ธีรเมทเอ่ยจบแล้วก็คลายสิ่งที่รัดมือและเท้าของมุกดาออก มือของมุกดาที่ถูกเขามัดเอาไว้มีอาการชาอยู่บ้าง
“พูดมาเถอะว่าต้องการให้ผมทำอย่างไร คุณถึงจะยินยอมติดตามผม?” ธีรเมทถามต่อทันที
มุกดาพลิกตัวลุกขึ้นมานั่ง เธอคลึงมือและเท้าของตัวเอง หลังจากนั้นก็ค่อยๆเอ่ยขึ้นว่า
“ข้อเรียกร้องของฉันไม่สูง ก็คือให้คุณปล่อยชลธีไปก็พอแล้ว” มุกดานั้นไม่ยี่หระต่อความเป็นความตายของตัวเองแล้ว ตอนนี้เธอต้องการให้ชลธีไม่เป็นอะไรก็พอ
“หึ คุณเป็นแบบนี้แล้วก็ยังคงคิดถึงเขา ช่างน่าสนใจจริงๆ!” แน่นอนว่าธีรเมทไม่มีทางบอกมุกดาว่า ชลธีก็พูดแบบนี้เช่นกัน ขอเพียงแค่เขาปล่อยมุกดาไป จะให้ชลธีทำอะไรก็ได้หมด
“ฉันมีเพียงแค่ข้อเรียกร้องเดียว คุณรับปาก ฉันก็จะอยู่กับคุณ ถ้าหากว่าไม่รับปาก ฉันก็จะตายเป็นศพ!” มุกดาเอ่ยสีหน้าเย็นชา
ธีรเมทมองใบหน้าที่แน่วแน่ของมุกดา เขารู้จักนิสัยของมุกดา รู้ว่าถ้าหากบีบบังคับจนถึงที่สุดแล้ว อะไรเธอก็สามารถทำออกมาได้ทั้งนั้น สิ่งที่เขาต้องการก็คือมุกดาที่ยังมีชีวิตอยู่ จะเอาศพมาทำอะไรกัน เขาไม่ได้โรคจิตขนาดนั้น
“ได้ ผมรับปากคุณ เพียงแต่ว่าพรุ่งนี้ตอนกลางคืนพวกเราจะเข้าหอกัน!” ธีรเมทก็ไม่ยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบเช่นกัน!
“แต่ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณปล่อยชลธีไปแล้ว” มุกดาเงยหน้าขึ้น แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นอะไรก็ตาม
“เรื่องนี้คุณวางใจได้ ตอนที่เขาจากไป จะเป็นพรุ่งนี้ตอนกลางคืนที่พวกเราเข้าหอกัน ผมจะให้คุณได้เห็นว่าเขาจากไป!” ธีรเมทยิ้มเย็น แน่นอนว่าเขาจะปล่อยชลธี เพียงแต่ว่าไม่ได้ปล่อยให้กลับไป แต่เอาไว้ไปในอีกสถานที่แห่งหนึ่ง
เมื่อเอ่ยจบแล้ว ตอนที่ธีรเมทจะเขยิบเข้ามาใกล้ มุกดาก็เอ่ยเตือนเขาว่า “ธีรเมท ไม่ใช่บอกว่าพรุ่งนี้ถึงจะเข้าหอหรอกหรือ พรุ่งนี้คุณหมอคนนั้นก็จะมาแล้ว ฉันต้องการที่จะมองเห็นแล้วถึงจะติดตามคุณ ฉันที่เป็นคนตาบอดก็ไม่มั่นใจในตัวเอง ฉันอยากจะมองเห็นคุณ!”
“พรุ่งนี้คุณก็จะสามารถมองเห็นแล้ว!” ธีรเมทตัดสินใจไปจากมุกดา เขากลัวว่าตัวเองจะอดทนไม่ไหวแล้วเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้อีกจริงๆ
มุกดาได้ยินเสียงประตู แม้ว่าเธอจะไม่เชื่อเท่าไรว่าธีรเมทจะปล่อยชลธีไป ทว่าพรุ่งนี้เธอก็สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้แล้ว เธอจะต้องมีวิธีช่วยให้ชลธีหนีไปได้อย่างแน่นอน
ค่ำคืนอันเงียบงัน เช้าวันรุ่งขึ้น ตอนที่มุกดายังไม่ตื่น คุณหมอก็มาถึงแล้ว แม่นมมาเคาะประตูห้องมุกดา
“คุณมุกดา ตื่นหรือยังคะ”
“อืม ตื่นแล้ว เข้ามาเถอะ” ตอนมุกดานอนล้วนสวมเสื้อผ้า ดังนั้นเธอจึงให้แม่นมเข้ามาได้เลย
แม่นมเปิดประตู เธอเห็นมุกดายังนอนอยู่บนเตียง จึงยกน้ำและอาหารเช้าเข้าไป
“คุณมุกดา คุณกินอาหารเช้าก่อนสักหน่อย คุณหมอมาถึงแล้ว เขาก็กำลังกินอาหารเช้าค่ะ รอจนคุณกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว ค่อยให้เขาเข้ามาตรวจอาการ” แม่นมช่วยมุกดาล้างหน้าและมือ หลังจากนั้นก็ส่งน้ำให้เธอ
มุกดาสามารถได้กลิ่นยาฆ่าเชื้อจากตัวของแม่นม
เมื่อกินอาหารเช้าเสร็จ แม่นมก็พาคุณหมอเข้ามา คุณหมอเดินเบามาก ตอนที่มือของเขาจับมือของมุกดาขึ้นมา ทำให้มุกดารู้สึกว่ามือของเขาเย็นยะเยือกอยู่บ้าง
คุณหมอที่กลับมาจากต่างประเทศ น่าจะเป็นแพทย์แผนปัจจุบันถึงจะถูก แต่ทำไมถึงได้จับชีพจรให้กับตัวเองกัน?
หลังจากคุณหมอจับชีพจรของมุกดาแล้ว ก็เอ่ยขึ้น สิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นภาษาฝรั่งเศส แน่นอนว่าแม่นมฟังไม่ออก ทว่ามุกดาล้วนเข้าใจ ความหมายนั้นก็คือ ดวงตาของมุกดาจะต้องดำเนินการรักษาเดี๋ยวนี้
แม่นมฟังจนมึนงง เธอจึงรีบไปหาธีรเมท แต่ว่าตอนนี้เองที่ธีรเมทเดินเข้ามา
“คุณธีรเมท ดวงตาของสุภาพสตรีท่านนี้จะต้องรักษาเดี๋ยวนี้ เธอกินอะไรเข้าไปสินะ ถึงได้ทำให้ดวงตาของเธอมองไม่เห็น” คุณหมอถามธีรเมท
แน่นอนว่าธีรเมทรู้ว่ามุกดากินอะไร เพียงแต่เขาไม่มีอะไรจะใช้แก้ ดังนั้นถึงได้เชิญคุณหมอมา
“ถ้าอย่างนั้นจะรักษาอย่างไร ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าให้ใช้ยาหยอดตาหยอดไปก่อนเล็กน้อยไม่ใช่หรือ” ธีรเมทถามคุณหมออย่างร้อนใจ เขาไม่ได้ต้องการให้ดวงตาของมุกดามืดบอดไปตลอดกาล แต่เมธพรเป็นคนเสนอความคิดนี้ ยายผู้หญิงเน่าเหม็นนั่น ถึงกล้าเล่นเล่ห์กับตัวเอง
“คุณบอกกับผมว่ากินเพียงแค่ยาตัวนั้น แต่ตอนนี้ผมตรวจออกมาแล้วก็ไม่ใช่ยาตัวนั้น มียาหลายตัวที่ทำให้ดวงตาของเธอมองไม่เห็น ดังนั้นอาศัยเพียงแค่ยาหยอดตากับยาที่ผมนำมาด้วยนั้นไม่พอ ต้องไปตรวจสอบอาการอย่างละเอียดที่โรงพยาบาล” คุณหมอเอ่ยกับธีรเมท
ธีรเมทเห็นมุกดาเบิกตากว้างมองมาทางตัวเอง ในใจเขาสับสนวุ่นวายมาก
ถ้าหากว่าส่งไปที่โรงพยาบาล ก็เป็นไปได้ว่าจะถูกอนุชิตและคนอื่นๆพบเข้า แต่ถ้าหากว่าไม่ส่งไปล่ะก็ ถ้าหากว่าดวงตาของมุกดาบอด อย่างนั้นก็เป็นเรื่องชั่วชีวิตของตัวเองเช่นกัน
“ถ้าอย่างนั้นคุณต้องการอุปกรณ์อะไรบ้าง ผมสามารถนำกลับมาบ้านให้คุณได้” สุดท้ายธีรเมทก็คิดวิธีดีๆออกวิธีหนึ่ง
“คือว่า อุปกรณ์ที่ผมต้องใช้ในการทดสอบการมองเห็นนั้นเยอะมาก ผมจะเขียนลิสต์รายการให้ คุณชายธีร์คุณช่วยไปซื้อให้ผมก็พอแล้ว” คุณหมอหยิบปากกาออกมาเขียนลิสต์รายการส่งให้กับธีรเมท ธีรเมทก็ให้คนไปหาซื้อของเหล่านั้น
“มีอุปกรณ์ทดสอบการมองเห็นแล้ว จะใช้เวลานานแค่ไหน เธอถึงจะหาย” ธีรเมทถามคุณหมอ
“ผมต้องตรวจระยะห่างของรูม่านตาเธอก่อน ดูว่าได้รับความเสียหายหรือไม่ ถ้าหากว่าตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ดวงตาของคุณผู้หญิงท่านนี้ไม่มีปัญหาล่ะก็ พรุ่งนี้ก็สามารถทำการรักษาได้แล้ว” คุณหมอมีความมั่นใจมาก
“แบบนั้นก็ดี อุปกรณ์ทดสอบการมองเห็นนั้นไม่มีปัญหา ผมสามารถยืมจากโรงพยาบาลให้คุณได้ และจะกลับมาอย่างรวดเร็ว มุก คุณอดทนอีกสักหน่อยนะ ใกล้จะมองเห็นแสงสว่างเดี๋ยวนี้แล้ว” ธีรเมทปลอบมุกดา
“ถ้าอย่างนั้นผมออกไปก่อนแล้วกัน รออุปกรณ์ทดสอบการมองเห็นมาถึง ผมค่อยมาตรวจอาการให้กับคุณผู้หญิงแล้วกัน” คุณหมอถอยออกไป
“มุก ครั้งนี้ต้องขอโทษคุณจริงๆ เรื่องดวงตาของคุณ ผมฟังคำพูดของเมธพร ให้คุณกินยาชนิดหนึ่ง สุดท้ายเธอกลับเปลี่ยนตัวยา ดังนั้นดวงตาของคุณถึงได้เป็นแบบนี้” ตอนนี้ธีรเมทมีความคิดที่อยากจะฆ่าเมธพรขึ้นมา
“ไม่เป็นไร ฉันไม่อยากถือสาหาความกับเธอ” มุกดาเอ่ยเรียบๆ
คำพูดของมุกดาทำให้ธีรเมทรู้สึกถึงข้อดีของเธอมากยิ่งขึ้น เทียบกับเมธพรคนนั้นแล้ว ไม่รู้ว่าดีกว่ากี่เท่า ชีวิตที่เหลือของตัวเองมีมุกดาอยู่เป็นเพื่อนก็พอแล้ว
“มุก ผมจะต้องทำให้คุณมองเห็นแสงสว่างได้อย่างแน่นอน” ธีรเมทดึงมือของมุกดาขึ้นมา ครั้งนี้มุกดาไม่ได้สลัดหลุดอีก เธอต้องสงบสติอารมณ์ธีรเมท ไม่สามารถให้เขาไปทำร้ายชลธีได้
ธีรเมทจูบลงบนมือของมุกดา แต่กลับมีคนคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ
“ประธานธีรเมท ผมมีเรื่องจะบอกกับคุณ เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นเรื่องหนึ่งครับ” คนคนนั้นเดินไปถึงข้างกายธีรเมท และกระซิบข้างหูเขา มุกดาจึงเงี่ยหูฟัง แต่ก็ไม่ได้ยินคำพูดที่ทั้งสองคนคุยกัน ทว่าเธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี หนังตากระตุกขึ้นมา