เนื่องจากเงินลงทุนของประวีร์ วรกัญญายิ่งมีความกระตือรือร้นมากขึ้น ได้เริ่มต้นก่อสร้างแล้ว วรกัญญาก็ไปดูมาแล้วสองสามครั้ง ดูท่าทางที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นที่ไซต์ก่อสร้างนั้น เธอก็รู้สึกประสบความสำเร็จมาก
วรกัญญาเอาแต่ยุ่งเรื่องของตัวเองตลอด เธอไม่ได้สังเกตเลยว่า บริษัทฮอนดากรุ๊ปเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ เนื่องจากนิตย์รวีร์กับชลธีมีความเห็นไม่ตรงกัน เลยเกิดความร้าวราน
“นิตย์รวีร์ พี่มีสิทธิ์อะไรมาเถียงกับผม ใช้หุ้นที่คุณย่าให้พี่น่ะหรอ?” ชลธีมองนิตย์รวีร์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับตัวเอง
นิตย์รวีร์นั่งไขว่ห้างอยู่ พิงบนเบาะโซฟา ท่าทางไม่พอใจชลธีอย่างมาก
ในจิตสำนึกของเขามักจะรู้สึกมาตลอดว่านีรชาแย่งพ่อของตัวเองไป ดังนั้นเขาจึงรู้สึกเสมอว่าชลธีคือลูกของเมียน้อย
“สิทธิ์อะไร? ก็สิทธิ์ที่ฉันเป็นลูกชายคนโตของตระกูลสุวรรณเลิศไงล่ะ! ชลธี นายอย่าคิดว่าแม่ของนายได้ตำแหน่งเมียน้อยไปแล้ว นายจะสามารถทำอะไรก็ได้ ฉันก็เป็นหลานชายคนโตของตระกูลสุวรรณเลิศ เพราะแม่ของนายได้รับความโปรดปราน เลยจะไล่พวกเราทั้งตระกูลออกไปงั้นหรอ? นายอย่าฝันไปหน่อยเลย ตระกูลสุวรรณเลิศนี้ฉันพูดอะไรก็ยังมีความสำคัญ บริษัทฮอนดากรุ๊ปก็ไม่ใช่ของนายคนเดียวชลธี” นิตย์รวีร์คิดคำพูดออกตั้งนานแล้ว เขาต้องการทำให้ชลธีโกรธ ทำให้เขาโมโห เวลานี้คณะกรรมการคนอื่นๆจะได้เห็นธาตุแท้ที่แท้จริงของชลธี
“บริษัทฮอนดากรุ๊ปแต่ไหนแต่ไรก็ไม่ใช่ของผมชลธีคนเดียวสักหน่อย เป็นของทุกคน แล้วก็เป็นของผู้ถือหุ้นทุกคน ผมไม่ได้ตัดสินใจอะไรตามอำเภอใจ ล้วนแต่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทแล้วทั้งนั้น พี่จะไปถามดูสักหน่อยก็ได้” ชลธีพูดกับนิตย์รวีร์ เขาไม่โกรธ จุดประสงค์ของนิตย์รวีร์เขารู้ชัดเจน
“ก็บอกแล้วไงสถานการณ์มันเปลี่ยนไปมา เมื่อก่อนเป็นเพราะพ่อเข้าข้างนาย เลยเอาหุ้นส่วนใหญ่ยกให้นาย แต่ว่าตอนนี้เรื่องมันเปลี่ยนไปแล้ว หุ้นของฉันกับหุ้นของนายเท่ากัน ถ้างั้นตอนนี้ก็เลือกตั้งประธานคนใหม่ได้แล้ว ใครได้โหวตมากกว่าชนะ” นิตย์รวีร์พูดจุดประสงค์ของตัวเองออกมา
“บริษัทฮอนดากรุ๊ปเป็นของทุกคน พี่จะมาทำอะไรตามอำเภอใจไม่ได้ ทุกคนยังต้องพึ่งส่วนแบ่งเงินปันผลเพื่อมีชีวิตที่ดีอยู่นะ พี่ใหญ่ พี่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเป็นประธาน แต่ว่าตอนนั้นผลลัพธ์และผลประกอบการเป็นยังไงล่ะ?” ชลธีแทงเข้าจุดที่เจ็บปวดของนิตย์รวีร์โดยตรง ตอนนั้นนิตย์รวีร์และธีร์ธวัชทำให้บริษัทฮอนดากรุ๊ปยุ่งเหยิง สุดท้ายชุติภาสถึงให้ชลธีมาตามเก็บกวาด
ตอนนั้นก็ได้ให้โอกาสที่เท่าเทียมกันแก่ลูกชายทั้งสามคนแล้ว ใครสามารถเพิ่มผลประกอบการของ บริษัทฮอนดากรุ๊ปได้สองเปอร์เซ็นต์ ก็เข้ารับดูแลบริษัทฮอนดากรุ๊ปได้ อีกทั้งยังมีหุ้น20%อีกด้วย
นิตย์รวีร์และธีร์ธวัชต่างก็ลองมาแล้ว แต่ล้วนจบลงด้วยความล้มเหลว
ดังนั้นชลธีจึงขึ้นเป็นประธานของบริษัทฮอนดากรุ๊ปอย่างสง่าผ่าเผย
แต่ตอนนี้นิตย์รวีร์กำลังจะเข้ามาทำให้วุ่นวาย ภายใต้การปลุกใจของธินิดาทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่ไร้ความสามารถ แต่เป็นไข่มุกเม็ดหนึ่งที่ถูกฝังกลบเอาไว้
“ตอนนั้นก็ตอนนั้น ใครไม่เคยมีตอนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวกันล่ะ ฉันอยู่ในสำนักงานสาขามาหลายปีขนาดนี้แล้ว ประสบการณ์ก็มากมาย ดังนั้น ฉันคิดว่าฉันทำได้” นิตย์รวีร์พูดอย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
“ได้ งั้นก็ให้คณะกรรมการบริษัทเลือกกันใหม่ละกัน ผมกำหนดเวลาเป็นหนึ่งเดือนหลังจากนี้” ชลธีก็เผื่อเวลาให้เพียงพอสำหรับตัวเองเช่นกัน
“งั้นก็ได้ เราก็ตกลงตามนี้ละกัน ฉันกลับไปเตรียมตัวล่ะ” นิตย์รวีร์แค่ได้ยินว่าชลธีตอบตกลงแล้ว เขาถึงวางใจ เขาก็นึกว่าชลธีจะไม่ยอมตกลง ประธานนั้นได้ผลประโยชน์มากขึ้นนี่นา เงินปันผลของทุกปีก็ได้เยอะมาก เขาตาร้อนมาตั้งนานแล้ว ก็แค่ลำบากที่ตัวเองไม่มีความสามารถนั้น
ตั้งแต่ธินิดาอยู่กับเขา เขาตอนนี้ก็อยากได้อะไรก็ได้อย่างนั้น ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายจริงๆ ธินิดาคนนี้คือดาวนำโชคของตัวเอง
ชลธีใช้สายตาส่งนิตย์รวีร์ที่เดินจากไปอย่างดีใจ เขาก็ไม่ได้อยู่ว่างๆ เริ่มแผนการของตัวเอง
นิตย์รวีร์ก็ไม่ได้อยู่ว่างๆ เขาก็เริ่มแผนการของเขาเช่นกัน ไปพูดโน้มน้าวผู้ถือหุ้นพวกนั้นทุกที่ บอกว่าว่าชลธีมีเงินมากมายอยู่แล้ว ดังนั้นเลยไม่อยากพาพวกเขาไปหาเงินเพิ่มแล้ว ถ้าหากต่อไปเขาได้เป็นประธาน จะพาทุกคนร่ำรวยไปด้วยกัน
มีบางคนที่ได้ฟัง ก็มีพวกที่เดิมทีไม่เก็บนิตย์รวีร์มาใส่ใจ เขาเลยคิดวิธีมาทำให้ผู้ถือหุ้นเก่าพวกนั้นลำบากใจ จากนั้นก็บังคับให้ขายหุ้นซะ คนในบริษัทฮอนดากรุ๊ปตื่นตระหนกอยู่พักหนึ่ง หลายคนกลัวนิตย์รวีร์ก่อปัญหา จึงยอมขายหุ้นของตัวเองในราคาสูงให้กับนิตย์รวีร์
นิตย์รวีร์มองดูหุ้นที่ตัวเองซื้อมา แล้วเขาก็ยิ้ม ตอนนี้ยังเลือกอะไร? หุ้นของเขามีมากกว่าชลธีแล้ว เขาเป็นบุคคลที่มีหุ้นมากที่สุดในบริษัทฮอนดากรุ๊ป เขาเป็นประธาน เป็นประธานกรรมการบริษัทแล้ว
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า น้ำผึ้ง ดูสิ ผมก็เก่งใช้ได้เหมือนกันใช่มั้ย ผมก็แค่บังคับข่มขู่ไปแบบนั้น พวกคนหัวดื้อพวกนั้นก็ยอมโอนหุ้นของตัวเองให้ผมอย่างไม่มีทางเลือก ถึงแม้เงินจะมากไปสักหน่อย แต่ตอนนี้ผมก็ทำสำเร็จแล้ว รอผมได้เป็นประธานกรรมการบริษัท คุณแต่งงานกับผมนะ ผมคิดถึงคุณมาก” นิตย์รวีร์ลูบใบหน้าของธินิดา เขาทำสำเร็จแล้ว มีคุณสมบัติแต่งงานกับธินิดาแล้ว
“ตอนนี้ยังไม่ถือว่าสำเร็จ คุณต้องแก้แค้น คุณเป็นประธานของบริษัทฮอนดากรุ๊ปก็แค่ก้าวแรกเท่านั้น คุณต้องขับไล่วรกัญญาออกไปจากพระนคร หรือทำให้มันไม่มีที่ยืนอยู่ในพระนคร นั่นถึงจะเป็นเป้าหมายของคุณ รอคุณบรรลุเป้าหมายนั้น ฉันจะหย่ากับฟิลลิป และแต่งงานกับคุณ!” ธินิดาจูบแก้มของนิตย์รวีร์
สำหรับคนหัวดื้อพวกนั้นของบริษัทฮอนดากรุ๊ป ได้ยินมาตั้งนานแล้วว่าหลังจากที่ชุติภาสเสีย ต่างก็รู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ครั้งนี้สงครามระหว่างสองพี่น้อง แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องหลบเลี่ยงยิ่งไกลยิ่งดี
“น้ำผึ้ง ผมต้องการ” นิตย์รวีร์มองธินิดาภาพท่อนล่างของเสื้อผ้าที่เผยออกมา อดไม่ได้ที่จะมีการตอบสนอง
“รีบร้อนอะไรคะ รอทำงานให้เสร็จก่อน ฉันก็เป็นของคุณแล้ว คุณอยากจะทำยังไงก็ได้ทั้งนั้น ไม่ดีหรอ? ตอนนี้เราต้องอดทนสักหน่อย” ธินิดาไม่ได้รู้สึกอะไรกับนิตย์รวีร์ ก็แค่หมากตัวหนึ่ง ให้กำไรสักครั้งก็พอได้ แต่จะให้เขาครอบครองตัวเองตลอดไม่ได้ ต่อไปก็จะไม่มีแรงจูงใจแล้ว
“ตกลง ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน น้ำผึ้ง ผมจะต้องได้คุณมาให้ได้ ทำให้คุณกลายมาเป็นภรรยาของผมนิตย์รวีร์” หลังจากได้กำไรมาครั้งหนึ่ง นิตย์รวีร์ก็ลุ่มหลงในร่างกายของธินิดา
“ถ้างั้นฉันก็จะรอคุณมาแต่งงานกับฉันนะคะ ฉันก็อยากจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิตเหมือนกัน เพียงแค่ฉันไม่อยากให้คุณเอาแต่บ่นอยู่ในใจ รอคุณล้างแค้นเสร็จแล้ว ธุรกิจมั่นคงแล้ว ฉันก็จะติดตามคุณ เรามาใช้ชีวิตที่ดีๆด้วยกัน” ธินิดาให้กำลังใจนิตย์รวีร์ ทำให้เลือดของนิตย์รวีร์เดือด
