พระอาทิตย์บนท้องฟ้าก็ยังส่องแสงแผ่นดินไว้อย่างร้อนแรง ทำให้คนรู้ว่าสึกว่าร้อนและแสบตามาก
พวกคนชั้นสูงของบริษัทฮอนดากรุ๊ปได้นั่งกับที่เรียบร้อย วันนี้เป็นวันเลือกตั้งประธาน คนสมัครทั้งสองคนได้เตรียมพร้อมแล้ว นิตย์รวีร์วันนี้ใส่ชุดสูทสีดำทั้งชุด เสื้อเชิ้ตที่ขาว ถึงแม้ว่าหน้าตาไม่ได้ดูดีขนาดนั้น แต่ชนะตรงที่มีส่วนสูง ดูแล้วมีมีความรู้สึกสมาร์ตเลย
ชลธีวันนี้กลับใส่ชุดแฮนด์เมดสีกรม ข้างในใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนไว้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน การแต่งตัวของชลธีก็ดูดีเสมอ อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นคนที่ดูดีอยู่แล้ว
ทั้งสองคนนั่งลงตรงที่นั่งคนสมัคร สีหน้าของนิตย์รวีร์แสดงออกมาเยอะมาก เขาเอาแต่กล่าวทักทายพวกคณะกรรมการของบริษัทไม่หยุด
ส่วนชลธีกลับนั่งอยู่บนที่นั่งนิ่งสงบ เวลาแบบนี้เขากลับเปิดโทรศัพท์ของตัวเองออกมาหารูป ท่าทางเหมือนกับว่าเรื่องทุกอย่างไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเองเลย
“วันนี้เป็นวันที่สำคัญสำหรับบริษัทฮอนดากรุ๊ปของพวกเรา เพื่อรอวันนี้มาถึงพวกเราก็ได้เตรียมอะไรต่างๆ ไว้มากมาย นี่ถ้าพวกเรายังไม่เลือกประธานคนใหม่ออกมาอีกละก็ พนักงานของพวกเราบริษัทฮอนดากรุ๊ปก็คงต้องตกงานกันหมดแน่” พิธีกรก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัทฮอนดากรุ๊ปเหมือนกัน
ครั้งนี้เป็นการสู้รบที่ดุเดือดระหว่างชลธีและนิตย์รวีร์ดุเดือดถึงขั้นไหนน่ะหรอ?ก็คือโรงงานในนามของบริษัทฮอนดากรุ๊ปได้หยุดงาน และสัญญาที่เซ็นกับบริษัทอื่นๆ ก็เป็นโมฆะไปหมด เพื่อการเลือกตั้งประธานถือว่าทุ่มสุดตัวจริงๆ
บริษัทฮอนดากรุ๊ปจนถึงตอนนี้ได้ขาดทุนไปหลายสิบล้านแล้ว ถ้าเวลาแบบนี้ลูกทั้งสองคนของตระกูลสุวรรณเลิศยังจะสู้กันต่อไปล่ะก็ ไม่รู้ว่าบริษัทฮอนดากรุ๊ปจะสามารถทนต่อไปได้นานแค่ไหน
“เอาล่ะ พวกเราจะใช้วิธีการลงคะแนนอย่างลับๆ ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้จะได้รับบัตรลงคะแนนคนละใบ หลังจากลงนามเสร็จแล้ว ใส่เข้าไปในซองจดใหม่ให้เรียบร้อยแล้วส่งมาที่ฉันตรงนี้ พวกเรามี 3 คนต่างไม่เข้าร่วมการเลือกตั้งของพวกนาย ดังนั้นพวกเรา 3 คนก็เลยเป็นคนรวมคะแนนทั้งหมด คนที่คะแนนเยอะที่สุด ต่อไปก็จะเป็นประธานบริษัทฮอนดากรุ๊ปของพวกเราแล้ว” พิธีกรพูดเสร็จ ก็ให้อีกสองคนแจกบัตรโหวตลงไป
ทุกคนได้รับบัตรโหวตไว้ในมือกันหมดแล้ว การโหวตในตอนนี้กลับหนักแน่นมาก ตกลงว่าจะเลือกใครมาเป็นประธานคนต่อไปของฮอนดา ปัญหานี้ค่อนข้างกวนประสาทพวกเขาเล็กน้อย
สำหรับความสามารถของชลธี ทุกคนต่างก็เห็นอยู่กับตา แต่ว่าโครงการของนิตย์รวีร์ในตอนนี้ก็น่าดึงดูดใจเหลือเกิน บอกว่าจะแบ่งเงินจำนวนมากให้กับทุกคน ทุกคนเองต่างก็ชอบเงินกันทั้งนั้น
จับบัตรโหวตไว้ ทุกคนต่างคิดอย่างรอบคอบเสร็จแล้ว ก็เขียนชื่อของคนที่ตัวเองชอบใจลงไปในกระดาษใบนั้น
ไม่นานก็เขียนเสร็จกันหมดแล้ว เอาใบโหวตเข้าไปในซองจดหมาย เสร็จแล้วก็เอากลับไปไว้บนมือของพิธีกร
เก็บบัตรโหวตทั้งหมดจนครบแล้ว ก็ได้แกะซองจดหมายทีละซองต่อหน้าทุกคน การเลือกตั้งครั้งนี้ยุติธรรมมาก เป็นเผยทุกอย่าง
พอตอนที่ทุกคนเห็นว่าผลโหวตของนิตย์รวีร์ยิ่งอยู่ยิ่งเยอะขึ้นมา ก็ได้มีบางคนขมวดคิ้วขึ้นมา นี่ไม่ใช่ผลที่พวกเขาอยากจะเห็นเลย
ไม่มีอุบัติเหตุอะไร ผลโหวตของนิตย์รวีร์ได้แซงชลธีไปเยอะมากแล้ว ดูท่าทางแล้วเหมือนว่าตำแหน่งประธานนั้นไม่มีใครอื่นนอกจากเขาแล้ว
“ต่อไปฉันจะประกาศ ประธานคนใหม่ของบริษัทฮอนดากรุ๊ป ก็คือ นิตย์รวีร์ ประธานนิตย์รวีร์ของพวกเรา!” ถึงใจจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ว่าพิธีกรก็ต้องประกาศคำตอบนั้นออกมา
“ว้าว ประธานนิตย์รวีร์ยินดีด้วยยินดีด้วยนะ” ก็ได้มีคนเข้าไปประจบนิตย์รวีร์แล้ว
“ขอบคุณทุกท่าน ขอบคุณที่สนับสนุน” หน้าของนิตย์รวีร์ยิ้มจนหุบไม่ลงแล้ว ชลธี ชลธีคนนี้ก็ไม่ได้จัดการยากขนาดนั้นเหมือนที่ลือกันไว้เลย แค่เนี้ย เขาก็ถูกจัดการลงไปแล้ว ตัวเองยังเตรียมแผนไว้อีกตั้งมากมายก็ไม่ได้ใช้แล้ว รู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่
“ชล นายอย่าคิดสั้นนะ ไม่ต้องทำเรื่องอะไรโง่ๆ เด็ดขาดเลยนะ” เวลานี้เองนิตย์รวีร์ก็มองชลธีไว้ เขาพูดกับชลธีเหมือนกับว่าตัวเองเป็นผู้ชนะ
“อันนี้พี่ใหญ่วางใจได้เลย ผมต้องไม่ทำเรื่องโง่ๆ อะไรอยู่แล้ว ว่าแต่พี่เถอะ บริษัทฮอนดากรุ๊ปไม่ใช่ของกินอะไรที่อร่อยเลยนะ มันเป็นมันฝรั่งที่ร้อน” ชลธีพาคนของตัวเองไปแล้ว ก่อนที่เขาจะไปยังได้ทิ้งคำเตือนไว้ให้นิตย์รวีร์ด้วยคำหนึ่ง
แต่ว่าเวลาแบบนี้นิตย์รวีร์จะไปฟังคำพูดของผู้พ่ายแพ้เข้าหูไปได้ยังไง ในใจของเขาเอาแต่คิดว่าชลธีอิจฉาตัวเองแน่นอน
ชลธีออกมาจากบริษัทฮอนดากรุ๊ป ตอนที่เขาขึ้นรถ ไม่ได้มีความอาลัยอาวรณ์ต่อที่นี่เลย ไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับมามอง เขาจากไปอย่างเด็ดขาดมาก
“ประธานชลธี คุณนี่สุดยอดจริงๆ เลยนะ ที่สามารถล้มน้องชายของคุณได้เนี่ย ต่อไปพวกผมจะติดตามพัฒนาไปกับคุณแล้วนะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า ผมเองก็โชคดี น้องของผมก็เก่งเหมือนกัน เขาเป็นประธานอยู่ในบริษัทฮอนดากรุ๊ปตั้งนานแล้ว ต่อไปถ้ามีโอกาสที่จะรวยได้ ผมก็จะพาทุกคนไปด้วย” วันนี้นิตย์รวีร์อารมณ์ดีมากจนจะลอยขึ้นฟ้าแล้ว
“ประธานชลธี พวกเราจะไปอย่างนี้เลยหรอครับ?” ลูกน้องของชลธีถามเขา
“อื้อ แจ้งนัทธ์ ให้เขาทำเรื่องที่เขาควรทำต่อไป” ชลธีพูดกับลูกน้องของตัวเองเสร็จแล้ว ก็ขึ้นรถไปเลย
“ครับ ผมจะรีบแจ้งเขาเลย” ลูกน้องก็รีบไปแจ้งนัทธ์
ชลธีขึ้นรถ คนขับก็ถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ ว่าเขาจะไปไหน พอคิดว่าอารมณ์ในตอนนี้ของเขาน่าจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ อาจจะต้องไปผ่อนคลายหน่อย
“ไปโจนส์กรุ๊ป” ชลธีเหมือนได้กลิ่นของคาวเลือดที่เหม็นฉุนในพระนครแล้ว เขาจะไปดูว่าวรกัญญาเป็นยังไงบ้างแล้ว ก่อนหน้านี้เป็นเพราะว่าเขาออกไปไม่ได้ ตอนนั้นเตรียมเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง
ตอนนี้เขาไม่ใช่ประธานบริษัทฮอนดากรุ๊ปอีกแล้ว ก็เลยมีเหตุผลมากพอที่จะไปดูวรกัญญาแล้ว
ตอนที่วรกัญญาเห็นเขา เธอตะลึงมาก บริษัทฮอนดากรุ๊ปได้ทำการเปิดแถลงให้พวกนักข่าวแล้ว ก็หมายความว่า ชลธีในเมื่อก่อนไม่ได้รับผิดชอบตำแหน่งประธานบริษัทฮอนดากรุ๊ปอีกแล้ว ประธานคนใหม่ของบริษัทฮอนดากรุ๊ปในตอนนี้เป็นพี่ชายของเขานิตย์รวีร์
แต่ว่าเวลาแบบนี้ชลธีไม่ใช่ควรจะโกรธมากแล้วกลับบ้านไปหรอ?เขามาหาตัวเองที่นี่คิดจะทำอะไรกัน?
“ประธานวรกัญญา ทำไม ไม่รู้จักฉันแล้วหรอ ตอนนี้ฉันไม่ใช่ประธานบริษัทฮอนดากรุ๊ปแล้ว รู้สึกว่าไม่มีค่าที่จะมีความร่วมมืออะไรหรอ?” ชลธีเข้ามาก็ไม่ไว้หน้าวรกัญญาเลย
“ชลธี นายไม่ได้รับเลือกเป็นประธานบริษัทฮอนดากรุ๊ป ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยนะ นั้นเป็นเพราะว่านายด้อยกว่าคนอื่น” วรกัญญารู้สึกว่าชลธีได้พาความโกรธมาด้วย
“ฉันด้อยกว่าคนอื่น?วรกัญญาคำพูดของเธอนี่ช่างไร้ยางอายซะจริงๆ ฉันเป็นคนยังไงเธอจะไม่รู้หรอ?เธอทำอะไรกับฉันไว้ ฉันรู้ทั้งนั้น วันนี้ฉันมาที่นี่ก็เพื่อคิดบัญชีกับเธอ!” ชลธีก้าวขาที่ยาวเดินไปอยู่ตรงหน้าวรกัญญาเขาใช้สายตาที่เย็นชาของตัวเองในการจ้องวรกัญญาไว้