“คุณตำรวจ ชีวิตของฉันนี่มันเคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆ มันไม่ง่ายเลยที่จะมีแฟนจนจะแต่งงานกัน คุณดูการ์ดเชิญที่พวกเราเตรียมกันไว้สิคะ มันเป็นสิ่งที่พวกเราต้องการเชิญพวกเธอมาดื่มร่วมยินดีกับงานแต่งของเรา แต่ฉันไม่ได้คาดคิดว่าชีวิตของสามีฉันจะถูกพรากเอาไป ฉันจะทำอย่างไรดี?” เมื่อธินิดาถูกปล่อยตัว หล่อนยังไม่กลับไปแต่กลับมาร้องไห้คร่ำครวญต่อหน้าของหัวหน้าทีม
“อืม เรื่องนี้ผมคงช่วยอะไรมากไม่ได้หรอก ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ” หัวหน้าทีมทำได้เพียงพูดกับหล่อนเท่านี้ หากไม่มีหลักฐานบวกกับท่าทางที่ดูล่อลวงของธินิดา มันทำให้หัวหน้าทีมคิดว่าหล่อนเป็นฆาตกรเสียด้วยซ้ำ
“คุณตำรวจ คุณต้องจัดการลงโทษฆาตกรให้หนักเลยนะคะ สามีของฉันจะมาตายเสียเปล่าไม่ได้ คุณจะต้องเป็นคนตัดสินใจให้ฉัน” ธินิดาร้องไห้จนเครื่องสำอางเลือน นั่นทำให้ตำรวจรู้สึกว่าหล่อนเศร้าอย่างถึงที่สุด
“อืม เอาล่ะเอาล่ะ คุณไม่ต้องเสียใจมากเกินไปหรอกนะครับ ตอนนี้สามีของคุณยังอยู่ที่โรงพยาบาล คุณไปดูสักหน่อยเถอะ ไปเจอกันครั้งสุดท้ายเสียหน่อย” หัวหน้าทีมปลอบใจธินิดา
ในที่สุด ธินิดาก็เดินจากไป ทั้งสถานีตำรวจเงียบสงัด หัวหน้าทีมจุดบุหรี่ คดีในครั้งนี้นั้นแปลกจริงๆ หลักฐานทั้งหมดนั้นชี้ไปที่มุกดาแต่ทำไมเขาถึงมีลางสังหรณ์ว่ามุกดาไม่ใช่ฆาตกร
“น่าปวดหัวจริงๆ !”หัวหน้าทีมกุมขมับ เวลานั้นเองลูกน้องของเขาต่างพากันนำข้าวกล่องมากิน ทุกคนกินข้าวพร้อมกัน
เมื่อธินิดาออกจากสถานีตำรวจมา หล่อนไม่ต้องการที่จะไปหานิตย์รวีร์เป็นอย่างมาก ชายคนนี้กล้าที่จะมาขู่ให้หล่อนแต่งงานกับเขา ดีนะที่ตนคิดหาวิธีได้เสียก่อน ได้กำจัดทั้งนิตย์รวีร์และมุกดา ช่างถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวจริงๆ ต่อไปถนนหนทางของหล่อนก็จะกว้างขวางขึ้น หากมุกดาสาบสูญ ชลธีก็ยังคงรอเธออยู่แต่หากมุกดาถูกยิงเป้าล่ะก็เขาก็จะไม่สามารถรอเธอได้อีกต่อไป
อย่างไรก็ตามก็ต้องเสแสร้งแกล้งทำให้มันสมบทบาทซะหน่อย ธินิดายังคงไปโรงพยาบาล สิริกรเองก็ร้องไห้จนเป็นลมหมดสติไป แบบนี้ก็ไม่มีลูกชายของตนอีกต่อไปแล้วน่ะสิ ลูกชายคนรองกำลังเดินทางกลับมา นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับตระกูลสุวรรณเลิศกัน ทำไมถึงได้พากันตายไปทีละคนเช่นนี้?
ย่านิ่มตายแล้ว ชุติภาสก็ตายไปอีก ตอนนี้ก็มาเป็นนิตย์รวีร์ที่ตาย คนต่อไปจะเป็นใครกันล่ะ?
“น้ำผึ้ง น้ำผึ้ง หล่อนจะต้องแก้แค้นให้กับนิตย์รวีร์นะ พวกเธอจะแต่งงานกันอยู่แล้วแต่เขากลับต้องมาตายอย่างน่าอนาถเช่นนี้ เธอดูเขาสิ เธอดู เขาตายตาไม่หลับด้วยซ้ำ!”สิริกรลากธินิดามาทางนิตย์รวีร์
ธินิดาดึงมือของตัวเองออกจากนั้นตบไปที่ไหล่ของสิริกรพร้อมกับแสร้งทำเป็นร้องไห้
“แม่ ต่อจากนี้ไปหนูจะเรียกคุณว่าแม่ การตายของนิตย์จะต้องไม่เสียเปล่า หนูจะล้างแค้นให้เขาเองค่ะ แม่ หนูจะเลี้ยงแม่เลี้ยงจนแก่เฒ่าเองค่ะ” ในเวลานี้ธินิดาก็ยังใช้ประโยชน์จากสิริกรอยู่ ดังนั้นการพูดจาของหล่อนจึงดูน่าฟังเป็นอย่างมาก
“น้ำผึ้ง หล่อนช่างเป็นคนดีจริงๆ เป็นคนดีจริงๆ เลย หล่อนช่วยเหลือนิตย์มาโดยตลอด นิตย์ของพวกเราไม่มีโชคจริงๆ เป็นเพราะยัยมุกดาคนเลวนั่น เธอต้องการให้นิตย์ตาย เธอต้องกลัวนิตย์กับชลแย่งตำแหน่งประธานไปเป็นแน่ นิตย์ของเราอุตส่าห์หลีกทางให้แล้ว ช่างเป็นผู้หญิงที่โหดร้ายอะไรแบบนี้!”สิริกรร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดใจเป็นอย่างมากและไม่ได้สังเกตเห็นว่าธินิดานั้นหมดความอดทนกับท่าทางของเธอเต็มที
“แม่ ธวัชได้บอกไหมคะว่าจะมาถึงเมื่อไหร่ หนูเป็นพี่สะใภ้ รอให้เขามาก่อนแล้วหนูค่อยจัดการเรื่องแล้วกัน หนูขอตัวก่อนนะคะแม่ รอเขามาแล้วแม่ค่อยบอกหนูนะ” ธินิดาไม่อยากจะไปดูร่างผีของนิตย์รวีร์นัก
“หล่อนจะไม่ไปดูนิตย์หน่อยเหรอ?ตั้งแต่เด็กจนโตมาเขาก็ชอบพอหล่อนคนเดียวเลยนะ!”สิริกรนั้นอยากให้ธินิดาไปดูลูกชายของตนเป็นอย่างมาก ลูกชายนั้นคิดถึงแต่ธินิดามาโดยตลอดแต่ดันมาถูกวางยาพิษตอนก่อนแต่งงานซะได้
“แม่คะ นิตย์เขาเสียไปแล้ว จิตใจของหนูในตอนนี้เอาก็ไม่ได้ดีไปกว่าแม่สักเท่าไหร่ ให้เขาได้ทิ้งความทรงจำที่สวยงามให้กับหนูเถอะนะคะ หนูไม่อยากไปเห็นสภาพเขาในตอนนี้เลย แบบนั้นหนูคงรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้” ธินิดาพูดกับสิริกรพลางเช็ดน้ำตาออก
“อืม อืม ก็ใช่ ก็ใช่ ทำไมฉันถึงคิดถึงจุดนี้ไม่ได้กันนะ งั้นหล่อนไปทำธุระเถอะเดี๋ยวแม่จะรอธวัชที่นี่เอง รอจนกว่าเขาจะมาแล้วแม่จะบอกหล่อนนะ” สิริกรรู้สึกว่าสิ่งที่ธินิดาพูดนั้นถูกต้องเป็นอย่างมากดังนั้นเธอจึงไม่ได้ร้องขอให้ธินิดาเข้าไปดูนิตย์รวีร์อีก
“ผมว่าเอารางวัลออสการ์ได้เลยนะ น่าเสียดายมากที่หล่อนไม่ได้ไปเป็นนักแสดง คุณธินิดา”ขณะที่ธินิดาเดินออกมาจากฌาปนสถานก็บังเอิญเจอกับอนุชิตเข้าพอดี
“คุณชายอนุชิต?คุณมาหาสามีของดิฉันเหรอคะ?เมื่อกี้ที่คุณพูดหมายความว่ายังไงกัน?”เดิมทีธินิดานั้นรู้สึกดีใจเลยทีเดียวที่ได้เจอกับอนุชิตแต่เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด หล่อนจึงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย
“อืม คุณธินิดา ผมมาที่นี่เพื่อมาดูสามีของคุณครับแต่เมื่อกี้ผมได้เห็นหมดแล้ว คุณธินิดานั้นถือว่าเป็นคนฉลาดจริงๆ “อนุชิตยื่นมือไปลูบผมของธินิดา
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อนนะคะ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ฉันต้องไปทำเลย”ธินิดารู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย เรื่องที่ตนเตรียมการมาถูกอนุชิตดูออกอย่างนั้นเหรอ?เป็นไปไม่ได้ ตนฝึกฝนการแสดงมาตั้งหลายครั้งอย่างไม่มีข้อบกพร่องใดๆ แล้ว
“อืมดีแล้วล่ะครับคุณธินิดา อย่าเศร้าเกินไปเลย หากคุณเศร้าเกินไปผมคงปวดใจแย่ ผู้หญิงที่มีทั้งความกล้าหาญและกลยุทธ์อย่างคุณ ผมชอบมากเลยล่ะ”อนุชิตพูดจาอย่างรักใคร่กับธินิดา
“เหอะเหอะ คุณชายอนุชิตชมกันเกินไปแล้ว ฉันมีเรื่องต้องไปจัดการจริงๆ ขอตัวก่อนนะคะ”แม้ว่าธินิดาจะรู้สึกว่าอนุชิตนั้นชมหล่อนแต่กลับรู้สึกว่ารัศมีของเขานั้นมันช่างเยอะเสียเหลือเกินจนหล่อนรู้สึกร้อนตัวขึ้นมาเล็กน้อย
ธินิดารีบเดินจากไปส่วนอนุชิตยังยืนอยู่ที่เดิมพร้อมกับมองไปที่แผ่นหลังของธินิดาและหรี่ตาลง ผู้หญิงคนนี้นั้นไม่ง่ายเลยทีเดียว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็กล้าทำไปหมดแต่ยังไงซะหล่อนก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่ดี ไม่ต้องรีบร้อนไป!
อนุชิตมองดูนิตย์รวีร์อีกครั้ง ชายคนนี้นั้นช่างโง่เขลาอย่างหาที่สุดไม่ได้ดันไปชอบผู้หญิงที่ใจดำอำมหิตเช่นนี้ สุดท้ายแม้แต่ชีวิตของตนก็ยังถูกปลิดชีพไปอีก ช่างไม่คุ้มค่าเอาซะจริง
หลังจากออกมาจากฌาปนสถาน อนุชิตก็ได้โทรไปหาน้องสาวของเขา
“ฮัลโหล ธีรนัยน์”ยังไม่ทันที่คำพูดของอนุชิตจะพูดจบ อีกฝ่ายก็เริ่มพูดออกมาอย่างไม่สบายใจนัก
“อนุชิต นายกลับมาเลยนะ นายให้ฉันกลับมานี่มันหมายความว่าอะไรกัน?อมรถิรจินดากรุ๊ปเป็นของนายทำไมนายไม่จัดการเอง เอาฉันมาทำอะไรที่นี่กัน?”น้ำเสียงของธีรนัยน์นั้นสูงปรี๊ดจนทำให้อนุชิตต้องยกหูโทรศัพท์ให้ออกห่างจากตัวเอง
“ธีรนัยน์ เธอไม่ต้องรีบร้อนหรอก ฉันจะรีบไปช่วยเธอเองเพียงแต่ว่าฉันจะต้องไปจัดการอะไรบางอย่างก่อน เกิดเรื่องกับมุกดา เธอเองก็คงช่วยอะไรไม่ได้อยู่แล้วแต่ฉันสามารถช่วยมุกดาได้ไง”อนุชิตเล่าเรื่องของมุกดาให้น้องสาวฟัง
เมื่อเขาพูดจบ ธีรนัยน์ก็ไม่ได้โหวกเหวกโวยวายอีกต่อไป เธอไม่มีความสามารถเท่ากับพี่ชายของเธอจริงๆ หากเป็นเรื่องของการต่อสู้หรือด้านการจัดการก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นในเรื่องของเส้นสาย เธอยังห่างไกลอนุชิตอีกเยอะ
“งั้นได้ แต่นายจะต้องมาเล่าสถานการณ์ให้ฉันฟังด้วยนะ ฉันช่วยนาย นายก็ไปช่วยมุกดาซะ!”ในตอนนี้น้ำเสียงที่ดูเย็นชาของธีรนัยน์ก็กลับมาอีกครั้ง