ผู้ถือหุ้นของบริษัทฮอนดากรุ๊ปกลายเป็นคนหัวแหลมกันหมดแล้ว พวกเขาเริ่มลังเลอีกครั้งหลังจากได้ยินชลธี ว่ามีความเสี่ยง เล่าต่อไปเล่าต่อกันมา ในตอนนี้นิตย์รวีร์ก็ได้ทำเรื่องเกี่ยวกับหุ้นได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ในเวลาเดียวกันผู้ถือหุ้นเหล่านั้นก็เริ่มหลบเลี่ยงกันอีกครั้ง
“พวกคุณต้องการอะไรกันแน่ ผมพูดได้ชัดเจนขนาดนั้นแล้ว อีกอย่างพวกคุณก็ได้ผลประโยชน์ไปแล้วนิ แต่ทำไมพวกคุณก็ยังไม่เชื่อใจผมอีก” นิตย์รวีร์รู้สึกกังวล และเงินที่เขาเงินที่กู้ยืมเจ้าหนี้นอกระบบใกล้จะถึงเวลาแล้ว ถ้ายังไม่มีเงินเพิ่มอีก ก็จะมีแนวโน้มว่าถูกทำลายโดยคนเหล่านั้น
“ใช่ว่าเราไม่เชื่อใจนะครับ ประธานชลธี แต่คือพวกเราก็มีปัญหาทางด้านเงินจริงๆ นะครับ ภรรยาของผมเอาเงินไปลงทุน ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้กลับคืน ตอนนี้ผมไม่มีชั่วคราวครับ.” ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งบอกนิตย์รวีร์
“ใช่ ใช่ เงินทั้งหมดในบ้านผมก็ถูกยืมไป ให้คืนเงินในตอนนี้ทันที ก็ยังไม่ถึงวันกำหนด และเป็นคนสนิทกัน ก็ยากที่จะทวงคืน” มีผู้ถือหุ้นพูดขึ้นมาอีกคน
สำหรับคนที่เหลือก็จะมีข้ออ้างต่างๆ นานา กันทุกคน อย่างไรก็ตามก็คือพูดว่าไม่มีเงิน
“หุ้นของพวกเราออกหุ้นแล้วก็จะเข้าสู่ตลาด และราคาจะเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่ตลาด ถ้าราคาเพิ่มขึ้นพวกคุณก็สามารถขายได้ ถ้าขายได้พวกคุณก็จะมีเงินเพิ่มมากขึ้น เงินที่ได้จากบริษัทฮอนดากรุ๊ปยังน้อยไปหรือไง?” ทำให้นิตย์รวีร์รู้สึกอยากจะด่าคน
“พวกผมได้เงินจากบริษัทฮอนดากรุ๊ปมามากแล้วก็จริง แต่ประธานในตอนนั้นไม่ใช่คุณ ในตอนนั้นคุณทำให้พวกผมขาดทุนด้วยซ้ำ” มีเสียงหนึ่งดังขึ้น เพื่อเตือนทุกคน
เมื่อผู้ถือหุ้นทั้งหมดคิดแล้วสักพัก ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ปีนั้น ชุติภาสปล่อยให้ลูกชายของเขาเป็นประธานเป็นเวลาหลายเดือน ลูกชายคนแรกและลูกชายคนที่สองทำให้ขาดทุน ฉะนั้นจึงให้ลูกชายคนที่สามเป็น ถึงได้กำไรและเงินกลับมา
“ใช่ ใช่ เกือบลืมไปเลย ถ้าคุณไม่พูดผมก็คงลืมเรื่องนี้ไปแล้ว มันผ่านมานานแล้ว แต่ในปีนั้นมันเสี่ยงจริงๆ พวกเราเกือบขาดทุนไปแล้ว” มีคนเริ่มคิดถึงชลธี
“ปีนั้นคือปีนั้น ตอนนี้คือตอนนี้ มันไม่เหมือนกัน ผมโตแล้ว และผมก็มีเส้นสายของตัวเองแล้ว” ไม่ว่านิตย์รวีร์จะอธิบายยังไงก็ตามก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นจบลงด้วยต่างคนต่างแยก
เมื่อเห็นทุกคนจากไป นิตย์รวีร์ก็ขว้างแก้วน้ำชาลงบนพื้นอย่างแรง มองถ้วยน้ำชาที่แตกเป็นเศษเล็กๆ บนพื้น แต่ความโกรธในใจของเขาไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย
“ให้คนเข้ามา จัดเก็บของพวกนี้ให้หมด จากนี้ไปก็มีการประชุมผู้ถือหุ้นอีกต่อไป ไอ้พวกคนหัวแข็ง” นิตย์รวีร์พูดอย่างโกรธแค้น ทุกอย่างก็เป็นเพราะชลธี ทำไมถึงทำกำไรได้ทุกครั้ง หลังจากที่ตนเองขึ้นมา ก็ไม่สามารถทำได้ เป็นความผิดของมันทั้งหมด เป็นความผิดของมันทั้งหมด!
นิตย์รวีร์เดินไปบาร์คน เขาปวดหัวจนแทบจะตายแล้ว เขาได้โทรหาธินิดา แต่เธอไม่รับสายสักครั้งเลย ไม่รู้เธอทำอะไรอยู่
“พ่อครับ แม่ครับ ผมอยากได้นี้ครับ” อักลี่ลงไปเดินที่พื้นได้แล้ว มุกดาเล่าเรื่องทหารให้เขาฟังตลอด ส่งผลให้เด็กมีความฝันอยากเป็นทหาร
ปมในใจของเด็กค่อยๆ ลดลง เด็กยังเล็ก ก็จะมีไหวพริบในการปรับตัวเร็ว เร็วๆ นี้ก็จะลืมเรื่องราวอันมากมายไป ตอนนี้รอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าของ อักลี่ กลับมาอีกครั้ง
“อักลี่จะเอาอันนี้เหรอครับ” มุกดาชี้ไปที่หนังสือของเล่นปืน
“ครับ ผมอยากได้อันนี้ครับ ผมอยากฝึกยิงปืนครับ” อักลี่ฟังเรื่องที่ที่แม่เล่าให้ฟัง เขาก็อยากปกป้องประเทศ ปกป้องคนที่เขาอยากปกป้อง เป็นลูกผู้ชายที่พึ่งพาได้
“ได้ครับ แม่จะซื้อให้ตอนนี้ ในสวนมีที่โล่งอยู่หนึ่งที่พอดี เราไปจัดสถานที่ แล้วสร้างเป็นสนามยิงปืนของลูกโอเคไหมมุกดาพูดกับอักลี่
“โอเคครับ แม่ใจดีที่สุดเลยครับ พ่อสอนผมหน่อยครับ” หัวอักลี่ยังพันผ้าก๊อซอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรมาก เขากินได้นอนได้ โดยหลักอารมณ์ของเขาก็ฟื้นฟูได้ดีแล้ว
“ได้ครับ แม่รับผิดชอบซื้อ พ่อรับผิดชอบสอน ครอบครัวเราก็ได้ความร่วมมือกันอย่างมีความสุข” ชลธีอารมณ์ดีมาก เขามีเวลาอยู่กับภรรยาและลูก ถ้าหากเป็นอย่างงี้ได้ทุกวัน ก็เป็นเรื่องที่มีความสุขมาก แต่หน้าที่ของเขาคือปกป้องครอบครัวไม่ให้ทุกทำร้าย เขายังไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างสบาย ๆ ได้ในตอนนี้
“ชล ช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ฉันเห็นว่าช่วงนี้คุณยุ่งมาก” มุกดาถามชลธีเบา ๆ ในขณะที่เด็กกำลังเล่นกับของเล่น
“ช่วงนี้ผมไม่ได้ยุ่งมากนัก แต่ก็จะยุ่งในเร็วๆ บริษัทฮอนดากรุ๊ปจะกลับมาอยู่ในมือของผมในเร็วๆ นี้ ผมก็เลยอยู่กับพวกคุณให้เยอะๆ ถ้าผ่านช่วงนี้ไป ผมก็ไม่มีเวลาอยู่กับพวกคุณแล้วเรื่องนั้น ผมต้องจัดการอีกนาน” ชลธีไม่ได้ปิดบังภรรยาของเขา เขาจึงเล่าสถานการณ์ในช่วงนี้ให้เธอ
“ชล จริงๆ แล้วคุณสามารถทำใหม่ได้ และจะทำออกมาได้ดีกว่าบริษัทฮอนดากรุ๊ป ทำไมคุณถึงรอบริษัทฮอนดากรุ๊ปกลับมา
รอจัดเก็บกวาดเรื่องพวกนั้นเหรอ ” มุกดาไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก
” มุก บริษัทฮอนดากรุ๊ปเป็นของตระกูลสุวรรณเลิศ ก่อตั้งขึ้นโดยปู่และพ่อผม กว่าจะก่อตั้งขึ้นมันยากลำบากมาก่อน ผมต้องทำต่อให้ก้าวหน้ากว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยให้ล้มละลาย ในเมื่อผมมีความสามารถพัฒนาบริษัทได้ และผมก็จะสามารถจัดทำให้บริษัทฮอนดากรุ๊ปก้าวหน้าต่อไปได้” ชลธีสัมผัสผมของมุกดา ผมของเธอดีมากนุ่มๆ ลื่นๆ
“โอเค ฉันรู้แล้ว ชล ฉันจะสนับสนุนคุณ” มุกดาอยู่ในอ้อมกอดของชลธี
นิตย์รวีร์ยังไม่ได้ออกหุ้น คนในบริษัทไม่มีใครอยากออกเงินซื้อหุ้นของเขา เงินที่กู้ยืมจากเจ้าหนี้นอกระบบก็จะหมดเวลาในอีกสามวัน เขาหาธินิดาไม่เจอ เขาจึงไปที่ยืนนานกรุ๊ปไปหาอุไรภัสร์
“ประธานอุไรภัสร์ครับ ผมอยากเจอน้ำผึ้ง แต่เธอไม่รับสายของผมเลยครับ” นิตย์รวีร์พูดกับอุไรภัสร์ยืนนานกรุ๊ปไม่ใช่บริษัทที่ใหญ่โต อย่างน้อยก็เทียบไม่ได้กับบริษัทฮอนดากรุ๊ป ถ้าไม่ใช่ธินิดา นิตย์รวีร์ไม่อยากมาหาอุไรภัสร์แน่นอน
“ช่วงนี้เธอก็งานยุ่งมาก กำลังช่วยคุณฟิลลิป คุณก็รู้ฟิลลิปติดคุก เธอก็ต้องจัดการเรื่องทั้งหมดของ ยืนนานกรุ๊ป” อุไรภัสร์โทรคุยกับธินิดาในก่อนหน้านี้แล้ว เขารู้นิตย์รวีร์จะมาเอาเงินกับธินิดาตอนนี้ธินิดาก็ไม่มีเงินมากพอที่จะให้เขา ถึงจะมีก็ไม่ให้
“ถ้าอย่างนั้นผมอยากให้ประธานอุไรภัสร์ถามน้ำผึ้งให้ผมหน่อยว่าเงิน บริษัทฮอนดากรุ๊ปของเรา เธอจะให้เงินผมเมื่อไหร่ ชีวิตของผมในตอนนี้ไปต่อไม่รอดแล้ว” นิตย์รวีร์จะไม่รอดจริงๆ แล้ว หลังจากสามวัน เขาเองก็ไม่รู้จะได้ไปอยู่ที่ไหน