุณ ถ้าคุณเอาเสื้อตัวเก่าของผมไปทำเรื่องไม่ดีล่ะ?” ชลธีพูดจบ ก็อ่านหนังสือพิมพ์ของตนเองต่อไป
เนื้อหาบนหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ไม่ใช่สิ่งที่วรกัญญาพูด อย่างมากสิบนาทีก็อ่านจบแล้ว แต่ชลธีกลับเอาแต่อ่านอย่างสนุกสนาน เขาคิดจะท่องจำเนื้อหาหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นหรือไง?
“ตามใจคุณ” เห็นชลธีบิดเบือนความหมายของตนเอง วรกัญญาก็ขี้เกียจสะสาง เธอจัดการธุระของตนเองต่อ ชลธีอยากจะนั่งก็นั่งไป อย่างไรเสียโซฟาที่นี่ก็วางอยู่
ทั้งสองคนไม่พูดจา ทั้งห้องทำงานเงียบสงัด เมื่อเลขาใบเตยมา ยังคิดว่าห้องไม่มีคนอยู่
“ประธานวรกัญญา เสื้อเชิ้ตของคุณค่ะ” ใบเตยเปิดประตูห้องประธานออก ยืนหน้าเข้าไปยืนยัน เมื่อเห็นวรกัญญานั่งอยู่ด้านใน เธอจึงเข้าไป
“เอาให้เขา!” เมื่อวรกัญญาให้ใบเตยนำเสื้อให้ชลธี ใบเตยถึงจะมองเห็นชลธีนั่งอยู่ที่โซฟา เขาสวมเสื้อยืดสีดำของประธานวรกัญญา กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อย่างจริงจัง ท่าทางหล่อมาก
“ผู้ช่วยชลธี เสื้อเชิ้ตของคุณ” ใบเตยยื่นเสื้อเชิ้ตให้ชลธี เธอยังไม่เปลี่ยนการเรียกของตนเอง
“ใบเตย นั่นคือประธานชลธี คุณต้องระวังลำดับความสำคัญ” วรกัญญาแก้ไขให้ใบเตย ใบเตยแลบลิ้น ส่งของให้ชลธี
“ไม่เป็นไร จะเรียกยังไงก็ได้ แค่ยืนยันว่าเป็นผมคนนี้ก็พอ” ชลธีกลับไม่ถือสาใบเตย พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมงานกันมาหลายเดือน ใบเตยคนนี้ไม่น่ารังเกียจ
ใบเตยรู้สึกว่าบรรยากาศค่อนข้างคุกรุ่น เธอจึงรีบออกไป ระหว่างประธานชลธีกับประธานวรกัญญามักเป็นแบบนี้ เธอก็เคยชินแล้ว
“สวมซะ เอาเสื้อคุณไปด้วย เอากลับไปผึ่งลมก็เหมือนกัน” ในขณะพูดวรกัญญาก็ช่วยชลธีเก็บเสื้อ
“เสื้อเชิ้ตตัวละเป็นหมื่น คุณคิดว่าจะขยี้หมาดๆ ด้วยกันได้เหรอ? นั่นมันเสียแล้ว” ชลธีห้ามวรกัญญา
“ฉันไม่ได้ซื้อเสื้อเชิ้ตตัวใหม่ให้คุณแล้วหรือไง? มันก็เหมือนกัน ตัวที่เสียคุณก็ไม่เสียเปรียบ” วรกัญญาทนไม่ไหวที่ชลธีเอาแต่ลังเลใจอยู่ตรงหน้าตนเอง อีกสักพักต้องกินข้าวแล้ว เขาคงจะไม่หน้าด้านให้ตนเองชวนกินข้าวใช่ไหม?
“จะไม่เสียเปรียบได้ยังไง? นั่นเป็นเสื้อตัวโปรดของผม และผมก็ใส่จนเคยชินแล้ว ผมไม่ได้ให้คุณซื้อเสื้อให้ผม เสื้อผมแห้งผมจะกลับไปเอง” เหตุผลของชลธีทำให้วรกัญญาคลั่ง ตนเองทำอะไรก็ไม่ถูก เอาเสื้อให้ เขาคนนี้ก็ไม่ยอมไป แถมยังพูดจาไร้สาระมากมายแบบนี้
วรกัญญาคิดว่า ในเมื่อชลธีไม่ไป ก็มีแค่ตนเองที่เป็นคนไป เธอมองเวลา ใกล้จะเลิกงานแล้ว
“งั้นคุณก็รออยู่ที่นี่ ฉันจะไปแล้ว” วรกัญญาเก็บของ เธอจะไปกินข้าว เมื่อสักครู่ตากฝน บวกกับโมโหชลธี วรกัญญารู้สึกเวียนศีรษะเล็กน้อย เมื่อเธอลุกขึ้น ยังต้องจับโต๊ะเอาไว้
“ได้ คุณไปเถอะ อีกสักพักเสื้อของผมแห้ง ผมจะไปเอง” ชลธีเองก็โมโห ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงไร้คุณธรรม ไม่ว่าอย่างไรตนเองก็พาเธอกลับมา ไม่เพียงแต่ไม่ขอบคุณสักคำ กลับไล่ตนเองด้วยซ้ำไป
แต่วรกัญญาก็ไม่ได้ไปไหน เธอเดินออกมาจากโต๊ะทำงานของตนเอง รู้สึกขาอ่อนแรงเล็กน้อย เวียนศีรษะ โลกหมุน บวกกับเริ่มปวดท้อง เธอย่อตัวลงนวดท้องตนเอง แต่นั่งยองลงไปปุ๊บ ก็ไม่มั่งคง เธอล้มลงไปบนพื้น
ชลธียังคงโมโห แต่เขาพบว่าวรกัญญานิ่งไป เขาอ่านหนังสือพิมพ์ที่สามารถท่องจำได้อีกสักพัก รู้สึกผิดปกติ ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรไป? ตนเองเป็นคนโมโหไม่ได้พูดอะไร เธอเป็นอะไรไป?
ชลธีคิดไปคิดมา ก็ทนไม่ไหว เขาวางหนังสือพิมพ์ลง เห็นวรกัญญานอนอยู่บนพื้น เขารีบร้อนลุกขึ้นเดินเข้าไป
“มุก มุก!” ชลธีพยุงวรกัญญาขึ้นมา ร้องเรียกหลายครั้ง แต่วรกัญญากลับไร้การเคลื่อนไหว ชลธีก็ร้อนรน เขาอุ้มวรกัญญาออกไปจากประตูห้องทำงานประธาน
“เธอปวดประจำเดือน บวกกับถูกความเย็นเข้า จึงเป็นไข้ทับระดู โชคดีที่คุณพบเร็ว สามารถให้น้ำเกลือได้ ถ้าช้ากว่านี้ จุ๊ๆ ๆ” แพทย์แผนจีนจับชีพจรของวรกัญญาในอ้อมแขนของชลธี
“ถ้าช้ากว่านี้จะเป็นยังไงครับ?” ชลธีถามอย่างกังวล
“ถ้าช้ากว่านี้ เธอจะเจ็บปวดมากอยู่พักหนึ่งเลย” แพทย์แผนจีนจ่ายยาให้วรกัญญา แต่เขายังให้น้ำเกลือวรกัญญาก่อน ยับยั้งความเจ็บปวดแล้วค่อยว่ากัน
ได้ยินแพทย์แผนจีนพูดเช่นนี้ ชลธีก็โล่งอก แต่แพทย์แผนจีนคนนี้ค่อนข้างน่าสนใจ!