บทที่ 1551 เล่นสนุกไปงั้นๆ
ทำไมถึงห้ามเธอเข้าใกล้นายแห่งอาชูร่า…
ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นกำลังสงสัย จี้ซิวหร่านก็บอกว่า “เพราะเธอเป็นคู่หมั้นของฉัน”
เอ่อ…
นึกไม่ถึงว่าจี้ซิวหร่านจะตอบอย่างนี้ เยี่ยหวันหวั่นถึงกับสำลักน้ำลายไอติดกันหลายครั้ง
จี้หวงคงไม่ได้…หึงหรอกใช่ไหม?
จากที่รู้จักกันมา ไม่ว่าเวลาไหนจี้ซิวหร่านก็มักจะทำตัวสบายๆ อยู่เสมอ เธอก็เลยไม่ได้นึกถึงเรื่องที่จี้ซิวหร่านหึงหวงเลยซักนิด
ยิ่งไปกว่านั้นไป๋เฟิ่งใช่คู่หมั้นของเขาซะที่ไหน เป็นแค่คนรักแบบลับๆ เท่านั้น คู่หมั้นของเขาก็คือเนี่ยอู๋โยวไม่ใช่เหรอ?
แต่เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้รู้เรื่องของไป๋เฟิ่งกับจี้ซิวหร่านมาก เลยไม่กล้าพูดมาก ทำได้แค่ยิ้มแห้งๆ เท่านั้น
เวลานี้เอง ‘เนี่ยอู๋โยว’เดินมาทางพวกเขา เยี่ยหวันหวั่นรีบฉวยโอกาสหนี “คือว่า ฉันยังมีธุระ ไปก่อนล่ะนะ!”
เอ่ยจบก็ลากชีซิงกับเป่ยโต่วที่กำลังสวาปามของกินจนปากมันแผล็บออกไปทันที
มองจากที่ไกลๆ ‘เนี่ยอู๋โยว’กำลังยืนอยู่ต่อหน้าจี้ซิวหร่านด้วยอิริยาบถอ่อนหวาน และพูดคุยอะไรบางอย่างกับเขาอยู่…
……
บนรถ เยี่ยหวันหวั่นเห็นชีซิงถอนหายใจโล่งอกก็อดกระดกคิ้วไม่ได้ “ทำไมทำหน้าเหมือนยกภูเขาออกจากอกอย่างงั้นล่ะ?”
เป่ยโต่วกัดเค้กที่ถือออกมาจากงานเลี้ยง พลางบอกว่า “ยังต้องถามอีกเหรอ? คืนนี้จี้หวงกับนายแห่งอาชูร่าปรากฏตัวพร้อมกัน หนุ่มรูปงามสองคนอยู่ตรงหน้า พี่เฟิ่งห้ามใจไม่ให้กระโจนเข้าใส่ได้ เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก ต้องเหลือเชื่อขนาดนี้เลยเหรอ?
ชีซิงทำท่าจะพูดแต่ก็หยุดไปหลายครั้ง สุดท้ายก็บอกว่า “พี่เฟิ่ง สองคนนั้นไม่ใช่คนที่พันธมิตรอู๋เว่ยจะมีเรื่องด้วยได้
คราวที่แล้วที่พี่ส่งดอกไม้ให้จี้หวงแล้วก็แอบย่องเข้าไปในอาชูร่ากลางดึกเป็นพฤติกรรมที่อันตรายเกินไปแล้ว โชคดีที่ยังกลับมาอย่างปลอดภัย จี้หวงเองก็ไม่ได้เอาเรื่องอะไร แต่ไม่ใช่ว่าจะโชคดีแบบนี้ทุกครั้งไป”
เห็นชีซิงทำท่าจะบ่นต่อ เยี่ยหวันหวั่นรีบโบกมืออย่างเบื่อหน่าย “เข้าใจแล้วๆ คราวก่อนก็แค่ว่างจนเบื่อ อยากหาอะไรสนุกๆ ทำเท่านั้นเอง! ไม่เห็นต้องกังวลขนาดนี้! นายดูตัวเองสิ เพิ่งจะอายุสิบปีกว่า ใครไม่รู้จะคิดว่านายอายุเจ็ดแปดสิบแล้วนะ!”
ชีซิงอึ้ง
ทำเรื่องอันตรายขนาดนั้นเพราะว่างจนเบื่อ?
ของอย่างงี้เล่นสนุกตามใจได้เหรอ?
ชีซิงขมวดคิ้ว “พี่เฟิ่ง…”
เยี่ยหวันหวั่นกล่าว “หยุด! ฉันรับปาก! รับปากว่าจะไม่ก่อเรื่องแล้ว! พวกนายวางใจได้เลย!”
ชีซิงเห็นเยี่ยหวันหวั่นยืนยันหนักแน่น มองเธออยู่นาน ในที่สุดก็ยอมเชื่อ
ชีซิงหยุดบ่นในที่สุด เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจอย่างโล่งอก
หึๆ…
ไม่ก่อเรื่องเหรอ? จะเป็นไปได้ไง!
แผนการของเธออุตส่าห์ดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว!
เธอไม่รู้ว่าคืนนี้จี้หวงใช้กำลังเพราะอะไร แต่คนบางคนน่ะ…
“อ้อ ใช่สิ เป่ยโต่ว ชีซิง อีกเดี่ญวพวกนายช่วยเอาเสี่ยวไป๋กับเสี่ยวเฮยไปส่งที่บ้านฉันที!” เยี่ยหวันหวั่นลูบคางแล้วบอก
เพราะรู้ว่าพี่เฟิ่งชอบเจ้าสองตัวนั้น เป่ยโต่วกับชีซิงเลยพยักหน้าโดยไม่ได้คิดอะไรมาก
เยี่ยหวันหวั่นกลับมาถึงบ้านผีสิง
ไม่นาน เป่ยโต่วกับชีซิงก็เอาเจ้าบีรุสกับต้าไป๋มาส่ง
ไม่รู้ว่าชีซิงสัมผัสบางอย่างได้หรือยังไง เขาจ้องเยี่ยหวันหวั่นเหมือนไม่ค่อยไว้ใจ “พี่เฟิ่ง พี่จะไม่ทำอะไรอีกจริงๆ ใช่ไหม”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “ไม่แน่นอนๆ!”
ชีซิงทำท่าจะพูดอะไร เยี่ยหวันหวั่นกลอกตาไปมา แล้วบอกว่า “ถ้าพวกนายสองคนไม่ไว้ใจฉัน คืนนี้นอนกับฉันก็ได้นะ”
————————————————————————————-
บทที่ 1552 ส่งจดหมายกลางดึก
ชีซิงยังไม่ทันพูดอะไร เป่ยโต่วจ้องมองบ้านผีสิงข้างหลังเยี่ยหวันหวั่น แข้งขาสั่นพับๆ ถึงขนาดขนลุกซู่ไปทั้งตัว “ไม่…ไม่ต้องก็ได้พี่เฟิ่ง! พวกผมเชื่อพี่! เชื่อแน่นอน! บ๊ายบาย! ราตรีสวัสดิ์!”
พูดจบ ก็รีบลากชีซิงวิ่งออกไปทันที…
ใครจะไปอยากนอนในบ้านผีสิงแบบนี้!
หลังจากหลอกให้สองคนนั่นตกใจวิ่งหนีกลับไปสำเร็จ เยี่ยหวันหวั่นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ดูเหมือนบ้านผีสิงที่ใกล้จะทำให้เธอกลายเป็นคนขวัญอ่อนหลังนี้จะยังมีประโยชน์อยู่บ้าง
เยี่ยหวันหวั่นกำลังจะเข้าบ้าน ทว่าห่างออกไปท่ามกลางท้องฟ้ายามราตรี เหมือนจะมีประกายสายฟ้าเส้นหนึ่งพาดผ่าน
ฟ้าเริ่มครึ้มตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว เดาว่าคืนนี้ฝนต้องตกหนักแน่
ถึงช่วงนี้เยี่ยหวันหวั่นจะชินขึ้นมากแล้ว แต่พอถึงวันฟ้าครึ้มฝนตก ความน่ากลัวของบ้านหลังนี้ก็เพิ่มขึ้นจนหัวใจเธอแทบจะกระดอนออกมา!
โชคดีที่คืนนี้เอาต้าไป๋กับเสี่ยวเฮยมาด้วย จะได้อยู่เป็นเพื่อนเธอได้
เพื่อเลี่ยงเสียงบ่นของเป่ยโต่วกับชีซิง ครั้งนี้เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้สั่งให้พวกเขาสองคนทำงาน แต่ให้หลิวอิ่งไปส่งจดหมายให้นายแห่งอาชูร่าแทน
หลังจากนั้น เยี่ยหวันหวั่นนั่งบนโซฟา ลูบหัวที่เต็มไปด้วยขนนุ่มฟูของต้าไป๋ มุมปากกระตุกเล็กน้อย
ตอนนี้ต้าไป๋ก็พร้อมแล้ว เหลือก็แต่ลมจากทิศตะวันออก!
ขณะกำลังลูบหัวต้าไป๋ จู่ๆ หัวนิ่มฟูของต้าไป๋ก็มุดเข้ามา มันคำรามเสียงต่ำ แล้วเบียดต้าไป๋ออกไป
เยี่ยหวันหวั่นรีบลูบหัวเจ้าบีรุสที่กำลังอิจฉา “เอาล่ะๆ เสี่ยวเฮยเด็กดี! ลูบนะๆๆ ลูบแกด้วย! แกเป็นเด็กดีที่สุดเลย!”
ขณะเดียวกัน ณ คฤหาสน์อาชูร่า
เจียงเหยียนยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้นายแห่งอาชูร่าอย่างกล้าๆ กลัวๆ
เขาไม่อยากชายตามองจดหมายฉบับนี้เลยแม้แต่น้อยจริงๆ…
จดหมายถูกผูกติดไว้กับดอกกุหลาบสีแดงสด ซองจดหมายถูกพรมด้วยน้ำหอม แถมยังกระดาษสีชมพูลายหัวใจซะด้วย
“คนส่งจดหมายบอกว่า นี่เป็นจดหมายที่หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยไป๋เฟิ่งส่งให้นายท่าน นัดนายท่านให้ไปเจอคืนนี้ครับ…”
เจียงเหยียนก้มหน้าบอก จู่ๆ ภาพที่บังเอิญเข้าไปเห็นนายแห่งอาชูร่ากับไป๋เฟิ่งอยู่ด้วยกันครั้งนั้นก็ผุดขึ้นมาในสมอง สีหน้าเขาดูประดักประเดิด ขณะเดียวกันก็นึกโมโห
พันธมิตรอู๋เว่ยหมิ่นนายท่านถึงขนาดนี้! รอให้พิษกู่ของนายท่านแก้ได้ก่อนเถอะ นายท่านไม่ปล่อยพวกนั้นไปแน่!
แต่ตอนนี้ยังหาวิธีแก้พิษกู่ไม่ได้ซักที พวกเขาก็เลยยังทำอะไรพวกนั้นไม่ได้…
“ไป๋เฟิ่งคนนี้! รังแกคนอื่นเกินไปแล้ว! ได้ยินมาว่าหลายวันก่อนยังทำให้จี้หวงขายหน้าต่อหน้าผู้คนด้วย ตอนนี้แม้แต่นายแห่งอาชูร่าของพวกเราก็ยังโดนเธอหมิ่นเกียรติ!” เจียงเหยียนเอ่ยด้วยความโมโห
“ออกไป!” เสียงของชายหนุ่มเย็นชากว่าปกติ
เจียงเหยียนชะงัก “งั้นจดหมายนี่…”
พอสบตากับแววตาเยือกเย็นของชายหนุ่ม เจียงเหยียนรีบกล่าวว่า “ผมจะไปกำจัดทิ้งเดี๋ยวนี้เลยครับ! ไป๋เฟิ่งคนนี้! ไม่ใช่แค่ส่งจดหมายให้นายท่าน แต่ยังส่งให้จี้หวงด้วย! นี่มัน…”
“นายว่าไงนะ?” บนที่นั่ง ใบหน้าเย็นชาของชายหนุ่มราวกับมีพยับเมฆตั้งเค้าก่อนพายุฝนจะมาเยือน
……
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
เยี่ยหวันหวั่นเคาะนิ้วกับโต๊ะชา
ไม่รู้ว่าซือเยี่ยหานจะมารึเปล่า…
เพื่อการนี้เธอยังจงใจให้หลิวอิ่งราดน้ำมันบนกองไฟด้วยการโกหกว่าเธอส่งจดหมายให้จี้หวงด้วย…
ขณะกำลังคิด เสียงฝีเท้าหนักแน่นก็ดังขึ้นท่ามกลางสายลมยามกลางคืน
“ก๊อกๆๆ” เสียงเคาะประตูดังก้องไปทั่วบ้านผีสิง ยิ่งทำให้ค่ำคืนนี้น่ากลัวกว่าเดิม
แววตาเยี่ยหวันหวั่นคมปลาบ ลุกขึ้นยืนช้าๆ
แอ๊ดด เสียงประตูใหญ่ถูกเปิด เยี่ยหวันหวั่นยิ้มกว้าง มองชายหนุ่มที่ยืนหน้าเครียดอยู่นอกประตู “นายแห่งอาชูร่าผู้ยิ่งใหญ่มาเยือนบ้านหลังเล็กๆ ช่างรู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ!”