“ธีรนัยน์ ฉันได้ยินมาว่าตอนที่เธอไปสเก็ตช์ภาพกับณัฐได้ไปเจออะไรอันตรายเข้าให้?” ขณะที่กำลังรับประทานอาหารมุกดาก็ได้ถามขึ้นมา
“ก็ไม่ได้อันตรายอะไรหรอก ก็แค่เจอพวกขโมยเงินเท่านั้นเองแต่พวกเราก็จัดการกันได้เรียบร้อยดี”ธีรนัยน์พูดอย่างเลี่ยงปัญหา เธอไม่ต้องการให้มุกดาเป็นกังวล
“อะไรนะ?พวกเธอเจอพวกขโมยเงินงั้นเหรอ?มันน่ากลัวเกินไปแล้วนะ ธีรนัยน์เธอไม่ได้บาดเจ็บใช่ไหม?”เมื่อโธรณีได้ยินว่าธีรนัยน์และณฐวรได้รับบาดเจ็บ หล่อนก็กังวลมากขึ้นไปกว่าเดิม
“ไม่ได้เป็นอะไร” ธีรนัยน์กำลังยกชามขึ้น ไม่แม้แต่จะเหลือบมองไปที่โธรณีเลยแม้แต่น้อย
ชลธีเองก็กังวลมากเช่นกันแต่เมื่อเห็นท่าทางที่ดูไร้กังวลของธีรนัยน์แล้วเขาจึงคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร ศิลปะการต่อสู้ของธีรนัยน์เองเขาก็พอรู้อยู่ ต่อให้มีเป็นสิบกว่าคนก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธออยู่ดี
“ต่อไปออกจากบ้านก็ต้องระวังหน่อยนะ แต่ยังไงก็ห้ามไปใจอ่อนกับคนแบบนี้เป็นอันขาด” ชลธีพูดกับธีรนัยน์
“ได้ ฉันรู้แล้ว”ธีรนัยน์พยักหน้า มีอยู่หลายครั้งหลายคราที่เธอใจอ่อน นี่คือข้อเสียของเธอ
“พี่ชาย นี่ธีรนัยน์ไปเจอปัญหามานะ ทำไมไม่ไปปลอบหน่อย ธีรนัยน์ต่อไปไม่ต้องไปทุกที่กับณฐวรแล้วนะ ตามฉันมาก็พอ พวกเราไปแค่พวกร้านเสริมสวย โรงยิมเท่านั้น สถานที่พวกนี้ปลอดภัยที่สุดแล้ว ไม่มีใครมาขโมยเงินได้หรอก ที่แบบนั้นต่อให้พวกนั้นจะอยากเข้าก็เข้าไปไม่ได้หรอก” โธรณีนั้นดูเหมือนคนงี่เง่า
“โธรณี วันนี้แม่ให้หล่อนกลับไป บอกว่าจะแนะนำให้รู้จักคู่ครองสักหน่อย ดังนั้นหล่อนต้องกลับไป”ชลธีออกคำสั่งกับโธรณี
“นัดบอด?นัดบอดอีกแล้วเหรอ พี่ชาย พี่ลองไปโน้มน้าวแม่หน่อยไม่ได้หรือไงว่าฉันไม่ชอบการไปนัดบอดเอาซะเลย บอกแม่ว่าหยุดบังคับฉันได้แล้ว ถ้ามาบังคับฉันอีกล่ะก็ฉันจะตายให้ดูเลยจริงๆ ด้วย!” โธรณีพูดด้วยความโมโหเป็นอย่างมาก แม่เธอก็อีกคน รู้ว่าเธอแต่งงานยากแค่ไหนก็ยังจะหาแต่พวกคนเละเทะมาให้นัดบอดอยู่ได้ หาอย่างธีรนัยน์หน่อยไม่ได้หรือไงกัน?
“งั้นหล่อนก็คงต้องไปตายแล้วล่ะ แม่บอกแล้วว่าถ้าหากหล่อนยังไม่แต่งงานล่ะก็แม่จะจับหล่อนมัดไปแต่งงานเลย” เมื่อชลธีทานเสร็จก็พูดกับโธรณีอย่างเอาจริงเอาจังเป็นอย่างมาก
“หึ นายเป็นพี่ชายฉันจริงๆ หรือเปล่าเนี่ย? ถ้าฉันจะแต่งงานก็ต้องแต่งกับคนอย่างธีรนัยน์นี่แหละ คนอื่นฉันไม่สนใจหรอก” เมื่อโธรณีพูดจบก็ได้หันไปมองธีรนัยน์ด้วยรอยยิ้ม
เมื่อธีรนัยน์ทานเสร็จก็ได้ลุกยืนขึ้น “ฉันทานเสร็จแล้ว ขอตัวขึ้นไปข้างบน”ธีรนัยน์มาพักผ่อนที่บ้านของมุกดาในตอนกลางวันและในตอนกลางคืนหากไม่มีอะไรก็จะกลับไปที่บ้านของตน ในหมู่ของผู้หญิง เธอก็ยังคงชอบมุกดามาก มุกดาเป็นคนที่งามทั้งภายนอกและภายใน ปฏิบัติกับเธอเป็นเพื่อนอย่างแท้จริง
แต่ทันทีที่ธีรนัยน์มาที่ห้องนอน เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากทางบ้านบอกให้เธอกลับไป ที่บ้านมีเรื่องสำคัญจะทำการประกาศ
ธีรนัยน์ที่เพิ่งขึ้นไปก็เดินลงมาพร้อมกับกล่าวลามุกดาพร้อมกับบอกว่าที่บ้านเรื่องนิดหน่อย เธอจะกลับไปช่วงหนึ่ง
“งั้นก็ขับรถให้มันช้าๆ หน่อยนะ ไม่ต้องรีบร้อนมากนัก” เมื่อมุกดาเห็นธีรนัยน์ดูเร่งรีบจึงได้กล่าวเตือนไว้
“อืม ฉันไม่รีบหรอก เรื่องที่จะประกาศนี้ก็คงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันมากนักหรอก ฉันก็แค่ไปฟังเฉยๆ งั้นฉันไปก่อนนะ มุกดา ประธานชลธี”ธีรนัยน์กล่าวลาทั้งสองคนจากนั้นก็กลับไปที่เมืองสระมังกร
“ชล เธอเป็นลูกสาวของตระกูลอมรถิรจินดาใช่ไหม?” มุกดานอนอยู่บนเตียงในอ้อมแขนของชลธี เลือกท่าที่สบายที่สุด
“เธอรู้ได้ยังกันน่ะ?” ชลธีรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก มีคนมากมายที่ไม่รู้เรื่องนี้แต่เมียของเขากลับพูดได้อย่างถูกต้องแม่นยำในทันที
“เหอะ ฉันจะไม่รู้ได้ยังไงกันล่ะ เห็นกันชัดๆ อยู่แล้วว่านายกับเธอรู้จักกันถึงได้ให้เธอมาเป็นผู้ช่วยของฉัน มันชัดเจนซะขนาดนั้นแถมยังมีรณรัตที่อนุชิตส่งมาอีก ส่วนรวิศก็เป็นคนที่พี่ประวีร์เลือกมา พวกคุณทั้งสามต่างพากันหาคนที่ดีเลิศมาให้ฉันขนาดนี้ สาวน้อยคนนี้ต้องขอบคุณคุณสามีจริงๆ ” ขณะที่มุกดากำลังพูดก็ได้ปีนขึ้นไปบนตัวของชลธี
“สาวน้อยคนนี้ช่างฉลาดเสียจริง ฉันคิดว่าหล่อนจะดูไม่ออกนะเนี่ย ธีรนัยน์นั้นใช้ชีวิตเหมือนกับผู้ชายมาตลอดหากฉันไม่รู้รายละเอียดของเธอ ฉันก็คงไม่รู้หรอกว่าเธอเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น” ชลธีกอดมุกดาที่อยู่บนร่างกายของเขา
“ฉันให้รวิศไปตรวจสอบมาแล้ว เธอเป็นน้องสาวของอนุชิตและถูกเข้มงวดมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ว่ากันว่าอนาคตจะมาช่วยอนุชิตดูแลอมรถิรจินดากรุ๊ป เพียงแต่ตอนนี้อนุชิตนั้นยังไม่รู้อะไรเลยว่าได้ถูกคนของตระกูลอมรถิรจินดาสอดแทรกคนจำนวนมากเข้ามาในอมรถิรจินดากรุ๊ปแล้ว นี่เป็นเรื่องที่น่าปวดหัวเรื่องหนึ่งของคุณท่านนิธิเลยล่ะ” สถานการณ์ของตระกูลอมรถิรจินดานั้นซับซ้อนที่สุด พวกเขานั้นถือว่าเป็นบริษัทเก่าแก่ที่สืบทอดมาห้าหกชั่วอายุคนแล้วอีกทั้งยังมีการแบ่งแยกสถานะลำดับชนชั้นกันเองอีก ช่างล้าสมัยเกินไปจริงๆ
“เรื่องของคนอื่นเราไม่ต้องไปสนใจนักหรอก ฉันว่าอักลี่อยู่คนเดียวคนจะเหงาน่าดู ควรจะมีน้องชายหรือน้องสาวให้เขาสักคนดีไหม แบบนั้นเขาต้องดีใจแน่ๆ เลย” ในเวลานี้ชลธีนั้นไม่สนใจเรื่องอะไรอีกต่อไป ร่างเล็กๆ ที่อ่อนนุ่มที่กำลังปีนอยู่บนร่างกายของตนนั้นเป็นสิ่งที่เขารักใคร่มากที่สุดแล้ว
“อักลี่มีความคิดแบบนี้ด้วยเหรอ?”มุกดามองบนใส่ชลธี เสื้อผ้าของหล่อนนั้นถูกดึงหลุดออกไปในไม่กี่ที
“ฉันเป็นพ่อของเขา ฉันมีความคิดแบบนี้ เขาเองก็คงมีเช่นเดียวกัน” ชลธีกดร่างของมุกดาลงไปใต้เขาอย่างหน้าไม่อายพร้อมกับจูบเข้าไปที่แก้มของหล่อน
“ชลธี เมื่อเจ็ดปีที่แล้วคุณทำอะไรกับฉันไว้?”แม้ว่ามุกดาจะเหนื่อยกับการที่ถูกชลธีทำกลับไปกลับมาเต็มทนแต่หล่อนก็ยังอยากที่จะถามออกไปสักหน่อย
“ฉันก็แค่เปลี่ยนให้เธอกลายเป็นผู้หญิงของฉันก็เท่านั้นเอง”ชลธีช่วยเช็ดเหงื่อให้กับมุกดา สาวน้อยของตนคนนี้นั้นช่างเก่งกาจเสียจริง รู้ไปหมดซะทุกเรื่อง
“ฉันต้องขอบคุณคุณจริงๆ หากไม่ใช่คุณล่ะก็ฉันคงถูกคนอื่นย่ำยีไปแล้ว ฉันได้ยินมาว่าคนที่เมธพรหามาให้ฉันไม่ใช่คุณแต่เป็นชายร่างอ้วนที่ดูน่าเกลียดคนหนึ่งต่างหาก” เมื่อมุกดาคิดถึงเรื่องตอนนั้นก็รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ชลธีหวนนึกถึงตอนที่ออกไปข้างนอก บอดี้การ์ดของเขารายงานว่ามีชายอ้วนที่ดูน่าเกลียดคนหนึ่งกำลังก่อปัญหาอยู่ที่ปากประตู จากนั้นก็ได้ถูกลากออกไปทุบตี
เมื่อคิดถึงเรื่องราวนี้ขึ้นมา ชลธีเองก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ หากตอนนั้นไม่ใช่เพราะตนเดินเข้าไปผิดห้อง หากตอนนั้นตนไม่ได้เห็นว่าสาวน้อยคนนี้ด้วยความหลงใหลล่ะก็ ตอนนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันนะ?
“นี่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเรานั้นมีบุพเพสันนิวาสต่อกันไงล่ะ มุก ฉันได้ตรวจสอบมาแล้วว่าฉันกับธินิดาไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นกันเลยจริงๆ ทุกอย่างล้วนแต่เป็นภาพลวงตาที่สองแม่ลูกนั้นสร้างขึ้นมา เด็กนั่นไม่ใช่ลูกของฉัน”ชลธีรู้สึกว่าเขาได้แก้ไขสิ่งที่เข้าใจผิดระหว่างเขาสองคนแล้ว ในใจรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก