ธีรเมทได้รอให้มุกดากินโจ๊กให้หมดจริงๆ เขาพยุงมุกดาขึ้นมา เตรียมที่จะพาเธอไปส่ง
ตอนที่ธีรเมทออกมาจากบ้าน ธีรเมทเหมือนกับได้ค้นพบกับอะไรบางอย่าง เขาจึงโอบมุกดาเอาไว้ในอ้อมแขน
“คุณทำอะไร?” มุกดาอยากจะผลักเขาออกไป แต่ธีรเมทก็ได้พูดกับมุกดาออกมาเบาๆ “อย่าขยับ มีปาปารัสซี่อยู่ ผมเห็นแสงสปอตไลท์”
มุกดามองไปเล็กน้อยเหมือนกับได้ค้นพบแล้วเหมือนกันว่ามีคนกำลังตามพวกเขาอยู่ ภายในใจของเธอถึงแม้ว่าจะบริสุทธิ์ใจ แต่ถึงยังไงตอนนี้ก็กำลังอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง ถ้าตนถูกถ่ายภาพเอาไว้ อย่างนั้นแล้วจะเป็นการถูกปรักปรำโดยที่ไม่อาจหาอะไรมาลบล้างมลทินออกไปจากเธอได้
เธอก้มหน้าลงไป แล้วขึ้นรถของธีรเมทไป ธีรเมทก็ได้ขับรถออกไป สลัดออกไปจากนักข่าวพวกนั้น
ตอนที่ไปถึงบ้าน มุกดาก็ได้ลงจากรถ เธอเอ่ยขอบคุณธีรเมทออกไป แล้วเข้าประตูบ้านของตัวเองไป
“มุก วันนี้ลูกป่วยขึ้นมาเหรอ? งั้นลูกไปอยู่ที่ไหนมาน่ะ? ไม่โทรมาหาแม่เลย” ตอนที่นีรชาเจอมุกดา เธอก็ร้อนใจอย่างมาก
“ฉันเป็นลมสลบไปค่ะ เมื่อคืนวันนี้ฉันเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา มีคนแปลกหน้าคนหนึ่งมาช่วยฉันเอาไว้” มุกดาไม่อยากบอกไปว่าธีรเมทช่วยเธอเอาไว้ เธอกลัวว่านีรชาจะเข้าใจผิด เพราะว่าต่างก็รู้กันอยู่ว่าธีรเมทเป็นสามีเก่าของเธอ
“อ้อ แล้วตอนนี้ลูกเป็นยังไงบ้าง? ยังไม่สบายที่ตรงไหนอีกหรือเปล่า?” นีรชาถามออกมาด้วยความเป็นห่วง
ตอนนี้อักลี่ได้นอนหลับไปแล้ว นีรชาเองก็ไม่มีงานอะไรแล้ว
มุกดายุ่งมากเกินไป นีรชาจึงได้เข้ามาเลี้ยงดูอักลี่ด้วยตัวเอง เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมา เธอก็ไม่วางใจที่จะปล่อยให้อักลี่อยู่บ้านคนเดียว
การมาเยือนของเธอได้ทำให้ในทุกๆวันของรวินท์ไม่มีอะไรต้องทำเลย ทำให้เธอต้องไปทำงานอย่างอื่น เธอพูดอยู่เสมอว่าจะเลี้ยงดูคุณชายน้อยเอง สรุปแล้วก็คือไม่อยากขยับเขยื้อนไปไหนนั่นเอง
นีรชาได้ถามคำถามอื่นๆออกมาอีก มุกดาบอกว่าตนได้กินอะไรมาเรียบร้อยแล้ว เธอจึงไม่ได้รั้งมุกดาเอาไว้อีก นีรชารู้เหมือนกันว่าในทุกๆวันมุกดานั้นเหนื่อยมาก จึงได้ให้เธอได้ไปพักผ่อนเร็วๆหน่อย
เมื่อกี้นี้รถที่มาส่งมุกดา คนอื่นต่างไม่รู้จักกัน แต่ว่ารวินท์นั้นรู้จัก เธอค้นพบว่าธีรเมทเป็นคนมาส่งมุกดากลับมา ความเกลียดชังที่เธอมีต่อมุกดาได้เพิ่มมากขึ้นไปอีก
กลับมาถึงห้องตัวเอง รวินท์ได้โยนหมอนที่อยู่บนเตียงลงไปบนพื้น แล้วกระทืบลงไปอย่างแรงหลายที
“มุกดา มุกดา ทำไมแกถึงแย่งอะไรๆจากฉันไปหมด? แกได้เป็นภรรยาของชลธีไปแล้ว แล้วยังมีลูกแล้ว แกยังคิดจะมาแย่งธีรเมทกับฉันอีกเหรอ?”
แต่มุกดาที่รวินท์เกลียดนั้นไม่ได้รู้เลยว่าทำไม เธอพักผ่อนเสร็จแล้ว ก็ได้เริ่มยุ่งขึ้นมาอีก
มุกดายุ่งจนไม่มีเวลาอ่านข่าวเลย และเธอก็ยังต้องไปดูชลธีอยู่ทุกวัน
แต่ว่าเธอได้ค้นพบว่าสายตาที่หลายคนมองเธอมานั้นได้เปลี่ยนไปหมด เปลี่ยนไปจนแปลกไปหมด
น้ำที่ห้องทำงานมุกดาหมดลง เธอจึงไปชงชาไปที่ห้องเก็บอาหาร ตอนที่เธอยังไม่เดินเข้าไป ก็ได้ยินคนที่อยู่ด้านในกำลังถกเถียงเรื่องอะไรบางอย่างกันอยู่
“ไอ๊หยา ดูเรียบร้อยมากอย่างนั้น นึกไม่ถึงว่าจะเป็นผู้หญิงที่ทนความเหงาไม่ไหวคนหนึ่ง”
“ใช่ๆ เธอลองดูคลิปสิ ช่างทำให้คนอื่นเขารู้สึกกลัวกันจริงๆเลย ประธานชลธีของพวกเรายังนอนอยู่บนเตียง หล่อนก็สามารถหาผู้ชายคนอื่นได้แล้ว แล้วยังเป็นสามีเก่าของหล่อนอีก!”
ด้านในไม่รู้ว่ามีอยู่กี่คน แต่ทุกคนต่างก็พูดกันมาคำหนึ่ง มุกดาถึงจะโง่มากแค่ไหนก็ฟังออกว่ากำลังว่าเธอกันอยู่
มุกดาผลักประตูเข้าไป เธอมองพนักงานหญิงเหล่านั้นไปด้วยสายตาเย็นชา พนักงานสาวเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าประธานบริษัทของตัวเองจะมาที่ห้องเก็บอาหารได้
“ฉันจะไปเข้าห้องน้ำหน่อย”
“ฉันยังมีงานต้องไปทำ ท่านประธานพวกเราขอตัวก่อนนะคะ” เห็นสีหน้าของมุกดาแล้วไม่ได้ดีนัก พนักงานสาวเหล่านี้จึงรีบแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็ว
มุกดารับน้ำมา แล้วกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง ในตอนนี้รณรัตก็ได้กรอกน้ำเข้ามา
“รณรัต ช่วงนี้ที่พระนครมีข่าวอะไรที่เกี่ยวกับฉันหรือเปล่า?” มุกดาถามเขา
รณรัตเปลี่ยนน้ำแล้ว ก็เดินเข้าไปตรงหน้าของมุกดา เขาเปิดโทรศัพท์ออกมา ด้านในมีคลิปท่อนหนึ่ง รณรัตยื่นไปให้มุกดา
มุกดารับโทรศัพท์ของรณรัตมา เธอมองไปแป๊บหนึ่ง ที่แท้วันนั้นตอนที่เธอกับธีรเมทอยู่ด้วยกัน คลิปก็ได้ถูกคนบันทึกเอาไว้แล้ว เมื่อตอนนั้นธีรเมทนั้นเพื่อที่จะให้เธอไม่ถูกถ่ายไป ยังซ่อนเธออยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง แต่ว่าในนาทีที่ตนเพิ่งจะเดินออกมานั้นเอง ก็ได้ถูกคนถ่ายไปเสียแล้ว
“รณรัตนายไปสืบดูสักหน่อย อันนี้เป็นใครกันที่ปล่อยลงไปในเน็ต” มุกดาสั่งรณรัตให้ไปตรวจสอบแหล่งที่มาของคลิป
“ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้” รณรัตได้ลงไป ตอนนี้ธีรนัยน์ก็ได้เข้ามา
“มุก คลิปนี้ฉันไปเจอแหล่งที่มามาแล้ว เป็นฝีมือของนักข่าวคนหนึ่ง นักข่าวคนนั้นก็คือคนที่สร้างความลำบากใจให้เธอเมื่อตอนที่เธอเปิดการแถลงข่าวครั้งที่แล้วคนนั้นไง” ธีรนัยน์พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน เธอก็ได้เห็นคลิปนั้นไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
“อ้อ เป็นเขานั้นเอง! น่าเบื่อเกินไปแล้วจริงๆ เขาคิดจะทำอะไรกัน?” มุกดาคิดว่านักข่าวคนนี้ราวกับว่าจะมีคนจงใจเตรียมเอาไว้ ถ้าคาดเดาไม่ผิดแล้วล่ะก็ คงจะเป็นฝีมือของธีรเมท ไม่อย่างนั้นแล้วจะได้กลิ่นไวขนาดนี้ได้ยังไง ตนเองมีเรื่องพอดี เขาก็ได้เฝ้าอยู่พอดี
“มุก เธอคิดว่าเรื่องนี้ใครเป็นคนที่คอยบงการอยู่?” ภายในใจของธีรนัยน์ก็มีตัวเลือกอยู่คนหนึ่งแล้ว เธอมาหามุกดาเพื่อขอรับการยืนยัน
“ฉันคิดว่าคงจะเป็นธีรเมท เขาคนนี้ชอบทำตัวอวดฉลาดอยู่ตลอด ยังนึกว่าพวกเราไม่รู้กัน ตอนนี้เขาคิดจะทำลายชื่อเสียงของฉัน!” มุกดาพูดกับธีรนัยน์
“อืม ฉันเองก็คิดว่าคงจะเป็นเขาด้วยเหมือนกัน แต่ว่าเขาทำอย่างนี้ไปมีจุดประสงค์อะไรกันล่ะ? เรื่องพวกนี้มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับเขาเลยนะ?” ธีรนัยน์ไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว
“เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ช่วงนี้เขาได้สืบทอดมรดกก้อนใหญ่มา คงจะอยู่ในช่วงที่กำลังได้ใจมากเลย มาตีสนิทกับฉันในตอนนี้เหมือนกับว่าผลกระทบต่อเขาก็ไม่ได้ดีเหมือนกัน! ยังไม่รู้เลยจริงๆว่าเขามีความคิดที่จะทำอะไรกันแน่!” ถึงแม้ว่ามุกดากับธีรนัยน์ต่างก็คาดเดาได้ว่าเป็นฝีมือของธีรเมท แต่กลับคิดไม่ตกเลยว่าทำไมเขาถึงต้องทำอย่างนี้เลย
“งั้นพวกเราก็รอกันอีกหน่อยแล้วกัน ลองดูว่าเขาต้องการจะทำอะไรกันแน่” ในตอนนี้คิดไม่ตกเลยสักอย่าง ก็ทำได้แค่เพียงต้องปรับเปลี่ยนแผนไปตามความเหมาะสมไป
“ธีรนัยน์ เธอก็อยู่ด้วย” ณฐวรในตอนที่เดินเข้าห้องทำงานของพี่สาวไป เห็นธีรนัยน์ เขาก็ได้ยิ้มออกมาทันที รอยยิ้มของเขาอบอุ่นราวกับแสงอาทิตย์ก็ไม่ปาน
“ณัฐ ขอบคุณนายที่ส่งดอกไม้มาให้ฉันทุกวัน” ธีรนัยน์ตอนที่เห็นณฐวร ใบหน้าเล็กก็ได้แดงออกมาเล็กน้อย
ในตอนที่ขาของธีรนัยน์ได้รับบาดเจ็บ ณฐวรก็ได้ส่งดอกไม้สดมาให้เธอทุกวัน คำหนึ่งถึงผลกระทบแล้ว ณฐวรได้ส่งดอกไม้มาให้พ่อบ้าน แล้วตัวเองก็กลับไป
“ขอบคุณอะไรกัน เธอเองก็ได้ช่วยพี่สาวฉันเอาไว้ถึงต้องได้รับบาดเจ็บไป ฉันยังต้องขอบคุณเธอให้ดีๆมากกว่า”
ณฐวรมองธีรนัยน์ไปเล็กน้อย แล้วได้ถามออกไปต่อ
“อาการบาดเจ็บที่ขาของเธอหายแล้วหรือยัง?”
“หายแล้ว หายดีหมดแล้ว” ธีรนัยน์ยังขยับตัวไปตรงหน้าของณฐวรไปเล็กน้อย เธอได้รักษาบาดแผลที่สองจนสมานกันเรียบร้อยแล้ว
เธอไม่รู้เหมือนกันว่าชลธีได้รับบาดเจ็บมาเพราะอะไร เพียงแค่นึกว่าป่วยเท่านั้น
“งั้นฉันก็สบายใจขึ้นแล้ว” พูดจบพอณฐวรได้เงยหน้าขึ้นไปก็เห็นพี่สาวกำลังจ้องตัวเองอยู่ หน้าเขาก็ได้แดงออกมาทันที