“มุก เธอกินอะไรหน่อยเถอะ?” ธีรเมทยกโจ๊กรังนกหนึ่งถ้วยแล้วพูดกับมุกดา
“ฉันยังไม่อยากกิน ธีรเมท นายพาฉันมาที่นี่ทำไม อยากให้ฉันหายไปจากโลกนี้เหรอ? ฉันมีลูกและสามีของตัวเอง ตอนนี้นายทำแบบนี้กับฉันเพื่ออะไรกัน?” มุกดาโมโหจัด
ธีรเมทนั่งข้างๆมุกดา เขามองดูทะเลที่อยู่ไม่ไกลมาก ที่นี่เป็นฐานสุดท้ายของเขาแล้ว ตอนแรกเขาไม่คิดจะพามุกดามาที่นี่ แต่ชลธีเจ้าหมอนั่นหนีไปก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางอื่น เลยต้องมาที่นี่ เพื่อไม่ให้ชลธีตามหามุกดาเจอ
“มุกดา ไม่ว่าจะยังไง เธอก็เป็นผู้หญิงของฉัน ฉันไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่นอน แม้เธอจะกลายเป็นศพ ฉันก็จะฝังเธอไว้ที่สุสานของตระกูลรุ่งเจริญ!” ธีรเมทพูดกับมุกดาเสียงแข็ง เขาเอาโจ๊กรังนกยัดในมือมุกดา มุกดาโยนมันออกไปโดยที่ไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำ
“เพี้ยง” ถ้วยเซรามิกแตกกระจายอยู่บนพื้น และมีเสียงถ้วยแตกดังขึ้น
หลังจากได้ยินเสียงถ้วยแตกแล้ว มุกดากับธีรเมทก็อึ้งไปชั่วขณะ ทันใดนั้นดวงตาเขาก็แดงก่ำขึ้นมา ธีรเมทเดินเข้าไปคว้าข้อมือมุกดาลุกขึ้นมา
“นายจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน!” มุกดาพยายามขัดขืน แต่แรงของเธอก็สู้ธีรเมทไม่ได้ ธีรเมทดึงและอุ้มมุกดาไปที่ห้องนอนตัวเอง
คนในห้องที่เห็นแล้วก็หลีกทางให้อย่างรู้ตัว มุกดาถูกโยนลงเตียงใหญ่อย่างแรงจนกระจกแทบร้าว
“มุกดา เธอขัดขืนไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ฉันหมดความอดทนต่อเธอแล้ว ตอนนี้ฉันจะใช้การกระทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงของฉันจริงๆ” ธีรเมทพูดจบก็พุ่งเข้าไปคร่อมตัวมุกดาไว้ แล้วเริ่มฉีกเสื้อผ้าของเธอออก ตอนแรกมุกดาก็ไม่ได้ใส่เสื้ออะไรมาก พอฉีกออกตอนนี้เธอก็ไม่มีอะไรปกปิดร่างกายอีกเลย เสื้อผ้าของเธอถูกฉีกออกอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นถึงผิวพรรณขาวผ่องดุจดั่งหิมะของเธอ
“ธีรเมทนายมันยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน! ฉันเป็นผู้หญิงที่มีสามีแล้วนะ!” มุกดาขัดขืนจนไม่มีแรงแล้ว จึงทำได้เพียงด่าธีรเมท
แต่ธีรเมทในตอนนี้บ้าไปแล้ว ท่าทางเขาเหมือนไม่ฟังอะไรเลย เขาถอดเสื้อผ้าของมุกดาออกทั้งหมด มองดูเรือนร่างที่งดงามของมุกดา เขาตื่นเต้นจนเริ่มถอดเสื้อผ้าตัวเองออก
“ก๊อกๆๆ!” ตอนนี้เองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น มุกดารู้สึกคนที่มาเคาะประตูเป็นเหมือนสวรรค์มาโปรดของเธอจริงๆ แต่ธีรเมทกลับไม่สนใจเสียงเคาะประตูนั่น
ธีรเมทถอดเสื้อผ้าตัวเองต่อจนหมด เขาคร่อมตัวมุกดาเอาไว้ เขาจะรักผู้หญิงคนนี้อย่างดุเดือดไปเลย เขาจะทำให้ผู้หญิงลืมชลธีนั่นไปซะ หัวใจของเธอจะต้องเป็นของเขาเพียงผู้เดียวเท่านั้น
“ก๊อกๆๆ!” เสียงเคาะประตูยังคงดังต่อไปเรื่อยๆ จะให้ธีรเมทไปเปิดประตูให้ได้
“ไสหัวไปซะ!” วินาทีนี้ธีรเมทกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่แล้ว จึงไม่อยากสนใจอะไรทั้งสิ้น
“คุณชาย คุณชายครับ มีเรื่องด่วนครับ!” ด้านนอกเป็นพ่อบ้านของธีรเมท เขาก็ไม่อยากมาเคาะประตูเวลานี้ แต่เป็นเรื่องด่วนมากจริงๆ เขาไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ
ธีรเมทได้ยินเสียงของพ่อบ้าน จึงจำใจต้องลุกออกจากตัวมุกดา แล้วเอาผ้าห่มปิดตัวมุกดาเอาไว้ จากนั้นตัวเองก็ค่อยใส่เสื้อผ้า
“เธอรออยู่ที่นี่ อย่าได้คิดหนีไปไหนล่ะ ฉันไปแล้วเดี๋ยวจะกลับมา” ธีรเมทใส่เสื้อผ้าตัวเองเสร็จก็ออกไปด้านนอกทันที
มุกดาน้ำตาไหลอาบแก้ม เมื่อกี้อันตรายมากจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อบ้านมากะทันหัน ตัวเองคงหนีออกจากเงื้อมมือของปีศาจไม่ได้ แต่ถ้าอยู่ที่นี่ต่อไปตัวเองจะเป็นอันตรายได้ทุกเมื่อ หรือว่าจะกระโดดน้ำแล้วว่ายน้ำหนีไป? ถึงจะปกป้องร่างกายตัวเองได้?
มุกดามองดูเสื้อผ้าที่ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ เธอหาเสื้อเชิ้ตในตู้เสื้อผ้าธีรเมทมาใส่ไว้ก่อน เธอจะต้องรีบหนีแล้ว ถ้าไม่หนีอีกล่ะก็ ตัวเองคงได้ตายที่นี่แน่
ตอนนี้ก็มืดแล้ว มุกดากระโดดหน้าต่างหนีออกไป เธอจะลองกระโดดน้ำ ถ้าว่ายไปไม่ถึงฝั่ง เธอก็พร้อมตายอย่างเต็มใจ
ห้องในวันนี้แปลกมากเลย ต้องมีคนมาเฝ้าไม่ใช่เหรอ แต่ตอนนี้กลับไม่มีใครเลย มุกดาเดินออกไปค่อนข้างสะดวก เธอใช้โอกาสที่ท้องฟ้ามืดแล้วหนีออกจากบ้าน
เกาะแม้จะใหญ่มาก แต่กลับธีรเมทกลับซื้อมันมา ทุกตารางนิ้วของที่นี่มีคนของเขาเฝ้าอยู่ทั้งหมด ยิ่งเป็นตอนกลางวัน คนที่อยู่ในทั้งที่มืดและที่สว่าง ต่างก็กลายเป็นภาพบรรยากาศของเกาะไปแล้ว
แต่ว่าตอนกลางคืนมุกดายังไม่เคยออกมาเลย เธอต้องทุ่มสุดตัว วิ่งอยู่ในป่าที่มืดมน เธอวิ่งไปทางริมชายหาด ไม่นานเธอก็มาถึงแล้ว
“ชล วันนี้ฉันโดดลงไป ถ้าโชคดีล่ะก็ พวกเราคงได้เจอกันอีก ถ้าฉันโชคร้ายล่ะก็ งั้นพวกเราค่อยเจอกันชาติหน้านะ” มุกดาอธิษฐานต่อหน้าริมชายหาดที่มืดมิด พูดจบเธอก็กระโดดลงไปทันที
ทันใดนั้นก็มีคนดึงมุกดาจากด้านหลัง แล้วรีบลากตัวเธอไปยังที่เงาต้นไม้มืดๆ มีเงาต้นไม้มืดปกป้อง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยในความค่ำคืนที่มืดมิดนี้
“อย่าออกเสียง ฉันเอง!” มุกดากำลังจะกรีดร้อง แต่ก็ถูกคนคนนั้นปิดปากไว้ก่อน แล้วกระซิบข้างหูเธอเบาๆ
พอมุกดาได้ยินคนคนนั้นพูดแล้ว น้ำตาก็ไหลพรากอาบแก้มทั้งสองข้างทันที เธอสะอื้นกอดคนที่มาช่วยเธอไว้แน่น
“มุก ฉันขอโทษนะ ฉันผิดเองที่ปกป้องเธอไว้ไม่ได้” ชลธีก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเจอมุกดาง่ายแบบนี้
ตอนแรกพวกเขาสี่คนยังเตรียมแผนการเพื่อช่วยมุกดา สามคนนั้นไปเบี่ยงเบนความสนใจของธีรเมท ดังนั้นมุกดาเลยออกมาได้ง่าย เพราะธีรเมทเจอสามคนนั้นแล้ว ดังนั้นเลยนำกำลังคนของตัวเองไปรวมอยู่ที่เดียว เพื่อไปฆ่าคนพวกนั้น
สุดท้ายไม่คิดว่ามุกดาจะได้โอกาสหนีออกมาได้เสียก่อน ทำให้สองสามีภรรยามีโอกาสได้เจอกันอีกครั้ง
“ชล นายนึกขึ้นได้หมดแล้วเหรอ?” มุกดาสัมผัสใบหน้าของชลธี เขาดูผอมลงไปเยอะเลย
“อืม ฉันนึกออกทั้งหมดแล้ว พวกเราไปกันเถอะ” ชลธีพามุกดาไปริมชายหาด เขาก็ว่ายมาห้าชั่วโมงเหมือนกันกว่าจะมาถึงที่นี่ บวกกับที่พอมาถึงฝั่งแล้วก็ไม่ได้พักผ่อนเท่าไหร่ ตอนที่ชลธีมาถึงชายหาด ก็รีบเอาอาหารที่ซ่อนไว้ออกมาเป็นอย่างแรก แบ่งกินกับมุกดา และพักผ่อนสักพักค่อยออกเดินทาง
“พวกเราไปก่อนเถอะ พวกเขามีวิธีหนีออกมา มุก เธอรอฉันก่อนนะ ฉันส่งสัญญาณก่อน ให้พวกเขารู้ว่าฉันเจอเธอแล้ว” ชลธีกินอาหารเข้าไปเล็กน้อย ก็รีบส่งสัญญาณทันที นั่นคือพลุสีเขียว
พอส่งสัญญาณเสร็จ ชลธีก็ดึงมุกดาแล้วรีบวิ่งทันที วิ่งมาถึงที่หนึ่งเพื่อหาเถาวัลย์ที่ทำมาจากแพ
“มุก เธอขึ้นไปนั่งบนนี้นะ ฉันจะคอยดันให้เอง” ชลธีดันมุกดาขึ้นไปบนแพ เขาดันแพไปที่ชายหาด
“ชล นายก็ขึ้นมาด้วยสิ” มุกดาเห็นชลธีไม่ขึ้นมาบนแพด้วย
“เดี๋ยวฉันอยู่ในน้ำนี้เอง แพนี้ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ เป็นแพที่พวกเราเพิ่งทำวันนี้ตอนเที่ยงคืนนี้เอง ไม่สามารถรับน้ำหนักของสองคนได้ เธออยู่ข้างบนนั้น ฉันว่ายอยู่ในน้ำนี้ดีกว่า” ชลธีแบกกระเป๋าไว้ และกอดไม้เอาไว้ จากนั้นก็ดันแพเริ่มออกเดินทางทันที