ธีรเมทอุ้มมุกดามาที่ห้องส่วนตัวที่ไม่มีใคร หลังจากเข้าไปด้านในแล้ว เขาก็จัดการล็อกประตูเรียบร้อย
เขาวางมุกดาลงบนโซฟา มองไปที่ใบหน้าเรียงสวยของมุกดา หน้าอกที่อิ่มเอิบ เรียวขายาวสมส่วน เขารู้สึกว่าระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาเขาเสียเวลาเปล่าจริงๆ
ในช่วงสามปีที่ผ่านมาในใจของเขามีแต่ตระกูลแก้วสุทธิ ในที่สุดเขาก็สามารถทำให้ตระกูลแก้วสุทธิล้มละลายได้แล้ว ทว่าเขาได้บังเอิญพบกับเมธพรที่ยอมร่วมเตียงเคียงหมอนกับตัวเองก่อน ธีรเมทถึงได้เพิกเฉยละเลยต่อคู่หมั้นที่แท้จริงของตัวเองโดยสิ้นเชิง
ตอนนี้มองดูแล้ว เมธพรไหนจะรูปร่างดีเท่ามุกดา มองเรือนร่างของมุกดาแล้ว จมูกของเขาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
ยื่นมือออกไปลูบ พบว่าตัวเองเลือดกำเดาไหล ฮ่าๆๆ มุก ฉันมาแล้ว เธอก็สนุกกับมันไปแล้วกัน
ธีรเมทโน้มตัวลงจูบลงบนแก้มของมุกดา ผิวนุ่มลื่นเรียบเนียนนั่น ดึงดูดให้ร่างกายของธีรเมทเกิดปฏิกิริยาตอบสนองอย่างมากขึ้นมา
มุกดาสะลึมสะลือ ฝันว่าสุนัขที่ตนเองเคยเลี้ยงตัวหนึ่ง กำลังเลียใบหน้าของตนอยู่
“บิลลี่ อย่าเลีย สกปรก” มุกดาพูดขึ้น
แต่ธีรเมทไหนจะอดใจไหว เขาจูบลงตรงซอกคอของมุกดา
“เพี๊ยะ” เสียงดังสนั่น มุกดาตบหน้าธีรเมทไปหนึ่งที
เมื่อฝ่ามือของมุกดาเจ็บแปลบขึ้นมา เธอก็ตื่นทันที และเมื่อเธอเห็นว่าตรงหน้าของเธอไม่ใช่สุนัขที่ชื่อบิลลี่ตัวนั้น แต่เป็นธีรเมท เธอก็กรีดร้องขึ้นมาทันที
“มุก เธอยังลืมฉันไม่ลงใช่หรือเปล่า ฉันมากินข้าวที่นี่เธอก็ตามมาจนถึงที่นี่เลย ถ้าอย่างนั้นฉันจะเติมเต็มความปรารถนาของเธอเอง” ธีรเมทถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก
เขากระโจนเข้าหาตัวมุกดาอีกครั้ง เริ่มจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของมุกดา
“ไสหัวไป ฉันบอกว่าให้ออกไป ธีรเมทไอ้สารเลว!” ตอนนี้มุกดาสร่างเมาโดยสมบูรณ์แล้ว เธอดิ้นรนอย่างสุดกำลังด้วยความตกใจ
“มุก เธอไม่ต้องแสร้งหรอก เธอถึงขนาดตามมาถึงที่นี่แล้ว นี่มันแสดงถึงอะไร แสดงว่าเธอยังไม่ลืมฉันยังไงล่ะ ฉันก็ลืมเธอไม่ได้เหมือนกัน ที่รัก มา ให้ฉันได้รักเธอดีๆ สักครั้งเถอะ” ธีรเมทฉีกเสื้อเชิ้ตของมุกดาออกหมดแล้ว เผยให้เห็นเนินอกขาวผ่องขนาดใหญ่ปรากฏออกมา
เมื่อได้เห็นทัศนียภาพนั้น ธีรเมทก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ เขาหันไปดึงกระโปรงของมุกดา
“อ๊ะ! ช่วยด้วย ช่วยด้วย!” มุกดาดิ้นรนอย่างสุดกำลัง แต่เรี่ยวแรงของเธอไหนจะเท่าแรงมหาศาลของธีรเมท บวกกับตอนนี้สมองคิดแต่เรื่องอย่างว่าอสุจิขึ้นสมองไปแล้ว เขาไม่สนใจอะไรแล้ว
ในที่สุดมุกดาก็ถูกธีรเมทกดลงบนโซฟา เธอทั้งเตะทั้งตีแต่มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย มองดูเสื้อผ้าที่กำลังจะถูกดึงออกไปจนหมดแล้ว
น้ำตาแห่งความอัปยศหลั่งไหลออกมาจากมุมตาของมุกดา ชีวิตของเธอคนอย่างมุกดามันขมขื่นขนาดนี้เลยเหรอ?
เมื่อธีรเมทเห็นมุกดาไม่ดิ้นรนต่อสู้ต่อไปแล้ว เขาก็เริ่มถอดกางเกงของตัวเองออกอย่างสบายใจ
“ปัง!” ประตูห้องส่วนตัวถูกถีบให้เปิดออกภายในครั้งเดียว
ชลธีรีบพุ่งเข้าไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาดึงธีรเมทออกไปด้วยมือเดียว ประวีร์ที่ตามมาทางด้านหลังเข้าไปทั้งเตะทั้งต่อยทั้งถีบธีรเมท
ชลธีถอดเสื้อของตัวเองออก คลุมร่างของมุกดาไว้ แล้วเขาก็เข้าไปอุ้มมุกดา
“อย่าแตะต้องตัวฉัน อย่าแตะตัวฉัน” มุกดาส่ายหน้าไปมาไม่หยุด
“ประธานชลธี ผมเองดีกว่า ผมเป็นคนพาเธอออกมา ตอนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ควรเป็นผมที่ต้องจัดการ” ประวีร์พูดอย่างเสียใจ
ชลธีไม่สนใจประวีร์ เขาอุ้มมุกดาขึ้นโดยไม่สนใจว่าเธอยังตัวสั่นอยู่ ก่อนจะเดินออกจากร้านอาหารไป
คนในอ้อมแขนตกใจจนเสียขวัญไปแล้ว เธอยังสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว คนที่กล้าฟาดเงินใส่หน้าเขา ผู้หญิงแกร่งที่กล้าขว้างก้อนหินใส่รถของเขาคนนั้นหายไปแล้ว
ในตอนนี้สภาพผู้หญิงตัวเล็กๆ ของเธอปรากฏออกมาทั้งหมด ดูแล้วทำให้คนอื่นต้องปวดใจตามไปด้วย
“อยากร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะ” ชลธีพูดอย่างปวดใจ เห็นท่าทางอดกลั้นอยู่ตลอดแบบนั้นของเธอแล้ว เขาปล่อยวางไม่ลงจริงๆ
แต่มุกดากลับไม่ร้องไห้ เธอไม่พูดอะไร แล้วก็ไม่ดิ้นรนต่อสู้ เพียงแค่อยู่ในอ้อมแขนของชลธีอย่างเงียบๆ
ชลธีพามุกดาไปส่งที่คฤหาสน์ นัทธ์ไม่กล้าถามอะไร แค่บอกให้คนต้มโจ๊กให้มุกดาแล้วเอาไปส่งให้เธอ
ชลธีหันตัวเดินออกไป นัทธ์เดินตามหลังเขาไป
“คุณชาย คืนนี้คุณชายจะออกไปอีกเหรอครับ? คุณผู้หญิงดูท่าไม่ค่อยดีเลย” นัทธ์พูดกับชลธี
“เธอไม่เป็นอะไรหรอก เธอเป็นต้นหญ้าที่แข็งแรง ให้คุณหมอดูแลเธอให้ดี ช่วงนี้ผมอาจจะไม่ได้กลับมาสักระยะ” ชลธีพูดจบ ก็เดินจากไปอย่างไม่อาลัยอาวรณ์อะไรอีกเลย
นัทธ์ถอนหายใจ เกิดอะไรขึ้นกับคุณผู้หญิง? ท่าทางแย่ขนาดนั้น ทะเลาะกับคุณชายมาหรือเปล่า ก็ไม่เหมือนนี่นา คุณผู้หญิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสามีของตัวเองเป็นใคร
ช่างมันละ ความคิดของเจ้านายล้ำลึกเกินไป เขาคาดเดาไม่ได้ ไปดูแลคุณผู้หญิงให้ดีจะดีที่สุด
มุกดาไม่กินอะไรเลย เธอทำอยู่แค่สองอย่าง อย่างแรกคือไปอาบน้ำ ขัดถูกอย่างแรง ถูจนเนื้อตัวแดงไปหมด จนผิวหนังแทบจะหลุดลอกออกมาแล้ว
อีกอย่างคือนั่งพิงหัวเตียงเหม่อลอย หลังจากเหม่อลอยสักพัก เธอก็เข้าไปอาบน้ำอีก ซ้ำไปซ้ำมา
นัทธ์กลัวจะเกิดเรื่องขึ้นกับมุกดา จึงให้พี่เลี้ยงที่ค่อนข้างวัยรุ่นคอยเฝ้าอยู่ในห้องนอนของมุกดา แต่มุกดากลับทำเหมือนคนคนนั้นไม่มีตัวตนอยู่ยังไงอย่างนั้น
นัทธ์อยากโทรศัพท์ไปหาชลธี แต่ชลธีกลับไม่ยอมรับสาย
ความรู้สึกสดใหม่ของคุณชายมันผ่านไปแล้วเหรอ ทำไมถึงไม่สนใจคุณผู้หญิงเลย?
สี่คืนติดต่อกัน ชลธีไม่กลับมาที่คฤหาสน์เลย มุกดาก็ไม่ไปทำงาน สภาพของเธอแย่เอามากๆ สี่วันมานี้เธอไม่พูดคุยกับใครเลยแม้แต่ประโยคเดียว
ในวันที่ห้า มีแขกท่านหนึ่งมาที่คฤหาสน์ หล่อนมาเยี่ยมมุกดาแล้ว
มุกดานั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก กำลังทานผลไม้ ดูโทรทัศน์ ทั้งๆ ที่เป็นหนังตลก แต่ตั้งแต่ต้นจนจบมุกดากลับไม่เคยหัวเราะออกมาเลย
“คุณหญิง นั่นคือคุณผู้หญิงครับ ผมจะไปเรียกเธอ” นัทธ์บอกกับนีรชา
“ไม่ต้อง ได้ยินว่าช่วงนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดี ฉันก็เลยมาดูเธอหน่อย” นีรชาโบกมือให้นัทธ์
เธอเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าของมุกดาช้าๆ และนั่งลงข้างๆ เธอ
มุกดารู้สึกได้ว่ามีใครบางคนอยู่ข้างๆ เธอ เธอจึงหันไปมอง แอปเปิลที่กำลังกินอยู่หลุดหล่นลงจากมือทันที
“แม่?” มุกดาร้องเรียกนีรชา
“อืม” นีรชาเองก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบหน้ากัน เธอรู้ได้ยังไงว่าตนเองเป็นแม่ของเธอ
“แม่ ใช่แม่จริงๆ เหรอคะ? แม่คะ แม่ หนูคิดถึงแม่จังเลย” ห้าวันแล้ว ในที่สุดมุกดาก็ยอมพูดแล้ว เธอแนบตัวเข้าไปในอ้อมแขนของนีรชา และเริ่มร้องไห้ขึ้นมา
นีรชาตบหลังของเธอเบาๆ อย่างรักและสงสาร เธอเองก็รู้สึกว่าตัวเองชอบเด็กสาวคนนี้มากเหมือนกัน ดูแล้วสวยสดใสสมวัยมาก เจอกับตนเองครั้งแรกยังมีมิตรไมตรีถึงขนาดนี้
“เด็กน้อย ไม่ร้องนะ ไม่ร้อง ดูสิร้องไห้แล้วดูไม่สวยเลย” นีรชาเชยให้มุกดาเงยหน้าขึ้น ใช้กระดาษทิชชูช่วยเช็ดน้ำหน้าบนหน้าของเธอ
“แม่คะ อย่าไปนะ อย่าไปนะคะ” มุกดาจับมือนีรชาเอาไว้แน่น จ้องมองมาที่หล่อนด้วยดวงตาเปียกปอน นีรชาเห็นอย่างนั้นหัวใจแทบจะละลายเลย