แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 428 ถูกลักพาตัว

ตอนที่มุกดาถูกลากเข้าไปในรถโดยไม่ทันได้ป้องกันตัว โทรศัพท์มือถือของเธอหล่นอยู่ที่ด้านนอก รถคันสีดำขับออกมาด้วยความเร็วสูง ตอนนี้เองที่มีคนคนหนึ่งมายังสถานที่เกิดเหตุ เก็บโทรศัพท์มือถือของมุกดาขึ้นมา และขึ้นไปบนรถของเธอ หลังจากขยับไปมาอยู่พักหนึ่ง ก็ขับรถจากไป

มุกดาที่อยู่บนรถกำลังจะต่อต้าน แต่กลับถูกคนจัดการทางด้านหลังจึงหมดสติไปในทันที

ธีรเมทมองใบหน้างดงามของมุกดาที่นอนอยู่บนเตียง และถือโอกาสตบบ้องหูตัวเองไปสองครั้ง ในครั้งแรกลุ่มหลงในเรือนร่างของเมธพรมากเกินไป มุกดาก็รักนวลสงวนตัวมากเกินไป ดังนั้นจึงทำให้ธีรเมทไม่ชอบเป็นอย่างมาก

แต่มีหลายสิ่งที่เมื่อสูญเสียไปแล้วถึงจะรู้ว่าคุณค่าของเธอ และก็มีเพียงแค่หลังจากที่หย่ากับมุกดาแล้ว ธีรเมทถึงได้คิดถึงสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้มากเป็นพิเศษ

มือของธีรเมทลูบไปบนใบหน้าของมุกดาอย่างแผ่วเบา ใบหน้างดงามที่เนียนนุ่ม สะอาดหมดจด ไม่มีการเติมแต่งเครื่องแป้ง และไม่ได้ถูกกัดกร่อนจากน้ำหอมของเครื่องสำอาง มีก็แต่กลิ่นหอมตามธรรมชาติ

ธีรเมทเขยิบเข้าไปข้างลำคอมุกดา สูดลมหายใจลึก กลิ่นหอมธรรมชาติอ่อนๆนั้นทำให้เขาหยุดไม่ได้ คนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ทำไมตอนแรกตัวเองถึงได้ปล่อยมือไปนะ ทรวงอกอันอวบอิ่มนั้นล้วนเป็นของธรรมชาติ นึกถึงหน้าอกซิลิโคนของเมธพรกับรวินท์แล้ว เขาก็รู้สึกคลื่นไส้

มุกดารู้สึกว่าศีรษะของตัวเองปวดมาก ปวดจนทำให้เธอไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ เธอฝืนลืมตาขึ้น ก็เห็นคนสวมผ้าคลุมศีรษะคนหนึ่งมองมาที่ตัวเอง

“คุณเป็นใคร” เสียงของมุกดาแหบแห้ง อาจจะเป็นเพราะไม่ได้ดื่มน้ำมานานมาก

แต่คนสวมผ้าคลุมศีรษะกลับไม่พูดอะไร เขาสวมแว่น มองมาที่ตัวเอง ทั่วทั้งร่างล้วนเป็นสีดำทะมึน

“ฉันอยากดื่มน้ำ” มุกดาเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเอง ธีรเมทจึงไปรินน้ำอีกด้านแล้วส่งให้กับมุกดา ในตอนนี้มุกดาดื่มหมดภายในรวดเดียว เธอนึกขึ้นมาได้แล้ว แต่ศีรษะก็ยังปวดอยู่มาก

“พวกคุณคิดจะทำอะไรถึงจับฉันมาที่นี่ ต้องการเงินหรือ ฉันสามารถให้พวกคุณได้ ต้องการเท่าไร ฉันล้วนสามารถให้คุณได้ พวกคุณปล่อยฉันไปเถอะ” มุกดามองไปที่คนสวมผ้าคลุมศีรษะคนนั้น เอ่ยขอร้องเขา

คนสวมผ้าคลุมศีรษะรับแก้วน้ำที่มุกดาดื่มเสร็จแล้วมาวางบนตู้ที่หัวเตียง เขาหมุนตัวเดินจากไป โดยไม่เอ่ยพูดอะไรกับมุกดาสักประโยคหนึ่ง

“เฮ้ เฮ้!” มุกดาตะโกนเรียกคนคนนั้น คอของเธอยังเจ็บมาก คนคนนั้นจากไปโดยไม่หันหน้ากลับมาเลยแม้แต่น้อย เธอจึงทำได้เพียงแค่ล้มเลิก

มองไปรอบๆห้องนี้แล้ว ก็เห็นว่าสะอาดมาก เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือหลังจากที่ตัวเองถูกลักพาตัวมา ก็ไม่ได้มัดตัวเองเอาไว้ มุกดาขยับเท้าตัวเองเล็กน้อย ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ

เพียงแต่บริเวณท้ายทอยนั้นเจ็บมาก ทำให้มุกดานึกขึ้นมาได้ว่า ตอนที่ขึ้นรถมา ท้ายทอยของตัวเองถูกคนฟาด การฟาดในครั้งนั้นรุนแรงมาก ตอนนี้ยังบวมปูดอยู่เลย

มุกดาคิดจะลงจากเตียง ภายในห้องมีกลิ่นๆหนึ่งที่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก อึดอัดเกินไปแล้ว จึงคิดจะไปเปิดหน้าต่าง

มุกดาเดินไปข้างหน้าต่างอย่างยากลำบาก เปิดผ้าม่านที่หนาและหนักผืนนั้นออก แต่กลับเห็นว่าบริเวณหน้าต่างก็ไม่มีรั้วป้องกัน จึงเปิดหน้าต่างออก

เธอรู้ว่าทำไมห้องนี้ถึงไม่มีรั้วป้องกันแล้ว เป็นเพราะว่าด้านหลังก็คือหน้าผา

เมื่อเปิดหน้าต่างออก ลมจากหน้าผาก็พัดมา ทำให้เธอรู้สึกหนาวสั่น จึงปิดหน้าต่างลง

ไม่สามารถหลบหนีทางหน้าต่างได้อย่างแน่นอน แล้วประตูล่ะ? แม้ว่ามุกดาจะรู้ว่านั่นเป็นไปไม่ได้ แต่เธอก็ยังเดินไปที่ประตูอยู่ดี เดินได้ไม่กี่ก้าว ขาเธอก็อ่อนแรงแล้ว จึงคลานไปแทน เมื่อไปถึงประตู เธอก็ยันประตูประคองให้ตัวเองลุกขึ้น คิดจะเปิดประตู แต่คิดไม่ถึงว่าประตูจะถูกเปิดออกจริงๆ แต่ว่าด้านนอกกลับมีคนชุดดำยืนอยู่มากมาย

คนชุดดำทั้งหมดล้วนสวมผ้าคลุมศีรษะ ส่วนสูงก็สูงพอๆกัน รูปร่างก็เหมือนกันมาก ทว่ามุกดาก็ค้นพบเช่นกันว่า คนเหล่านี้ล้วนไม่ใช่คนชุดดำที่ดูแลตัวเองเมื่อครู่นี้

“คุณนาย มีเรื่องอะไรหรือครับ สามารถสั่งให้พวกเราไปทำได้ คุณก็พักผ่อนอยู่ในห้องสบายๆเถอะ!” คนที่สวมผ้าคลุมศีรษะบริเวณหน้าประตูเอ่ยกับมุกดาอย่างมีมารยาท

มุกดาจึงทำได้เพียงแค่ถอยกลับไป เธอรู้สึกว่าขาของตัวเองอ่อนแรงตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร

เธอปิดประตูอย่างแรง แต่เป็นเพราะใช้แรงมากเกินไป จึงล้มลงไปกองกับพื้น

โชคดีที่มีพรมหนาๆอยู่ จึงไม่ได้ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บจากการหกล้ม ทว่าใช้เวลาอยู่นานเธอก็ยังลุกไม่ขึ้น

ตอนที่ประตูถูกเปิดออกอีกครั้ง คนที่สวมผ้าคลุมศีรษะที่เห็นในคราแรกก็ยกอาหารเดินเข้ามา ตอนที่เข้ามาก็พบว่ามุกดายังนั่งอยู่บนพื้น จึงวางของลง และอุ้มมุกดาขึ้นมาวางบนเตียง ให้เธอเอนตัวนอนดีๆ จากนั้นค่อยยกอาหารมาให้เธอ

ของกินนั้นเยอะมาก มีปลามีเนื้อ และยังมีกุ้งที่เธอชอบกินด้วย คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองถูกลักพาตัวมาแล้วจะสามารถกินอาหารมากมายหลายอย่างแบบนี้ได้อีก

“ของพวกนี้ล้วนให้ฉันหรือ” มุกดาเอ่ยถาม

คนชุดดำที่สวมผ้าคลุมศีรษะพยักหน้า ทำท่าทางให้มุกดากินเยอะหน่อย

มุกดานึกว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นคนใบ้ เธอมองอาหารอยู่ครู่หนึ่ง ตอนนี้ก็เป็นแบบนี้แล้ว เธอก็ไม่กลัวว่าผู้อื่นจะใส่ยาพิษให้เธอตาย ถ้าหากว่าจะให้เธอตาย ก็คงทำให้ตายไปนานแล้ว

มุกดาหยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วเริ่มกินข้าว เธอกินอย่างเอร็ดอร่อย และไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานเท่าไร ท้องจึงหิวจนไส้กิ่ว

เมื่อกินข้าวเข้าไปสองชาม เธอก็รู้สึกว่าตัวเองสบายตัวขึ้นเล็กน้อย เธอยิ้มให้กับคนสวมผ้าคลุมศีรษะที่มองดูตัวเองกินข้าวตลอดเล็กน้อย

“ฉันกินอิ่มแล้ว ขอบคุณคุณมาก” อาหารที่ยกเข้ามาก็ถูกจัดการไปพอสมควรแล้ว

ธีรเมทยกของกินเหล่านั้นออกไป ตอนนี้เขาไม่สามารถให้มุกดารู้ว่าคนที่ลักพาตัวเธอเป็นเขา

คนใบ้คนนี้ทำให้มุกดารู้สึกซึ้งใจมาก ถึงกับรู้ว่าตัวเองหิวแล้ว ยังจะหาของอร่อยมากมายมาให้ตัวเองขนาดนั้น

เมื่อกินอิ่มแล้ว มุกดาก็นึกว่าขาของตัวเองมีแรงแล้ว แต่ว่ายังคงไม่ได้อยู่ดี ตอนที่เธอขยับนั้นยังสามารถขยับได้ แต่เมื่อยืนบนพื้น เท้าก็อ่อนแรง เธอเดินได้ไม่กี่ก้าวเท่านั้น

ปรากฏการณ์นี้ทำให้มุกดาเครียดมาก นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ตัวเองกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไปแล้วหรืออย่างไร

มุกดานวดเท้าตัวเองและลองหยิกดู ล้วนมีความรู้สึก แต่ว่าไม่มีแรง

กระทั่งลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ มุกดาก็รู้สึกกินแรงมาก เธอไม่รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นอะไร

ตอนที่คนชุดดำเข้ามาอีกครั้ง มุกดาก็เอ่ยกับคนชุดดำว่าขาตัวเองไม่มีแรงแล้ว ต้องการไม้เท้าอันหนึ่ง ไม่อย่างนั้นจะเข้าห้องน้ำทีก็มีปัญหาเป็นอย่างมาก

คนชุดดำพยักหน้า เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องที่มุกดายังต้องเข้าห้องน้ำจริงๆ อย่างนั้นก็ไม่เป็นไร เขาสามารถมอบไม้เท้าด้ามหนึ่งให้กับมุกดาได้ ในตอนที่เขาไม่อยู่ ถ้าหากว่าเขาอยู่ที่นี่ เขาก็ยินดีจะอุ้มมุกดาไปเข้าห้องน้ำ!

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset