บทที่ 1667 เข้าร่วมงานแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์
หลังหลี่หานเฟิงจากไป ไม่นานเยี่ยหวันหวั่นก็หันตัวจากไปด้วย ถูกพนักงานร้านกาแฟมองด้วยความหวาดกลัว ไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีจริงๆ …
เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกไม่มีกะจิตกะใจอีกทั้งยังเป็นฝ่ายผิดอยู่บ้างจึงไม่ได้อยู่ในร้านกาแฟนาน
หลังกลับมาถึงหอพักรวม พวกหลี่ซินก็เบิกตาโตจ้องมองเยี่ยหวันหวั่น
“พี่สาว…กินข้าวหรือยัง ฉันซื้อข้าวราดมาให้!” หลี่เฟิงรีบขึ้นหน้า ใบหน้าเปี่ยมรอยยิ้มแบบประจบประแจง
“หลบไปข้างๆ เลยไป!” ทหารรับจ้างเก่าแก่คนหนึ่งชนหลี่ซินออกและจ้องมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “พี่หวั่น มา ผมซื้อชานมมาให้พี่ แล้วก็ยังมีอาหารหรูด้วยนะ!”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก นี่มันอะไรกันเนี่ย!
ทุกคนในหอพักรวมแต่ละคนต่างถามไถ่เอาใจเยี่ยหวันหวั่น ทำให้เยี่ยหวันหวั่นสับสนงุนงง
“พี่หวั่น พี่เจ๋งเกินไปแล้ว! ถึงกับอัดเป่ยโต่วกับชีซิงพันธมิตรอู๋เว่ยได้!”
“พี่หวั่น ครั้งหน้าพาพวกเราไปด้วยสิ…ขอแค่พี่หวั่นพาเราไปทำภารกิจด้วยสักสองสามภารกิจ พวกเราก็เลื่อนเป็นทหารรับจ้างระดับ C ได้แล้ว!”
ได้ยินคำพูดของทุกคน เยี่ยหวันหวั่นก็พลันกระจ่าง มิน่าแต่ละคนถึงกระตือรือร้นแบบนี้
“พี่หวั่น ทั้งโรงเรียนชื่อเยี่ยน พี่เป็นคนที่สองที่กล้าต่อว่าเบื้องบน คนแรกคือรุ่นพี่เนี่ยอู๋โยว!”
“รุ่นพี่เนี่ยอู๋โยวเป็นตำนานของโรงเรียนชื่อเยี่ยน เคยสร้างสถิติไปตั้งเท่าไร น่าเสียดายที่ต่อมารุ่นพี่เนี่ยหลิงหลงก็ทำลายสถิติด้วยตัวเองแล้ว…”
ดวงตาเยี่ยหวันหวั่นวาบประกายเย็นเยียบ ของที่เนี่ยหลิงหลงแย่งไป เธอจะเอากลับมา…เร็วนี้แหละ…
…
เช้าวันถัดมา เยี่ยหวันหวั่นก็มาถึงคฤหาสน์ของผู้อาวุโสกง
ในโถงใหญ่นอกจากผู้อาวุโสกงก็ยังมีหญิงชราคนหนึ่ง
หญิงชราคนนี้เยี่ยหวันหวั่นเคยเห็นเมื่อวาน ก็คือเบื้องบนที่อยู่ฝั่งเดียวกับผู้อาวุโสเหลยเฮ่อ
“ผู้อาวุโสกง ลูกศิษย์คนนี้ของคุณต้องเข้าร่วมการแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์” หญิงชรายิ้มหยันเอ่ย
ได้ยินดังนั้นผู้อาวุโสกงเหล่มองหญิงชราแวบหนึ่ง “เยี่ยหวันหวั่นเป็นแค่ทหารรับจ้างระดับ D ไม่ต้องเข้าร่วมก็ได้”
“หึๆ ผู้อาวุโสกง แต่ลูกศิษย์คนนี้ของคุณกลับทำภารกิจระดับ A สำเร็จสองภารกิจ ไม่ว่าเธอมีระดับอะไรก็ต้องเข้าร่วม อีกอย่างผู้อาวุโสเหลยเฮ่อก็ขอคำแนะนำจากผู้อำนวยการและผู้อำนวยการก็เห็นด้วยแล้ว!” หญิงชราปากยิ้มแต่ใจไม่ยิ้มเอ่ย
ยังไม่รอให้ผู้อาวุโสกงพูดต่อ เยี่ยหวันหวั่นก็พลันลุกขึ้น จ้องหญิงชราพลางเอ่ยเสียงเย็น “บอกเมิ่งเข่อแล้วก็ผู้อาวุโสเหลยเฮ่อ ฉันจะเข้าร่วมงานแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์”
ได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น หญิงชราพลันหัวเราะก่อนพยักหน้า “ผู้อาวุโสกง คุณเองก็ได้ยินแล้ว ลูกศิษย์คุณเต็มใจเข้าร่วมเอง คำที่พูดออกไปแล้ว น้ำที่พ่นออกไปแล้วเก็บกลับคืนไม่ได้นะ”
หญิงชราพูดจบก็ไม่เปิดโอกาสให้ผู้อาวุโสกงปฏิเสธ หันตัวจากไป
หลังหญิงชราจากไป ผู้อาวุโสกงก็มองเยี่ยหวันหวั่นอย่างไม่พอใจ สีหน้าเปี่ยมความเข้มงวด “ใครอนุญาตให้เธอเข้าร่วมงานแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์”
เยี่ยหวันหวั่นนิ่งเงียบ เหล้า!
“เยี่ยหวันหวั่น เธอรู้ไหมว่าทำไมผู้อาวุโสเหลยเฮ่อต้องไปยื่นคำร้องกับผู้อำนวยการ นี่ก็คือการอยากประจบเพื่อฆ่าเธอ” ในหัวผู้อาวุโสกงผุดภาพฉากหนึ่ง “หนึ่งปีก่อนฉันมีลูกศิษย์ส่วนตัวหนึ่งคน เป็นอัจฉริยะล้ำเลิศ ชื่อว่าเฝิงเทียน เขามีโอกาสก้าวข้ามรุ่นพี่อู๋โยวของเธอสูงมาก…”
เรื่องเกี่ยวกับเฝิงเทียน เยี่ยหวันหวั่นก็เคยได้ที่โรงเรียนชื่อเยี่ยนมาก่อน
เฝิงเทียนเข้าร่วมงานแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์แทบจะไร้พ่าย แต่สุดท้ายกลับเจอเข้ากับลูกศิษย์คนโตของผู้อาวุโสเหลยเฮ่อ
เมื่อสู้กับลูกศิษย์คนโตของผู้อาวุโสเหลยเฮ่อ เฝิงเทียนกลับถูกลูกศิษย์คนโตของผู้อาวุโสเหลยเฮ่ออัดตายทั้งเป็น…
งานแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์แบบนี้แม้จะหยุดเมื่อสมควร แต่ก็มีตอนที่ผิดพลาดจนพรากชีวิตคนอยู่เหมือนกัน
——————————————————————————-
บทที่ 1668 จี้หวงกับผู้นำอาชูร่า
ศิษย์คนโตของเหลยเฮ่อแม้จงใจฆ่าเฝิงเทียน แต่กลับพูดว่าตัวเองพลั้งมือ ไม่ควบคุมแรงให้ดี…เรื่องนี้โรงเรียนก็ไม่อาจไล่ตรวจสอบ…
“ครั้งนี้ เธอเข้าร่วมงานแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์ จุดจบจะต้องเหมือนศิษย์พี่เฝิงเทียนเธอแน่นอน” ผู้อาวุโสจ้องเยี่ยหวันหวั่นและถอนหายใจเบา
ยังไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก ผู้อาวุโสกงก็เอ่ยอีก “แต่เธอไม่น่าเข้าถึงรอบตัดสิน ถ้าไม่เจอลูกศิษย์ของเหลยเฮ่อก็ไม่น่าเป็นไร”
เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเข้ารอบตัดสินได้หรือเปล่า แต่เธอยังไม่ได้ลงสนามเลยนะ จะปอดแหกได้ยังไงกัน!
เห็นท่าทางอวดดีของหญิงชราคนนั้น ถ้าเธอไม่เข้าร่วมการแข่งขันนี้ เกรงว่าหน้าอาจารย์คงหม่นแสงแล้ว
เป็นไงเป็นกัน เธอเหรอจะกลัวพวกเขา!
“อาจารย์มีเหล้าไหม” เยี่ยหวันหวั่นจ้องผู้อาวุโสกงพร้อมเอ่ยปากถาม
ได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น ผู้อาวุโสกงอึ้งงันเล็กน้อย
“เป็นทหารรับจ้าง แถมยังเป็นเด็กสาว ดื่มเหล้าให้น้อยหน่อย” ผู้อาวุโสกงเอ่ยปาก
เห็นผู้อาวุโสกงไม่ยอมให้เหล้าตัวเอง ด้วยความจนใจเยี่ยหวันหวั่นก็ได้แต่ล้มเลิก
หลังออกจากคฤหาสน์ เยี่ยหวันหวั่นมุ่งตรงไปยังร้านกาแฟทันที
“ค็อกเทลดีกรีสูงอย่างนั้นครั้งก่อน เติมให้ฉันเต็มน้ำเต้า!”
เยี่ยหวันหวั่นหยิบน้ำเต้าใส่เหล้าใหม่เอี่ยมออกมาส่งให้พนักงาน
มองพนักงานเติมค็อกเทลดีกรีสูงจนเต็มน้ำเต้า เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูดพอสมควร ตัวเธอเป็นปีศาจจริงๆ เหรอ…น่ากลัวขนาดนั้นเชียว!?
หลังจ่ายเงินแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็ยกน้ำเต้าขึ้นอย่างระมัดระวัง
เหล้า…เป็นของดี…
งานแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์ครั้งนี้ ก็พึ่งน้ำเต้าเหล้านี้ล้วนๆ แล้ว…
…
เพียงพริบตา เวลาก็ผ่านไปสามวันแล้ว
ภูเขาหลังโรงเรียนชื่อเยี่ยนมีผู้คนคับคั่ง
ทหารรับจ้างระดับ A ที่เห็นได้น้อยมากในวันธรรมดา ตอนนี้สามารถเห็นได้ทุกแห่งหน กระทั่งว่าทหารรับจ้างระดับ S ที่สวมชุดนักเรียนสีทองก็ปรากฏตัวกันไม่น้อย
ตรงด้านหน้าติดตั้งเวทีขนาดใหญ่จำนวนมากไว้เรียบร้อยแล้ว
งานแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์จะเริ่มอย่างเป็นทางการในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า
เยี่ยหวันหวั่นแขวนน้ำเต้าเหล้าไว้ที่เอว เธอเดินๆ ดูๆ รอบด้าน พิจารณาสถานที่
จำต้องพูดว่าโรงเรียนชื่อเยี่ยนไม่ได้อวดเก่งจริงๆ หนึ่งในสามโรงเรียนทหารรับจ้างใหญ่น่าประทับใจอย่างยิ่ง
ไม่ว่าเบื้องบนหรือว่าทหารรับจ้างระดับสูง ทั้งจำนวนและคุณภาพ ไม่ใช่อะไรที่โรงเรียนทหารรับจ้างธรรมดาจะเปรียบเทียบได้ทั้งนั้น
ต่อให้พันธมิตรอู๋เว่ยจู่โจมเต็มอัตราศึก เจอโรงเรียนอย่างนี้ไปก็เกรงว่าต้องถูกโจมตีจนต้องล่าถอย
เยี่ยหวันหวั่นมาถึงที่นั่งแขกกิตติมศักดิ์อย่างรวดเร็ว
เดิมทีเธอตั้งใจจะพูดกับผู้อาวุโสกงสองสามประโยค ยังไม่เจอผู้อาวุโสกง ฝ่ามือมีน้ำหนักคู่หนึ่งก็กลับตบลงไหล่ของเยี่ยหวันหวั่นเบาๆ
พริบตานั้น เยี่ยหวันหวั่นหันตัวไปอย่างรวดเร็ว
“จี้ซิวหร่าน…”
หลังเห็นรอยยิ้มราวอาบลมวสันต์ของชายหนุ่ม เยี่ยหวันหวั่นก็ตะลึงเล็กน้อย
ชายชุดขาวทั้งตัวตรงหน้านี้ ถ้าไม่ใช่จี้ซิวหร่านแล้วยังเป็นใครได้อีก!?
ยังไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก ทั้งตัวเธอกลับพลันหนาวสั่น
เธอมองยังจุดไกลๆ ของที่นั่งกิตติมศักดิ์แทบจะโดยไม่รู้ตัว
ชายหนุ่มที่สวมสูทค่อนข้างทางการเสมือนกลายเป็นตัวแทนของราตรีสีดำไปแล้ว ในดวงตานั้นเย็นเยียบไร้ซึ่งอุณหภูมิสักเสี้ยว
“ผู้นำอาชูร่า…”
เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้างุนงง
นี่มันเรื่องอะไร…จี้ซิวหร่านกับผู้นำอาชูร่า ทำไมทั้งสองถึงถ่อมาที่นี่ได้!?
เวลานี้สายตาของผู้นำอาชูร่าตกอยู่บนฝ่ามือของจี้ซิวหร่านที่วางอยู่บนไหล่ซ้ายของเยี่ยหวันหวั่นและยิ่งทวีความเย็นเยียบ
จี้ซิวหร่านเหมือนไม่สังเกตเห็นผู้นำอาชูร่าไม่ปาน เขาจ้องเยี่ยหวันหวั่นหัวเราะเบาๆ แล้วจึงเอ่ย “เสี่ยวเฟิง อยู่โรงเรียนชื่อเยี่ยนคุ้นชินไหม”
“พวกคุณมาได้ยังไง” เยี่ยหวันหวั่นจ้องจี้ซิวหร่านพลางขมวดคิ้วแน่น มาแล้วก็มา แต่นี่แม่ง…ทำไมจี้หวงกับผู้นำอาชูร่าถึงยังมาด้วยกันได้!?