บทที่ 325 หนุ่มหล่อสาวสวยคู่หนึ่ง
ผู้หญิงคนนั้นเพียงเพิ่งปรากฏตัวขึ้น ก็ทำให้บรรดานักข่าวนอกเขตหวงห้ามออกตกตะลึงในความสวยจนส่งเสียงอุทานตามๆ กัน
“คนนั้นคือดาราคนไหนกัน? ทำไมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย?”
“นั่นคือเยี่ยอีอี หลานสาวสุดที่รักของผู้อาวุโสทั้งสองของตระกูลเยี่ย ลูกสาวเพียงคนเดียวของประธานเยี่ยเส่าอันแห่งเยี่ยกรุ๊ป!” นักข่าวที่รู้เรื่องราวเอ่ยขึ้น
ประโยคนี้ เรียกเสียงอุทานจากนักข่าวหน้าใหม่จำนวนไม่น้อย
“เยี่ยอีอีหน้าตาสวยเกินไปแล้วหรือเปล่า? แค่รูปร่างหน้าตานี้ ก็เทียบเคียงไหล่กับนักแสดงที่สวยที่สุดในวงการบันเทิงได้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบุคลิกท่าทางนั้นของเธอ ไม่อาจยกศิลปินในวงการมาพูดเทียบเคียงได้เลย”
เยี่ยอีอีเผยโฉมต่อหน้าสาธารณชนน้อยมาก ทุกครั้งที่สื่อมวลชนเหล่านี้ได้เห็นเยี่ยอีอีก็ยากที่จะไม่ตกตะลึงเพราะความสวย
“ออร่านี้ ออกมาจากชาติกำเนิดจริงๆ…”
“ถ้าเยี่ยอีอีเดบิวต์ ไม่พูดถึงอย่างอื่น แค่หน้าตากับบุคลิกท่าทางนี้ ก็เพียงพอที่ดังจนระเบิดระเบ้อแล้ว”
“ฐานะของเยี่ยอีอีอยู่ระดับไหนกัน ถึงต้องเข้าวงการบันเทิง คนเขาไม่ใช่แจกันดอกไม้ที่สวยอย่างเดียว ความสามารถยังเก่งกาจด้วยนะ! ต่อไปทั้งเยี่ยกรุ๊ปจะเป็นของเธอทั้งหมด…”
นักข่าวกลุ่มหนึ่งกำลังพูดคุยกันอยู่ กลับเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งลงจากรถตามลงมา
ชายหนุ่มรูปร่างสูง ในหน้าหล่อเหลาไร้รอยตำหนิ สวมชุดสูท Brioni สั่งตัดโดยเฉพาะ ทุกรายละเอียดล้วนใกล้คำว่าสมบูรณ์แบบ ใบหน้ามีรอยยิ้มบางปรากฏอยู่ เดินตรงไปอยู่ข้างกายเยี่ยอีอี
“โอ้โห ฉันได้เห็นใครเข้าเนี่ย? นั่นไม่ใช่…กู้เยว่เจ๋อผู้สืบทอดกู้กรุ๊ปแห่งเมืองหลวงหรอกเหรอ!”
“ว้าวๆๆ! หล่อมากเลยนะ!”
นักข่าวหญิงที่อยู่รอบนอกได้เห็นกู้เยว่เจ๋อก็พากันส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด ตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าได้เห็นพวกหนุ่มน้อยหรือดาราดังเสียอีก
หนุ่มน้อยในวงการบันเทิงเหล่านั้นเทียบกับคนคนนี้แล้วแทบจะจืดสนิท หรือแทบจะเทียบกันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ราวกับอยู่กันคนละมิติ
เด็กหนุ่มที่หน้าตาดีในวงการบันเทิง ก็มีเพียงหน้าตาเท่านั้น บุคลิคท่าทางก็ผ่านระบบการอบรม จงใจแสดงออกมาให้เห็น เทียบกับกู้เยว่เจ๋อที่ทั้งหน้าตาและบุคลิคท่าทางล้วนออกมาจากชาติกำเนิดเหมือนกับเยี่ยอีอี ไม่ใช่อะไรที่ไอดอลที่ผ่านการฝึกฝนสามารถเทียบเคียงได้
เหล่าดารานักแสดงหนุ่มสาวในสังกัดหวงเทียนที่ยืนข้างกู้เยว่เจ๋อกับเยี่ยอีอีในเวลานี้ หมดสีสันไปในพริบตา ภายใต้การเปรียบเทียบทั้งสอง ได้กลายเป็นการเปรียบเทียบที่เห็นได้ชัดเจน
ภายใต้สายตาของทุกคนที่ตกตะลึงในความสวย เยี่ยอีอีปัดเส้นผมบนไหล่ออกเล็กน้อย นิ้วมือเรียวยาวจับแขนของกู้เยว่เจ๋อเอาไว้อย่างเป็นธรรมชาติ กู้เยว่เจ๋อก้มศีรษะลงยิ้มอ่อนหวานกับเยี่ยอีอี ประคองมือน้อยของเยี่ยอีอีที่จับแขนของเขาไว้เบาๆ หนุ่มหล่อสาวสวยสองคน เดินเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลเยี่ยอย่างไม่เร็วไม่ช้า
“เฮ้อ…” ได้เห็นท่าทางเยี่ยอีอีกับกู้เยว่เจ๋อสนิทสนมกันแบบนี้ นักข่างคนหนึ่งก็พึมพำด้วยความสงสัย “ดูเหมือนความสัมพันธ์ของกู้เยว่เจ๋อกับเยี่ยอีอีจะไม่ธรรมดาเลยนะ…”
“นี่ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ?” นักข่าวรุ่นพี่คนนั้นเอ่ยขึ้น “กู้เยว่เจ๋อกับเยี่ยอีอีกำลังคบกันอยู่ ฐานะของกู้เยว่เจ๋อตอนนี้ ไม่เพียงเป็นแค่ผู้สืบทอดกู้กรุ๊ป ยังเป็น ประธานหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ใต้สังกัดตระกูลเยี่ยด้วยฐานะว่าที่ลูกเขยด้วย”
“กู้เยว่เจ๋อกับเยี่ยอีอีกำลังคบกันอยู่เหรอ? ทำไมฉันได้ยินมาว่า กู้เยว่เจ๋อมีคู่หมั้นอยู่แล้วล่ะ?”
“คู่หมั้น? อ้อ…จริงด้วย กู้เยว่เจ๋อมีคู่หมั้นอยู่จริงๆ คู่หมั้นของเขาก็เป็นหลานสาวของผู้อาวุโสเยี่ย ชื่อว่าเยี่ยหวันหวั่น ลูกสาวคนเล็กของเยี่ยเส่าถิงไง”
เมื่อเอ่ยชื่อเยี่ยหวันหวั่น ใบหน้าของนักข่าวหลายคนก็เผยท่าทางมีความหมายลึกซึ้ง
“ลูกสาวของเยี่ยเส่าถิงอย่างนั้นเหรอ…”
………………………………
บทที่ 326 มาอวยพรวันเกิด
“ตอนนี้เยี่ยเส่าถิงทำงานในบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่ง การกินอยู่ของตัวเองยังมีปัญหาแล้ว ลูกสาวคนนั้นของเขา ชื่อเสียงโด่งดังเรื่องบ้าผู้ชาย ทั้งยังหน้าตาน่าเกลียดเกินใคร เขาน่ะหรือจะคว้ากู้เยว่เจ๋อได้? กู้เยว่เจ๋อเองก็ดี หรือกู้กรุ๊ปเองก็ช่าง ถ้าตาไม่บอด จะชอบเยี่ยหวันหวั่นได้อย่างไร?”
“ก็ใช่น่ะสิ! ฉันยังได้ยินมาว่า ตอนนั้นเยี่ยเส่าถิงบังคับให้กู้เย่วเจ๋อกับกู้กรุ๊ปยอมรับเรื่องการแต่งงานนี้…ความจริงแล้วตอนนั้นคนที่กู้เยว่เจ๋อชอบคือเยี่ยอีอี…”
“ถึงจะเป็นข่าวซุบซิบวงใน แต่รู้สึกว่าจะเป็นเรื่องจริง เยี่ยหวันหวั่นนั่นไม่ใช่แค่หน้าตาน่าเกลียด น้ำหนักยังมากจนน่าตกใจ อ้วนสุดๆ สภาพเยี่ยหวันหวั่นที่อ้วน หน้าตาก็น่าเกลียด ใครจะอยากแต่งด้วย? ถ้าไม่ใช่เพราะใช้บารมีรังแกคนอื่น ใช้วิธีสกปรกแยกกู้เยว่เจ๋อกับเยี่ยอีอีออกจากกัน ตำแหน่งคู่หมั้นของกู้เยว่เจ๋อนี่ จะตกไปอยู่ที่เธอได้ที่ไหน?”
เรื่องรูปร่างหน้าตาของเยี่ยหวันหวั่น นักข่าวสื่อมวลชนเหล่านี้อย่างมากก็แค่ได้ยินได้ฟังมา ไม่เคยพบเห็น
ทว่าทุกคนพูดเหมือนกัน ต่างพูดว่าเยี่ยหวันหวั่นหน้าตาน่าเกลียด แทบจะพูดไม่ต่างกันเลย
ได้ยินมากเข้า เรื่องไม่จริงก็กลายเป็นความจริงไปโดยปริยาย ลมปากคนก็เป็นเช่นนี้
นักข่าวสื่อมวลชนล้อมเฝ้าอยู่ประมานหลายชั่วโมง ดารานักแสดงที่มาที่นี่ก็ค่อยๆ บางตาลง การต้อนรับแขกเหรื่อของคฤหาสน์ตระกูลเยี่ยในที่สุดก็เข้าสู่ช่วงปลายแล้ว
ส่วนนักข่าวจำนวนมากก็ไม่ได้จากไปไหน ใครก็ไม่อาจรับรองได้ว่า ในระหว่างงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของผู้อาวุโสเยี่ย จะมีข่าวอะไรออกมาหรือเปล่า
ต่อให้จะคว้าได้แค่สภาพเมามายของศิลปินนักแสดงที่กำลังดังอยู่ในตอนนี้ ก็คุ้มค่าที่จะรอ
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง คนที่มาอวยพรวันเกิดผู้อาวุโสเยี่ย ก็มาถึงกันเกือบจะครบแล้ว ไม่มีใครปรากฏตัวขึ้นอีก
จนกระทั่งใกล้ค่ำ รถแท็กซี่คันหนึ่งค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามาในที่แห่งนี้ ท่ามกลางรถหรู รถแท็กซี่ที่เก่าอย่างเห็นได้ชัดคันนั้นจึงสะดุดตาเป็นพิเศษ
“มาผิดที่ละมั้ง…”
เมื่อเห็นรถแท็กซี่ ใบหน้านักข่าวหลายๆ คนก็ทำหน้าฉงน คนที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของผู้อาวุโสเยี่ย จะมีใครนั่งแท็กซี่มา?
เจ้าหน้าที่ รปภ. ของตระกูลเยี่ยขวางรถแท็กซี่ไว้ที่นอกเขตหวงห้าม บอกว่าเป็นเขตส่วนบุคคลไม่ให้ผ่านเข้าไป
โชเฟอร์จอดรถแท็กซี่ลง หันตัวมองไปยังสมาชิกครอบครัวสามคนด้านหลังอย่างรำคาญใจ
ชายวัยกลางคนผมหงอกชรา ใบหน้าเผยความลำบากใจ ยิ้มขอโทษขอโพยให้กับโชเฟอร์ หลังจากจ่ายค่ารถแล้วก็ประคองภรรยาลงจากรถ
ที่นั่งด้านข้างคนขับ ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งได้เปิดประตูรถตามลงมา
“ที่นี่เป็นเขตส่วนบุคคล ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง รบกวนใช้ทางอื่นครับ” เจ้าหน้าที่ รปภ. หลายคนทำหน้าเข้มมองไปยังสมาชิกครอบครัวทั้งสามคน แววตาแสดงความรำคาญใจอย่างชัดเจน
หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ รปภ. ขวางทางไว้ หว่างคิ้วของชายหนุ่มพลันขมวดขึงอย่างไม่พึงพอใจ “รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร!”
“มู่ฝาน อย่าเสียมารยาทแบบนั้น!” เหลียงหวั่นจวินเห็นลูกชายตัวเองเสียงดังแบบนี้ จึงรีบเอ่ยเตือนเสียงเบา
เยี่ยมู่ฝานขมวดคิ้วแน่น กัดฟันกรอด แม้ว่าจะไม่อยากยอมแต่ก็หยุดพูด
เยี่ยเส่าถิงมองลูกชายตัวเองครั้งหนึ่ง ลอบถอนหายใจ จากนั้นเดินเข้าไป เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางอ่อนน้อม “รบกวนรายงานให้หน่อยนะครับ บอกว่าเยี่ยเส่าถิงมาอวยพรวันเกิดให้คุณพ่อ”
“เยี่ย…เยี่ยเส่าถิง?!”
ได้ยินคำนี้ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ รปภ. พลันนิ่งอึ้ง
เขามารับหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยที่ตระกูลเยี่ยมานานหลายปี ขณะนั้นเจ้าของเยี่ยกรุ๊ปก็คือเยี่ยเส่าถิงคนนี้นี่แหละ
แม้ว่าจะไม่เคยเห็นตัวจริงของเยี่ยเส่าถิง ทว่าจะไม่เคยได้ยินชื่อนี้ได้อย่างไร
“คุณ…คุณคือเยี่ยเส่าถิง คุณชายใหญ่ตระกูลเยี่ย?”
เจ้าหน้าที่ รปภ. ทำหน้าประหลาด กวาดตามองพ่อแม่ลูกสามคนตรงหน้า นอกจากชายหนุ่มที่สวมเสื้อผ้าพอดูดีแล้ว เสื้อผ้าของสามีภรรยาคู่นี้กลับธรรมดาเป็นอย่างมาก เทียบกับแขกเหรื่อที่มางานเลี้ยงฉลองวันเกิดในวันนี้แล้ว ถึงขั้นพูดได้ว่าใส่เสื้อผ้าได้อย่างน่าละอาย
ไหนเลยจะเทียบได้กับเยี่ยเส่าถิงผู้ยิ่งใหญ่ในตอนนั้นได้…
“ขออนุญาตนะครับ…คุณมีเทียบเชิญของตระกูลเยี่ยหรือเปล่าครับ?” เจ้าหน้าที่รปภ.ลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงถามขึ้น
“พูดจาเหลวไหลอะไร!” ไม่รอให้เยี่ยเส่าถิงเอ่ยปาก เยี่ยมู่ฝานพลันโมโห “พวกเรามาอวยพรวันเกิดให้คุณปู่ ทำไมต้องมีเทียบเชิญอะไรด้วย!”
…………………………………….