หลังจากที่อนุชิตออกจากห้องครัวไป ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมดออกมาจากใต้อ่างน้ำจริงๆ เธอเดินไปยังประตูด้านหลังห้องครัว จากนั้นเธอก็เปลี่ยนเสื้อผ้า และเดินออกไปอีกประตูหนึ่ง
ระยะเวลาทั้งหมด เธอใช้เวลาไปน้อยมาก ดังนั้นอนุชิตก็เลยไม่ทันได้สังเกตเห็น
อนุชิตไปหาในห้องนอน เขาเข้าไปหาตรงใต้เตียงและในตู้เสื้อผ้า แต่เขาก็ไม่พบเจอกับเส้นทางที่ซ่อนอยู่ เขาเริ่มรู้สึกสงสัยตัวเองว่าตัวเองพลาดบางสิ่งไปหรือเปล่า ทำไมตอนนี้เขาถึงไม่พบเจออะไรเลย เมื่อครู่นี้ตอนที่ทศพรเดินออกไปพวกเขาก็รู้สึกผิดหวังมากแล้ว หรือว่าตัวเขาเองก็ต้องผิดหวังแบบนั้นเหมือนกันเหรอ?
อนุชิตรู้สึกไม่พอใจ เขาก็เลยไปเคาะทุกส่วนในห้องนอน ไม่แน่ บางทีเถอะเขาอาจจะหาเส้นทางลับเจอเส้นทางนึงก็ได้
ในบ้านมีแต่สิ่งของโบราณ แต่ก็มีรูปภาพที่ดูแปลกอยู่รูปหนึ่ง ถึงแม้ว่ากรอบรูปนั้นจะดูเก่ามาก แต่มันก็ดูสะอาดมากเหมือนกัน อนุชิตก็เลยไปเอารูปภาพนั้นยกออกมา สุดท้ายเขาก็พบว่าด้านหลังรูปภาพนั้นมีก้อนหินก้อนหนึ่งที่ยื่นออกมามากกว่าก้อนอื่นๆ
อนุชิตวางรูปภาพนั้นลงตรงพื้น จากนั้นเขาก็ใช้มือดันหินก้อนนั้น และประตูที่ซ่อนอยู่ในกำแพงหินก็เปิดออก
อนุชิตรู้สึกตื่นเต้นมาก เขาก็เลยเดินตามเส้นทางนั้นเข้าไป ตลอดทางมีแต่ความมืดสนิท เขาเดินเข้าไปข้างในโดยใช้ความรู้สึกของตัวเองล้วนๆ
ในขณะที่อนุชิตเดินไปเรื่อยๆ เขาก็พบว่ามีแสงสว่างอยู่ตรงข้างหน้า
เมื่อเขาเดินไปจนถึงสถานที่ที่มีแสงสว่าง อนุชิตก็พบว่าข้างนอกของแสงที่ส่องเข้ามานั้นคือทะเล นี่เป็นเพียงแค่เส้นทางลับที่ทะลุไปยังทะเลเท่านั้น แล้วก็ไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก!
ตอนที่อนุชิตเตรียมตัวจะเดินกลับไป ก็มีเสียงที่แปลกประหลาดดึงดูดความสนใจของเขา
ที่ไม่ไกลจากตรงนี้ข้างในของหญ้านั้นมีอะไรบางอย่างที่กำลังดิ้นรนอยู่
อนุชิตก็เลยเดินตรงไป เขาเปิดหญ้านั้นออก เขาพบว่าข้างในมีเด็กอยู่คนนึง และดูเหมือนว่าจะโดนงูกัด ซึ่งเด็กคนนั้นกำลังดิ้นรนอยู่
อนุชิตมองไปยังเด็กที่น่าสงสาร จากนั้นเขาก็อุ้มเด็กขึ้นมา ในที่ตรงนี้มีประวีร์เป็นหมอเพียงแค่คนเดียว เด็กที่โดนงูกัดไป เขาก็ไม่รู้ว่ามันอันตรายแค่ไหน อนุชิตก็เลยคิดว่าจะอุ้มเด็กคนนี้ไปหาประวีร์
“อ่า อ่า ปล่อยนะ ปล่อยผมนะ!” เด็กคนนั้นน่าจะมีอายุประมาณห้าขวบ เขารู้สึกกลัวอนุชิต แต่ก็กลัวว่าอนุชิตจะทิ้งเขาไว้ที่นี่จริงๆ
“ฉันจะช่วยหนูเอง หนูห้ามขยับนะ ไม่อย่างนั้นพิษของงูจะแพร่เข้าไปในร่างกายได้เร็วขึ้น และชีวิตของหนูก็จะได้รับผลกระทบ” อนุชิตข่มขู่เด็กคนนั้น เขามองดูขาของเด็กคนนั้นที่ดูไม่ปกติ เขาก็เลยวิ่งเร็วมากกว่าเดิม
เมื่อเด็กคนนั้นได้ยินคำพูดของอนุชิต เขาก็เชื่อฟังมากขึ้น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าอนุชิตหมายถึงอะไร แต่ว่าดวงตากลมโตของเขาก็เอาแต่จ้องมองไปที่อนุชิต เขาที่ได้รับบาดเจ็บจากงูถูกดึงดูดความสนใจจากอนุชิตได้สำเร็จ
“คุณ คุณหล่อจังเลย” เด็กคนนั้นจ้องมองอนุชิตอยู่สักพัก ก่อนจะพูดชมอนุชิตออกมา
“อืม เรื่องนี้ฉันรู้ดี แต่ตอนนี้หนูมีอารมณ์มาชื่นชมความหล่อของฉันด้วยเหรอ นั่นก็หมายความว่าจิตใจของหนูนั้นยิ่งใหญ่มากจริงๆ” ถึงแม้ว่าปากของอนุชิตจะพูดอยู่ แต่ขาของเขาก็ไม่มีท่าทีที่จะหยุดเดินเลยแม้แต่น้อย
เขาพาเด็กคนนั้นอุ้มไปวางไว้ตรงหน้าของประวีร์ ไม่ต้องถามด้วยซ้ำประวีร์ก็รู้ว่าเด็กคนนี้โดนงูกัดมา ที่สำคัญเป็นงูที่มีพิษด้วย โชคดีที่พิษของงูชนิดนั้นไม่ได้รุนแรงมาก แต่ว่าถ้าเกิดยังไม่ได้รับการรักษา เด็กก็อาจจะไม่มีชีวิตรอดเช่นกัน
“พวกคุณจะทำอะไร?” เด็กคนนั้นมองเห็นว่าในมือของประวีร์มีมีดถืออยู่ เขาตกใจจนพูดตะกุกตะกัก
“ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ก็ไม่ต้องพูดมาก ทนหน่อยนะเด็กน้อย!” ประวีร์ใช้มีดไปยังอีกทิศทางหนึ่งเพื่อไปไว้ตรงขาของเด็ก เด็กคนนั้นจะได้ไม่รู้สึกกลัวมากกว่าเดิม
อนุชิตจับใบหน้าของเด็กหันไปอีกทางหนึ่ง ประวีร์ก็ใช้มีดผ่าลงไปตรงบาดแผลของเด็กคนนั้น
เพียงแค่ใช้มีดดันลงไป เลือดสีดำก็ไหลออกมา เด็กคนนั้นก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“พวกคุณกำลังทำอะไร? แม้แต่เด็กพวกคุณก็จะไม่ยอมปล่อยไปเลยเหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นที่ออกมาจากอ่างน้ำเมื่อครู่นี้ เธอวิ่งมาอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่มทั้งสี่คน เธอมองดูคนเหล่านั้นใช้มีดทำร้ายลูกของตัวเอง
หลายวันก่อนก็มีคนมาที่นี่ แล้วก็พูดว่าหลังจากนี้จะต้องมีคนมาที่นี่อีกแน่นอน คนพวกนั้นเป็นคนที่ทานมนุษย์ และดื่มเลือดของมนุษย์ ดังนั้นคนในหมู่บ้านก็เลยรีบหลบซ่อนตัวกัน
พวกเขาหลบซ่อนตัวกันเป็นอย่างดีแล้ว แต่สุดท้ายเด็กก็ถูกพวกเขาจับตัวไปอยู่ดี
“ผมกำลังรักษาให้กับลูกของคุณอยู่” อนุชิตมองบนใส่ผู้หญิงคนนั้น เธอทำเหมือนว่าพวกเขาจะเอาเด็กคนนี้ไปต้มแล้วทาน
“รักษาอะไร ถ้าพวกคุณจะทำอะไรก็มาทำกับฉันนี่ ปล่อยลูกของฉันไปเถอะ” ผู้หญิงคนนั้นพุ่งตัวเข้ามา เธอกำลังจะมาแย่งมีดในมือของประวีร์ไป
“คุณแย่งมีดไป เพราะไม่อยากจะให้ลูกของคุณมีชีวิตอยู่ต่อไปใช่ไหม? เขาถูกงูกัด เรากำลังช่วยเอาเลือดนั้นออกและทำการรักษา!” ในตอนนั้นอนุชิตโมโหและดึงผู้หญิงคนนั้นไปยืนอยู่อีกฝั่งนึง
หญิงสาวมองไปยังชายหนุ่มทั้งสี่คนด้วยสายตาที่ไม่เชื่อ คนพวกนี้เป็นปีศาจจริงเหรอ? ทำไมพวกเขาถึงมีรูปร่างหน้าตาที่ดูดีมาก ซึ่งพวกเขาดูดีมากกว่าคนที่ดูดีมากที่สุดในหมู่บ้านนี้อย่างชยพลด้วยซ้ำไป
“มองบ้าอะไร คุณลองมองดูว่าเลือดที่ไหลออกมาจากขาของลูกชายคุณเป็นสีดำหรือไม่? คนที่เป็นแม่แบบคุณ เลี้ยงลูกยังไงกันเนี่ย ขนาดเด็กโดนงูกัดแล้วยังจะไม่ให้รักษาอีก!” อนุชิตดุด่าผู้หญิงคนนั้น
ในตอนนั้นผู้หญิงคนนั้นถึงเห็นว่าบนขาของลูกชายเธอนั้นมีรอยฟันอยู่สามจุด ซึ่งก็เป็นรอยฟันของงูพิษ แต่ในช่วงนี้ไม่น่าจะมีงูพิษอยู่มากนัก แต่ทำไมถึงไปกัดลูกชายของเธอได้?
ในตอนนั้นหญิงสาวคนนั้นก็สงบมากขึ้น เธอค่อยๆ เดินเข้าไป และมองดูประวีร์ที่กำลังบีบเลือดนั้นออกมา จนกระทั่งตอนที่ไม่มีเลือดออกมาแล้ว เขาก็ใช้ปากไปดูดเลือด
“อย่าดูดนะ มันมีพิษ” หญิงสาวคนนั้นพูดเตือนประวีร์ แต่ว่าหลังจากที่พูดออกไปเธอก็รู้สึกเสียใจ ถ้าเกิดว่าไม่เอาพิษออกให้หมด เด็กก็จะเป็นอันตรายถึงชีวิต
“ในเมื่อผมจะช่วยเขา ยังไงผมก็จะต้องช่วยให้สุด ผมเป็นหมอ!” ประวีร์มองไปยังผู้หญิงคนนั้น ก่อนที่เขาจะดูดเลือดพิษออกมาจนหมด ประวีร์ทำแผลให้กับเด็กคนนั้นอย่างดี ก่อนที่จะส่งเด็กให้กับผู้หญิงคนนั้น
“ลูกของคุณไม่เป็นอะไรแล้ว ต่อไปก็ระมัดระวังหน่อย อย่าให้ลูกได้รับบาดเจ็บอีก ลูกของคุณยังเด็กมากๆ” ประวีร์พูดกับหญิงสาวคนนั้น ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขารวมถึงรอยเลือดที่ยังหลงเหลืออยู่ตรงริมฝีปากของเขา มันทำให้เขาดูดีมากๆ
“มองดูพอหรือยัง พวกเรายังจะต้องไปหาคนอีก คุณก็อุ้มลูกของคุณกลับไปแล้วก็ทำซุปถั่วเขียวให้เขาทานแล้วกัน” ประวีร์พบว่าผู้หญิงคนนั้นเอาแต่จ้องมองเขา
เขาจ้องมองไปที่เธออีกครั้ง ก่อนจะบอกให้เธอจากไป
“แล้วคุณจะตามหาใครกัน? บอกฉันได้นะ ลองดูว่าฉันจะรู้จักหรือเปล่า” หญิงสาวคนนั้นพูดอย่างอ่อนโยน