แก้วที่ชลธีส่งให้วรกัญญา เธอกลับพบว่าไม่ใช่ของตนเอง เธอจึงบอกกับเขา “ประธานชลธี นี่ไม่ใช่ถ้วยของฉัน ของฉันเป็นน้ำแร่”
“คุณดื่มน้ำเย็นให้น้อยหน่อย ด้านในนี้เป็นน้ำร้อน สะอาดหมดจด ถ้วยก็ใหม่” ชลธีไม่หันกลับไป เขาแค่บอกวรกัญญาว่านั่นคือน้ำร้อน
วรกัญญามองถ้วยสักพัก และไม่ถามอะไรต่อ ทำไมเธอถึงไม่คิดว่าตนเองสามารถพกน้ำร้อนมาได้? คิดว่าไม่ไกลมาก จึงคว้าน้ำแร่สองขวดขึ้นรถ แต่ในตอนนี้ดื่มน้ำเย็นแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายจริงๆ
เปิดฝาถ้วยขึ้น ด้านในยังมีไอร้อนลอยขึ้นมา วรกัญญาดื่มไปหนึ่งคำ อบอุ่นและยังมีรสหวาน
นี่คือน้ำต้มน้ำตาลทรายแดง วรกัญญาดื่มแล้วรู้สึกสบาย จึงดื่มไปหลายคำ เธอคิดจะพูดขอบคุณชลธี แต่ชลธีกลับไม่พูดอะไรเลย เธอจึงไม่สนใจ ทั้งสองอยู่ด้วยกันสองชั่วโมงกว่า โดยไม่พูดอะไรอีกสักคำ
เมื่อรถเบรก วรกัญญาตื่นจากความฝันทันที เธอขยี้ตา มองผ้าห่มฝืนบางบนร่างของตนเอง ซึ่งไม่ใช่ของบนรถตนเองแน่นอน มาอยู่บนร่างกายของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ดูท่าทางแล้วจะหลับลึกมาก
“ถึงแล้ว ลงจากรถได้” ชลธีจอดรถเรียบร้อย เขาลงจากรถ ช่วยวรกัญญาเปิดประตู
วรกัญญายังมีท่าทางสะลึมสะลือ มองออกไปรอบๆ ผืนดินสีเขียวนั้น ทำให้คนรู้สึกสบายใจมาก
ลงจากรถ วรกัญญาสูดลมหายใจเข้าลึก อากาศที่นี่บริสุทธิ์หาที่เปรียบไม่ได้ สะอาดตั้งแต่ในจมูกไปจนถึงถึงปอด หลังจากหายใจเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาสัมผัสได้ว่าสะอาดไปทั้งร่างกายและจิตใจ
“ประธานวรกัญญา เป็นยังไงบ้างครับ ที่นี่ไม่เลวเลยใช่ไหม? แต่นี่เป็นแค่ความประทับใจแรก พวกเรายังต้องสำรวจอย่างลึกซึ้ง” ใบหน้ารูปไข่อวบๆ ของรองนายกเทศมนตรีผ่องใส
“อืม ไม่เลวเลยค่ะ” วรกัญญาตอบอย่างไม่ต้องสงสัย ที่นี่เธอเห็นครั้งแรกก็ชอบเลย
“เหนื่อยมานานแล้ว ไปทานข้าวที่บ้านผมกันเถอะครับ ภรรยาของผมเตรียมเสร็จแล้ว เชิญทุกคนครับ เชิญ” ผู้ใหญ่บ้านดูแลทุกคนอย่างกระตือรือร้น
“แล้วคืนนี้พวกเราจะพักที่ไหนคะ?” นี่เป็นคำถามที่วรกัญญาเป็นห่วงมาก
“ผมเตรียมสถานที่สะอาดสะอ้านให้แก่พวกคุณเรียบร้อยแล้วครับ ประธานวรกัญญา ประธานชลธี พวกคุณวางใจได้ จะต้องพอใจแน่นอน” ผู้ใหญ่บ้านได้ยินคำถามของวรกัญญา เขาก็รีบให้คำตอบ คนตรงหน้าเหล่านี้คือบุคคลอันทรงเกียรติของหมู่บ้าน ถ้ามีพวกเขา หลังจากนี้คนในหมู่บ้านก็จะยิ่งมีเงิน
ได้ยินว่าตนเองมีที่นอน แถมยังเป็นสถานที่สะอาดสะอ้าน วรกัญญาก็โล่งใจ เธอหยิบกระเป๋าสะพายของตนเอง ตามรองนายกเทศมนตรีและผู้ใหญ่บ้านเข้าไป ส่วนชลธีเดินตามข้างหลัง
แยกจากกันห้าปี ทุกครั้งชลธีจะเห็นวรกัญญาชุดดำทั้งตัว สิ่งที่เปลี่ยนไปมากสุดคือสีเทาทั้งตัวนั้น เธอปิดกั้นสีสดใสอย่างอื่น แต่เธอเป็นคนสวยสวมใส่อะไรก็ดูดี เสื้อผ้าสีดำสนิทนั้น สวมบนร่างกายของเธอให้ความรู้สึกลึกลับ
เมื่อเลี้ยวโค้ง ก็เข้ามาในบ้านของหมู่บ้าน บ้านของผู้ใหญ่บ้านกว้างขวางมาก มีกี่ห้องก็ไม่รู้ แค่รู้สึกว่านับได้ไม่ชัดเจน
ด้านในลานขนาดใหญ่ยังมีผลผลิตทางการเกษตรตากเอาไว้มากมาย ชายคาบ้านแขวนข้าวโพดสีเหลืองกับพริกสีแดง และยังมีกระเทียมสีขาว เสริมแต่งชายคาบ้านให้ดูสวยงามมาก
รับประทานอาหารกันในสถานที่ที่เรียกว่าโถงกลาง ด้านในบูชาบรรพบุรุษของตระกูลหัวหน้าหมู่บ้าน
บนโต๊ะไม้ทรงกลมจัดเรียงอาหารเต็มไปหมด ทั้งสี่ด้านเป็นม้านั่งยาว ทั้งหมดมีเจ็ดคน นั่งเก้าอี้ละสองคน เมื่อถึงตอนของชลธีกับวรกัญญา ก็เหลือเพียงเก้าตัวเดียว
ต่างมาเพื่อการทำงาน ทั้งสองจึงนั่งลงไป อาหารจำนวนมากบนโต๊ะวรกัญญาไม่เคยเห็นมาก่อน ผู้ใหญ่บ้านจึงทำการแนะนำให้กับทุกคน
“นี่คือเนื้อผัดต้นเฟิร์น นี่คือซุปเข็มเลื้อย นี่คือขาหมูตุ๋นผู่กงอิง นี่คือ…” มองดูอาหารเหล่านี้แม้จะไม่มีแนวคิดเรื่องรูปรสกลิ่นสี แต่เห็นแล้วเรียบง่ายและน่าพึงพอใจมาก ผักป่าสีเขียวบวกกับเนื้อไก่ เป็ด ปลา ที่เลี้ยงเอง น่าดึงดูดใจมาก
วรกัญญากินเบคอนไปคำหนึ่ง เห็นเบคอนเยิ้มๆ ชิ้นโตแต่พอเข้าปากไปมีความมันแต่ไม่มีความเลี่ยนเลย กินอย่างหอมปากหอมคอ
ทุกจานบนโต๊ะ วรกัญญาชิมหมด เธอพบว่าผักป่าที่นี่รสชาติดีมากจริงๆ ตนเองชอบอาหารที่นี่ ทุกวันในเมืองกินแต่ของอย่างระมัดระวังเหล่านั้น บางครั้งได้กินอาหารในครอบครัวเกษตรกร ก็รู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษ
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ก็มีผลไม้จากบ้านตนเองมามอบให้ ลูกพีชสีแดงนั่น ลูกพลัมสีเขียว และยังมีถั่ววอลนัท ถั่วลิสง ต่างเพิ่งเด็ดมาจากต้นไม้และเพิ่งขุดจากพื้นดิน
ได้รับประทานอาหารที่ปราศจากการปนเปื้อนเหล่านี้ วรกัญญายิ่งทานยิ่งมีความสุข ของเหล่านี้อร่อยมาก กำลังทานถั่วลิสง ชลธีก็ส่งวอลนัทที่กะเทาะเปลือกเรียบร้อยมาให้ เนื้อสีขาวเห็นแล้วทำให้อยากกินสักคำ
วรกัญญาก็ไม่งอแงไร้เหตุผล ชลธีเต็มใจแกะเปลือกให้ เธอก็ทานอย่างมีความสุข ตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าทานวอลนัทไปเท่าไหร่ ตอนสุดท้ายเมื่อลุกขึ้น เห็นที่เท้าของชลธีมีเปลือกวอลนัทอยู่กองหนึ่ง
“ผมเตรียมที่พักเรียบร้อยแล้ว กินข้าวแล้ว พวกคุณนำสัมภาระไปเก็บก่อนได้เลยครับ ช่วงกลางวันพักผ่อนสักเล็กน้อย ตอนบ่ายพวกเราไปชมบนเขากัน” ผู้ใหญ่บ้านพูดกับทั้งสามคน แม้ในบ้านของเขาจะมีห้องเยอะ แต่คนก็เยอะตามด้วย โดยเป็นครอบครัวใหญ่อาศัยอยู่ด้วยกัน จึงมีห้องแขกเพียงห้องเดียว ให้รองนายกเทศมนตรีพัก
จัดที่พักให้กับชลธีและวรกัญญาในบ้านของเลขานุการที่อยู่ไม่ไกล ในบ้านของเลขานุการมีสองห้อง สะอาดมาก ห้องสุขาและอาบน้ำอยู่ที่ประตู สะดวกมาก
ห้องว่างทั้งสองคนหันหน้าเข้าหากัน ต่างเปิดประตูให้อากาศถ่ายเท พาทั้งสองขึ้นไปชั้นบน เลขานุการให้ทั้งสองเลือกห้อง
“คุณเลือกก่อนเลย ฉันอยู่ห้องไหนก็ได้” วรกัญญาพูดกับชลธี อย่างไรเสียก็อยู่ด้วยกัน ไม่มีทางเลือกอื่น
“ผู้ชายด้านซ้ายผู้หญิงด้านขวา” ชลธีพูดออกมาอย่างเรียบเฉย เขาเข้าไปในห้องด้านซ้ายมือ วรกัญญาถือของเข้าไปห้องด้านขวามือ
ห้องนี้ค่อนข้างใหญ่ ด้านในมีเตียงไม้ขนาดใหญ่ ด้านบนปูเครื่องนอนสะอาดสะอ้าน สามารถได้กลิ่นไอแดด
รับประทานอิ่มแล้วก็ง่วงนอน แม้วรกัญญาจะหลับไปบนรถสักพักหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่กระทบกับความอยากนอนในตอนนี้
แต่ถึงแม้วรกัญญาจะง่วงนอน เธอยังไม่ลืมไปปิดประตูห้อง เมื่อปิดประตูดีแล้ว เธอจึงเปลี่ยนเป็นชุดนอน ชุกตัวเข้าไปหลับในผ้าห่ม
ด้านในเป้ของชลธีมีสิ่งของเยอะเป็นพิเศษ วรกัญญากลัวมด เขาจึงพกของไล่มดมา วรกัญญาไม่สามารถทานของเย็นได้ เขาจึงพกของเก็บอุณหภูมิมามากมาย และไม่รู้ว่าเพราะอะไร อย่างไรเสียการดูแลเธอกลายเป็นความเคยชินอย่างหนึ่งของตนเอง เธอดูแลตนเองไม่ค่อยได้ ไม่รู้จริงๆ ว่าเธอใช้ชีวิตที่ต่างประเทศห้าปีอย่างไร