บทที่ 1649 บุคลากรฝ่ายจัดการ
หญิงใส่หน้าหากรีบถอดหน้ากาก เผยให้เห็นใบหน้าที่ค่อนข้างสวย นัยน์ตาเต็มไปด้วยแววตื่นตะลึง
เด็กสาวอายุน้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้า กลับเป็นผู้นำของเดธโรส…แม่หม้ายดำในตำนานงั้นเหรอ?!
เมื่อกี้ ตอนที่เด็กสาวบอกว่าตัวเองคือแม่หม้ายดำ เธอจะเชื่อได้ยังไง!
“ผู้น้อยสมควรตาย!”
หญิงใส่หน้ากากรีบคุกเข่าต่อหน้าเยี่ยหวันหวั่นแทบจะในทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ล้อเล่นรึเปล่า…เมื่อกี้เธอกลับพูดจาอย่างงั้นกับแม่หม้ายดำ…
“คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด”
เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเล็กน้อย ประคองแขนหญิงใส่หน้าหาก แล้วดึงให้ลุกขึ้นเบาๆ
หญิงใส่หน้ากากตะลึงกับความเมตตาที่ได้รับ เธอลุกขึ้นยืนอยู่ด้านหนึ่ง แล้วจ้องเยี่ยหวันหวั่นไม่ละสายตา
“หัวหน้าครับ คนนี้คือจิ่วเหวย เพิ่งเข้ามาอยู่ในเดธโรสได้ไม่นาน เคยเป็นทหารรับจ้างระดับ S+ ของโรงเรียนซิงหยางมาก่อนครับ” ชายชราหันมาแนะนำเยี่ยหวันหวั่น
“จิ่วเหวย…”
เยี่ยหวันหวั่นทำหน้าครุ่นคิด
ชื่อนี้ เธอเคยได้ยินมาจริงๆ
“เธอคือทหารรับจ้างทรยศที่หนีไปหลังจากฆ่าทหารรับจ้างระดับ S+ ของโรงเรียนซิงหยางใช่ไหม” เยี่ยหวันหวั่นมองหญิงสาว แล้วถาม
“ไม่เลว!” หญิงสาวพยักหน้า เธอเป็นทหารรับจ้างหลบหนีจริงๆ
“ไม่น่าล่ะ…”
จู่ๆ เยี่ยหวันหวั่นก็นึกขึ้นได้ ก่อนหน้านี้ที่โซนบอร์ดประกาศภารกิจ เธอก็เคยเห็นภารกิจที่เกี่ยวกับจิ่วเหวยด้วย
ไล่ล่าหรือจับเป็นจิ่วเหวย เป็นภารกิจที่ยากเทียบเท่ากับระดับ S เลยทีเดียว…
นึกไม่ถึง ทหารรับจ้างหลบหนีของโรงเรียนซิงหยางกลับเข้ามาอยู่ในเดธโรสของเธอด้วย
“หัวหน้า…คุณ…รังเกียจไหมที่ฉันเป็นทหารรับจ้างหลบหนี…กลัวจะโดนโรงเรียนซิงหยางเอาคืนไหมคะ?” จิ่วเหวยขมวดคิ้ว แล้วมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยความกังวล
แม้แต่ตัวจิ่วเหวยเองก็ไม่เคยคาดคิด ว่าพอเธอกลายเป็นทหารรับจ้างหลบหนีแล้วจะยังมีกลุ่มอำนาจใหญ่ๆ กล้ารับเธอไว้ แถมกลุ่มอำนาจใหญ่ที่ว่า ยังเป็นถึงเดธโรสในตำนานซะด้วย!
เยี่ยหวันหวั่นเงียบ
ยิ่งเยี่ยหวันหวั่นเงียบ จิ่วเหวยก็ยิ่งกังวลและรู้สึกสิ้นหวัง
ผ่านไปครู่หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นเงยหน้ามองจิ่วเหวย แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ทำไมล่ะ เธอคิดว่าแค่โรงเรียนซิงหยาง เดธโรสของเราจะกลัวงั้นเหรอ?”
จิ่วเหวยได้ยินอย่างงั้น สีหน้าสิ้นหวังก็จางหายไปทันที เธอส่ายหน้าให้เยี่ยหวันหวั่น “ไม่กลัวอยู่แล้วค่ะ!”
“โรงเรียนซิงหยางสำหรับฉัน ไม่มีค่าพอให้พูดถึงด้วยซ้ำ” เยี่ยหวันหวั่นกล่าวเสียงเรียบ
เพียงแต่ถึงปากจะพูดอย่างงั้น ในใจกลับสั่นสะท้านไปทั้งทรวงแล้ว นี่เธอขี้คุยเกินไปรึเปล่าเนี่ย…ถึงยังไงนั่นก็หนึ่งในสามโรงเรียนทหารรับจ้างที่ใหญ่ที่สุด ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ…
“ฮ่าๆ จิ่วเหวย เธอจะกลัวอะไร เดธโรสมีเหรอจะกลัวโรงเรียนซิงหยาง? ทำตัวดีๆ เข้าล่ะ วันไหนหัวหน้าอารมณ์ดี ไม่แน่จะช่วยเธอทำลายโรงเรียนซิงหยางให้ราบ!” ชายชรากล่าว
“ค่ะ!” จิ่วเหวยพยักหน้ารัวๆ
เยี่ยหวันหวั่นได้แต่พูดไม่ออก ทำลายแม่เอ็งน่ะสิ…
ไม่นาน เยี่ยหวันหวั่นเดินตามชายชรากับจิ่วเหวยเข้าไปข้างในคฤหาสน์
พอเยี่ยหวันหวั่นมาถึง หลิวอิ่งกับพวกเหล่าเจียงก็รีบเดินเข้ามาต้อนรับ
ถึงพวกเขาจะไม่ได้สู้เก่งเท่ากับสมาชิกในเดธโรส แต่กลับมีประสบการณ์ด้านการตั้งกฎเกณฑ์ต่างๆ อย่างดี เรียกได้ว่าเป็นบุคลากรด้านการจัดการ
สำหรับพวกเหล่าเจียง เยี่ยหวันหวั่นถือว่ารู้จักพวกเขาเป็นอย่างดี ที่ให้พวกเขาอยู่ฝ่ายการจัดการ ด้านหนึ่งเพื่อตอบสนองความเห่อเหิมต้องการมีหน้ามีตาของพวกเขา ด้านหนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นเองก็จะได้วางใจ
————————————————————————————-
บทที่ 1650 เห็นฉันเป็นคนไร้ยางอายเหรอ
“พี่เฟิ่ง…”
หลิวอิ่งหันมายิ้มให้เยี่ยหวันหวั่นน้อยๆ
หลิวอิ่งรู้สึกซาบซึ้งกับเยี่ยหวันหวั่นมาก ถ้าไม่มีเยี่ยหวันหวั่น เขาคงไม่ได้มาถึงรัฐอิสระ กลายเป็นเจ้าคนนายคน กระทั่งได้เป็นผู้ดูแลควบคุมเหล่านักสู้ที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองร้อยเท่าพันเท่าพวกนี้
“นายท่าน”
ไม่นาน โลลิน้อยกับพวกเจ้าอ้วนก็รีบเดินเข้ามาหา
เยี่ยหวันหวั่นเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่โดยมีทุกคนเดินตาม
หลิวอิ่งหยิบเอกสารฉบับหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับกำลังคนในเดธโรสยื่นให้เยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นหยิบเอกสารขึ้นมาอ่านอย่างละเอียด
พักนี้เดธโรสรับทหารรับจ้างระดับ S มาสามคน ระดับ S+ หนึ่งคน แล้วก็ยังมีนักสู้ที่ฝีมือไม่ธรรมดาอีกนับร้อยคน
“พี่เฟิ่ง ยิ่งคนเยอะ ค่าใช้จ่ายของเราก็ยิ่งมากตามไปด้วย…หน้าสุดท้ายเป็นรายงานเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย” หลิวอิ่งหันไปกล่าวกับเยี่ยหวันหวั่นด้วยใบหน้ากังวลเล็กน้อย
เยี่ยหวันหวั่นพลิกเอกสารจนถึงหน้าสุดท้าย
ต้องยอมรับว่าพักนี้ทรัพย์สินของเดธโรสถูกใช้ไปมากจริงๆ
แต่ถ้าองค์กรหนึ่งไม่มีเงิน จะยิ่งใหญ่ได้ยังไง ถ้าแม้แต่ข้าวยังไม่มีให้กิน ใครจะอยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่ทำให้คนอดอยากปากแห้งกันล่ะ?
อย่าว่าแต่มีผู้นำเป็นเดธโรสเลย ถึงจะเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ก็ไม่ได้
“ตอนนี้ เดธโรสยังอยู่ในช่วงสร้างตัว เลยยังยากที่จะทำกำไรได้…” เหล่างเจียงถอนหายใจ
“ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีเลย…เว้นแต่ว่า…” หลิวอิ่งมองเยี่ยหวันหวั่น ทำท่าจะพูดแต่ก็หยุด
“ว่ามา…”
เยี่ยหวันหวั่นกล่าว
“…ทำเหมือนที่พันธมิตรอู๋เว่ยทำ…ขอแค่พวกเราเลียนแบบบ้าง เรื่องเงินต้นทุนไม่ใช่ปัญหา กลับจะได้กำไรมากด้วยซ้ำ” หลิวอิ่งทำหน้าจริงจัง
โลลิน้อยทำหน้างง “หมายความว่ายังไง อยู่ดีๆ ทำไมต้องไปเลียนแบบพันธมิตรอู๋เว่ยด้วย…”
ไฮดี้พยักหน้ารัวๆ “นั่นสิ พันธมิตรอู๋เว่ยมีเทคนิคการหาเงินที่ยอดเยี่ยมอะไรงั้นเหรอ?”
“เทคนิคยอดเยี่ยมอะไรกัน พันธมิตรอู๋เว่ยมีเทคนิคหาเงินอะไรที่ไหน อาศัยแย่งชิงมาทั้งนั้น” หนุ่มไว้เคราเม้มปาก “พันธมิตรอู๋เว่ยขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดหัวขโมยแห่งรัฐอิสระเชียวนะ!”
“ใช่” หลิวอิ่งพยักหน้า มองเยี่ยหวันหวั่นแล้วบอกว่า “ถ้าเดธโรสเลียนแบบพันธมิตรอู๋เว่ยได้…เราก็จะแก้ปัญหาเรื่องขาดแคลนเงินได้ทันที”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก องค์กรไร้ยางอายแค่องค์กรเดียวก็พอแล้ว ถ้ายังมีอีก…เห็นฉันเป็นคนไร้ยางอายรึไง?
“พี่เฟิ่ง พี่คิดว่ายังไง?” หลิวอิ่งมองเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นทำท่าทางครุ่นคิด จากนั้นก็ส่ายหน้า “ไม่จำเป็น ปัญหาเรื่องขาดเงิน ฉันจะแก้ปัญหาด้วยทรัพย์สินของพันธมิตรอู๋เว่ย เดธโรสกับพันธมิตรอู๋เว่ยเป็นองค์กรพี่น้องกัน แค่องค์ไร้ยางอายองค์กรเดียวก็มากพอแล้ว”
หลิวอิ่งเงียบ
เหล่าเจียงพูดไม่ออก
โลลิน้อยเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร
หลิวอิ่งกับโลลิน้อย แล้วก็พวกเหล่าเจียงต่างก็รู้ว่านอกจากเดธโรสแล้ว เยี่ยหวันหวั่นยังมีอีกหนึ่งตัวตนนั่นก็คือไป๋เฟิ่งแห่งพันธมิตรอู๋เว่ย
หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยพูดออกมากับปากเองว่าพันธมิตรอู๋เว่ยไร้ยางอาย…
ไม่รู้ทำถึงได้รู้สึกทะแม่งๆ ยังไงชอบกล
แต่การที่เดธโรสของพวกเขาแย่งเงินของพันธมิตรอู๋เว่ยมาเพื่อสร้างตัว ไม่ใช่เรื่องน่าอายกว่าเหรอ?
เยี่ยหวันหวั่นโทรฯ ไปที่ฝ่ายทรัพย์สินของพันธมิตรอู๋เว่ย เพื่อให้เอาเงินมาส่งก้อนหนึ่ง
ถึงจะไม่ใช่จำนวนที่มาก แต่ก็มากพอที่จะทำให้เดธโรสยืนหยัดไปได้อีกหนึ่งเดือน
“อีกอย่าง ถึงธุรกิจในรัฐอิสระจะถูกผูกขาดไปแล้ว แต่เดธโรสมีคนเก่งไม่น้อย ไปรับภารกิจทหารรับจ้างมาทำบ้างก็ได้” เยี่ยหวันหวั่นมองหน้าทุกคน แล้วจึงเอ่ย