“มุก พวกของพรมีข่าวอะไรหรือยัง?” พอเป็นห่วงภรรยาตัวเองเสร็จ ชลธีก็ยังไม่ลืมเพื่อนๆที่ร่วมชะตากรรมกับตัวเอง
“ตอนที่พวกเราไปยังไม่มี เพราะนายบาดเจ็บหนักมาก ถ้ายังไม่มาที่นี่ล่ะก็ ผลที่ตามมาอาจจะหนักกว่านั้นก็ได้ ดังนั้นฉันเลยไม่ได้รอพวกเขา ก็ส่งนายมาโรงพยาบาลก่อนเลย” มุกดาพูด แต่บ้านของชาวประมงก็ไม่มีโทรศัพท์อะไรอีก ดังนั้นเลยติดต่อค่อนข้างที่จะลำบาก
“แต่ฉันให้คนส่งพี่ชาวประมงกลับไปแล้ว ให้เขาช่วยสืบหน่อย เดี๋ยวรอนายหายดีแล้ว พวกเราค่อยกลับไป” มุกดาพูดกับชลธี
“ไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่มีข่าวล่ะก็ พวกเขาจะต้องเจอเรื่องอะไรแน่ๆ ถ้าหนีออกมาคงออกมาตามหาพวกเราแล้ว พวกเรารีบออกจากโรงพยาบาลกันเถอะ!” ชลธีรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนๆตัวเอง
“แต่ว่านาย……” มุกดายังอยากพูดอะไร แต่เห็นแววตาที่เด็ดเดี่ยวของชลธี เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ชลธี ตาหมอนี่เป็นแบบนี้อยู่เรื่อย ใครที่ดีกับเขา เขาจะต้องทำดีตอบแทนคนคนนั้นร้อยเท่าพันเท่าเลย
“เดี๋ยวก่อนค่ะ ดื่มซุปก่อนค่อยกลับสิคะ” แม่ของญาดาส่งอาหารมาพอดี เธอรีบบอกให้ชลธีกินข้าวก่อนแล้วค่อยกลับ
“นั่นสิ ชล วันนี้ป้าเขาอุตส่าห์ทำอาหารให้พวกเราโดยเฉพาะ พวกเรากินแล้วค่อยกลับก็ได้นี่ กินแค่ไม่กี่นาทีเอง นานะ~” มุกดาเห็นป้าถือกระบอกฉนวนมา จะปฏิเสธน้ำใจคนอื่นก็คงจะดูไม่ดีเท่าไหร่
ชลธีมองแล้วก็พยักหน้าตกลง
พอกินข้าวเสร็จ มุกดาก็พาชลธีพร้อมกับเข็มฉีดและยาต่างๆนานาออกไป ญาดายังสอนมุกดาฉีดยาตรงนั้นเลย ให้เธอสามารถฉีดได้ยามคับขัน ชลธียังให้น้ำเกลืออยู่เลยด้วย
หลังจากที่ขับรถมาหลายชั่วโมง ทั้งสองก็ถึงหมู่บ้านประมงช่วงเย็น
พอมาถึงบ้านพี่ชาวประมง บ้านของพี่ชาวประมงมีแค่ผู้หญิงกับเด็กอยู่ พี่ชาวประมงออกไปตามหาทั้งสามคน ตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย
“ยังป่วยอยู่เลยทำไมถึงกลับมาแล้วล่ะ น่าจะอยู่อีกสักสองสามวัน สามีฉันออกไปได้สามวันแล้ว ไม่รู้ว่ามีข่าวอะไรหรือเปล่า” ผู้หญิงจัดที่นั่งให้ชลธีได้นั่งสะดวกๆ
“อันนี้เป็นของกินที่ซื้อมาให้เด็กๆค่ะ” มุกดาแบ่งของกินที่ไปซื้อจากในเมืองให้ผู้หญิง ผู้หญิงก็ขอบอกขอบใจใหญ่เลย
“พี่สาวคะ ของพวกนี้รบกวนช่วยทำให้หน่อยนะคะ ฉันอาจจะต้องออกไปสักเดี๋ยวค่ะ” มุกดาเอาของบำรุงร่างกายที่ตัวเองซื้อมาให้ผู้หญิง ให้เธอช่วยทำให้ชลธีกินหน่อย ส่วนมุกดาก็จะออกไปตามหาสามคนนั้น
“เธอจะไปทำอะไรน่ะ? ฉันไปดีกว่านะ เธอรอฟังข่าวดีจากพวกเราที่บ้านนั่นแหละ” ชลธีได้ยินคำพูดของมุกดา ก็รู้สึกโกรธขึ้นมา เขาดึงเข็มที่มือตัวเองออก เขาไม่ต้องของพวกนี้
“ชล นายยังไม่หายดีเลย นายกลับมาแล้วก็ควรพักผ่อนให้ดี ให้ฉันไปดีกว่า” มุกดาเห็นเขาดึงเข็มออก ก็พลอยโกรธไปด้วย
“ฉันเป็นผู้ชาย ถ้าตอนนี้ฉันไม่ไป แล้วเธอจะไปได้ยังไงกัน?” เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองทะเลาะกันรุนแรงแบบนี้
แรงของมุกดาไม่เท่ากับของชลธี แม้เธอจะออกแรงสุดฤทธิ์แล้วก็ตาม แต่ก็ยังแพ้ชลธีอยู่ดี ชลธีเดินออกไปก้าวใหญ่ๆ
หายไปจากสายตาของมุกดา ชลธีก็ถึงยืนหายใจถี่ๆ ร่างกายของเขากลับยังอ่อนแออยู่ แต่เพื่อนของเขาไม่รู้ว่าเป็นยังไงแล้วบ้าง จะให้เขาวางใจได้ยังไง
รอชลธีไปแล้ว มุกดาก็ตามออกไปด้วย ร่างกายของชลธียังอ่อนแอมาก เธอก็ไม่วางใจเหมือนกัน เธอแอบตามชลธีอยู่ไกลๆ ตอนที่เห็นเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าบนชายหาด มุกดาก็ตบไปที่ท้ายทอยของชลธีแรงๆ จนเขาเป็นลมล้มลงไป
“ขอโทษด้วยนะที่รัก นายบาดเจ็บหนักมากจริงๆ ให้ฉันไปแทนเถอะ พี่สาวคะ รบกวนช่วยพาเขากลับไปให้หน่อยนะคะ ฉันออกไปก่อนน่ะค่ะ” มุกดาให้ผู้หญิงของชาวประมงช่วยดูแลชลธี เธอก็ขึ้นเรือแล้วขับออกไปทันที
ชีวิตของชาวประมงก็คือออกทะเลครั้งหนึ่งก็จะพักผ่อนสักพัก ดังนั้นเรือประมงตอนนี้ก็ว่างกันเยอะ มุกดาพายเรือเข้าใกล้เกาะมากขึ้นเรื่อยๆ
ทะเลอันกว้างขวางดูแล้วมันช่างงดงามจริงๆ น้ำทะเลสีฟ้า ผสานรวมกับท้องฟ้าสีฟ้าคราม ยังมีนกนางนวลปากเหลืองสีขาวที่บินวนไปมาบนผิวน้ำทะเล
บรรยากาศที่งดงามขนาดนี้ กลับมีความมืดมิดที่น่ากลัวซ่อนอยู่นับไม่ถ้วน
มุกดาคิดอยากจะโทรแจ้งตำรวจ แต่ถ้าตำรวจออกตามหาแบบใหญ่โต ก็กลัวว่าธีรเมทจะหนีไปก่อน และฆ่าสามคนนั้นปิดปาก ดังนั้นไม่มีทางอื่น เธอจึงต้องแอบเข้าเกาะไปช่วยสามคนนั้น อีกอย่างไม่รู้ว่าตอนนี้ชาวประมงไปไหนแล้ว ถ้าเขาถูกจับไปล่ะก็ งั้นภารกิจของตัวเองก็คงหนักขึ้นไปอีก
เธอพายเรือไปถึงครึ่งทาง จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าออก แล้วกระโดดลงไปว่ายน้ำ ถ้าเรือเข้าใกล้เกาะจะสะดุดตามากเกินไป
ในตอนที่เธอถอดเสื้อผ้าจนเหลือแค่ชุดว่ายน้ำแล้ว เรือของเธอก็สะเทือนอย่างรุนแรง ซ้ายทีขวาที จนเธอตั้งตัวยืนบนเรือไม่ได้
มุกดานั่งลงไป จับขอบเรือไว้แน่น ผิวน้ำทะเลดูสงบมาก ไม่มีคลื่นอะไรซัดมาเลยนะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอตรวจสอบผิวน้ำทะเลอีกครั้ง เหมือนว่าจะไม่มีอะไรด้วย และไม่ได้ยินเสียงสัตว์ทะเลอะไร
มุกดาเห็นเรือนิ่งแล้ว ตอนที่เธอเตรียมกระโดดลงไป เรือก็สั่นสะเทือนอีกครั้ง เธอรีบนั่งลงไป เห็นมีมือกำลังเขย่าเรือของเธออยู่
“ใคร? พวกนายเป็นใคร?” มุกดาตะโกนถามเสียงดัง
“ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ ตกใจล่ะสิ?” ตอนนี้เองก็มีคนโผล่หัวออกมาจากน้ำ เขากระโดดขึ้นมาบนเรือได้อย่างง่ายดาย ต่อมาก็มีคนกระโดดขึ้นมาตาม
“อนุชิต? พี่ประวีร์? ทศพร? พี่ชาวประมง?” เห็นทั้งสี่คนขึ้นเรือตัวเองมา มุกดาก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“ใช่แล้ว ท่าทางพวกเราก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนะ แต่มุกกลับจำพวกเราไม่ได้แล้วงั้นเหรอ!” อนุชิตพูดหยอก ทั้งสี่คนเหนื่อยมาก พอขึ้นเรือมาก็นอนอยู่บนเรือทันที
“ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ ดีมากเลย ดีจริงๆ เดี๋ยวฉันพายเรือกลับไปเอง ฉันทำได้แล้วๆ!” มุกดาดีใจอย่างมาก เธอรีบสวมเสื้อผ้า แล้วหันหัวเรือ มุ่งหน้าไปทางหมู่บ้านประมง
“พวกนายไม่รู้ว่ายัยนี่โหดแค่ไหน ทั้งที่คนอื่นก็บาดเจ็บอยู่แล้ว ยังฟาดลงท้ายทอยฉันจนสลบได้อีก” เห็นเพื่อนๆตัวเองต่างก็ปลอดภัยดี ชลธีก็เริ่มระบายความทุกข์ทันที
ตอนแรกเขาปวดเมื่อยไปทั้งตัวอยู่แล้ว บวกกับท้ายทอยที่ยังระบมไม่หาย
“สมน้ำหน้า เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลแท้ๆยังฝืนอีก ถ้านายมาช่วยพวกเรา เกิดนายเป็นอะไรไปอีก พวกเรากลับมาก็ถูกมุกดาด่าตายเลยสิ? โชคที่เธอฟาดนายจนสลบไปก่อน!” ทุกคนต่างก็ไม่มีใครช่วยชลธีพูดสักคน ทำให้ชลธียิ่งสลดลงไปอีก เขามองทุกคนด้วยแววตาที่เย็นชา ทำให้บรรยากาศดีๆชะงักไปทันที