ยกถาดมาถึงตรงหน้าของมุกดาแล้ว คุณโจนส์ส่งยิ้มให้ เขาใช้แรงดึงผ้ากำมะหยี่นั้นออก ของขวัญลึกลับนั้นก็เผยออกมาสู่สายตาของทุกคน ทั้งหมดต่างส่งเสียงร้องตกใจกันออกมา ทำไมล่ะ? เพราะในถาดนั้นไม่มีเครื่องประดับและงานฝีมือที่ล้ำค่าราคาแพงแบบในจินตนาการของทุกคนเลย มีเพียงซองเอกสารที่ธรรมดามากอันหนึ่ง
อันนี้คือรางวัลใหญ่ลึกลับ? ผู้คนมากมายล้วนรู้สึกว่าไม่มีอะไรแล้ว รางวัลใหญ่ลึกลับของคุณโจนส์จะขี้เหนียวเกินไปหรือเปล่า? ก็แค่ซองเอกสารอันหนึ่ง อย่างมากที่สุดด้านในคงเป็นเช็คหลายหมื่นถึงแสนกว่าๆ
ถ้าเป็นเช็คมูลค่าหลายหมื่นถึงแสนกว่าๆ สำหรับในสายตาของผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ ยังไม่ถือว่ามากมายอะไรจริงๆ
“คุณมุกดา มาครับ เชิญคุณโจนส์ของพวกเราแจกรางวัล” เสียงของพิธีกรเร่าร้อนขึ้นมาก มุกดาเห็นว่าตนเองจะได้รับรางวัลเข้าแล้ว เธอดีใจมาก จึงขึ้นไปรับรางวัลด้วยความตื่นเต้น
ส่วนคนอื่นๆ ก็สรรเสริญเยินยอให้คุณโจนส์สักหน่อย ล้วนปรบมือกันขึ้นมาแล้ว ทว่าความจริงในใจของทุกคนไม่ได้รู้สึกต่อรางวัลใหญ่ที่ลึกลับอันนั้นมากมายนัก
การแสดงออกของทุกคนล้วนตกอยู่ในสายตาของคุณโจนส์หมดแล้ว แม้แต่ความดีใจบนหน้ามุกดาก็ตกอยู่ในสายตาของเขาเช่นกัน
“คุณมุก คุณมาลองทายดูว่ารางวัลอันนี้จะเป็นของอะไรกัน?” คุณโจนส์หยิบซองเอกสารอันนั้นขึ้นมาไว้ในมือ ถามมุกดาอย่างกระตือรือร้น
“ไม่ว่าเป็นของอะไรก็ไม่เป็นเป็นไรทั้งนั้นค่ะ เพราะตั้งแต่เด็กจนโตนี่คือครั้งแรกที่ฉันได้รับรางวัลใหญ่ค่ะ ฉันมีความสุขมาก มีความสุขก็พอแล้วค่ะ!” บนหน้าของมุกดาดูดีใจจนเปล่งประกายไปหมดแล้ว ดวงตาของเธอเดิมทีไม่ได้มองซองเอกสารนั้นด้วยซ้ำ กลับเป็นว่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตรงนั้น
โจนส์มองท่าทางน่ารักนั้นของมุกดาอยู่ เขาก็ยิ้มเช่นกัน
“ยังเป็นเด็กที่ไม่โลกมากคนหนึ่งอยู่ดี สมัยนี้เด็กที่เป็นแบบนี้มีไม่มากแล้ว งั้นถ้าผมบอกคุณว่าในนี้มีเพียงเงินแค่ห้าร้อยล่ะ คุณจะโกรธหรือเปล่า?” โจนส์ดำเนินการสอบถามอีกครั้งหนึ่ง
คนด้านล่างต่างพากันทำคอยื่นคอยาวแล้ว ต่างอยากดูสักหน่อยว่าด้านในซองเอกสารนั้นสรุปแล้วเป็นของอะไรกันแน่ ถึงทำให้คุณโจนส์อ้อมค้อมอยู่นานขนาดนี้ได้
“ไม่ค่ะ ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นของรางวัลเหมือนกัน รางวัลอะไรก็ได้ทั้งนั้นค่ะ!” เวลานี้มุกดาถึงย้ายสายตาไปมองทางซองเอกสารแล้ว
คำพูดของเธอทำให้คนด้านล่างต่างหัวเราะ รอยยิ้มของชลธีดูเบิกบานที่สุด ภรรยาของตนเองยังเป็นคนที่ไม่โลภมากคนหนึ่งจริงๆ แต่ว่ามุกดาที่เป็นแบบนี้เขาชอบมากเลย
“เอาล่ะ ผมจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว ตอนนี้ผมจะหยิบของที่อยู่ในซองเอกสารนี้ออกมาเลยแล้วกัน” คุณโจนส์นำของด้านในซองเอกสารออกมาแล้ว จากนั้นส่งให้พิธีการที่อยู่ด้านข้างไป
“รางวัลใหญ่ลึกลับในวันนี้คือ ว้าว ว้าว ให้ผมพักหายใจหน่อย ผมตื่นเต้นจนหายใจไม่ได้แล้ว” พิธีกรเล่นจังหวะเดินหมากแบบอ้อมค้อมอีกครั้ง
“หุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ของโจนส์กรุ๊ป!” ตอนที่ทุกคนเตรียมรอก่อนสักหน่อย พิธีกรก็บอกรางวัลใหญ่ออกมากะทันหัน
“ว้าว หา!” เวลานี้ทั้งบริเวณงานเลี้ยงต่างอารมณ์เร่าร้อนขึ้นมา
หุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ของโจนส์กรุ๊ป โอ้มายก๊อด นี่เป็นรางวัลใหญ่จริงด้วย ที่นั่นปีหนึ่งมีรายรับมากกว่าร้อยล้าน พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือมุกดาไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น นั่งอยู่ที่นั่นแต่ละปีก็มีเงินเข้ามามากกว่าร้อยล้าน
ถึงแม้มุกดาจะไม่รู้ว่าสิบเปอร์เซ็นต์นั้นคือจำนวนเท่าไร แต่ดูจากบนหน้าของผู้คนด้านล่างก็มองออกแล้วว่านั่นน่าจะเป็นจำนวนมากก้อนหนึ่ง
“มาๆๆ คุณมุกดา คุณมาเซ็นชื่อตรงนี้เลย หุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ของโจนส์กรุ๊ปนั้นเป็นของคุณแล้ว!” พิธีกรยื่นสัญญาและปากกาให้มุกดาไป
ผู้คนมากมายต่างมองมุกดาด้วยความอิจฉา ผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงได้โชคดีขนาดนี้ได้นะ โจนส์กรุ๊ปช่างมือเติบมากไปหน่อยมั้ง อยู่ดีๆ ก็แจกหุ้นให้เลย
มุกดากลับไม่ได้รับสัญญาและปากกามา
“คุณโจนส์คะ ถ้าในนี้เป็นเงินห้าร้อยจริง ฉันสามารถรับเอาไว้ได้ค่ะ แต่ในเมื่อเป็นหุ้นของโจนส์กรุ๊ป ฉันไม่ต้องการค่ะ และฉันรับไว้ไม่ได้ด้วยค่ะ” มุกดาพูดกับคุณโจนส์ไปอย่างไม่แสดงตัวต่ำต้อยและไม่โอหัง
มือของพิธีกรแข็งค้างอยู่กลางอากาศ สามสิบสี่สิบปีมานี้ เขายังไม่เคยเจอคนที่มองเห็นเงินแล้วไม่เอามาก่อนเลย
“การจับรางวัลในวันนี้ดำเนินไปต่อหน้าของทุกคน ไม่มีการโกง ผมโจนส์พูดออกไปแล้วว่าจะให้รางวัลใหญ่ลึกลับกับคุณ ย่อมไม่มีเหตุผลที่เอากลับคืนมา” คุณโจนส์บอกกับมุกดา ในดวงตาของเขาที่มีต่อมุกดานั้นคือการชมเชย แต่ว่านี่คือสิ่งที่เธอสมควรได้รับ
“คุณโจนส์คะ คุณให้เงินห้าร้อยกับฉันเถอะค่ะ อันนี้ฉันไม่ต้องการจริงๆ ฉันไม่มีเหตุผลในการรับรางวัลใหญ่ขนาดนี้ของคุณเอาไว้ค่ะ” ไม่ง่ายที่จะได้รับรางวัลใหญ่สักอันมา มุกดายังคิดว่าจะกลับไปมือเปล่าไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดเงินห้าร้อยคุณต้องให้ฉันได้มั้ง?
คุณโจนส์หัวเราะแล้ว หัวเราะแบบเสียงดังฟังชัดมาก เด็กคนนี้เป็นเด็กดีเสียจริง
“ได้ ผมให้คุณห้าร้อย แต่ว่ารางวัลใหญ่อันนี้ในเมื่อเป็นของคุณ ผมโจนส์จะไม่เอากลับคืนมาเหมือนกัน รอเมื่อไรที่คุณคิดได้แล้ว ก็มีผลบังคับเมื่อนั้น!” คุณโจนส์ไม่ได้พัวพันกับปัญหาเรื่องนี้อีกต่อไป เขาให้เลขาฯยื่นอั่งเปาที่ใส่เงินห้าร้อยไว้ให้มุกดาไป
มุกดาถืออั่งเปาไว้ ลงมาด้วยความดีใจมาก
ในใจของใครหลายๆ คนคงกำลังด่ามุกดาว่าโง่ และมีคนด่าเธอว่าเสแสร้ง แต่ทว่าตัวมุกดาเองมีความสุขก็พอแล้ว
“เชอะ ทำเป็นเสแสร้ง มีเงินยังไม่เอา แกล้งทำเป็นแม่พระอะไรกัน แค่มองก็รู้แล้วว่าปลอม ต้องเป็นหลังจากแยกย้ายกันแล้วคงจะรีบไปหาคุณโจนส์แน่” ธินิดาท่าทางโมโห ต่อว่ามุกดาอยู่
อุไรภัสร์มองน้องสาวของตนเองแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไร เขาไม่รู้จักมุกดา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความเข้าใจเลย
มุกดาลงมาแล้ว เธอเดินไปถึงข้างกายของชลธี ความดีใจที่ได้รับรางวัลยังคงเผยออกมาบนหน้าของเธอไม่หาย
“พรุ่งนี้เลี้ยงข้าวผมสักมื้อนะ วันนี้คุณได้รับรางวัลใหญ่แล้ว ให้ผมได้รู้สึกดีใจด้วยสิ” ชลธีเข้าไปใกล้แล้วพูดที่ข้างหูของมุกดา
มุกดารีบตอบรับทันที เธอมีเงินรางวัลอยู่ห้าร้อย ต้องเลี้ยงข้าวแน่นอนอยู่แล้ว ในใจของเธอวางแผนเรื่องคนที่จะเชิญมาในวันพรุ่งนี้เรียบร้อยแล้ว
งานเลี้ยงจบลงอย่างสมบูรณ์แบบ ทุกคนสนุกสนานกันเต็มที่มาก มีโครงการมากมายที่สำเร็จได้ในงานเลี้ยงด้วย
ชลธีจับมุกดาไว้ ทั้งสองเตรียมตัวกลับบ้าน ระหว่างทางมุกดาพูดจาขึ้นมามากกว่าเดิม
“ฉันมีความสุขมากๆ เลย ฉันไม่เคยได้รับรางวัลใหญ่มาก่อน วันนี้มีตั้งห้าร้อยแหละ พรุ่งนี้ฉันจะเลี้ยงข้าว ชวนทุกคนมากินข้าวด้วยกันสักมื้อ” มุกดาพูดไม่หยุดมาตลอด
ชลธีไม่ได้ตอบเธอ เงินห้าร้อยนั้น ไม่รู้ว่าสามารถกินอะไรได้บ้าง ฟังน้ำเสียงของเธออยากเชิญคนกลุ่มใหญ่มาแล้ว ยัยเด็กคนนี้ช่างน่ารักโง่ๆ เสียจริง
คิดๆ อยู่ ชลธีอดใจไม่ไหวยกคางของมุกดาขึ้นมา จูบบนใบหน้าของเธอแล้ว
แต่มุกดาในวันนี้ไม่รู้ว่าเพราะดื่มเหล้าแล้วหรือเปล่า เธอจึงจูบกลับมาบนหน้าของชลธีทีหนึ่ง
ชลธีที่จูบแล้วจูบอีกจนจิตใจฟุ้งซ่าน ตามองเห็นว่ากำลังจะถึงบ้านแล้ว ในใจชลธีคิดว่าฉันต้องอดทนไว้ก่อน เธอกล้ามายั่วยวนแบบนี้ กลับไปแล้วฉันจะจัดการเธอให้หนัก
หลังจากขับรถเข้ามาในคฤหาสน์ มุกดายังจมอยู่ในความดีใจที่ได้รับรางวัล ชลธีจอดรถเรียบร้อยแล้ว วนมาที่เบาะข้างคนขับ อุ้มมุกดาออกมาแล้ว
“ประธานชลธี คือว่าฉันไม่ได้เมานะ ฉันเดินเองได้” มุกดารีบอธิบายให้ชลธีฟัง
แต่ว่าเดิมทีชลธีกลับไม่ฟังคำพูดของเธอ อุ้มเธอไว้ ภายใต้การจับจ้องของคนใช้มากมาย ตรงกลับไปที่ห้องนอนแล้ว