หลังจากนั้นยศัสวินที่เรียนอยู่ที่ฝรั่งเศสถึงแม้จะพบเจอกับปัญหา แต่กลับมีโชคที่ดี ถึงแม้ว่าเขาจะถูกลักพาตัวเพราะช่วยคนชรา แต่ว่าต่อมาคนชราและเขาก็ได้รับการช่วยเหลือ คนชราไม่มีลูกหลาน ก็ได้เอาโจนส์กรุ๊ปของตัวเองให้ยศัสวิน ดังนั้นยศัสวินก็เลยเป็นผู้สืบทอดของโจนส์กรุ๊ป
หลังจากที่ยศัสวินยุ่งเรื่องพวกนี้เสร็จ ก็ได้กลับไปรับธาราวดี และในตอนนั้นเองณิชพลก็ได้หย่ากับธาราวดี ตอนที่มองธาราวดีพาวรกัญญาที่ไปตามยศัสวิน เขาก็ได้ร้องไห้อย่างเงียบๆ ในเวลา 3 ปีนั้น เขาได้ทำเหมือนวรกัญญาเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเองไปแล้ว
ก่อนที่จะขึ้นรถไปสนามบิน ธาราวดีก็ทำการตัดสินใจไว้ข้อหนึ่ง เธอจะทิ้งวรกัญญาไว้ให้ณิชพล
“ต้น เด็กคนนี้นายเป็นคนเลี้ยงโต ถ้านายไม่รังเกียจ ไม่คิดว่าเธอเป็นปัญหา ฉันก็จะทิ้งเธอไว้ให้นาย รอให้ฉันมั่นคงแล้ว ฉันค่อยมารับเธอ นายก็ช่วยฉันดูแลอีกหน่อยละกัน” ธาราวดีพูดกับณิชพล
“ไม่เป็นปัญหา ไม่เป็นปัญหา พวกเธอไปก็ต้องมีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการ เด็กฉันช่วยดูแลไว้ก่อนก็ได้” ณิชพลได้ยินคำพูดของธาราวดีแล้ว เขาก็รีบรับวรกัญญามา
ดังนั้นณิชพลก็ได้เลี้ยงวรกัญญาจนโต ทำเหมือนกับว่าเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเองเลย เพื่อวรกัญญา ทั้งชีวิตนี้ของเขาไม่อยากแต่งงานเลย สุดท้ายแล้วยังสละชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยวรกัญญาอีกด้วย
“แม่ หนูเข้าใจแม่ผิดไป แต่ว่าหนูมีเรื่องจะขอร้อง” วรกัญญาพูดกับธาราวดี
“ลูก แม่ต้องรู้อยู่แล้วว่าลูกอยากทำอะไร แม่สัญญากับลูก ลูกเป็นลูกสาวของณิชพล และจะเป็นตลอดไป พ่อของลูกรมักรู้สึกผิดต่อลูก อยากจะรับลูกกลับไป แต่แม่ไม่ตกลง เพราะแม่ดูออกว่า ความรักที่ณิชพลมีให้ลูกนั้นมันมากเกินไป” ธาราวดีได้กอดวรกัญญาไว้อีกครั้ง
แม่ลูกทั้งสองคนไม่ได้คุยกันเป็นเวลานาน แต่หัวใจของทั้งสองคนใกล้ชิดมาก ธาราวดีก็รู้จักนิสัยของวรกัญญา นิสัยของเธอเหมือนกับตัวเองเลย เป็นคนที่รู้จักตอบแทนบุญคุณ ที่วรกัญญาอยากจะพูดกับแม่ก็คือ ให้เธอใช้นามสกุลแก้วสุทธิตลอดไป เธอเป็นมุกดา แก้วสุทธิตลอดไป
ธาราวดีฟังความเป็นมาที่ลูกสาวตัวเองถูกโกง เธอก็บริษัทต่างๆ ที่ฟิลลิปแนะนำ
บริษัทเหล่านี้ดูแล้วก็ไม่มีจุดไหนผิดปกติเลยนิ อีกอย่างยังมีชื่อเสียงมากในพื้นที่นั้นด้วย แต่ว่าหนังสือสัญญานั้นถูกใครบางคนสับเปลี่ยนไป
ฟิลลิปทำไมต้องลงมือกับมุกด้วยล่ะ?ค่าชดเชยในครั้งนี้ ถ้าเปรียบเสมือนสินทรัพย์ของโจนส์กรุ๊ปในประเทศล่ะก็ การชดเชยครั้งนี้ โจนส์แทบจะล้มละลายแล้ว
ธาราวดีคิด หรือว่าเป็นเพราะเรื่องเมื่อ 3 ปีก่อน?
ธาราวดีไม่อยากให้สามีตัวเองเป็นห่วง เธอก็เลยได้ระดมข้อมูลทางการเงินมาดูทั้งหมด เหมือนกับที่มุกบอกเลย ค่าชดเชยแทบจะเป็นสินทรัพย์ทั้งหมดของโจนส์กรุ๊ปในประเทศ
ดูเหมือนข้อมูลการเงินของโจนส์กรุ๊ปถูกคนเผยแพร่ออกไปแล้ว แล้วก็หนังสือสัญญานั้นก็อาจจะถูกคนสับเปลี่ยนแล้วก็ได้ ลายเซ็นบนนั้นเลียนแบบได้เหมือนมาก ขนาดมุกดายังแยกแยะไม่ออกเลย
คิดความเป็นไปได้หลายอย่าง ธาราวดีก็ได้รีบส่งให้คนไปสืบ เธอมีคนของตัวเอง คนพวกนั้นเป็นคนที่ไม่เด่นอะไรมาก จะยอมรับเธอเป็นหัวหน้าเพียงคนเดียว เรื่องนี้ขนาดมุกดาเธอเองก็ไม่ได้บอก
พอถึงเวลา โจนส์กรุ๊ปส่งมอบสินค้าไม่ได้ตามจริง บริษัทฮอนดากรุ๊ปก็ได้โอนเงินค่าชดเชยไปให้โจนส์กรุ๊ปแล้ว
แต่ว่าตอนนี้โจนส์กรุ๊ปก็ต้องเผชิญหน้ากับค่าชดเชยที่ต้องชดเชยให้กับหลายบริษัทใหญ่
โจนส์กรุ๊ปและมุกดาได้จัดสรรเงินทั้งหมดในบริษัทร่วมกัน ก็ยังห่างไกลมาก เงินทุนที่หมุนเงียนนั้นมีจำกัด
ถ้าจะใช้เงินจากสำนักงานใหญ่ที่ฝรั่งเศสจนหมด ก็จะมีผลกระทบต่อการดำเนินการของบริษัทอื่นๆ นี่เป็นเรื่องที่ปวดหัวจริงๆ
ในเวลาแบบนี้ คุณฟิลลิปกลับนัดเจอกับมุกดาและธาราวดี
ในห้องVIP โต๊ะกลมใหญ่ๆ ฟิลลิปได้นั่งรอพวกเขาอยู่ที่นั่นแล้ว มุกดาและธาราวดีเดินเข้าไป ฟิลลิปก็ได้ลุกขึ้นยืน
“อุ้ย มาตรงตามเวลาจริงๆ คุณนายเจนนี่ ประธานวรกัญญา มาๆ เชิญนั่ง” ฟิลลิปต้อนรับทั้งสองคนอย่างดี
เขามองผู้หญิงที่สวยงามทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าไว้ ธาราวดีถึงแม้จะอายุ 50 แล้ว แต่ดูแลรักษาได้ดี ดูก็คิดว่าอายุพึ่งจะ 30 กว่าปีเท่านั้นเอง สวยมาก แต่กลับมีเสน่ห์ความเป็นผู้ใหญ่มากกว่ามุกดา
มุกดาก็ยังแต่งด้วยดำทั้งชุด ใบหน้าของเธอสะอาดขาวสวย รูปร่างที่สมส่วน ทำให้ฟิลลิปรู้สึกคันๆ ในใจ
“วันนี้คุณฟิลลิปเรียกพวกเรามาเพราะมีเรื่องอะไร?” ธาราวดีพูดกับฟิลลิปอย่างสง่า ในใจของเธอเกลียดฟิลลิปเป็นอย่างมากไปแล้ว
“ฮ่าฮ่าฮ่า ผมได้ยินว่าคุณนายเจนนี่กลับมาแล้ว ผมก็ต้องเชิญคุณกินข้าวสักครั้งหนึ่งสิครับ พวกเราต่างเป็นเพื่อนกันมานานหลายปีแล้วด้วย ไม่ว่าจะพูดยังไงมันก็เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว” ฟิลลิปตบมือ เพื่อให้เสิร์ฟกับข้าวขึ้นมา
“คุณฟิลลิป ฉันรู้สึกว่าพวกเรามีความสัมพันธ์ที่มากมาย แต่ก็ไม่ถึงกับว่ามีความแค้นอะไร แต่ว่าการกระทำทุกอย่างที่คุณทำต่อโจนส์กรุ๊ป ทำให้ฉันได้รู้จักคุณใหม่” ธาราวดีไม่มีความเกรงใจอะไรต่อฟิลลิปเลย ทุกอย่างนี้เป็นแฟนที่เขาวางไว้ทั้งนั้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเรายังไม่พูดเรื่องพวกนี้ดีกว่า พวกเรากินข้าวกันก่อน กินข้าวเสร็จแล้วไว้ผมจะอธิบายให้พวกคุณฟัง” ฟิลลิปหัวเราะฮ่าฮา นั้นเป็นเพราะว่าแผนของเขาสำเร็จแล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาเพียงแต่รอเก็บเกี่ยวก็พอ
กับข้าวเต็มทั้งโต๊ะ กลับทำให้คนไม่มีความอยากเลย แต่ว่าฟิลลิปเหมือนกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย เขาเปิดไวย์แดงขึ้นมาขวดหนึ่ง เทให้ทั้งสองแม่ลูก
“กินกันหน่อยสิ ผมเลี้ยงพวกคุณกินข้าว อย่างน้อยๆ ก็ต้องกินเล็กน้อยสิครับ ไม่อย่างนั้นก็เป็นเพียงชื่อเสียง ไม่ว่ายังไงพวกคุณก็มาแล้วไม่ใช่หรอ?”
“กินข้าวก็ต้องดูคน ถ้าอยู่กับคนที่รัก ไม่ว่ายังไงก็ไม่เมา แต่กับคนที่ตัวเองไม่ชอบ พูดแค่คำเดียวก็เป็นเรื่องใหญ่” ธาราวดีสีหน้าเย็นชา แต่เธอก็ได้จับตะเกียบขึ้นมา คีบซี่โครงหมูมาวางไว้ตรงถ้วยของตัวเอง
“ฮ่าฮ่าฮ่า วิธีการพูดของคุณนายเจนนี่นี่น่าสนใจจริงๆ ที่คุณพูดเป็นคำโบราณของจีนคำนั้นใช่ไหม พบคนรู้ใจดื่มกันพันจอกยังถือว่าน้อย คุยไม่ถูกคอ ครึ่งคำยังรู้สึกว่ามากไป ยังดีที่ผมได้ทำการศึกษาประวัติศาสตร์ของพวกคุณอยู่” ฟิลลิปไม่ได้โกรธ ตอนนี้เขาชนะแล้ว ยังจมปลักอยู่ในความสุข
“รู้ก็ดีแล้ว” ธาราวดีกินซี่โครงนั้นไปคำหนึ่ง รู้สึกว่ารสชาติใช้ได้ เธอก็เลยคีบให้มุกดาด้วยชิ้นหนึ่ง
“แค่ก แค่ก วันนี้กับข้าวเยอะ พวกคุณกินกันช้าๆ อยากรู้ว่าทำไม ผมจะบอกพวกคุณเอง แต่ว่าผมมีข้อแม้ เชิญพวกคุณกินให้อิ่มก่อน ผมถึงจะพูด” ฟิลลิปไม่ได้ถูกการเย็นชาใส่ของธาราวดีทำให้อยากถอยเลยแม้แต่น้อย
มุกดาสังเกตเห็น ธินิดาไม่ได้มา สองสามีภรรยานี้สมคบคิด แต่ในงานฉลองแบบนี้ ทำไมธินิดาถึงไม่มาด้วยล่ะ?