แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 285 กลับบ้าน

หลังผ่านประสบการณ์สงครามกับงูเหลือม ความสัมพันธ์ระหว่างชลธีกับวรกัญญามีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย แต่ทั้งคู่ต่างไม่มีใครรู้ตัว

ตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เป็นวันที่อากาศดีมากอีกครั้ง ท้องฟ้าสีครามบริสุทธิ์ราวกับดวงตาของเด็ก ไม่มีสิ่งสกปรกเจือปนเลยแม้แต่น้อย

ไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้น เมื่อวานนอนดึกเกินไป ทุกคนต่างทนไม่ได้ที่จะไปเรียกวรกัญญา กระทั่งตอนที่เธอตื่นก็ปาเข้าไปเจ็ดโมงครึ่ง ซึ่งดวงอาทิตย์โผล่พ้นขึ้นมาแล้ว

“โธ่ ทำไมพวกคุณไม่เรียกฉันล่ะคะ บอกไว้ดิบดีแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นน่ะ” วรกัญญาเสียใจมาก ได้ยินว่าทัศนียภาพของที่นี่สวยงามแตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา แต่ถ้าพลาดแล้วก็จะพลาดเลย ถ้าต่อไปลงทุนที่นี่ ก็ยังมีโอกาส

“หลังจากอาหารเช้าเรายังสามารถไปดูทัศนียภาพอันสวยงามอื่นๆ ได้อีกครับ หวังว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานจะไม่ทำให้คุณหวาดกลัวไป” ผู้ใหญ่บ้านคิดว่าวรกัญญาต้องหวาดกลัวแน่

“ไม่ค่ะ ไม่ได้กลัว” วรกัญญาตอบไปตามตรง เมื่อก่อนเธอเคยกลัวงู แต่ต่อมาได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นครั้งหนึ่งเธอก็ไม่กลัวงูอีกแล้ว

หลังจากทานขนมฉือปาเป็นอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว หลายคนก็เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง หลังจากประสบกับเรื่องเมื่อวาน ครั้งนี้ผู้ใหญ่บ้านจึงไม่ให้ทุกคนแยกห่างกัน ถึงแม้ว่าจะไม่มีอันตรายอะไรแล้ว แต่ป้องกันตัวเองไว้จะดีกว่า

ขึ้นไปถึงบนภูเขา สิ่งแวดล้อมที่เป็นเห็ดได้ทำให้วรกัญญาเกิดความสนอกสนใจอย่างมากขึ้นมาอีกครั้ง เธอมองไปยังเห็ดที่สวยงามเหล่านั้น และเรียนรู้วิธีการเลือกเก็บจากผู้ใหญ่บ้าน แต่เมื่อเธอเลือกมาหนึ่งตะกร้า ชลธีก็เททิ้งหมด

“เอ๊ะ คุณชลธี ทำไมคุณเทเห็ดที่ฉันเลือกมาทิ้งหมดเลย” วรกัญญาโมโหมาก เธอดึงชลธีไว้ไม่ปล่อยให้เขาไป

ชลธีเองก็เลือกเห็ดได้หนึ่งตะกร้า แต่เขาชูตะกร้าของตัวเองขึ้นสูงสุด ไม่ให้วรกัญญาประทุษร้ายมัน

“เพราะเห็ดที่คุณเก็บมันมีพิษ ดังนั้นเขาจึงเททิ้งให้คุณ เห็ดของคุณมันได้แค่ดู กินไม่ได้” สาวน้อยของบ้านเลขาธิการสาขาพรรคหมู่บ้านมีความรู้สึกดีต่อชลธีมาก ผู้ชายคนนี้รูปร่างหน้าตาดูดีเหลือเกิน

“มีพิษ?” วรกัญญาเหมือนนึกถึงตอนที่ขึ้นเขาขึ้นมาได้ ผู้ใหญ่บ้านบอกแล้วว่าเห็ดที่สีสันสวยสดเป็นพิเศษล้วนแล้วแต่มีพิษมาก เพียงแต่ตนเห็นของสวยๆ งามๆ จึงลืมไปว่าพวกมันมีพิษ

โชคดีที่ชลธีเททิ้งให้ตน ไม่อย่างนั้นคงจะไปทำร้ายคนอื่นเข้า

ชลธีเห็นวรกัญญาไม่พูดอะไร ก็รู้สึกว่าเธอน่าสงสาร จึงชี้ไปยังกอเห็ดตรงหน้าแล้วบอกกับวรกัญญาว่า “คุณดูนั่น นั่นคือเห็ดที่สามารถกินได้ คุณไปเก็บมันมา มื้อกลางวันเราจะได้อาหารเพิ่มอีกจาน”

ทันทีที่วรกัญญาได้ยิน จึงฮึดขึ้นมาอีกครั้ง เธอเดินสองสามก้าวเข้าไปหาเห็ด แล้วเด็ดเห็ดมา

มันเป็นเห็ดกอใหญ่มาก ใส่ลงไปได้ครึ่งตะกร้า

“เห็ดนี่คือพันธุ์อะไรเหรอ ต่อไปฉันจะได้จำมันไว้” วรกัญญายื่นตะกร้าของตัวเองให้ชลธีดู

“นี่เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่หายากของเราที่นี่ ชื่อว่าเห็ดสนไก่ ในอนาคตสถานที่นี้จะมีผลผลิตจำนวนรวมมากเท่ากันทุกปี ตอนนี้เห็ดนี่กำลังจะส่งออกแล้ว” สาวน้อยมองสนไก่แล้วอธิบายให้วรกัญญาฟัง

“ว้าว ฉันโชคดีมากเลยใช่ไหมเนี่ย เพราะฉันเลือกเห็ดที่ดีที่สุดเลย” เมื่อวรกัญญาได้ยินคำพูดของสาวน้อยก็ยินดีกับตัวเองมาก แล้วเธอก็ถือตะกร้าตามทุกคนลงเขาไป

วันนี้ปีนขึ้นเขาลงห้วย ทุกอย่างเงียบสงบมาก เพลิดเพลินกับความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ ทำให้วรกัญญามีความสนใจอย่างมากที่จะลงทุนที่นี่

“ห่างจากตัวเมืองแค่สองชั่วโมงครึ่ง ภูเขาของเรายังอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย มีผลไม้ป่า มีเห็ด มีสมุนไพรหลากหลายชนิด และยังมีปลาด้วย ที่อยู่ในสระเชิงเขาล้วนเป็นปลา ดังนั้นผมจึงรู้สึกว่าที่นี่ของเรามันไม่เลวเลย เป็นสถานที่ที่คุณสามารถลงทุนได้” ผู้ใหญ่บ้านทำการสรุปสถานที่แห่งนี้ เขาหวังให้มหาเศรษฐีสองคนนี้มาลงทุนในที่ของพวกเขา ถ้าเป็นแบบนี้ คนทั้งหมู่บ้านก็จะมีรายได้

“ครับ เราสามารถกลับไปปรึกษากันอีกได้” ชลธีกับวรกัญญาไม่ได้ตัดสินใจในทันที พวกเขายังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมอีก นอกจากนี้ยังมีนโยบายสิทธิพิเศษที่ในเมืองมอบให้พวกเขาด้วย

ตอนเที่ยงที่บ้านผู้ใหญ่บ้านได้ทานเห็ดมื้อใหญ่ ตอนที่ทานมื้อใหญ่นั้นเอร็ดอร่อย แต่ตอนที่ล้างกลับทำให้คนทรุด วรกัญญาอยากเรียนทำอาหารจานเห็ดให้กับอักลี่ เธอไปช่วยภรรยาของผู้ใหญ่บ้านล้างเห็ด เธอล้างแล้วอยากร้องไห้ มันยากมาก

“คุณป้าคะ มันไม่มีอะไรง่ายเลย ทำไมคุณล้างเห็ดได้เร็วขนาดนี้” วรกัญญาอยากฟังประสบการณ์สักเล็กน้อย

“ประธานวรกัญญา เราเป็นคนทำงานฟาร์ม มันชินแล้ว เวลานี้ของทุกปีจะต้องล้างเห็ดจำนวนมาก โดยเฉพาะสนไก่ที่คุณเลือกมา เรายังจะต้องทำน้ำมันสนไก่ด้วย ต่อไปเอาไปปรุงอาหารจะอร่อย” ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านยิ้มอย่างมีความสุขมาก เธอมั่นใจแล้วว่าชลธีกับวรกัญญาจะต้องมาลงทุน

ช่วงบ่ายต้องไปแล้ว ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านได้มอบผลิตภัณฑ์พิเศษของบ้านตัวเองให้กับทุกคน และมอบน้ำมันสนไก่ขวดใหญ่ให้กับวรกัญญาเป็นพิเศษ นั่นทำให้วรกัญญามีความสุขแทบตาย

ระหว่างทางกลับ วรกัญญาพูดมากกว่าเดิม เวลาสองชั่วโมงครึ่ง เธอพูดไปอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็นอนหลับปุ๋ยที่เบาะหลัง

ฉากแบบนี้ทำให้ชลธีหวังว่ามันจะคงอยู่ตลอดไป ระหว่างเขากับวรกัญญาจะไม่มีเรื่องมีราวแบบนั้นอีก ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตจะดีแค่ไหน

“วันนี้ไปที่บ้านผมได้ไหม ยังไงคุณก็ต้องไปดูอักลี่อยู่แล้ว” ชลธีถามวรกัญญา

วรกัญญาตื่นแล้ว เธอยังไม่ทันได้สติว่าตัวเองอยู่ที่ไหนแล้ว เธอมองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า

“คุณพูดว่าอะไรนะ” วรกัญญาได้ยินสิ่งที่ชลธีพูดกับตัวเองไม่ชัด

“ผมบอกว่าคุณไปทานข้าวที่บ้านผมนะ ยังไงคุณก็ต้องไปรับอักลี่อยู่แล้ว รถของผมเสีย คุณก็ต้องไปส่งผมกลับบ้าน” ชลธีกลั้นยิ้ม แล้วพูดอีกครั้ง

“เอางั้นก็ได้” วรกัญญาคิดครู่หนึ่ง เหมือนว่าก็มีเหตุผล เธอจึงตอบตกลง

ในใจชลธีเกิดความยินดี เขาโทรหานีรชา ให้นีรชาเตรียมอาหารเย็น บอกว่าวรกัญญากำลังไป

เมื่อกลับไปถึงคฤหาสน์ตระกูลสุวรรณเลิศ ชลธีขับรถของวรกัญญาเข้าไป อักลี่กับนีรชากำลังรออยู่หน้าประตูแล้ว เมื่ออักลี่เห็นแม่ ก็กางแขนอ้วนพุ่งเข้าหา

“คุณแม่ๆ กลับมาแล้ว คุณลุงชลธีกลับมาแล้ว!” อักลี่เข้ามาหาวรกัญญาแล้วจุ๊บเธอ จากนั้นก็พุ่งเข้าหาชลธี

ชลธีอุ้มลูกชายตัวเองขึ้น ยกสูงๆ อักลี่อยู่กลางอากาศหัวเราะเอิ๊กอ๊าก

“วางลงๆ อันตรายๆ” วรกัญญาเห็นแล้วรู้สึกกลัวมาก เอาลูกขึ้นสูงขนาดนี้ เกิดพลาดขึ้นมาจะทำยังไง

“กรี๊ดดด!” แต่ในเวลานี้ มือของชลธีเหวี่ยงกลางอากาศ ปล่อยตัวอักลี่บนท้องฟ้า วรกัญญาตระหนกตกใจจนกรีดร้องเสียงหลง

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset