“คุณไม่เป็นอะไร แน่นอนว่าผมก็ไม่เป็นอะไร จริงสิ ตอนนี้มันกำลังโกรธ คุณต้องระวังให้มากหน่อย ผมจะตัดหางของมันซะ แบบนี้จะปลอดภัยกว่า คุณต้องระวังอย่าให้โดนมันเขมือบนะ” ชลธีเตือนวรกัญญา งูเหลือมตัวนี้ไม่ได้ใหญ่มาก แต่เวลาอ้าปากก็ยังน่ากลัว เกินพอจะเขมือบวรกัญญาได้
“อืม ฉันรู้แล้ว ไปเถอะ มันกำลังหาพวกเราอยู่!” จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของวรกัญญาในเวลานี้นั้นสูงมาก เดิมทีชลธีอยากจะถามอะไรอีกสักหน่อย แต่มันสายเกินไป งูเหลือมตัวนั้นโจมตีเข้ามาอีกครั้งแล้ว
ทั้งสองแยกจากกันอย่างรวดเร็ว งูเหลือมกระโจนขึ้นกลางอากาศไปแล้ว แต่มันก็เคลื่อนที่ว่องไวมาก กลับตัวรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ อ้าปากลงมากัดวรกัญญา
วรกัญญาในเวลานี้ไม่มีการหลบเลี่ยงอีกแล้ว มือของเธอกำลูกศรคมเอาไว้มั่น เตรียมวัดดวงทุ่มสุดตัว
ชลธียังคิดว่าวรกัญญาหวาดกลัว เขาตะโกนบอกให้วรกัญญารีบหลบหนี แต่วรกัญญานั้นเหมือนไม่ได้ยิน เธอยืนอยู่ตรงนั้น งูเหลือมพุ่งเข้ามาแล้ว ชลธีที่อยู่ข้างหลังจับหางงูเหลือมไว้ไม่ทัน เขาจึงทำได้แค่พุ่งเข้าหางูเหลือม
เมื่องูเหลือมอยู่เหนือศีรษะของวรกัญญา ทันใดนั้นวรกัญญาก็หมอบลง รอดพ้นจากปากของงูเหลือม แล้วใบมีดคมในมือของเธอก็แทงเข้าที่ท้องของงูเหลือม ใช้กำลังทั้งหมดที่มีทะลวงไส้งูเหลือม
“มุก!” แต่ชลธีที่อยู่ข้างหลังไม่เห็นภาพนี้ ที่เขาเห็นคืองูเหลือมงับวรกัญญา มีดของเขาจึงตัดเข้าที่หางของงูเหลือม
เลือดพุ่งกระฉูดไปทั่วทุกที่ รวมถึงทั้งหน้าทั้งตัวชลธีด้วย
งูเหลือมขยับไม่เท่าไร ในที่สุดก็ล้มลงกับพื้น ทับตัววรกัญญาไว้ใต้ร่างพอดี
“มุก มุก มุก!” ชลธีตระหนกตกใจมาก เขาแหวกปากงูเหลือม งูเหลือมยังไม่ตายสนิท ปล่อยชลธีแหวกปากของมันตามใจชอบ ทำให้ชลธีคิดว่ามันตายแล้ว แต่ในตอนที่ชลธีไม่ได้สังเกต ดวงตาของมันเปิดออกฉับพลัน แล้วปากใหญ่ก็งับชลธีมา
ชลธีพบว่าท่าไม่ดีแล้ว เขาจึงหดศีรษะ แล้วชกเข้าที่ตาข้างหนึ่งของงูเหลือม
งูเหลือมถูกชลธีกระแทกใส่ดวงตาอย่างรุนแรงด้วยความโกรธจัด มันจึงล้มลงโดยสมบูรณ์
ชลธีเตะงูเหลือมไปอีกทาง แม้งูเหลือมจะตัวไม่ใหญ่มาก แต่มันหนาเท่าต้นขา เมื่อเตะร่างงูเหลือมออกไปแล้ว ชลธีก็หยิบมีดพับสวิสขึ้นมาเตรียมจะผ่างูเหลือม เพื่อช่วยวรกัญญาออกมา
“คุณ ยกฉันขึ้นหน่อย โดนกดทับจนจะตายอยู่แล้ว” เสียงของวรกัญญาดังขึ้นมาจากพื้น
“มุก มุก?” ชลธีมองไป บนพื้นที่คนนอนอยู่ นั่นมุกของตนไม่ใช่เหรอ
“ไอ้สัตว์ร้ายตัวนี้นี่ ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว มันทับฉัน คุณดูสิ่งพวกนี้ที่อยู่บนตัวฉันสิ โคตรน่าขยะแขยงเลย” ชลธีโอบประคองวรกัญญาขึ้นจากพื้น โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่แนบมากับงูเหลือมบนร่างกายของเธอ กอดเธอไว้ในอ้อมแขนแน่น เมื่อครู่เขาตกใจแทบตาย
“คุณอย่ามากอดฉัน ฉันสกปรกมาก ตัวฉันเหม็นมากเลย ฉันจะอ้วกแล้ว” ท้องไส้ของวรกัญญาปั่นป่วนไม่หยุด งูเหลือมนั่นเหม็นเหลือทนจริงๆ โดยเฉพาะสิ่งที่อยู่ในท้องของมัน เหม็นเหมือนอุจจาระไม่มีผิด
“ได้ ผมจะช่วยหาชุดให้คุณเปลี่ยน” ชลธีเองก็ได้กลิ่นนั้น เขากลัววรกัญญาคลื่นไส้ จึงรีบปล่อยเธอ
“คุณชลธี ฉันอยากถามคุณ ในกระเป๋าเป้ของคุณมีกล่องสมบัติเหรอ ทำไมมีทุกอย่างเลย” ทันทีที่วรกัญญาได้ยินว่ามีเสื้อผ้าให้ตัวเองด้วย เธอจึงล้อชลธี
“อืม ผมเอากล่องสมบัติมาด้วย” ชลธีไม่ได้ยิ้ม เรื่องเมื่อครู่เขาแทบจะร้องไห้ ยังคิดอยู่เลยว่าวรกัญญาถูกงูเหลือมกินเข้าไปแล้ว ตอนนี้เขายังสะเทือนใจอยู่มาก จนมือสั่นไม่หยุด
“ประธานวรกัญญา ประธานชลธี ประธานวรกัญญา ประธานชลธี” วรกัญญาเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะอาดเรียบร้อยแล้ว แล้วก็มีเสียงคนตะโกนเรียกอยู่ข้างนอก ขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้กันฝนได้หยุดลงไปแล้วเงียบๆ ผู้ใหญ่บ้านพาคนมาตามหาพวกเขา
“ผมจะออกไปตอบ คุณรอผมอยู่ที่นี่นะ” ชลธีรีบออกจากถ้ำไป เพื่อให้ผู้ใหญ่บ้านพาคนมารับพวกเขา
“พวกคุณนี่คือ?” ในมือของผู้ใหญ่บ้านถือคบเพลิง แต่ทันทีที่มองเข้าไปในถ้ำ ทุกคนก็สยองจนแข้งขาอ่อนแรง บวกกับกลิ่นเหม็นน่าขยะแขยง บางคนที่ขี้ขลาดต่างถอยหลังออกไป
“ในถ้ำนี้มีงู เราเพิ่งออกกำลังอุ่นเครื่องกันไปรอบหนึ่ง ยังดีที่พวกเรายังรอด ส่วนมันตายแล้ว” ชลธีพูดพลางชี้ไปยังงูเหลือม
ผู้ใหญ่บ้านก็เสียใจที่ไม่ได้บอกให้ชัดเจนว่าในภูเขานี้มีงู งูอื่นๆ ไม่มีอันตรายอะไร ที่นี่มีแค่งูตัวเดียวที่อันตราย แต่ไหนเลยจะรู้ว่าชลธีกับวรกัญญาจะมาถึงถ้ำแห่งนี้พอดี
“ผมผิดเองที่ไม่ได้บอกให้ชัดเจน ภูเขาแห่งนี้ไม่มีสิ่งอื่นใดที่เป็นอันตรายจริงๆ มีแค่เจ้ามันนี่ แต่ปกติมันไม่ออกมาในเวลากลางวัน แค่ตอนกลางคืนที่จะแอบออกมาขโมยของของผู้คน และยังกัดคนอยู่บ่อยๆ ด้วย ผมไม่ได้เห็นมันมานานมากแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะโตจนตัวใหญ่ขนาดนี้ เมื่อก่อนมันหนาแค่แขนนี่เอง” ผู้ใหญ่บ้านบอกทุกคนเกี่ยวกับสภาพของงูเหลือมในอดีต หลังจากที่ทุกคนรู้ว่างูเหลือมอยู่ในถ้ำแห่งนี้ ก็ไม่มีใครมาที่นี่อีก
แต่คิดไม่ถึงว่าชลธีกับวรกัญญาจะช่วยกำจัดสิ่งชั่วร้ายช่วยเหลือคนในหมู่บ้านเอาไว้โดยไม่ตั้งใจ
“ต้องขอบคุณพวกคุณจริงๆ นะครับ พวกคุณช่วยหมู่บ้านเราเอาไว้มากเลย หลังจากคืนนี้ไปทุกคนสามารถออกจากบ้านได้อย่างสบายใจแล้วล่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกงูเหลือมกินอีกแล้ว” ผู้ใหญ่บ้านกล่าวขอบคุณแทนคนทั้งหมู่บ้าน
“เรื่องพวกนี้ไม่ต้องพูดแล้วครับ ผมอยากกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลย ใส่ชุดนี้ไม่ได้แล้ว” ชลธีแค่เอาเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นเขามา ไม่ได้คิดว่าจะต้องให้วรกัญญา เสื้อผ้าของตนยังอยู่ที่บ้านของเลขาธิการสาขาพรรคหมู่บ้าน
“อ้อ ได้ๆๆ เราลงเขากันเลย กลับไปอาบน้ำ ผมให้ภรรยาเตรียมอาหารดีๆ ไว้ให้พร้อมแล้ว” ทันทีที่ผู้ใหญ่บ้านได้ยินก็รีบบอกให้ทุกคนกลับ
ชลธีกับวรกัญญากลายเป็นวีรบุรุษของหมู่บ้านโดยไม่ได้ตั้งใจ กลับไปกลางดึกคนทั้งหมู่บ้านยังไม่นอน ต่างต้อนรับพวกเขาอยู่หน้าประตู
“ตอนนั้นคุณกลัวไหม” เมื่ออาบน้ำเสร็จ ชลธีกับวรกัญญาก็มานั่งกันอยู่บนหลังคา มองดูดวงจันทร์บนท้องฟ้า
วรกัญญานั้นเพื่อต้องการเป่าผมให้แห้ง ส่วนชลธีขึ้นมาดื่มเบียร์กระป๋องพร้อมกับดูดวงจันทร์
“ถ้าฉันคนเดียวฉันจะกลัวแน่นอน แต่มีคุณฉันไม่กลัว” วรกัญญาเช็ดผมตัวเอง
“เพราะอะไร” ดวงตาของชลธีเป็นประกายสดใส
“เพราะฉันรู้สึกว่าเราสองคนสามารถฆ่าสิ่งนี้ให้ตายได้ ฉันคนเดียวไม่ได้แน่ ฉันก็กลัวตายเหมือนกัน” สิ่งที่วรกัญญาตอบทำให้หัวใจของชลธีปั่นป่วนไปหมด