ตอนที่ชายหนุ่มกำลังจะเตะวรรณวิมลนั้น กลับถูกห้ามเอาไว้ วรรณวิมลนึกว่าเขาจะมาช่วยตัวเอง ก็เลยรีบปีนขึ้นมาในทันที
“ช่วยฉันด้วย ช่วยฉันหน่อย ฉันถูกพวกเขากลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรม”วรรณวิมลลุกขึ้นมาแล้วก็ไปกอดขาของผู้ชายคนนั้นเอาไว้
“กลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรม เธอกลั่นแกล้งยังไงเหรอ? ลองพูดมาสิว่าฉันช่วยเธอไหม!”เสียงของผู้ชายคนนั้นก็ดูไพเราะน่าฟังอย่างแปลกประหลาด เพียงแค่ทั้งสองคนยืนอยู่หน้าประตู วรรณวิมลเห็นใบหน้าอย่างไม่ชัดเจน
“ฉันถูกพวกเขาลักพาตัวมาที่นี่ บังคับให้ฉันยอมรับเรื่องที่ไม่ได้ทำ ฉันทุกข์ใจเป็นอย่างมาก ฉันไม่ได้กินข้าวมาหลายวันแล้ว ดังนั้นคุณต้องช่วยฉันนะ”ในเวลานี้วรรณวิมลฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ผู้ชายคนนั้นที่เข้ามาทีหลัง
ถ้าเธอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เธอคงจะโกรธกับพฤติกรรมปัจจุบันของเธอ
“ทำไมฉันถึงต้องช่วยเธอ ลองพูดเหตุผลมาข้อหนึ่งสิ”ผู้ชายคนนั้นพูดกับวรรณวิมลต่อ
“เพราะว่าฉันคือคุณนายวรรณวิมลแห่งตระกูลสุวรรณเลิศ ฉันมีเงิน! ถ้าเกิดว่าคุณช่วยฉัน ฉันจะเอาเงินให้คุณ” วรรณวิมลคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็มีเพียงแค่ตัวตนของเธอเท่านั้นแหละ
“ฮ่าๆๆๆ คุณนายวรรณวิมลแห่งตระกูลสุวรรณเลิศ สามีของเธอหอบเงินหนีไปหมดแล้ว แล้วเธอยังจะมีเงินอะไรอีก? ฉันเคารพเลื่อมใสคนของตระกูลสุวรรณเลิศ เช่นชลธีกับมุกดา แต่ว่าเธอ ไม่มีค่าเพียงพอจะให้ฉันยกรองเท้าขึ้นมาด้วยซ้ำ ประวีร์ ฉันคิดว่าถ้าเกิดว่านายตีเธอ จะเหนื่อยรึเปล่า? เอาแบบนี้ไหม พวกเราให้เธอตีตัวเองแล้วกัน”อนุชิตเผชิญหน้ากับประวีร์ที่โหดร้ายอยู่ในตอนนี้ และพูดกับเขา
“อนุชิต ฉันก็ว่านายจิตใจดีตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่แท้ยังดาร์กกว่าฉันสะอีก ฉันจะยอมดูหน่อยว่านายจะทำยังไง”ประวีร์มองวรรณวิมลเหมือนหยอกล้อ
“ฉันมีขนมปังอยู่ชิ้นหนึ่ง เธอลองดมดูสิ”อนุชิตเอาขนมปังในมือของตัวเองวางไว้ตรงหน้าวรรณวิมล วรรณวิมลก็ดมเหมือนกับสุนัข ขนมปังชิ้นนี้มาจากโรงแรมลวดลายวิหก ในพระนครมีแต่ขนมปังของบ้านเขาที่มีกลิ่นนี้
“หอมไหม? อยากกินรึเปล่า? “อนุชิตพูดกับวรรณวิมล
“หืม ฉันอยากกิน รีบเอามาให้ฉันกินเร็ว ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว”วรรณวิมลมองอนุชิตด้วยความสงสาร นึกว่าอนุชิตจะเอาขนมปังให้ตัวเองกิน
“การจะให้เธอกิน ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้นะ แต่ว่าเธอต้องรับปากฉันเรื่องหนึ่ง ฉันให้เธอหลายชิ้นเลยก็ได้ เห็นนมนี่ไหม? ฉันจะให้เธอก็ได้นะ”อนุชิตยืนขึ้น แล้วก็มองลงมาที่วรรณวิมล
“เรื่องอะไร ว่ามาเลย ว่ามาเลย ฉันตกลงได้หมดเลย”เพื่อนขนมปังแล้ววรรณวิมลไม่สนใจอะไรอีก และนมที่เอร็ดอร่อยนั้น เธอชอบมากเลย
“งั้นเธอตบหน้าตัวเอง20ครั้งแล้วกัน ฉันอยากได้ยินเสียง ตบหน้าตัวเอง20ครั้ง ฉันจะให้ขนมปังเธอ10ชิ้น แล้วก็นมแก้วหนึ่ง” อนุชิตยื่นของที่อยู่ในมือออกไปแกว่งไปแกว่งมาต่อหน้าวรรณวิมล
วรรณวิมลได้กลิ่นนั้นแล้ว ก็รู้สึกว่าตัวเองหิวยิ่งกว่าเดิมซะอีก แต่ว่าเธอคือคุณนายวรรณวิมลแห่งตระกูลสุวรรณเลิศ เรื่องที่ตัวเองต้องตบตัวเองนั้น เธอไม่อยากทัน
“นายนี่ช่างรังแกคนอื่นเสียจริง ไม่ให้ฉันกินก็ช่างเถอะ แถมยังให้ฉันตบตัวเองอีก” วรรณวิมลพูดกับอนุชิตด้วยความโมโห
“ยังหยิ่งทระนงจังเลยนะ งั้นช่างเถอะ ยังไงขนมปังนี้ต่อให้ไม่มีใครกินฉันกินเองก็ได้ ประวีร์ นายอยากทำอะไรก็ทำเถอะ ฉันไม่ห้ามแล้ว”อนุชิตยืนอยู่ด้านข้าง เตรียมจะได้ดูละครสนุกๆ
วรรณวิมลได้ยิน ถ้าเกิดว่าให้ประวีร์เป็นคนทำร้ายตัวเองล่ะก็ แรงของเขาต้องเยอะมากแน่ๆ เธอน่าจะไม่สามารถรับไหว ไม่สู้ตัวเองจบหน้าตัวเองยังซะจะดีกว่า แถมยังได้กินอะไรด้วย
“ดูเหมือนว่าวิธีของนายไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ งั้นฉันจัดการเองแล้วกัน”ประวีร์อ่านความคิดของวรรณวิมลออก แต่ว่าเขาให้ความร่วมมืออนุชิตในการเล่นละครอย่างเต็มที่
“ไม่ ไม่ ฉันทำเองดีกว่า ฉันทำเอง ทิ้งขนมปังกับนมไว้ให้ฉันนะ ฉันจะตบหน้าตัวเอง20ครั้ง”วรรณวิมลรีบตบตัวเองในทันที
ประวีร์มองหน้ากันและยิ้ม วรรณวิมลตบตัวเองหนึ่งครั้ง อนุชิตก็กินขนมปังหนึ่งชิ้น พอจบอีกครั้ง เขาก็ดื่มนมลงไปอึกหนึ่ง
ตอนที่วรรณวิมลตบหน้าตัวเองครบ20ครั้งแล้ว อนุชิตก็กินขนมปังจนหมด แถมดื่มนมจนหมดเรียบ แล้วเขาก็โยนขยะใส่หน้าวรรณวิมล
“โอเค ฉันตบเสร็จแล้ว ขนมปังฉันล่ะ?”ตอนนี้ใบหน้าของวรรณวิมลบวมจนผิดรูป แต่ว่าเธอยังคงคิดถึงขนมปังอยู่
“ขนมปังงั้นเหรอ? ผู้หญิงอย่างเธอนี่มันจริงๆ เลย เมื่อกี้ตอนที่ฉันบอกเธอ เธอหยิ่งมากเลยไม่ใช่เหรอ? คำพูดของฉันมันมีผลแค่บางเวลา แต่ว่าไม่ได้มีผลตลอดเวลา หลังจากนั้นเธอยอมทำเอง แต่ว่าฉันไม่ได้บอกให้เธอทำนิ แน่นอนว่าขนมปังไม่เหลือแล้ว”อนุชิตเรอเพราะว่ากินอิ่ม
วรรณวิมลพบว่าตัวเองถูกหลอก ก็พุ่งเข้าไป อยากจะต่อสู้กับอนุชิต
อนุชิตหลบไปด้านข้างเล็กน้อย วรรณวิมลก็พุ่งหาความว่างเปล่า เธอเห็นโอกาส เตรียมจะหนีไป เธออยากจะหนีออกไปจากที่นี่ แล้วก็จะมีวิธีได้รับความช่วยเหลือ
แต่ว่าเธอวิ่งออกมา คนที่อยู่ด้านหลังกลับไม่ได้ตามมา เธอวิ่งลงมาจากชั้นบน แต่กลับพบว่าที่นี่เป็นเพียงบ้านร้าง ด้านล่างเป็นรูปร่างที่สลับซับซ้อน ต่อให้เธอวิ่งออกมาได้ ก็ไม่สามารถหาทิศทางได้
แต่ว่าเธอก็ยังอยากที่จะหนี ตอนที่เธอวิ่งไปถึงประตูนั้น หันหน้ากลับไปดู ประวีร์กับอนุชิตก็แค่เดินช้าๆ อยู่ด้านหลังของเธอ ไม่ได้มีท่าทางว่าจะตามเธอมาเลย
“ทางที่ดีพวกนายควรส่งฉันกลับไป ไม่ยังงั้นฉันจะให้ชลธีมาจัดการพวกนาย”วรรณวิมลเห็นว่าตัวเองไม่มีทางให้ถอยหนีเลย หน้าประตูมีกองขยะอยู่ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกเขาพาเธอเข้ามาที่นี่ได้ยังไง
“ผู้หญิงอะไรโง่ยังงี้ เธอทำร้ายลูกชายของชลธี แต่ยังหวังว่าเขาจะมาช่วยเธอ นอกจากซะว่าสมองเขาไม่ปกติล่ะมั้ง? “อนุชิตกับประวีร์ยืนอยู่ตรงข้ามวรรณวิมล แล้วก็มองเธออย่างรังเกียจ
ผู้ชายสองคนนี้หล่อจังเลย ประวีร์หน้าตาอ่อนโยน แต่ว่าก็เย็นชามาก อนุชิตดูประณีตและละเอียดอ่อน แต่ว่ากลับน่ากลัวมาก
ตอนนี้ผู้ชายที่หล่อเหลาทั้งสองคนยืนอยู่ตรงหน้าของตัวเอง จู่ๆ วรรณวิมลก็เกิดมีความรู้สึกเหมือนจะโดนข่มขืน ถ้าเกิดว่าโดนผู้ชายทั้งสองคนนี้ทำอย่างว่า มันต้องเป็นเรื่องที่เพลิดเพลินมากแน่เลย
พอคิดได้แบบนี้ วรรณวิมลก็ใจเย็น และก็เดินเข้าไปหาทั้งสองคน
“ประวีร์ อนุชิต พวกนายสองคนเป็นผู้ชายที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ทำให้คนชื่นชอบ พวกนายเอาฉันมาไว้ที่นี่คนเดียว เพราะว่าอยากจะทำอะไรกับฉันรึเปล่า? ฉันยินยอม พวกนายอยากทำอะไรก็ทำเถอะ!”วรรณวิมลเดินเข้ามาด้วย พร้อมกับถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกด้วย
ประวีร์กับอนุชิตไม่คิดเลยว่าวรรณวิมลคนนี้จะหน้าด้านไร้ยางอายขนาดนี้ ยังคิดจะทำอะไร? พวกเขาทั้งสองคนจะชอบเธอยังงั้นเหรอ?
“ได้ ในเมื่อเธอยอม ฉันก็จะบันทึกภาพไว้ด้วย เดี๋ยวฉันจะถ่ายเธอเลยตอนนี้”อนุชิตเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว เขาเห็นว่าวรรณวิมลถอดเสื้อผ้าออกเกือบหมดแล้ว เผยให้หันผิวที่ขาวเหมือนหิมะ แล้วเขาก็ปรบมือในอากาศ