บทที่ 1593 เนี่ยอู๋โยวกับเยี่ยหวันหวั่น (2)
“รุ่นพี่ พี่อยู่โรงเรียนชื่อเยี่ยนมาสองปีแล้ว ทำไมยังเป็นทหารรับจ้างระดับ D อยู่ล่ะ” หลี่ซินถามด้วยความแปลกใจ
ชายหนุ่มส่ายหน้า แล้วถอนหายใจบอกว่า “ภารกิจยากเกิน…ทำไม่สำเร็จ ก็เลยไม่ได้เลื่อนขั้น”
“มีอะไรยาก ผมมาอยู่โรงเรียนชื่อเยี่ยนสามเดือน ทำภารกิจระดับ D สำเร็จไปสี่ภารกิจแล้ว ตอนทำภารกิจระดับ D ครั้งหนึ่ง โคตรอันตรายเลย ต้องลอบฆ่าศิษย์ของตระกูลหนึ่ง เกือบไม่ได้กลับมา โชคดีที่ผมวิ่งเร็ว” หลี่ซินจิ๊ปาก
“ภารกิจระดับ D?” หญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่งแค่นยิ้ม “ไม่เห็นมีอะไร สองเดือนก่อนฉันยังเคยรับภารกิจระดับ S แล้วเลย!”
สิ้นเสียงของหญิงสาว หลายๆ คนรวมถึงเยี่ยหวันหวั่นต่างหันไปมองหญิงสาว
“แล้วจากนั้นล่ะ?” เยี่ยหวันหวั่นสงสัย
“จากนั้น…” หญิงสาวมองเยี่ยหวันหวั่น ยิ้มเล็กน้อยแล้วทำหน้าประดักประเดิด “จากนั้นก็ยอมแพ้…”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
“ล้อเล่นรึเปล่า…ถ้าเธอทำภารกิจระดับ S สำเร็จจริง ตอนนี้ก็คงไม่มาอยู่รวมกับพวกเราแบบนี้หรอก” หลี่ซินส่ายหน้า
“พวกเธอเห็นภารกิจระดับ SS บนบอร์ดประกาศภารกิจรึยัง…” หลี่ซินหันไปมองทุกคนด้วยสีหน้าลึกลับ
“เห็นแล้ว ทำลายพันธมิตรอู๋เว่ยใช่ไหม…ล้อเล่นรึเปล่า พันธมิตรอู๋เว่ยเป็นถึงใคร อันตรายขนาดไหน แบดเจอร์นั่นเป็นถึงหนึ่งในจอมปีศาจของรัฐอิสระ ลือกันว่ากินคนด้วยนะ!”
“ก็ใช่น่ะสิ ครั้งก่อนหัวหน้าแก๊งหัวเหล็กไปแก้แค้นที่พันธมิตรอู๋เว่ย แล้วพวกเธอเดาสิว่าผลสุดท้ายเป็นไง? พวกนั้นโดนหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยหักแขนหักขาหมดเลย แถมฉันยังได้ยินมาว่าแบดเจอร์กินสมองพวกเขาด้วยนะ! หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยนั่นต้องเป็นโรคจิตแน่ สู้เก่งถึงขั้นว่ากันว่าในรัฐอิสระมีแค่เจ้าหมาจรจัดคนเดียวที่ชนะได้!”
เยี่ยหวันหวั่นงุนงง
วินาทีนี้ ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็ได้รู้จักกับพลังของข่าวลือ
แม่เอ็งเถอะ เธอกลายเป็นโรคจิตแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมยังกินสมองของหัวหน้าแก๊งหัวเหล็กด้วย?! เธอปล่อยพวกนั้นไปแล้วต่างหากล่ะ!
“นั่นยังไม่เท่าไหร่ เมื่อก่อนรุ่นพี่ที่เก่งมากๆ คนหนึ่งเคยรับภารกิจระดับ SS ไปทำ เขาต้องไปฆ่าประธานสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์ พวกเธอเดาสิว่าสุดท้ายเป็นยังไง ช่างเถอะ ไม่ต้องเดาแล้ว…ประธานสมาคมนั่นเห็นอายุเพิ่งยี่สิบกว่าปี หน้าตาหล่อเหลาอย่างงั้น แต่แค่ออกแรงไม่กี่ทีก็อัดรุ่นพี่คนนั้นจนตาย ฉันอยู่แถวๆ นั้นเลยเห็นกับตาพอดี ตอนนั้นฉันกลัวแทบตาย!” หลี่ซินกล่าว
“ประธานสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์? หน้าตาเป็นยังไง?”
“เอ่อ…น่าจะประมาณ ฉันวาดรูปให้พวกเธอดูแล้วกัน”
หลี่ซินหยิบปากกากับกระดาษออกมาวาดรูป
ไม่นาน ทุกคนพากันเพ่งมองผลงานของเขา
“นี่มัน…” เยี่ยหวันหวั่นมองภาพเหมือนภาพนั้น เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ผู้ชายในภาพนี่…เหมือนคนที่เธอรู้จักคนหนึ่งมาก
แต่คิดยังไงเยี่ยหวันหวั่นก็คิดไม่ออกว่าเป็นใคร แต่น่าเสียดายที่ระดับฝีมือการวาดภาพของหลี่ซินธรรมดาเกินไป
“พวกเธอรู้ไหม พวกกลุ่มอำนาจใหญ่ๆ ในรัฐอิสระมีแต่เรื่องวุ่นวายเต็มไปหมด เมื่อก่อน…เนี่ยอู๋โยวคุณหนูรองตระกูลเนี่ยหายตัวไป ได้ยินมาว่าหนีตามชู้ไปประเทศจีน สุดท้ายมีคนจากตระกูลเนี่ยส่งนักฆ่าไปไล่ล่าเธอที่จีนแหนะ!” หลี่ซินกล่าวอีก
“นายโม้รึเปล่า เรื่องใหญ่ขนาดนี้ถ้าเป็นความจริงก็คงลือกันไปทั่วรัฐอิสระแล้ว นายไปรู้มาจากไหน” นักเรียนใหม่คนหนึ่งพูดหยัน
“โม้บ้านยายเอ็งสิ นักฆ่าหนึ่งในนั้นเป็นพี่ชายร่วมสาบานของฉัน เขาบอกฉันเองกับปากเลย แถมยังบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะความจำเสื่อมด้วยนะ…เธอจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร เหมือนจะอยู่กับชายชู้ด้วยนะ…สรุปว่าเรื่องก็เป็นอย่างนี้แหละ” หลี่ซินกล่าว
“ฮ่าๆ ไปตดเถอะเอ็ง เนี่ยอู๋โยวกลับมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้เธออยู่ที่ตระกูลเนี่ย ฉันว่าพี่ชายร่วมสาบานของนายก็คงโม้ไม่ดูตาม้าตาเรือเหมือนกันนั่นแหละ”
“ไม่เชื่อก็ตามใจ” หลี่ซินรู้สึกหมดสนุก จึงขี้เกียจพูดต่อ
แต่คำพูดของหลี่ซิน กลับทำให้เยี่ยหวันหวั่นประหลาดใจ
————————————————————————————-
บทที่ 1594 ทั้งสองเป็นคนรักกัน
เยี่ยหวันหวั่นมองหลี่ซินอย่างครุ่นคิด แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
หลี่ซินบอกว่าหลังจากเนี่ยอู๋โยวหายตัวไปก็ไปโผล่อยู่ที่จีน อีกอย่างมีคนจากตระกูลเนี่ยส่งนักฆ่าไปเพื่อกำจัดเนี่ยอู๋โยว
เรื่องแบบนี้ถ้าพูดตามหลักแล้วไม่น่าเชื่อถือนัก เพียงแต่เยี่ยหวันหวั่นกลับสนใจขึ้นมา
“หลี่ซิน พี่ชายร่วมสาบานของนายคนนั้นเป็นนักฆ่าเหรอ?” ไม่นาน เยี่ยหวันหวั่นก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วถามหลี่ซินเหมือนไม่ใส่ใจมาก
พอมีคนถาม หลี่ซินก็กรตือรือร้นขึ้นมา เขารีบหันไปมองเยี่ยหวันหวั่น “ใช่ ฉันจะบอกให้นะว่าพี่ใหญ่ของฉันจบจากโรงเรียนชื่อเยี่ยนนี่แหละ เก่งสุดยอดเลยล่ะ”
“ไม่ใช่แล้วมั้ง…ตอนนี้เนี่ยอู๋โยวอยู่รัฐอิสระ ทำไมนายถึงบอกว่าเนี่ยอู๋โยวอยู่จีน แถมยังโดนไล่ล่าอีก” เยี่ยหวันหวั่นกล่าว
“ใครจะไปรู้ล่ะ สรุปก็คือพี่ใหญ่ของฉันบอกมาแบบนี้ มันเป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้ว ไม่แน่ว่าเนี่ยอู๋โยวอาจจะกลับมาจากจีนแล้วก็ได้ ใครจะไปคาดเดาได้” หลี่ซินกล่าว
“เนี่ยอู๋โยวเป็นความภาคภูมิใจของโรงเรียนชื่อเยี่ยน ฝีมือระดับเนี่ยอู๋โยว พี่ใหญ่ของนายกล้าไปไล่ล่าเนี่ยอู๋โยวด้วยเหรอ…” เยี่ยหวันหวั่นทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ
“เมื่อกี้ก็บอกแล้วไง เนี่ยอู๋โยวน่าจะความจำเสื่อม! เอาเป็นว่าเรื่องฝีมือก็งั้นๆ มีคนเข้ามาช่วยเธอไว้น่ะ ถ้าไม่ได้มีคนมาช่วยเธอไว้ เนี่ยอู๋โยวคงตายไปนานแล้ว!” หลี่ซินเม้มปาก
สิ้นเสียงของหลี่ซิน คนอื่นๆ ในหอพักต่างพากันหัวเราะเยาะ
“หลี่ซิน ฉันว่าพี่ใหญ่ของนายคงโม้ไม่ดูตาม้าตาเรือแน่ เนี่ยอู๋โยวเป็นคุณหนูรองของตระกูลเนี่ย ตระกูลเนี่ยออกตามหาเธอไปทั่วขนาดนั้น จะส่งคนไปไล่ล่าเธอได้ยังไง!”
“ใช่ๆๆ ถ้าถอยหลังหมื่นก้าวแล้วมองเข้ามา ถึงในตระกูลเนี่ยจะมีคนคิดร้ายแล้วจ้างพี่ใหญ่นายจริง นายคิดว่าคนในตระกูลเนี่ยจะบอกตัวตนที่แท้จริงของเป้าหมายให้พี่ใหญ่นายรู้เหรอ อย่างงั้นไม่เรียกโง่แล้วจะเรียกว่าอะไร”
ตอนนี้ หลี่ซินเริ่มหน้าดำหน้าแดง เขาเหมือนโดนไล่ต้อนจนตรอก จึงพูดอย่างหงุดหงิดว่า “ไสหัวไปๆ พี่ใหญ่ของฉันเป็นคนแบบไหนทำไมฉันจะไม่รู้ เขาจะโกหกฉันได้ไง พวกนายมันไม่รู้อะไร ไม่เชื่อก็ช่างสิ ฉันก็ไม่ได้อยากบอกพวกนายนักหรอก ฉันมีความลับมากกว่าที่พวกนายจะจินตนาการได้ซะอีก!”
“ฮ่าๆๆ หลี่ซิน โม้ไปเถอะ โม้ต่อไปเลย นายจะไปมีความลับอะไรได้ แน่จริงก็บอกพวกเราสิ”
“บอกก็บอกสิ…” หลี่ซินมองหน้าทุกคนด้วยท่าทางมีลับลมคมใน “ในรัฐอิสระ พวกนายรู้จักนายแห่งอาชูร่ากับจี้หวง แล้วก็แบดเจอร์รึเปล่า…”
“เหลวไหล ใครจะไม่รู้จักพวกเขาบ้าง” โจวฝูแค่นเสียงขึ้นจมูก
“ฉันจะบอกพวกนายให้นะ…จี้หวงกับนายแห่งอาชูร่า ความจริงแล้วเป็นคู่กัน…สองคนนั้นเป็นคนรักกัน แล้วคนที่เป็นแม่สื่อ ก็คือแบดเจอร์แห่งพันธมิตรอู๋เว่ย…” หลี่ซินกล่าว
แต่พอหลี่ซินพูดจบ ทุกคนก็หัวเราะเสียงดัง
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก ไอ้เป่ยโต่วบ้านั่น…เอาทุกอย่างมาเล่าให้คนนอกฟังหมด…ตอนนี้แม้แต่นักเรียนทหารรับจ้างก็ยังรู้เรื่องแล้ว…
“ได้ ไม่เชื่อก็แล้วแต่ คราวหน้าพวกนายไม่ต้องมาคุยกับฉันอีก ฉันจะไม่สนใจพวกนายอีกแล้ว” หลี่ซินโบกมือ หมุนตัวแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง จากนั้นก็ดึงผ้าห่มคลุมโปง
ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นความคิดสับสนเล็กน้อย ข็อมูลที่ได้จากหลี่ซินมีมากเกินไป เธอต้องหาโอกาสตรวจสอบให้ชัดเจนให้ได้…
……
เช้าตรู่วันต่อมา ทุกคนตื่นแต่เช้า หลังจากจัดแจงที่นอนของตัวเองเรียบร้อย ก็ทยอยกันเดินไปเข้าเรียนที่ชั้นเรียนของทหารรรับจ้างระดับ D
ตอนแรกเยี่ยหวันหวั่นตั้งใจจะถามเรื่องเมื่อวานกับหลี่ซินซักหน่อย แต่หลี่ซินเดินเร็วมาก เผลอแวบเดียวก็เดินหายเข้าไปในชั้นเรียนแล้ว