สายตาที่ชลธีมองวรกัญญาไม่มีความอ่อนโยนอีกต่อไปแล้ว ในตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาเกลียดชังทั้งนั้น วรกัญญาได้มองเห็นความเกลียดชังที่ชลธีมีต่อตัวเองอย่างชัดเจนแล้ว
“คิดบัญชี?ได้สิ ฉันก็อยากเห็นเหมือนกันว่านายจะคิดบัญชีกับฉันยังไง ชลธี มาสิ” วรกัญญาวางมือในงานแล้วเธอก็มองชลธีอย่างเย็นชาไว้ ทั้งสองคนต่างมีออร่าที่แข็งแกร่ง ในเวลานี้เอง ช่วงเวลารอบๆ ก็ได้หยุดลงแล้ว มีแค่การเผชิญหน้าของทั้งสองคน
การที่ชลธีมาหาวรกัญญาเดิมทีก็เป็นข่าวที่ใหญ่แล้ว ระหว่างทั้งสองคนเพื่อเรื่องของชุติภาสทั้งพระนครก็โกลาหลกันไปใหญ่แล้ว ส่วนการมาของชลธีในวันนี้ ทำให้เลือดของทุกคนดุเดือดขึ้นมาหมด ต่างอยากดูว่าระหว่างทั้งสองคนจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกันบ้าง
ด้านนอกประตูมีคนคอยดูอยู่ ดูสงครามระหว่างชลธีและวรกัญญา
“ก่อนอื่น พวกเรามาคิดบัญชีที่เธอหายไป 5 ปีนี้กันดีกว่า เธอพาลูกของฉันหนีหายไป 5 ปี นี่เพราะอะไร?” ชลธีใช้มือพยุงหน้าของวรกัญญาขึ้นมา
ใบหน้านี้เมื่อก่อนเคยทำให้เขาบ้าคลั่ง ทำให้เขารอรไม่หลับกินไม่ลง แต่ว่าตอนนี้กลับอยู่ในมือของเขา เล็กขนาดนี้ อุ่นขนาดนี้ จริงจังเกินไป เขารอวันนี้มานานแล้ว
“เพี้ยะ!” เสียงดังคมชัด วรกัญญาได้ตบไปที่หน้าของชลธีเต็มมือ
“ชลธีขอให้นายให้เกียรติตัวเองด้วย!” วรกัญญาผลักความเป็นห่วงของชลธีออก
“ฉันให้เกียรติตัวเองมากพอแล้ว แต่ว่าตรงหน้าประตูของเธอมีคน เธอไม่ไปจัดการหน่อยหรอ?” ที่นี่เป็นพื้นที่ของวรกัญญา ชลธียังไม่ได้ให้คนของตัวเองไปเคลียร์พื้นที่
วรกัญญาได้ยินว่ามีคนอยู่หน้าประตู เธอก็ได้โทรออกไป ให้รณรัตมาเคลียร์คนที่หน้าประตูไปให้หมด
ชลธีได้ปิดประตูใหม่อีกครั้ง เขาเดินไปตรงหน้าของวรกัญญา เขามองวรกัญญาจากที่สูงแล้วพูดว่า “เอาล่ะ พวกเรามาคิดบัญชีกันได้อย่างเงียบๆ แล้ว” พูดจบชลธีก็ได้กอดวรกัญญาไว้แน่น ก้มหน้าจูบลงไปที่ปากของเธอ
ริมฝีปากที่อ่อนและหอมหวาน ปากที่แดงนี้ทำให้ชลธีคิดถึงมานาน ตอนนี้กำลังอยู่ในปากของเขา ถูกเขาดูดอยู่อย่างเบาๆ เขาดื่มด่ำมาก
วรกัญญาคิดไม่ถึงว่าชลธีจะคิดบัญชีกับตัวเองแบบนี้ เธองงไปชั่วขณะ แต่ว่าสักพักเธอก็รู้สึกตัวขึ้นมา อยากจะผลักชลธีออก แต่ถึงแม้ว่าเธอจะมีกำลังมากพอ ก็ต่างจากชลธีเป็นอย่างมาก
ชลธีกีดขวางมือของเธอไว้ด้านหลัง เหมือนว่าวันนี้เขาจะจูบให้หนำใจไปเลย
สุดท้ายวรกัญญาเองก็ไม่ขัดขืนแล้ว เพราะไม่มีผลอะไรเลย ดูท่าทางความแตกต่างของเธอกับชลธีมันเยอะมาก
ชลธียกหัวขึ้น มองปากที่แดงและบวมของวรกัญญาไว้ เขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก ปากแดงๆ นี้เป็นของเขา จะเป็นของเขาชลธีตลอด
“ชลธี ฉันเกลียดนาย!” วรกัญญาหายใจราบรื่นขึ้นแล้ว เธอก็ได้เหยียบไปที่ขาของชลธีทันที ชลธีเดิมทีสามารถหลบได้ แต่เขารู้ว่าเวลานี้ในใจของวรกัญญาต้องโกรธมากแน่ ไม่ว่ายังไงก็จะต้องให้เธอระบายออกมาถึงจะดี
ส้นรองเท้าของเธอสูงอยู่แล้ว เวลานี้เธอก็โกรธอยู่ด้วย ก็เลยใช้แรงทั้งหมด ชลธีก็ขมวดคิ้วอย่างแน่น
“ไสหัวออกไป นายไสหัวออกไป” วรกัญญาผลักชลธีอย่างตื่นตกใจ แต่ว่าชลธีกลับไม่ไป บนรองเท่หนังของเขามีรอยส้นรองเท้าที่ลึกมาก
“มุก เธอเหยียบฉันแล้ว สามารถบอกความจริงเมื่อ 5 ปีที่แล้วว่าทำไมเธอต้องไปจากฉันไหม?เธอบอกฉัน ฉันก็ไป ไม่อย่างนั้นฉันจะมาทุกวัน” ชลธีหายใจเข้าลึกๆ กระดูกนิ้วนั้นถูกเธอเหยียบจนหักไปแล้วรึเปล่า
“ได้ นายอยากรู้ใช่ไหม?ฉันสามารถบอกนายได้!ชลธีหลังจากที่ฉันบอกนาย พวกเราก็คือศัตรูแล้ว!” วรกัญญามองชลธีที่เดิมทีสามารถหลบตัวเองได้ แต่ว่าเขากลับทนรับขาของตัวเองไปทีหนึ่ง การเตะนั้นไม่เบาเลยนะ
“ได้ แล้วตอนนี้พวกเราต่างอะไรกับศัตรู?แต่ฉันอยากจะได้ยินที่เธอบอก” ชลธีหลังจากขยับเล็กน้อย เขาก็เดินไปที่หน้าโซฟา แล้วนั่งลงมา ความเจ็บปวดตรงขาทำให้สีหน้าของเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ วรกัญญาเห็นความเจ็บปวดผ่านสีหน้าของเขาหมดแล้ว
“ฉันส่งนายไปโรงพยาบาล” วรกัญญาพูดกับชลธี
“ไม่ เธอพูดเสร็จแล้วฉันไปเอง” ชลธียืนหยัดอยู่
“ปีนั้นที่ธินิดาท้องเป็นของนายใช่ไหม?นายโกหกฉัน บอกว่าไม่ใช่ของนาย แต่ว่าฉันอยู่ในวันที่พ่อฉันเกิดเรื่องวันนั้น เห็นกับตาว่านายอยู่กับธินิดา ยังได้ยินที่นายพูดอีกด้วย!” พอนึกถึงอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อปีที่แล้ว น้ำตาของวรกัญญาก็ไหลออกมาอย่างทนไม่ไหว
“แต่ว่านายรู้ได้ยังไงว่าฉันฟื้นฟูความทรงจำแล้ว?” วรกัญญาพูดจบแล้ว เธอก็รู้สึกว่าแปลกมาก ชลธีทำไมถึงมาถามคำถามนี้กับตัวเอง เขารู้ได้ยังไงว่าตัวเองฟื้นฟูความทรงจำแล้ว
“ถ้าเธอไม่กลัวเลือด เธอก็ฟื้นฟูความทรงจำแล้ว การที่เธอความจำเสื่อมต้องเกี่ยวข้องกับเลือดบนตัวของพ่อเธอแน่” ชลธีพูดกับวรกัญญา
“นายสืบฉัน?” ตาของวรกัญญาเบิกใหญ่โต
“เธอสูญเสียความทรงจำ ฉันก็ต้องรู้ว่าตลอด 5 ปีมานี้เธอใช้ชีวิตที่ฝรั่งเศสมายังไง ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้ทำการดูแลเธออย่างดี แต่ฉันก็หวังว่าสามารถช่วยเหลือเธอได้ แล้วก็ มุก ตอนนั้นเธอได้ยินเสียงของฉัน ได้เห็นหน้าของฉันหรอ?” ชลธีถามวรกัญญา
“เปล่า ที่ฉันเห็นคือแผ่นหลังของนาย แต่ว่าแผ่นหลังของนายฉันคุ้นเคยดี แล้วก็เสียงของนาย อันนี้นายก็จะเถียงอีกหรอ?” วรกัญญาพูดอย่างไม่พอใจ
“มุก ทำไมเธอถึงโง่ขนาดนี้ ตอนที่เธอแยกจากฉันไปฉันกำลังทำอะไรอยู่?ฉันมีวิชาแยกร่างหรอ?แล้วก็ตัวตนของฉัน ถ้าฉันไม่ชอบเธอ ฉันก็สามารถบอกกับเธอโดยตรงได้เลย ฉันจำเป็นต้องแสดงความรักต่อหน้าเธออยู่หรอ?” ชลธีฟังคำพูดของวรกัญญาแล้ว เขาอยากจะร้องไห้จริงๆ คิดมาตลอดว่าวรกัญญาเป็นคนที่ฉลาด แต่ว่าก็มีเวลาที่โง่หยู่เหมือนกัน
คำพูดของชลธีทำให้วรกัญญาสับสนไปหมด ตอนนั้นที่เธอเห็นภาพแบบนั้น เสียใจจริงๆ ก็เลยไม่ได้คิดอะไรมาก หลังจากนั้นมาตัวเองก็สูญเสียความทรงจำแล้ว ก็เลยไม่มีเวลาไปคิดปัญหานี้
“เพราะอันนี้เธอก็เลยเกลียดฉันมานานหลายปี?” ชลธีรู้สึกว่าขอบตาของตัวเองเริ่มเปียกแล้ว
“ตอนนี้นายเองก็เกลียดฉันมากไม่ใช่หรอ?นายเอาการตายของพ่อนายมาโทษไว้ที่ตัวฉัน” วรกัญญาพูดอย่างเย็นชา ในตอนนั้นที่เลือดเต็มตัวพ่อของเธอ แล้วที่พ่อของเธอเพื่อปกป้องเธอตัวเองไม่ให้ถูกแม่ของธินิดาขับรถชนตัวเองอีกครั้ง เรื่องพวกนั้น ชาตินี้ทั้งชาติเธอไม่มีทางลืมแน่นอน
“มุก ฉันไม่เคยเกลียดเธอมาก่อน” ชลธีลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เขาค่อยๆ เดินไปทางประตู
“มุก เรื่องบนธุรกิจเต็มไปด้วยการหลอกลวง เธอต้องระวัง ทั้งชีวิตนี้ ผู้หญิงที่ฉันรักมีแค่คนเดียวเท่านั้น นั้นก็คือเธอวรกัญญาไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอก็ต้องเชื่อใจฉัน” ชลธียืนอยู่หน้าประตู แล้วพูดคำพูดแบบนั้นออกมา เขาก็ผลักประตูออกไปเลย
วรกัญญามองแผ่นหลังของชลธีที่เดินขากะเผลก ในหัวของเธอวุ่นวายไปหมด นี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย?