พลันรู้สึกได้ถึงสายลมพัดผ่านมาครู่หนึ่ง ด้านหน้าของมุกดาก็มีคนมาเพิ่มอีกหนึ่งคน คนคนนั้นยืนย้อนแสงอยู่เหนือหัวเตียงนอน เห็นแค่เพียงดวงตาของเขาที่ทอประกายอยู่ท่ามกลางความมืดมิด
มุกดาลืมตา เธอมองเห็นดวงตาสามีของตนเอง ส่วนสามีของเธอก็จ้องมองเธออยู่ตลอด แต่ไม่ได้ขยับตัวเดินเข้าหาแต่อย่างใด
“อาการป่วยของคุณดีขึ้นมาบ้างไหม?” สักพัก มุกดาถึงได้เป็นคนเอ่ยปากถามก่อน
ชลธีชะงักทันที แล้วตนเองไปป่วยตอนไหนกันเนี่ย?
“ฉันรู้ว่าคุณมองเห็นแสงสว่างไม่ได้ แต่ว่าคุณป่วยแล้วให้ฉันไปช่วยดูแลคุณได้นะ แม้ว่าพวกเราสองคนจะเป็นสามีภรรยากันเพียงแค่สองปีก็ตาม แต่ว่าการเป็นสามีภรรยากันแล้วย่อมมีความรู้สึกซาบซึ้งกินใจต่อกัน ฉันเป็นภรรยาของคุณ ก็ควรจะดูแลคุณ” มุกดาเขยิบตัวขึ้นมานั่ง พลางดึงมือของชลธีเอาไว้
ชลธีก็ปล่อยให้เธอดึงตามใจ พลางนั่งลงข้างเตียงนอน
มุกดาพลางยื่นมือออกมาสัมผัสบริเวณหน้าผากของชลธีเพื่อวัดว่าตัวยังร้อนอยู่หรือไม่ ทว่ากลับถูกมือชลธีคว้ามือเล็กๆ ของเธอเอาไว้แทน
“ผมไม่ได้ป่วยนะ ผมก็แค่มีเรื่องที่ทำให้ล่าช้าไป ตอนนี้เรื่องนั้นจัดการเรียบร้อยแล้ว เลยกลับมาดูคุณนี่แหละ” ชลธีพูดตอบเสียงแหบพร่า
มุกดาถอนหายใจ เธอพลางพลิกมือลูบๆ คลำมือของชลธีอย่างละเอียด มือของเขาทั้งอบอุ่นและแห้งกร้าน นิ้วเรียวยาว น่าจะเป็นมือที่สวยงามคู่หนึ่งเลยก็ว่าได้
“สามีคะ ฉันขอโทษคุณด้วยนะ” จู่ๆ มุกดาก็รู้สึกว่าตนเองต้องขอโทษสามีของตนเองเป็นอย่างมาก น้ำเสียงของเธอเริ่มติดๆขัดๆเล็กน้อย
“ทำไมเหรอ?” ชลธีเคร่งเครียดขึ้นมาทันที หรือว่ามุกดาไปชอบผู้ชายคนอื่นจริงๆ เข้าให้แล้ว พฤติกรรมการแสดงออกในวันนี้มันช่างแปลกประหลาดมาก ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยพูดเยอะกับตนเองมากมายขนาดนี้มาก่อนเลย
“คุณสามีคะ คือว่าฉันมักจะคิดว่าคุณเหมือนกับท่านประธานของบริษัทของพวกเรา บางครั้งก็คิดว่าเขาเป็นคุณ ฉันมักจะรู้สึกว่าเสียงของพวกคุณสองคนคล้ายคลึงกันมาก ฉันก็รู้ว่าคุณไม่ใช่เขาแน่นอน เขาเหมือนกับคนโรคจิตคนหนึ่ง จู่ๆ ก็ชอบทำเรื่องคาดไม่ถึงอยู่เรื่อยๆ” มุกดาพูดถึงเรื่องของชลธีออกมาชุดใหญ่
“คุณสามี ทำไมคุณถึงแต่งงานกับฉันแค่สองปีล่ะ? ทำไมคุณถึงไม่ให้ฉันเห็นหน้าคุณด้วย? ฉันก็เคยบอกกับคุณทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าคุณจะขี้เหร่อัปลักษณ์ขนาดไหน ฉันก็ไม่ได้รังเกียจคุณ” หลังจากที่ได้รู้จักใกล้ชิดกันมาเดือนกว่าแล้ว มุกดาก็เริ่มรู้สึกว่าในหัวใจของเธอค่อยๆ ปรากฏเป็นเงาของสามีของตนเองขึ้นมาลางๆแล้ว เขาไม่ได้กลับบ้าน เธอก็เริ่มคิดถึงเขาแล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของมุกดา ชลธีไม่รู้ว่าตนเองจะดีใจดีหรือว่าจะโกรธดี
เพราะว่าเธอพูดออกมาว่าตัวเขาเองเป็นคนโรคจิต ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองเอาแต่คอยปกป้องเธอมาตลอด
ในสายตาของเธอนั้นแทบไม่มีค่าไม่มีราคาแต่อย่างใด
ชลธีเก็บงำความคิดที่อยากจะแสดงความรักกับมุกดาทันที เพราะว่าเขายังอยากจะรู้ว่าในใจของเธอนั้นตนเองเป็นคนประเภทไหนกัน
“คุณภรรยา งั้นคุณคิดว่าท่านประธานของบริษัทของพวกคุณเขาเป็นคนยังไง?” ชลธีถามกลับอย่างระแวดระวัง
“เขาเหรอ ถ้าไม่ทำให้คนเดาใจยาก ไม่มีความคิดแปลกประหลาด ไม่ด่าฉันบ่อยๆ ถือว่าเป็นคนดีคนหนึ่งเลยแหละ อย่างน้อยเขาก็ยังช่วยฉันไว้ตั้งหลายครั้ง ตอนที่ฉันเจอกับปัญหานั้น เขาก็จะปรากฏตัวขึ้น แต่ว่าฉันรู้ว่าตาเขาบอดแหละ” มุกดาพูดถึงชลธี แถมพูดยาวเป็นหางว่าว
ทว่าชลธีเมื่อได้ยินการพรรณนาของมุกดาที่กล่าวถึงประธานบริษัทของพวกเธอแล้ว ในใจรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ขึ้นมา บนโลกใบนี้มีเพียงตัวของชลธีเท่านั้นที่อิจฉาตัวเองแหละ
“โอ้ ทำไมเขาถึงตาบอดล่ะ?” ชลธีถามกลับด้วยความสนใจมาก เขาชอบพูดคุยกับมุกดามากๆ
“ก็คือว่าแฟนสาวของเขาตอนนี้ เป็นคนหงิมๆ ที่แสนเจ้าเล่ห์มาก การหลอกผู้ชายด้วยวิธีการต่างๆ ทำได้อยู่แล้ว แต่อยากจะมาหลอกลวงพวกเรา มันยากมากนะ ครั้งที่แล้วเธอก็จงใจเอาน้ำมาราดใส่มือของฉัน ทำให้ฉันเจ็บจนต้องพักรักษาตัวมาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ” มุกดาโบกมือของตนเองออกมาอยู่ตรงด้านหน้าของชลธี
หัวใจของชลธีในเวลานี้เต้นโครมคราม ตอนนั้นเขาเองก็รู้สึกว่าธินิดาราดน้ำลงไป แต่เห็นว่ามุกดาไม่ได้พูดอะไร เธอที่เป็นคนที่นิสัยแบบนั้นด้วยเลยไม่ได้พูดอะไรออกมา เขายังคิดว่าตนเองตาพร่ามัวไปเลย
“แล้วทำไมคุณไม่บอกประธานของพวกคุณไปล่ะ? คุณได้รับบาดเจ็บผมก็ปวดใจด้วยนะ” ชลธีดึงมือมุกดาเอาไว้พร้อมทั้งลูบคลำไปด้วย ตอนนี้มือทั้งนุ่มทั้งเนียนมาก
“แล้วจะให้ฉันพูดว่าอะไรล่ะ นั่นคือแฟนของเขาเลยนะ พูดไปเขาก็ไม่เชื่ออยู่ดี แล้วทำไมฉันต้องเสนอตัวรนหาที่ด้วย ถึงอย่างไรก็ให้ฉันพักหลายวันอยู่แล้วแถมยังให้ทศพรไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนฉันอีก จบๆ กันไปเถอะ อย่างไรเสียฉันก็หวงการที่ได้ทำงานที่บริษัทฮอนดากรุ๊ปมาก เลยไม่ต้องเก็บมาคิดแล้ว” มุกดายังคงเป็นคนทำตัวตามสบายไร้กังวลเช่นเดิม
แต่คำพูดของเธอพูดจนทำให้ใจของชลธีทนไม่ไหว
เป็นสาวน้อยที่โง่เขลาเสียจริงๆ ตัวเองได้รับบาดเจ็บแล้วยังอดทนเอาไว้อีก หรือเป็นเพราะว่าตนเองเลี้ยงเธอไม่ได้ เลยบังคับให้เธอต้องออกไปทำงาน!
“คุณภรรยา ต่อไปถ้ามีคนมารังแกคุณที่บริษัทฮอนดากรุ๊ป คุณก็รังแกกลับไปแทนผมเลย บริษัทฮอนดากรุ๊ปมันมีอะไรที่ดีเลิศหรือยังไง เมียของผมอย่าได้ให้คนอื่นมาแกล้งได้ ถึงจะถูกไล่ออก สามีของคุณก็เลี้ยงคุณได้!” ตอนนี้ชลธีพูดจนลืมตัวทำเสียงทุ้มๆ จนมุกดาเอาแต่จ้องมองเขาตลอดเวลา
เสียงนี้มันฟังดูคุ้นมากเลย เสียงเหมือนกับประธานชลธีเลย
“คุณสามี เมื่อไหร่คุณจะให้ฉันได้เห็นคุณได้สักทีล่ะ” มุกดาไม่ได้พูดคำถามที่ค้างคาอยู่ในใจ แต่เธอเอ่ยเรื่องหน้าตาของชลธีขึ้นมาแทน
“อีกสักพักนะ” ชลธีถอดเสื้อโค้ตออก พลางกดร่างกายของตนเองทับลงบนเรือนร่างของมุกดา ร่างกายของเธอช่างนุ่มนิ่มเหลือเกิน เวลาตระกองกอดอยู่ในอ้อมกอดช่างสบายเสียจริง
หลังจากที่ผ่านการพูดคุยเรื่องนี้กันแล้ว ชลธีรู้สึกว่าสัญญาการแต่งงานอาจจะเป็นโมฆะก็ได้ ถ้าให้เขาไปจากมุกดาจริงๆ เขาทำไม่ลง
คำคืนที่ร้อนเร่าเวียนมาบรรจบอีกครั้ง ความอัดอั้นครึ่งเดือนของชลธีต่างมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้มุกดาทั้งหมดแล้ว จนทำให้ร่างกายของมุกดาถึงกับสั่นสะท้านจนใกล้จะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
ทว่าความรู้สึกเช่นนี้มุกดาชอบมาก เธอนั้นยังมีปมอยู่ในใจ ก็คือในคืนเข้าหอตกลงว่าใครกันนะเป็นคนรุกล้ำเข้ามาในร่างกายของเธอ เธออยากรู้เสียจริง
“มุกดา เลขาฯยืนนานให้คุณกับโธรณีขึ้นไปด้านบนหน่อย เหมือนพูดอยู่ถึงเรื่องต้นฉบับในการแปลในวันนั้น คนของบริษัทสตรอมแมนก็มาถึงแล้ว” กัลยกรทำหน้าดีใจจนออกนอกหน้าตอนที่พูดกับมุกดาและโธรณี
เธอย่อมรู้คนของบริษัทสตรอมแมนเป็นคนที่ช่างเลือกสรรเจ้ากี้เจ้าการที่สุดแล้ว วันนี้เธอแจกงานให้กับสองคนนี้ ก็รู้แล้วว่าผลที่ได้จะไม่ดีแน่ เป็นไงล่ะ ที่เธอเดาไว้ไม่ผิดสักนิด
“เลขาฯยืนนานให้พวกเราขึ้นไปเหรอ?” มุกดาขึ้นไม่ออกว่าเลขาฯยืนนานคือใครกัน
“ใช่สิ ก็คือผู้หญิงสวยๆ คนนั้นที่ห้องทำงานของท่านประธานไง สวยมากๆ สวยไม่บันยะบันยังสวยไม่เกรงใจใครนั่นแหละ” กัลยกรพูดอย่างชื่นชม พลางเหลือบมองมุกดาเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ก็ถือว่าสวยมากอยู่นะ แต่ว่าดูหยาบคายเกิน แล้วจะเอามาเปรียบเทียบกับธินิดาได้อย่างไรกัน
มุกดารู้ทันทีว่าคนที่ให้ตนเองกับโธรณีขึ้นไปหานั้นก็คือธินิดา ในเวลานี้คนของอีกบริษัทก็มาถึงแล้ว ตนเองย่อมต้องขึ้นไปด้านบนอยู่แล้ว ถ้ามีตรงไหนที่ไม่ถูกต้อง ก็สามารถแก้ไขในเวลานั้นได้ทันที
มุกดาจูงมือโธรณีเพื่อขึ้นไปชั้นที่ 30
“แสนดี อีกเดี๋ยวแกไม่ต้องกลัวไปนะ มีตรงไหนไม่ถูกแกก็ผลักมาที่ฉันเลย” มุกดาคิดถึงคำพูดของสามีของตนเองเมื่อคืน แถมน้ำเสียงทรงพลังอย่างเต็มที่!