ลูซี่วิเคราะห์ให้ชลธีฟังว่าเขาไม่สามารถไปรับผิดแทนได้ ไม่เช่นนั้นตำแหน่งของตระกูลสุวรรณเลิศก็จะว่างและมันจะเป็นการเปิดโอกาสให้ใครบางคนอีกด้วย
“งั้นจะทำยังไง ฉันเองก็ไม่สามารถให้เธอไปติดคุกได้หรอกนะ ตอนนี้เธอเองก็ติดคุกมานานมากแล้วด้วยและฉันทำได้แค่มองดูอยู่แบบนี้”ชลธีนั้นแทบบ้าเมื่อเห็นมุกดาต้องอยู่ในนั้นอย่างยากลำบากแต่เขากลับทำได้แต่แค่มองดูเธอ ช่วยเหลืออะไรเธอไม่ได้เลย
“ตอนนี้นายทำได้แค่มองดูเท่านั้นแหละแต่เราก็ยังมีโอกาสกันอีกไม่ใช่เหรอไง?พวกเราสามารถหาทนายความที่ดีที่สุดให้กับมุกดาได้และพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะช่วยลดความรับผิดชอบต่อการกระทำผิดได้ เวลาของพวกเราในครึ่งเดือนนี้ไม่เพียงพอแถมพวกคนก็คงเตรียมป้องกันกันอย่างเข้มงวดด้วย มันเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเราที่จะหาเบาะแส”ลูซี่พูดกับชลธี
“งั้นหมายความว่าพวกเราไม่ต้องทำอะไรอีกแล้วงั้นเหรอ ทำได้แค่รอให้มุกดาติดคุกรอจนกว่าการป้องกันระมัดระวังจะลดน้อยลงแล้วค่อยตรวจสอบงั้นเหรอ?” ในเวลานี้ชลธีสงบลงเล็กน้อย
“อืม ใช่ ตอนนี้พวกเราทำได้เพียงเท่านี้ หากทำการตรวจสอบต่อไปล่ะก็มันคงจะเป็นการตีหญ้าให้งูตื่นเป็นอย่างมากเลยล่ะ อีกอย่างการที่เราออกไปตรวจสอบตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีที่สุดด้วย”ลูซี่มองมาที่ชลธี เพื่อนของตนนั้นรักมุกดามากจริงๆ เขาสามารถยอมตายเพื่อมุกดาได้
ในเวลานี้ลูซี่จึงรู้สึกเศร้าเล็กน้อยเมื่อคิดว่าตนไม่ได้เจออนุชิตมานานมากแล้วและหล่อนเองก็แอบหลงรักเขามานานอีกด้วยแต่อนุชิตนั้นกลับไม่ได้มีใจอะไรให้หล่อนเลยแม้แต่น้อย
“อืม ฉันเข้าใจความหมายแล้ว ฉันจะไปจัดการให้เอง ส่วนหล่อนเองก็ไม่ต้องตรวจสอบอะไรต่อทั้งนั้นมันจะง่ายต่อการเปิดโปงเป็นอย่างมาก”ในเวลานี้ชลธีนั้นสงบลงมาแล้ว เขาต้องปรับแผนใหม่
มุกดายังอยู่ในคุกและการพิจารณาคดียังไม่เริ่มต้นขึ้น เนื่องจากมีชลธีคอยหนุนหลังช่วยเหลืออยู่นั่นจึงทำให้มุกดาไม่ได้ลำบากมากนัก แม้ว่าสภาพแวดล้อมจะไม่ได้ดีแต่อย่างน้อยมันก็ไม่ได้สกปรกขนาดนั้น ข้าวก็สามารถพอกินให้อิ่มท้องได้
“มุกดา ไหนเธอลองเล่าเรื่องในตอนนั้นให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม” หัวหน้าทีมกลับเข้ามาในห้องของเธออีกครั้งจากนั้นสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนั้น
“ได้สิ” มุกดาจึงได้เล่าเรื่องราวในวันนั้นอีกครั้ง
“เรื่องในตอนนั้นก็เป็นแบบนี้ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงมีพิษมาติดอยู่ที่มือของฉันได้ มือของฉันเองถูกธินิดาจับมาก่อนด้วย คุณเองก็คงจะพอเห็นได้จากคลิปวิดีโอ” มุกดาพูดกับหัวหน้าทีม
“แต่ว่าตอนที่ธินิดาจับมือของเธอ มันเป็นตอนที่นิตย์รวีร์นั้นดื่มชาเข้าไปแล้วไง หรือจะพูดได้ว่าน้ำที่นิตย์รวีร์ดื่มไปก่อนหน้านี้มีพิษอยู่แล้วและมีเพียงเธอเท่านั้นที่สัมผัสไปที่แก้วของเขา ดังนั้นเหตุการณ์ทั้งหมดนี้มันช่างไม่เอื้ออำนวยต่อเธอมากเลยล่ะ ประธานชลธีเองก็ไปหาหลักฐานมาให้เธออยู่แต่ฉันเองก็คาดเดาเอาไว้ว่ามันไม่น่าจะมีประโยชน์อะไร เฮ้อ มันช่างยากที่จะรับมือจริงๆ “หลังจากที่หัวหน้าทีมได้ฟังแล้วเขาก็นึกไม่ออกเลยจริงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ไม่เพียงแต่หัวหน้าทีมเท่านั้นที่นึกไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้นแม้แต่ชลธีเองก็ยังไม่รู้เลยว่ามีการวางยาไปตอนไหนกัน หากมองดูไปที่วิดีโอนั่นก็เห็นแค่เพียงมุกดาจับไปที่ถ้วยน้ำชาของนิตย์รวีร์คนเดียวเท่านั้น
“มุก ตอนนี้เรายังไม่พบหลักฐานอะไรที่มีน้ำหนักพอเลยแต่ยังไงซะฉันก็จะลองพยายามหาทางอย่างสุดความสามารถ เพียงแค่เธอจะรู้สึกน้อยใจก็เท่านั้นเอง” ชลธีมองไปที่ใบหน้าอันผอมแห้งของมุก ในใจของเขามีเลือดไหลออกมาซิบๆ
“ไม่เป็นไรเลย ตอนนี้ฉันเองก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรด้วย อีกอย่างพวกเขาก็ปฏิบัติต่อฉันอย่างสุภาพ”เมื่อมุกดาได้ยินหัวหน้าทีมพูดว่าชลธีนั้นวิ่งเต้นเรื่องให้เธออยู่ เธอก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้ว
ในตอนนั้นชลธีเองก็ห้ามไม่ให้เธอไปพบกับธินิดาแต่เธอไม่ฟังเอง ดังนั้นเธอถึงได้มาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
“ชล ฉันมันไม่ดีเอง ฉันควรจะเชื่อฟังนาย” มุกดาขอโทษชลธี
“จะไปโทษเธอได้ยังไงกันล่ะ นี่มันถูกวางแผนมาหมดแล้ว เธอเพียงแค่ติดเข้าไปในกับดักนั้นเท่านั้นเอง ถ้าจะโทษก็ต้องโทษฉันที่ฉันไม่สามารถปกป้องเธอได้ ฉันเองก็ประมาทเกินไป”ในเวลานั้นเขาคิดว่าการที่ธินิดานัดมาที่โรงน้ำชาของนีรชานั้นแสดงให้เห็นว่าหล่อนไม่มีความเกรงกลัวใดๆ จะไปรู้ได้ยังไงกันล่ะว่าหล่อนจะไปจัดการมุกดาที่โรงน้ำชาของนีรชานั่น
“นายกลับไปก่อนเถอะ ฉันคิดดีแล้วว่าถ้าหากยังจัดการไม่ได้ก็ต้องเป็นแบบนี้ไปก่อน รอให้การจัดการผ่อนคลายลงแล้วนายก็ค่อยทำการตรวจสอบต่ออีกก็ได้” มุกดาปลอบใจชลธี ในใจของเธอนั้นชัดเจนแจ่มแจ้งว่าธินิดานั้นเป็นคนที่พิถีพิถันและเข้มงวดเป็นอย่างมาก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหาข้อบกพร่องของหล่อนในเวลาอันสั้นเท่านี้
การที่หล่อนใช้ชีวิตของนิตย์รวีร์มาเดิมพัน มันคงเป็นการวางแผนที่ดีแล้วอย่างแน่นอน
“มันก็ทำได้เพียงเท่านี้แหละ ช่วงนี้ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะย้ายออกมาสอบสวนอย่างลับๆ แทน จะได้ไม่มีใครพบได้ บางทีฉันอาจจะไม่พบหลักฐานที่มีน้ำหนักมาพอก่อนวันพิจารณาคดี ดังนั้นเธออาจจะต้องทนทุกข์สักหน่อยนะมุก”ชลธีมองไปที่มุกดาอย่างรู้สึกไม่ดี
“ไม่ต้องกลัว ต่อให้ลำบากแค่ไหนฉันก็ไม่กลัวตราบใดที่มีนายกับลูกๆ ของเราก็พอแล้ว”มุกดาเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่ไหลรินจากแก้มของชลธี เขาไม่ได้ปิดซ่อนความรู้สึกของตนเองเลยแม้แต่น้อย
ชลธีเดินจากไปแล้ว มุกดาเองก็ได้คิดอยู่เป็นเวลานานแล้วว่าธินิดานั้นวางแผนจะทำร้ายตนแต่กลับคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“สติปัญญาของฉันนี่แย่ลงเรื่อยๆ เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง” มุกดาหัวเราะเยาะตนเอง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรเวลาครึ่งเดือนก็ผ่านพ้นไปและถึงวันพิจารณาคดีของมุกดา
การพิจารณาคดีทั้งหมดไม่มีข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากหลักฐานที่แน่ชัดทำให้มุกดาถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมนิตย์รวีร์ เพียงแค่เธอยอมจำนนเธอก็จะได้รับการผ่อนปรนเป็นจำคุกตลอดชีวิต
ในที่สุดเมื่อมุกดานั้นถูกพาตัวออกไป ในใจของธินิดาก็รู้สึกผ่อนคลาย ตลอดชีวิต ฮ่าฮ่าฮ่า เกรงว่าถ้าเข้าไปก็คงไม่ได้มีชีวิตออกมาแล้วล่ะแล้วท้ายที่สุดชลธีจะกลายเป็นของใครกันล่ะ?ก็ต้องเป็นธินิดาอยู่แล้ว ชลธีนั้นยังอ่อนเยาว์และเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปกป้องผู้หญิงคนหนึ่งไปตลอดชีวิต หากเขาต้องการหาหญิงสาวล่ะก็หล่อนนี่แหละคือตัวเลือกที่ดีที่สุด
ความภูมิใจของธินิดานั้นพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เมื่อตอนหล่อนออกมาและพบเจอนักข่าวถามคำถาม หล่อนยังช่วยเหลือมุกดาพูดอีกด้วย บอกว่ามุกดาอาจหลงผิดไปเช่นเดียวกับตอนชุติภาสที่ถูกมุกดาฆ่าไปโดยไม่มีเจตนา
หล่อนพูดให้มุกดาหลุดพ้นอะไรกันล่ะ นี่มันเป็นการพูดเพื่อเพิ่มอาชญากรรมให้มุกดาชัดๆ
“คุณธินิดา คุณจิตใจดีมากเลย หากใครมาได้คุณเป็นภรรยาคงจะเป็นโชคดีของเขาแน่ๆ ” มีนักข่าวหญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างดัง
“เธอก็ชมกันเกินไปแล้ว ชมกันเกินไปแล้วค่ะ ฉันจะไปดีขนาดนั้นได้ยังไงกันเพียงแค่ผู้คนนั้นต่างก็ต้องพึ่งจิตสำนึกของตนเอง ฉันเป็นคนที่จะไม่ทำสิ่งที่ขัดต่อความผิดชอบชั่วดีเลยค่ะ” ธินิดานั้นพูดราวกับว่าตนคือพระแม่มารีอย่างไงอย่างงั้น
“คุณธินิดาครับ เราได้ยินมาว่าคุณกำลังจะแต่งงานกับคุณนิตย์รวีร์ผู้ตายใช่ไหมครับ ผมอยากจะขอถามสักหน่อยว่าพวกคุณมีทะเบียนสมรสกันหรือยัง?”มีนักข่าวคนหนึ่งถามคำถามที่คาดไม่ถึงขึ้นมา