บทที่ 1661 หลอกพวกคุณ
“เธอ…ทำภารกิจระดับ A สำเร็จ?” ผู้อาวุโสกงขมวดคิ้ว เรื่องอย่างนี้หาล้อเล่นได้
“ผู้อาวุโสกง ความสามารถอวดเบ่งของลูกศิษย์คุณ คุณเป็นคนถ่ายทอดด้วยตัวเองเหรอ เป็นแค่ทหารรับจ้างระดับ D ก็กล้าคุยโวหน้าไม่อายที่นี่น่ะ” เหลยเฮ่อจ้องผู้อาวุโสกงพลางเอ่ยอย่างเย็นชา
“อาจารย์ ด้านอวดเบ่งนี้อาจารย์ไม่สู้ผู้อาวุโสกงจริงๆ ค่ะ” เมิ่งเข่อตอบ
เห็นศิษย์อาจารย์คู่นี้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ในใจเยี่ยหวันหวั่นก็ยิ่งปั่นป่วนแทนผู้อาวุโสกง เธอหันมองผู้อาวุโสกงทันที “อาจารย์ดูสิคะ ด้านบุคลิกนิสัย อาจารย์ก็ไม่สู้ผู้อาวุโสเหลยเฮ่อแล้ว ยังไงเสียผู้อาวุโสเหลยเฮ่อแม้แต่จะดูถูกคนอื่นก็ยังต้องพาลูกศิษย์ตัวเองมาด้วย ความสามารถเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยนี้ เก่งกาจกว่าพวกเรามาก ไม่เหมือนพวกเรา อับอายกับเรื่องแบบนี้”
ได้ยินดังนั้น ผู้อาวุโสเหลยเฮ่อกับเมิ่งเข่อจ้องเยี่ยหวันหวั่นตาเขม็ง
สีหน้าผู้อาวุโสกงยังคงไม่เปลี่ยน เขาเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น “หวันหวั่น เธอบอกว่าทำภารกิจระดับ A สำเร็จ เรื่องนี้จะพูดมั่วไม่ได้ ถ้าเธอมีหลักฐานพิสูจน์ว่าเธอทำภารกิจระดับ A เสร็จสมบูรณ์ อาจารย์ย่อมต้องหาความเป็นธรรมให้ศิษย์”
ได้ยินดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะน้อยๆ จากนั้นวินาทีถัดมาก็หยิบซองผนึกออกมาเผยต่อหน้าทุกคน
ภารกิจระดับ A: ล้มเป่ยโต่วพันธมิตรอู๋เว่ย
หลังเห็นหลักฐาน ไม่เหนือความคาดหมาย ในกลุ่มคนพลันมีเสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นมาอีก แต่เสียงหัวเราะเยาะนี้หาใช่หัวเราะใส่เยี่ยหวันหวั่น แต่เล็งไปยังผู้อาวุโสกง
ในโรงเรียนชื่อเยี่ยน ปกติผู้อาวุโสกงแทบจะไม่คลุกคลีกับคน หน้าที่ก็คือหน้าที่ จึงล่วงเกินบุคคลระดับสูงไว้มากมาย เบื้องบนพวกนี้จึงยืมเรื่องของเยี่ยหวันหวั่นมากดดันผู้อาวุโสกงได้พอดี ส่วนเยี่ยหวันหวั่นจะหักหลังจริงหรือไม่ ไม่มีใครสนใจแม้แต่น้อย นี่ก็คือเกมอำนาจของเบื้องบนชื่อเยี่ยน
“พันธมิตรอู๋เว่ย…ฮ่าๆ ผู้อาวุโสกง ศิษย์ท่านนี้ของคุณออกจะน่ารักไปหน่อยแล้ว เป่ยโต่วเป็นคนเปี่ยมความสามารถภายใต้ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนสนิทของแบดเจอร์นะ” หญิงชราข้างผู้อาวุโสเหลยเฮ่อหัวเราะหยันเอ่ย
“ฉันว่านะผู้อาวุโสกง ลูกศิษย์คนนี้ของคุณคิดว่ายากหนีโทษหลบหนีของตัวเองเลยดับเครื่องชนซะเลย? ล้มตีเป่ยโต่วพันธมิตรอู๋เว่ย อาศัยเธอทหารรับจ้างระดับ D เนี่ยนะ?”
ระหว่างที่พูดคุย ผู้อาวุโสเหลยเฮ่อก็ส่งสายตาให้เมิ่งเข่อลูกศิษย์
เวลานั้นเมิ่งเข่อเอ่ยเสียงเย็นเยียบ “หึๆ ในเมื่อเธอพูดว่าตัวเองทำภารกิจระดับ A สำเร็จแล้ว ล้มเป่ยโต่วแล้ว ไม่มีปัญหา หยิบหลักฐานออกมา บนภารกิจบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าต้องอัดวิดีโอเป็นหลักฐาน”
“หวันหวั่น วิดีโอ” ผู้อาวุโสกงมองเยี่ยหวันหวั่น
ได้ยินดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็พยักหน้า ก่อนคลำหาในกระเป๋า
วินาทีถัดมา เยี่ยหวันหวั่นพลันหน้าเปลี่ยนสี “แย่ละ…มือถือหนูหายแล้ว…วิดีโอเก็บอยู่ด้านในมือถือ…”
สิ้นเสียงของเยี่ยหวันหวั่น ทั่วทั้งที่แห่งนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะ กระทั่งทหารรับจ้างระดับสูงบางส่วนที่อยู่ไม่ไกลยังหัวเราะท้องแข็ง
มือถือตกหายแล้ว ข้ออ้างอย่างนี้ออกจากน่าหัวเราะไปหน่อยแล้ว
แต่ทว่าสีหน้าผู้อาวุโสกงกลับไม่แปรเปลี่ยนเสมือนว่าอยู่ในความคาดคิด
ยังไงเสียลูกศิษย์ในนามคนนี้ของเขาก็เป็นเพียงแค่ทหารรับจ้างระดับ D จะไปทำภารกิจระดับ A สำเร็จได้ยังไง แถมยังเป็นเกี่ยวกับพันธมิตรอู๋เว่ย…
“ฉันคือเป่ยโต่วพันธมิตรอู๋เว่ย แกเป็นทหารรับจ้างจากไหนมาท้าทายบิดา!”
ขณะที่ทุกคนกำลังกุมท้องหัวเราะ เยี่ยหวันหวั่นก็มีสีหน้าเปี่ยมความชั่วร้าย ในมือกำลังถือมือถือ
ในมือถือกำลังฉายวิดีโอช่วงหนึ่ง
ใกล้กับสำนักงานใหญ่พันธมิตรอู๋เว่ย หญิงสาวหน้าตาอัปลักษณ์คนหนึ่งร่างกายราวกับลมคลั่ง ท่วงท่าประดุจคลื่นทะเลโหมซัดสาดไม่อาจบรรยาย
เห็นแค่ว่าเป่ยโต่วสู้ไม่ถึงสองรอบ หญิงสาวอัปลักษณ์ถีบเขาทีเดียวหมอบพื้น จากนั้นหญิงสาวก็เหยียบเป่ยโต่วไว้ด้านใต้
“มือถือไม่ได้ตก ล้อพวกคุณเล่นน่ะ” มุมปากเยี่ยหวันหวั่นยกสูงน้อยๆ
——————————————————————————————–
บทที่ 1662 ผู้หญิงคนนี้เป็นคนโง่ใช่ไหม
เวลานี้ทุกคนเงียบเป็นเป่าสาก
คลิปวิดีโอในมือถือของเยี่ยหวันหวั่น เป่ยโต่วถูกถีบปลิวไปกองกับพื้น อเนถอนาถมาก
“เป็นไปได้ยังไง…”
ทหารรับจ้างระดับ D บางส่วนรอบด้าน มองเนื้อหาบนวิดีโอมือถือของเยี่ยหวันหวั่นอย่างไม่อยากเชื่อ
เป่ยโต่วคนสนิทของแบดเจอร์ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย ถูกทหารระดับ D คนหนึ่งของโรงเรียนชื่อเยี่ยนเอาชนะอย่างง่ายดายแบบนี้ อีกทั้งยังถูกเหยียบอยู่ใต้เท้า…
เรื่องอย่างนี้ จะเกิดขึ้นได้ยังไง
“น่าขัน” เมิ่งเข่อจ้องเยี่ยหวันหวั่น “เธอบอกว่าเขาเป็นเป่ยโต่วของพันธมิตรอู๋เว่ย เขาก็ใช่เหรอ คนของพันธมิตรอู๋เว่ยหลายคนเป็นปริศนา มีคนนอกน้อยมากที่จะเคยพบ เธอจะเอาอะไรมาพิสูจน์”
ได้ยินดังนั้น มุมปากเยี่ยหวันหวั่นกระตุกเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ หรือว่าเป็นคนโง่เหรอ…
แค่มีสมองสักหน่อยก็น่าจะรู้ว่า ในสถานการณ์อย่างนี้ใครเขาจะหยิบวิดีโอปลอมออกมา ถ้าคนคนนั้นไม่ใช่เป่ยโต่ว เกรงว่าพริบตาเดียวก็คงถูกมองออก
ดูทรงลูกๆ ของตระกูลใหญ่รัฐอิสระพวกนี้คงฝึกวิทยายุทธ์จนคลั่งไคล้หนัก แม้แต่สมองก็ไม่เหลือแล้ว
“ใช่ เธอบอกคนในวิดีโอคือเป่ยโต่ว มีหลักฐานอะไร อาศัยเธอทหารระดับ D อย่าว่าแต่ล้มเป่ยโต่ว เกรงว่าแม้แต่พันธมิตรอู๋เว่ยเธอก็ยังเฉียดเข้าใกล้ไม่ได้เลย” ไม่ไกลนักจางจั้วเหนียนก็หัวเราะเยาะเอ่ย
ยังไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปากนักเรียนทหารรับจ้างระดับ S ที่สวมชุดคลุมสีทองคนหนึ่งก็เดินเข้ามา หลังมองเป่ยโต่วที่ร้องโหยหวนในวิดีโอแวบหนึ่งแล้วก็เอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ผู้ชายในวิดีโอคือเป่ยโต่วจริงๆ ในพันธมิตรอู๋เว่ย นอกจากผู้อาวุโสกับแบดเจอร์ที่เป็นปริศนามาก สมาชิกอย่างเป่ยโต่วปกติจะโอ้อวดมาก ไม่มีทางปลอมได้”
เวลานั้นทหารรับจ้างระดับสูงที่เคยเห็นเป่ยโต่วมาก่อนบางคนก็พากันพยักหน้า
“ผู้ชายใต้ฝ่าเท้ารุ่นน้องท่านนี้ก็คือเป่ยโต่ว ผมเคยเห็นเขา ไม่ผิดแน่”
“คนคนนั้นคือเป่ยโต่วจริงๆ รุ่นน้องท่านนี้ถะ ถูกดูเบาไปจริงๆ อย่างน้อยก็ต้องมีพลังต่อสู้ของทหารรับจ้างระดับ A+ ทำไมถึงเป็นแค่ทหารรับจ้างระดับ D กัน”
ได้ยินคำพูดของทหารรับจ้างระดับสูงพวกนั้น จางจั้วเหนียนกับจางต๋าทั้งสองก็พลันหน้าเปลี่ยนสี
ใครจะคิดถึงว่าเยี่ยหวันหวั่นทหารรับจ้างใหม่ระดับ D คนหนึ่ง กลับทำภารกิจระดับ A ล้มเป่ยโต่วพันธมิตรอู๋เว่ยสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียวจริงๆ …
สีหน้าของเมิ่งเข่อพลันทะมึนลง แค่คนใหม่ระดับ D หนึ่งคน มาโรงเรียนได้ไม่กี่วันก็กลับทำภารกิจระดับ A สำเร็จจริงๆ
เวลานั้นผู้อาวุโสที่ด้านข้างเยี่ยหวันหวั่น มองเยี่ยหวันหวั่น ในดวงตาวาบประกายความประหลาดใจ
ตอนนั้นเขารับเยี่ยหวันหวั่นเป็นลูกศิษย์ในนาม เพราะเห็นแก่หน้าจี้หวงล้วนๆ มิตรภาพระหว่างเขากับจี้ห้วงก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่จุดที่สำคัญยิ่งกว่าคือจี้หวงเป็นคู่หมั้นของเนี่ยอู๋โยวศิษย์รักของเขา…ถ้าไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ระดับนี้ เขาก็ไม่มีทางรับเยี่ยหวันหวั่นเด็ดขาด แม้แต่ศิษย์ในนามก็ไม่มีทาง
“อาจารย์ เกรงว่ารุ่นน้องเยี่ยถูกดูแคลนแล้วครับ” หลี่หานเฟิงเอ่ยปากเรียบๆ
ผู้อาวุโสกงมองเยี่ยหวันหวั่น มีท่าทีครุ่นคิด
“ฮ่าๆ ผู้อาวุโสกง ศิษย์ท่านนี้ของคุณยอดเยี่ยม ยังเป็นแค่ทหารรับจ้างระดับ D ก็กลับทำภารกิจระดับ A สำเร็จได้…ไม่เลว!”
“ผู้อาวุโสกงหยิบได้อัญมณีแล้ว…”
เบื้องบนระดับผู้อาวุโสที่เป็นกลางหลายคนมีสีหน้ายิ้มแย้ม
ยังไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก เบื้องบนที่อายุประมาณช่วงห้าสิบคนหนึ่งในกลุ่มก็ก้าวออกมาและเดินมาถึงข้างตัวเยี่ยหวันหวั่นแล้วยิ้มเอ่ย “สหายน้อย เธอน่าจะยังเป็นแค่ศิษย์ในนามของผู้อาวุโสกง ไม่ใช่ศิษย์ส่วนตัวทีสินะ”
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าตามตรง