“ดีจังเลย ครั้งนี้เรื่องราวสืบให้เธอมาก แต่แค่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งของมา มาทำให้คนของโจนส์กรุ๊ปต้องตกใจ ร้ายกาจจริงๆ ” วรกัญญาเป็นคนชอบสู้กับคนนอก เธอดูถูกการกระทำที่ลับๆ ล่อๆ
พอคุยกับตัวเองเสร็จ วรกัญญาก็หันกลับไปมองชลธี เขาก็มองหน้ามองดูโทรศัพท์ของตัวเอง ใบหน้าด้านข้างที่หล่อเหลาทำให้เธอสบายใจช่วงหนึ่ง
“มองฉันทำไม? ฉันรู้สึกว่าเธอพูดถูก” ถึงแม้ว่าชลธีจะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา แต่ว่าเขาก็ยังคงชมเชยวรกัญญา
พอวรกัญญาได้ยินคำพูดของชลธีก็หัวเราะ “พรื้ด”ออกมา เจ้าหน้าที่ก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอ แต่ว่าบนใบหน้าของชลธีกับไม่ได้มีสีหน้าอะไร
“สิ่งที่ฉันพูดมันตลกเหรอ?”ชลธีวางโทรศัพท์ลง เขาเดินเข้าไปและมองวรกัญญา
“พรุ่งนี้ตอนเที่ยงเธออยากกินอะไร?”ชลธีนั่งลงข้างเตียงของวรกัญญา เห็นว่าสีหน้าของเธอดูดีขึ้นนิดหนึ่งแล้ว
“เรื่องนี้นายไม่จำเป็นต้องมาเป็นห่วงหรอก เดี๋ยวพ่อบ้านก็เอาข้าวมาให้ฉัน”วรกัญญามองดูเวลา นี่มา 11:30 น แล้ว พ่อบ้านน่าจะใกล้ถึงแล้ว
“ฉันบอกพ่อบ้านว่าไม่ต้องมาแล้ว วันนี้ฉันจะเป็นคนดูแลเอง แต่ว่าแม่ของฉันน่าจะใกล้ถึงแล้ว 3 2 1!”ชลธีทำท่าทางเหยียดหยามคนอื่นยังไม่มีความเคารพ
“มุก ทำไมหนูถึงป่วยจะได้? ก็ไม่โทรมาบอกแม่สักหน่อย แม่ทำโจ๊กผลไม้มาให้หนู” ตอนที่ชลธีนับถึงหนึ่งนั้น นีรชาก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างตรงเวลา
วรกัญญามองดูชลธี แม่ลูกเข้ากันได้ดีจริงๆ พอพูดเสร็จแม่ก็มา
“แม่ ป่วยเล็กน้อยเท่านั้นเองค่ะ ก็เลยไม่ได้บอกแม่ ตอนนี้หนูดีขึ้นเยอะแล้ว”วรกัญญายังคงรู้สึกเกรงใจนีรชาเป็นอย่างมาก
“ป่วยเล็กน้อยอะไรกันล่ะ นี่ขนาดนอนโรงพยาบาลเลยนะ อยากจะมาป่วยเล็กน้อย !มาๆๆ โจ๊กนี้คุณกำลังพอดีเลยรีบกินเถอะ”นีรชาว่างกระติกน้ำร้อนลง ชลธีก็เทโจ๊ก
โจ๊กนั้นสวยงามมาก สีดูน่ารับประทานมาก นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียงและติ่มซำหลายอย่าง วรกัญญาน้ำลายไหลออกมาตั้งแต่แรกเห็น
” 2 คนคุยกันไปเถอะ คนผมออก”ชลธีวางของลงแล้วก็ออกไป
นีรชาถามอาการของวรกัญญาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอย่างมาก พอแน่ใจแล้วว่าวรกัญญาไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วจริงๆ เธอถึงได้สบายใจ เมื่อเช้าตอนที่ลูกชายบอกกับเธอนั้นจะตกใจเป็นอย่างมาก
“ยังไงแม่ก็ไม่ได้มีอะไรแล้ว เดี๋ยวจะอยู่เป็นเพื่อนลูกที่นี่เอง”นีรชารู้สึกไม่วางใจกับวรกัญญา
“ไม่ต้องหรอกค่ะแม่ หนูดีขึ้นแล้ว เดี๋ยวตอนบ่ายหนูก็จะไปจัดการเรื่องออกจากโรงพยาบาลแล้ว แม่กลับไปก่อนเถอะค่ะ”วรกัญญารู้สึกสบายดีแล้ว ดังนั้นอาหารที่นีรชาเอามาให้เธอก็กินไปจะหมด
“หรือจะพักผ่อนอีก 2 วันไม่ได้เหรอค่อยออกจากโรงพยาบาล?”นีรชายังคงอยากให้วรกัญญาไปพักรักษาตัวที่บ้านของตัวเอง
“อืม หนูไม่ได้เป็นอะไรแล้วค่ะ ฟื้นฟูได้มากแล้ว” ในบริษัทวรกัญญายังมีงานอีกเป็นกองให้ไปจัดการ
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ถ้าเกิดว่ามีอะไรอยากกินก็บอกแม่นะ ยังไงแม่ก็ว่าง เดี๋ยวแม่จะเอามาส่งให้”นีรชาเห็นว่าไม่มีทางที่จะทำให้วรกัญญาไปที่บ้านของตัวเองได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้หญิงอย่างเธอที่จะสนับสนุนบริษัทด้วยตัวเอง
“อืม ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูโทรหาเลขาหนูแล้ว เดี๋ยวเธอก็มารับ แม่กลับไปก่อนเถอะค่ะ”ถ้ารู้ว่ามีคนมีเล่ห์เหลี่ยมอยู่ในโจนส์กรุ๊ป วรกัญญาก็รู้สึกนั่งไม่ติด
สำหรับคนที่ดีกับเธอ เธอจะตอบแทนน้ำใจสิบเท่า ถ้าเป็นคนที่กล้าทำร้ายเธอและญาติๆ เธอก็จะตอบโต้ในลักษณะเดียวกัน
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ แม่กลับก่อนนะ ชลยังไม่กลับมาหนูอยู่คนเดียวได้เหรอ?”นีรชาเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว เธอเห็นวรกัญญากินอาหารที่ทำมาจากหมด ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
“ได้ค่ะ ไม่ได้ต้องให้น้ำเกลือแล้ว หนูทำอะไรได้หมด เดี๋ยวหนูก็ต้องแต่งตัวหน่อย เดี๋ยวก็ต้องออกไปแล้วค่ะ” วรกัญญาก็ลงจากเตียง เธอให้น้ำเกลือจนหมดแล้ว ตอนนี้ไม่ได้จำเป็นต้องให้ใครมาเฝ้าเธอแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ แม่กลับก่อนนะ”นีรชาเองก็ไม่อยากทำให้วรกัญญาเสียเวลา เธอถือกระติกน้ำร้อนขึ้นมาแล้วก็ออกไป
วรกัญญาโทรหาพ่อบ้านและเลขาของตัวเอง จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าตัวเองควรจะมีผู้ช่วยคนหนึ่ง เมื่อก่อนไม่ต้องการ แต่ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกว่าเธอใช้ชลธีจนกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว ในหลายกรณีผู้ช่วยชายจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเลขาหญิง
แผนการว่าจ้างผู้ช่วยชายก็ปรากฏขึ้นในหัวใจของวรกัญญา
พ่อบ้านกับเลขาใบเตยมาถึงโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ช่วยจัดการค่าโรงพยาบาลให้กับวรกัญญา วรกัญญาก็ให้พ่อบ้านเอาของกลับบ้าน แล้วเธอก็ตรงไปที่บริษัท
ตอนที่ไปถึงประตูบริษัทนั้น ผู้จัดการร้านอาหารนั้นวิ่งเข้ามาราวกับว่าเขาเห็นแม่ของเขาเอง
“ประธานวรกัญญา ประธานวรกัญญา ขอบคุณครับ ขอบคุณที่คุณสืบได้เร็วขนาดนี้ คุณให้ผมรอที่บ้าน แต่ว่าผมก็อดไม่ได้ก็เลยมาที่นี่” ผู้จัดการร้านอาหารตื้นตันจนเกือบจะร้องไห้ออกมา
“มาก็ดีแล้ว รู้ว่าสืบได้แล้ว คุณก็ไปทำงานต่อเถอะ คุณทำงานได้ดีมาก ฉันเคยได้ยินคนบอกมาแล้ว ว่าคนบังคับใช้กฎเกณฑ์อย่างเป็นกลางเสมอมา ก็เลยไปทำให้พ่อครัวคนนั้นคับข้องใจเข้า เขาก็เลยจะแก้แค้นคุณ สร้างความยุ่งเหยิงในร้านอาหาร ทำให้คนตกเป็นผู้ต้องสงสัย”วรกัญญาพูดกับผู้จัดการ
“อืม อืม ผมเคยวิจารณ์เขาครั้งหนึ่ง เขามีญาติคนหนึ่งขายผักและต้องการส่งอาหารมาที่ร้านอาหารของเรา เดิมทีเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ว่าผักของญาติเขามันไม่ดี เพราะเห็นว่าเป็นญาติของตัวเอง ก็เลยไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตา พวกเราวิจารณ์เขา ตอนนั้นก็ไม่มีอะไร แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะเก็บไว้ในใจเสมอมา” ผู้จัดการรายงานเรื่องราวให้วรกัญญาฟัง
วรกัญญารู้สึกว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ก็เลยปลอบใจเขา แล้วก็ให้เงินโบนัสกับเขาด้วย ให้กำลังใจจากการกระทำของเขา ผู้จัดการร้านจากไปด้วยความขอบคุณ หลังจากนั้นผู้จัดการร้านคนนี้ก็รู้สึกมอบใจให้วรกัญญา
“ใบเตย ร่างหนังสือแจ้งรับสมัครงานหน่อย ฉันอยากได้ผู้ชายคนหนึ่ง ข้อเรียกร้องไม่ได้ต้องมาก ไปๆ มาๆ ก็พอแล้ว ต้องดื่มเหล้าได้ ทะเลาะได้ วุฒิการศึกษาต้องสูงด้วย ทางที่ดีควรได้คนที่เรียนไฟแนนซ์”วรกัญญา เดินไปด้วยแล้วก็ออกคำสั่งเลขาใบเตยไปด้วย
“ค่ะ ฉันจะไปบอกฝ่ายบุคคลเดี๋ยวนี้”ใบเตยหันหลังเดินไปหาฝ่ายบุคคล
วรกัญญากลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง เธอโทรหาคนคนนั้น ให้เขาสืบเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวต่อ ถ้าเกิดว่าเจอแล้ว ให้รีบกลับมาหาเธอให้เร็วที่สุด
โชคดีที่วันนี้ธุระไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ วรกัญญาจัดการธุระจนหมด ฝ่ายบุคคลก็ส่งประกาศรับสมัครงานมาให้ ให้วรกัญญาลองอ่านดู วรกัญญาอ่านดูแล้วรู้สึกว่าโอเค ก็เริ่มอัปโหลดลงอินเทอร์เน็ต
แล้วก็คิดว่าเธอควรจะไปดูว่าพนักงานของตัวเองอยู่ที่โรงแรมลวดลายวิหกเป็นอย่างไรบ้าง วรกัญญาเห็นว่าเวลายังเช้ามากอยู่ เธอก็เลยขับรถไปที่โรงแรมลวดลายวิหก ไปหาพนักงานของตัวเอง