บทที่ 1679 กวาดล้างไร้พ่าย
เผชิญหน้ากับขี้เมาอย่างนี้ ส่งฝ่ามือนี้ลงไปก็เพียงพอทำให้กะโหลกแหลกแล้ว
“แย่แล้ว…”
เห็นดังนั้น หลี่ซินกับทหารรับจ้างระดับ D ที่อยู่หอพักเดียวกับเยี่ยหวันหวั่นพลันหน้าเปลี่ยนสี
ทว่า ได้ยินแค่เสียง ‘ปึง’ ดังสนั่นเท่านั้น
ทุกคนในที่นั้นตาโตอ้าปากค้าง
เห็นแค่ว่าเยี่ยหวันหวั่นนั่งอยู่บนเวที มือซ้ายยันคาง มือขวากลับจับฝ่ามือเล่นงานถึงชีวิตที่เมิ่งเข่อฟาดมาไว้ในชั่วพริบตา
เห็นดังนั้นเมิ่งเข่อขมวดคิ้วเล็กน้อย เดิมทียังอยากสะบัดมือขวาของเยี่ยหวันหวั่นออกไป แต่ไม่ว่าออกแรงยังไง มือขวาของเยี่ยหวันหวั่นก็เหมือนกับปากเสือ สะบัดไม่หลุดแม้แต่น้อย!
ไม่นานนัก เยี่ยหวันหวั่นก็เป็นฝ่ายคลายมือขวาก่อน แรงเฉื่อยทำให้เมิ่งเข่อถอยหลังไปหลายก้าว
“อยากตายนักนะ”
วินาทีถัดมา เมิ่งเข่อก็ย่ำเท้า ฝ่ามือกระหน่ำลงมาดุจเม็ดฝน
‘ปึง’!
‘ปัง’!
เยี่ยหวันหวั่นที่อยู่บนเวที ปล่อยให้กระบวนท่าของเมิ่งเข่อโจมตีราวสายฝน เพียงแค่นั่งอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อน มือขวายกขึ้นปัดป่ายไปตามใจ
ภายใต้สายตาของทุกคน ทุกกระบวนท่าของเมิ่งเข่อถูกเยี่ยหวันหวั่นคลี่คลายได้ทั้งหมดอย่างง่ายดาย
ปล่อยให้อีกฝ่านคล่องแคล่วดุจผีเสื้อ โหดเหี้ยมดุจเสือ แต่ทั้งหมดล้วนไร้ผล
“อะไรกัน…”
เมิ่งเข่อหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?
อย่าว่าแต่เมิ่งเข่อ ทุกคนในที่นั้นก็ไม่อาจเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“นี่…โจมตีพอหรือยัง”
ฉับพลันนั้นเยี่ยหวันหวั่นที่นั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อนมาตลอดก็จ้องเมิ่งเข่อเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม
“วอนหาที่ตายแล้ว!”
เมิ่งเข่อตะคอกเสียงเย็น ควบแน่นพละกำลังทั้งร่างในฝ่ามือ แล้วจึงระเบิดใส่เยี่ยหวันหวั่นอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบในทันที
‘ฟึ่บ’!
ทุกคนเห็นแค่ว่าเยี่ยหวันหวั่นยกแขนขวาขึ้นเล็กน้อย และชี้นิ้วออกไปในช่วงเวลาสั้นๆ นี้
‘สวบ’!
นิ้วนี้วาดผ่านอากาศ ในความเลือนราง เสียงแหวกลมก็ดังขึ้นมา
‘ตูม’!
วินาทีถัดมา เมิ่งเข่อหน้าซีด ส่งเสียงกรีดร้องออกมาจากในปาก ทั้งร่างราวกับว่าวสายป่านขาด ถูกเยี่ยหวันหวั่นที่นั่งเท้ากรามบนเวทีโจมตีลอยไปในนิ้วเดียว
เวลานั้น เมิ่งเทียนที่อยู่ไม่ไกลก็ตาไวมือไว ขึ้นหน้ามารับเมิ่งเข่อไว้ชั่วพริบตา
เวลานี้ด้านล่างเวทีที่อึกทึกครึกโครมเงียบเชียบลงอีกครั้ง
เงียบกริบไร้เสียงราวกับตาย
เยี่ยหวันหวั่นใช้เพียงนิ้วเดียวก็โจมตีเมิ่งเข่อลูกศิษย์ของผู้อาวุโสเหลยเฮ่อปลิวออกไปได้…
“มะ…หมัดเมา!”
ไม่รู้ใครส่งเสียงขึ้นมา
“เชี่ย…หมัดเมาคือหมัดอะไรหา!? หรือว่าคือหมัดเมาจริงๆ? เป็นไปได้ยังไง…”
ทั้งงานพลันอื้ออึง
บนที่นั่งกิตติมศักดิ์ ผู้อาวุโสกงลุกพรวดขึ้นและมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างไม่อยากเชื่อ
สองวันเป็นฝ่ามือมหาเมตตาของเขา นิ้วเดียวโจมตีจนเมิ่งเข่อตัวปลิว…
…
“พวกนายสองคน…” บนเวที เยี่ยหวันหวั่นยังคงนั่งอยู่ที่พื้น แต่กลับกวักนิ้วกลางใส่เมิ่งเข่อกับเมิ่งเทียน “เข้ามาด้วยกันเถอะ”
“หึ…เธอรีบอยากเกิดใหม่ซะจริงนะ”
มุมปากเมิ่งเทียนยกขึ้นน้อยๆ เขาบิดๆ ลำคอ ก้าวเดินไปหาเยี่ยหวันหวั่น เมิ่งเข่อก็แยกกันโอบล้อมจากอีกมุมหนึ่ง อุดทางหนีทั้งหมดของเยี่ยหวันหวั่น
เดินมาถึงข้างตัวของเยี่ยหวันหวั่น เมิ่งเทียนยิ้มหยันดูถูก กำลังคิดจะพูดอะไรบางอย่าง
‘ฟึ่บ’!
ตรงหน้าวาบเส้นเงา ในขณะเดียวกัน เมิ่งเทียนที่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็กระอักเลือดออกมาจากในปากและทั้งตัวก็ลอยออกไป
มุมปากเยี่ยหวันหวั่นยกขึ้นน้อยๆ เธอคว้าขาขวาของเมิ่งเทียนไว้แล้วถึงกับฉุดเมิ่งเทียนลงมาทั้งอย่างนั้น
‘ตูม’!
ร่างกายของเมิ่งเทียนถูกเยี่ยหวันหวั่นเขวี้ยงลงพื้นอย่างแรง
“อ้าก!”
เมิ่งเทียนส่งเสียงร้องโหยหวนราวกับหมูถูกเชือดไม่ปานออกมาจากในปาก
ภายใต้การตาโตอ้าปากค้างของทุกคน เยี่ยหวันหวั่นเหยียบลงบนแขนซ้ายของเมิ่งเทียน เสียงกระดูกหักพลันดังลั่น
————————————————————————————
บทที่ 1680 หมอบลง อย่าขยับ
ตามมาด้วยเสียงกระดูกหักยังมีเสียงร้องโหยหวนของเมิ่งเทียน
“ฉันจะเอาชีวิตแก!”
เห็นดังนั้น เมิ่งเข่อที่อยู่ด้านหลังเยี่ยหวันหวั่นก็รองคำราม ใช้ท่าไม้ตายโจมตีเยี่ยหวันหวั่นจากด้านหลังในพริบตา
“หึ…”
เวลานี้เยี่ยหวันหวั่นยกมุมปากน้อยๆ ไม่แม้แต่มองเมิ่งเข่อที่ด้านหลัง สำหรับเยี่ยหวันหวั่นแล้วก็เหมือนไม่มีความจำเป็นต้องพลิกตัวแม้แต่น้อย
‘ปึง!’
ตอนที่เมิ่งเข่อเพิ่งประชิดตัวเยี่ยหวันหวั่น เยี่ยหวันหวั่นก็กลับใช้ศอกโจมตีกระแทกไปที่ด้านหลังอย่างแรง
วินาทีถัดมาเมิ่งเข่อเสมือนว่าวสายป่านขาด ลอยขึ้นกลางอากาศไปชนเข้ากับราวกั้นเหล็กของเวทีอย่างจัง
“กรี๊ด…!”
เมิ่งเข่อหน้าซีดเผือด พลันกระอักเลือดออกมาจากปาก
เวลานี้เมิ่งเข่อมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างไม่อยากเชื่อ ยัยผู้หญิงน่าเกลียดนี่…ทำไม…ทำไมถึงแข็งแกร่งขนาดนี้!
“เป็นไปไม่ได้…เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”
เมิ่งเข่อกัดฟัน ลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็วก่อนจะพุ่งชนเยี่ยหวันหวั่นอีกครั้ง
ทหารรับจ้างระดับ D หนึ่งคน ผู้หญิงอัปลักษณ์หนึ่งคน…เธอจะแพ้ได้ยังไง!
แต่ไหนแต่ไรมาลูกศิษย์ทั้งหมดของผู้อาวุโสกงก็ถูกอาจารย์กับพวกเธอเหยียบไว้ใต้เท้า ไม่ปล่อยให้ได้พลิกตัวใดๆ เธอไม่อนุญาตเด็ดขาด!
“ทำไมเข้ามาอีกแล้วล่ะ”
เยี่ยหวันหวั่นหันมาชำเลืองมองเมิ่งเข่อที่พุ่งมายังตัวเองด้วยความรวดเร็ว ใบหน้าเผยวาวรังเกียจอย่างไม่ปิดบัง
“นังสวะนี่ ฉันจะเอาชีวิตแก!” เมิ่งเข่อตะโกนเสียงดัง
ได้ยินดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็ขมวดหัวคิ้วน้อยๆ ยังไม่รอให้เมิ่งเข่อเข้าใกล้ตัว เธอก็ยกแขนขวาขึ้นน้อยๆ แล้วฟาดฝ่ามือออกไปอย่างแรง
อย่างมากก็เวลาชั่วหนึ่งลมหายใจ ได้ยินแค่เสียง ‘เพี๊ยะ’ ดังกังวาน
เยี่ยหวันหวั่นตบหน้าเมิ่งเข่ออย่างโหดเหี้ยม
‘ตูม’!
เมิ่งเข่อถูกตบคว่ำลงกับพื้นตามเสียงนั้น
“เฮ้…พวกสวะนี่…แต่ละคนน่าเบื่อซะไม่มี…” เยี่ยหวันหวั่นมองเมิ่งเข่อที่ถูกตบคว่ำข้างกายตัวเอง จากนั้นเธอก็ยกขาขวาแล้วพลันเหยียบลงบนเอวของเมิ่งเข่อที่กำลังพยายามยันตัวขึ้น “หมอบลง อย่าขยับ”
ตามเท้านี้ของเยี่ยหวันหวั่น เมิ่งเข่อก็ล้มลงกับพื้นอีกครั้ง
ทุกฉากบนเวทีทำให้ทั่วทั้งสนามเงียบเป็นเป่าสาก
ทุกคนเบิกตากว้างราวกับเห็นผียังไงยังงั้น
เมิ่งเข่อกับเมิ่งเทียนผู้แข็งแกร่งระดับ S สองคน ในมือของเยี่ยหวันหวั่นกลับไร้พลังโต้ตอบโดยสิ้นเชิง…เหมือนถูกอัดทั้งที่โดนจับห้อยตัวชัดๆ…
“แกอยากตายเรอะ!”
เวลานี้เมิ่งเทียนกุมแขนที่หัก ไม่รู้หยิบกริชออกมาจากที่ไหนพุ่งไปถึงตัวของเยี่ยหวันหวั่นในพริบตา กริชในมือแผ่รังสีเย็นเยียบแน่นหนา ทำท่าจะฟันผ่านไปที่ลำคอของเยี่ยหวันหวั่น
เห็นเมิ่งเทียนขยับตัวว่องไว จี้ซิวหร่านกับนายของอาชูร่าบนที่นั่งกิตติมศักดิ์กลับลุกขึ้นพร้อมกัน
ยังไม่รอให้ทั้งสองคนเคลื่อนไหว เยี่ยหวันหวั่นที่อยู่บนเวทีก็กลับคว้าจับข้อมือที่ถือกริชของเมิ่งเทียนไว้
“แก…”
เมิ่งเทียนมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างไม่อยากเชื่อ ผู้หญิงคนนี้…นี่คือความเร็วของมนุษย์เหรอ!
“จิ๊ๆ…” เยี่ยหวันหวั่นจ้องเมิ่งเทียน แววดูถูกในดวงตาทวีความเข้มข้น
ยังไม่รอให้เมิ่งเทียนเอ่ยปากอะไร เยี่ยหวันหวั่นก็ออกแรงที่ฝ่ามือ
เสียง ‘กร๊อบ’ ดังขึ้น ข้อมือของเมิ่งเทียนถูกเยี่ยหวันหวั่นบีบหักคาที่ กริชก็ร่วงตกสู่พื้นในทันที
เยี่ยหวันหวั่นตาไวมือไว รับกริชที่กำลังจะตกพื้นไว้ในพริบตา
วินาทีถัดมา ไม่มีสัญญาณใดๆ ภายใต้สายตาของทุกคน กริชในมือของเยี่ยหวันหวั่นก็สะบัดเบาๆ
“แกกล้า!”
เวลานั้นผู้อาวุโสเหลยเฮ่อพลันตะคอกใส่เยี่ยหวันหวั่น นังเดรัจฉานนี่ถึงกับกล้าลงมือฆ่าลูกศิษย์คนรองของเขา!