“อ้อ ท่านประธานธีรเมทนี่เอง คุณก็มาเที่ยวเดินซูเปอร์มาเก็ตเล่นหรือคะ ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะมาซื้อด้วยเนี่ย” คำพูดคำจาของมุกดามีสอดอาการกระทบกระเทียบเอาไว้ครึ่งหนึ่ง เพราะว่าธีรเมทเกลียดการเดินเที่ยวที่สุดแล้ว
“ตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ ผมซื้อของเองทั้งหมดเลย แต่แบบนี้ก็ดีแล้ว ไม่งั้นผมคงไม่ได้เจอกับคุณ!” ธีรเมทมองรถเข็นของมุกดาที่ซื้อของเต็มรถเข็น จนเขายิ้มทันที
“ฮ่าๆ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ แล้วเจอกันให้ค่ะท่านประธานธีรเมท” มุกดาคอยเรียกธีรเมทว่าประธานอยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นการจงใจเว้นระยะความเหินห่างของทั้งสองคน
มุกดาพูดจบก็เดินออกไป แต่จังหวะที่เธอเดินออกจากซูเปอร์มาเก็ตนั้น และกำลังมองหาตำแหน่งที่ตนเองจอดรถอยู่ ก็มีคนเดินเข้ามาชนทันที และชนสิ่งของที่อยู่ในมือของมุกดาจนหล่นมากองกับพื้น แถมเธอคนนั้นใช้ความเร็วคิดจะทำร้ายมุกดาอีก แต่มุกดาก็ไหวตัวทันกว่าผู้หญิงคนนั้น และจับมือของเธอเอาไว้แน่น และใช้เท้าถีบเธอไปทันที
“มุกดาแกมันอีคนสารเลว ผู้ชายของแกนอนพะงาบอยู่บนเตียง แต่กลับคิดมาแย่งผู้ชายของฉัน แกเป็นผู้หญิงไร้ยางอายจริงๆ ” ผู้หญิงคนนั้นเริ่มร้องไห้ฟูมฟาย เพื่อเรียกความสนใจจากคนมากมาย แถมยังมีนักข่าวกลุ่มหนึ่งที่คอยถ่ายรูปอยู่ด้านข้างด้วย
สัญชาตญาณของมุกดารีบขวางไฟสตูดิโอที่สาดส่องลงมาทันที จังหวะนั้นเองรวินท์ถึงลุกพรวดขึ้นมาจากพื้น เธอผลักมุกดาสุดกำลัง มุกดาที่ไม่ทันระวังตัว จนร่างกายของเธอทรงตัวไม่อยู่พลันโงนเงนทิ้งตัวไปทางด้านหลัง
แต่ยังโชคดีที่ มีคนคอยประคองเธอเอาไว้ทางด้านหลัง และไม่ได้ล้มหัวคะมำไปจนหมดสภาพ “มุก คุณระมัดระวังหน่อย” เสียงของธีรเมทดังมาจากทางด้านหลัง
มุกดารู้สึกว่าตนเองล้มหัวคะมำไปจะดีซะกว่า ธีรเมทประคองมุกดาจนทรงตัวได้ดีแล้ว จังหวะนั้นเองเขาถึงเห็นรวินท์
“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? นี่คุณกำลังมาก่อความวุ่นวายให้กับมุกเหรอ?” ธีรเมทมองรวินท์ด้วยท่าทางรังเกียจ เขายืนอยู่ระหว่างมุกดากับรวินท์
“ธีร์ คุณไม่ต้องสนใจ ผู้หญิงคนนี้ทำให้ฉันตกงาน แถมยังทำให้ฉันขายหน้าอีก ฉันจะมาคิดบัญชีกับนาง!” รวินท์พูดพร้อมทั้งทำท่ากระโจนใส่มุกดา แต่ธีรเมทก็ขวางเธอเอาไว้
“รวินท์ผมขอเตือนคุณนะ คุณทำอะไรมุกไม่ได้ ไม่งั้นผมไม่ปล่อยคุณไปแน่” ธีรเมทผลักรวินท์ไปทางด้านข้าง นักข่าวพวกนั้นฉวยจังหวะนั้นทันที พร้อมทั้งรีบถ่ายรูปเอาไว้กันอย่างเต็มที่
“ธีรเมท คุณไล่ให้พวกนักข่าวเหล่านั้นไปซะ มีแต่พวกปากหอยปากปูทั้งนั้น”
มุกดาให้ธีรเมทไล่พวกนักข่าวกลุ่มนั้นไป ถ้าวันนี้เอารูปไปลงข่าว จนทำให้ทุกคนต้องเข้าใจผิดจริงๆ และให้คนเขาคิดกันว่าผู้หญิงสองคนกำลังแย่งผู้ชายกันอยู่
“ได้สิ พวกคุณออกไปเลย เรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพวกคุณเลย ไปกันให้หมด ไปกันเถอะ” ธีรเมทเชื่อฟังคำพูดของมุกดาจริงๆ ถึงกลับไปไล่นักข่าวพวกนั้นไป แต่มีคนล้อมรอบไปทั่วนักข่าวทั้งนั้น เขาก็ไล่ไปกลุ่มหนึ่งและมีอีกกลุ่มหนึ่ง ส่วนรวินท์นั้นเธอไม่ยอมไปเอาแต่เฝ้ามุกดาอยู่อย่างนี้
“ผู้ชายของแกไม่ไหวแล้วงั้นสิ แกถึงได้ออกมาหาผู้ชายคนอื่นใช่ไหม? ปากก็พูดว่าตนเองเป็นผู้หญิงที่ดี ฉันว่าแกเป็นคนตั้งข้อกำหนดเองล่ะมั้ง? แกไปให้ท่าผู้ชายของฉัน จนทำให้ผู้ชายของฉันเลิกกับฉัน แกมันเป็นอีผู้หญิงสารพัดพิษจริงๆ !”
รวินท์เห็นธีรเมทไล่นักข่าวไปแล้ว ก็เลยทำว่าตนเองเป็นผู้เสียหายแทน พร้อมทั้งพูดกับทุกคนอย่างเศร้าสลด
“ทุกคนเสนอความคิดกันมาสิ ฉันเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่งซึ่งไม่ง่ายเลยที่ฉันจะมาเจอกับผู้ชายที่แสนดี แต่นังผู้หญิงคนนี้ กลับทิ้งผู้ชายของตนเอง เพราะรู้ว่าผู้ชายของฉันมีทรัพย์สินมหาศาล เลยกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ทั้งๆ ที่หย่าขาดกันมาแล้ว ทำไมถึงยังตัดกันไม่ขาดสักที?” รวินท์ร้องไห้เสียใจแทบขาดใจ เพื่อให้คนที่อยู่รอบๆ ต่างคิดว่ามุกดาเป็นเมียน้อย
“โอ้โห คนสมัยนี้หน้าด้านจริงๆ เลย ตระกูลสุวรรณเลิศก็มีเงินพออยู่ไม่ใช่เหรอ? แต่ชลธีป่วยไปตั้งหลายเดือน ดังนั้นผู้หญิงคนนี้เลยทนความเหงาเปล่าเปลี่ยวไม่ไหวงั้นสิ ก็เลยออกมาลักกินขโมยกินเอา” มีคนเริ่มปลุกกระแสขึ้นมาอยู่ในกลุ่มฝูงชน
ธีรเมทเห็นว่าตนเองไล่นักข่าวไม่ไปสักที เลยกลับมายืนอยู่ข้างกายมุกดาอีกครั้ง
“มุก พวกเราไปกันเถอะ ไม่งั้นเดี๋ยวคนจะมาที่นี่ยิ่งเยอะกันไปใหญ่ จังหวะคนเลิกงานพอดีเลย” ธีรเมทดึงมุกดาเพื่อต้องการเดินออกไป
“อีผู้หญิงสารเลว หยุดเดี๋ยวนี้นะ มึงหยุดให้กูเดี๋ยวนี้ กูยังพูดไม่ทันจบเลย ธีร์คะ คุณไม่ต้องการฉันเพราะว่าเธอกลับมาหาคุณแล้วไม่ได้นะ ธีร์ ฉันรักคุณนะ ฉันไม่เคยรักเพราะว่าคุณมีเงินเลย คุณมีหรือไม่มีเงิน ฉันก็จะอยู่ข้างกายคุณเสมอ” รวินท์กอดขาธีรเมทเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
คนที่อยู่รอบข้างต่างกล่าวโทษธีรเมทกับมุกดา บอกว่าทั้งสองคนเป็นชายชั่วหญิงเลว
“ที่นี่เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ครึกครื้นดีจริง?” ตอนที่มุกดากำลังรู้สึกอึดอัดมากอยู่นั้น ก็มีคนเดินเข้ามาหาอย่างสุภาพเรียบร้อย เขาดึงมือของธีรเมทออกจากมุกดาและจับไว้แทนทันที
“อนุชิต?” อนุชิตที่หายหน้าหายตาไปจากพระนครอยู่นานแล้วแต่กลับปรากฏตัวขึ้นต่อหน้ามุกดาในเวลานี้
“รู้สึกว่าผมมาทันเวลาพอดีใช่ไหม?” อนุชิตเห็นหน้าตามุกดาน้อยใจมาก ผู้หญิงสามารถทำงานได้เหมือนกับผู้ชาย แต่ผู้หญิงมีข้อเสียเปรียบที่ถึงแก่ชีวิตก็คือการคำนึงถึงชื่อเสียงของตนเอง วันนี้ผู้หญิงคนนี้ได้จับจุดอ่อนของมุกดาได้ เลยจัดการตีกรอบล้อมมุกดาเอาไว้ที่นี่
“อนุชิต?” ธีรเมทก็เพิ่งเห็นอนุชิต คนคนนี้กลับไปที่เมืองสระมังกรแล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วมาทำอะไรที่พระนครล่ะ?
“ธีรเมท! ไม่ได้เจอกันเสียนานเลย!” อนุชิตก็คงเต๊ะท่ากวนอย่างเดิม
“นี่พวกคุณไม่ต้องมาคอยเป็นไทยมุงอยู่ที่นี่แล้ว มันไม่ได้มีเรื่องอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ให้พวกคุณมาอยู่ตรงนี้ก็นึกว่ามีคนตายอยู่ที่นี่ โอ้โห วี๊ดวิ๊วผู้หญิงคนนี้ใครเนี่ย หน้าตาสวยมาก ทำไมนั่งกอดขาผู้ชายคนนี้อยู่ล่ะ ทำไมถึงตัวไร้ค่าน่าสมเพชได้ขนาดนี้เนี่ย?” อนุชิตใช้สายตาดูถูกมองมายังรวินท์
ตอนที่รวินท์เห็นอนุชิตนั้น จนเธอเริ่มทำอะไรไม่ถูก ผู้ชายคนนี้หน้าตาดีมาก หล่อกว่าธีรเมทเยอะ
“พวกคุณชอบอยู่ที่นี่ต่อ งั้นผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ผมขอพาตัวน้องสะใภ้ของผมกลับบ้านแล้วนะ ช่วงนี้ที่บ้านเกิดเรื่องเยอะมาก เลยไม่มีเวลามาดูน้องชายเลย แถมยังให้น้องสะใภ้ต้องพลอยได้รับเคราะห์กรรมมากขนาดนี้ไปด้วย” อนุชิตดึงมุกดาเพื่อเตรียมตัวเดินไป เพื่อจะได้ไปจากที่นี่แล้วค่อยว่ากัน
“เธอยังไปไม่ได้นะ เธอไปไม่ได้ เรื่องเธอมาให้ท่าผู้ชายของฉันคุยกันให้จบแล้วถึงจะไปได้!” จังหวะนั้นเองรวินท์ถึงได้สติกลับมา ผู้ชายคนนี้ต้องการช่วยมุกดา เธอรู้สึกไม่สบายใจหนักกว่าเดิม ทำไมผู้ชายที่ชอบมุกดาถึงได้เยอะขนาดนั้นด้วย ทำไมผู้ชายที่ชอบเธอถึงเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากขนาดนั้น เธอมีแค่ธีรเมทคนเดียวก็เกินพอแล้ว
“เธอให้ท่าผู้ชายของคุณเหรอ? คุณมั่นใจใช่ไหมว่าไม่ได้หลับอยู่จนละเมอจนพูดออกมา? ทุกท่าน ทุกคนก็เห็นกันแล้ว เอาผมมาเปรียบเทียบกับคุณธีรเมทท่านนี้แล้วเป็นยังไง? เอาความคิดในด้านนโมธรรมมาพูดกันนะ เป็นไง?” จังหวะนี้อนุชิตฉีกยิ้มหนักกว่าเดิม
มุกดารู้ว่าอนุชิตคนนี้ ยิ่งเวลายิ้มอย่างดีใจมาก ทว่าในใจนั้นมีความคิดแผนการในการทรมานคนขึ้นมาแล้ว!