บทที่ 1681 ฉันกำลังฝันเหรอ
แต่พอสิ้นเสียงของผู้อาวุโสเหลยเฮ่อ บนเวทีกลับมีเสียงประหลาดของใบมีดคมตัดผ่าเนื้อดังขึ้น
เห็นแค่ว่ามุมปากเยี่ยหวันหวั่นยกขึ้นสูงน้อยๆ สีหน้าไม่แยแส กริชในมือพลันฟันที่ลำคอของเมิ่งเทียน
เมิ่งเทียนมีสีหน้าเต็มไปด้วยความตะลึง ใบหน้าซีดเผือด สองมือกุมลำคอของตัวเองแน่นโดยสัญชาตญาณ ถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว
เลือดหลั่งไหลออกมาจากปลายนิ้วของเมิ่งเทียน ในช่วงเวลาสั้นๆ พื้นของเวทีก็ถูกย้อมกลายเป็นสีแดงสด
เมิ่งเทียนจ้องเยี่ยหวันหวั่นเหมือนอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่เพิ่งจะอ้าปาก เลือดสดก็ทะลักออกมาจากในปาก
“สนุกไหม”
ใบหน้าเยี่ยหวันหวั่นเต็มไปด้วยรอยยิ้มเฉยชา ปล่อยให้หยดเลือดบนกริชตกลงพื้นขณะมองเมิ่งเทียนอย่างยิ้มแย้ม
ร่างกายเมิ่งเทียนกระตุกเล็กน้อย ผ่านไปชั่วครู่ เสียง ‘ตึง’ ก็ดังขึ้น คนทั้งร่างหงายล้มลงกับพื้นเวที หลังร่างกายชักอีกครู่หนึ่งก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอีก สิ้นลมตายคาที่
“อะ…”
เหตุการณ์ฉากนี้ทำให้เมิ่งเข่อที่อยู่ด้านข้างเสียสติโดยสมบูรณ์ สีหน้าที่มองเยี่ยหวันหวั่นพลันเต็มไปด้วยแววหวาดกลัวเข้มข้น ราวกับได้รับความสะพรึงใหญ่หลวง
…
“ชะ…ชะ…เชี่ย…”
หลี่ซินตาโตอ้าปากค้าง จ้องทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนเวที เยี่ยหวันหวั่นที่ราวกับปีศาจสิงร่างนั้นตกอยู่ในภาวะเสียสติไปแล้ว
ทหารรับจ้างระดับ D ที่อยู่หอเดียวกันกับเยี่ยหวันหวั่นหลายคนก็ราวกับเห็นผีไม่ปาน
“นี่เป็นไปได้ยังไง…พลังต่อสู้ของเมิ่งเทียนนั่นยังสูงกว่าเมิ่งเข่ออีกตั้งขั้นหนึ่งเชียวนะ…”
“ตอนนี้ใช่ปัญหาเรื่องใครสูงกว่าใครหนึ่งขั้นรึไง! แม่เจ้าโว้ย เยี่ยหวันหวั่นฆ่าคนแล้ว!”
“ฆ่าคนแล้ว…เยี่ยหวันหวั่นฆ่าเมิ่งเทียนแล้ว!”
“เชี่ย เยี่ยหวันหวั่นเป็นโรคจิตเหรอ…ถึงกับแข็งแกร่งถึงขั้นนี้…เธอเพิ่งเป็นแค่ทหารรับจ้างระดับ D ได้ยังไง!”
“เหลวไหล ตอนนี้ใช่ปัญหาว่าใครแข็งแกร่งเหรอ!”
“เหลวไหลอะไร ก็เยี่ยหวันหวั่นแข็งแกร่งแต่แรกนี่ แม่งแข็งแกร่งเกินไปแล้ว! หนึ่งต่อสอง หนึ่งคนบาดเจ็บหนัก อีกหนึ่งคนถูกฆ่าตาย!”
“ประเด็นสำคัญคือ…เยี่ยหวันหวั่นฆ่าคนไปแล้ว!”
…
บนที่นั่งกิตติมศักดิ์ นายของอาชูร่าเหลือบมองเมิ่งเทียนที่ถูกเยี่ยหวันหวั่นใช้กริชปาดคอบนเวที ในดวงตาเย็นชาไร้ซึ่งแววสงสาร เขานั่งลงใหม่อีกครั้งอย่างเยือกเย็น
เจียงเหยียนมองเมิ่งเทียนกับเมิ่งเข่ออย่างเย็นชา เดิมทีคิดว่าลูกศิษย์ของผู้อาวุโสเหลยเฮ่อทั้งสองคนอาจจะยังสั่งสอนเยี่ยหวันหวั่นได้สักยก คิดไม่ถึงว่าสวะสองตัวนั้นไม่พอติดฟันนายของอาชูร่าด้วยซ้ำ…ทำเขาคาดหวังเปล่าๆ ปลี้ๆ
ผู้อาวุโสกงจ้องเยี่ยหวันหวั่นบนเวที ดวงตาเผยแววตื่นเต้นและดีใจเป็นล้นพ้นอย่างที่ไม่อาจบรรยาย
“เชี่ย…ฉันกำลังฝันเหรอ”
ศิษย์พี่รองเจี้ยนหู่ที่ได้หน่วยพยาบาลช่วยเหลือจนพ้นขีดอันตรายและกลับมายังที่นั่งกิตติมศักดิ์แล้ว บนแขนเขาพันผ้าพันแผลสีขาว จ้องมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าโง่เขลา อาจารย์ถึงกับเก็บสัตว์ประหลาดกลับมางั้นเหรอ!?
รอยยิ้มที่มุมปากของจี้ซิวหร่านยังคงไม่จางลง เขาจิบน้ำชาราวกับไม่เคยเกิดอะไรขึ้น
“หน้าไม่อาย ฆ่าเพื่อนร่วมโรงเรียนในการแข่งขัน วันนี้อย่าคิดจะมีชีวิตรอดไปได้!”
ฉับพลันนั้นผู้อาวุโสเหลยเฮ่อดีดตัวขึ้นมา กลิ่นอายน่าพรั่นพรึง
“ก็ลองดูสิ!”
วินาทีถัดมาผู้อาวุโสกงก็ลุกขึ้นทันที ทั้งสองตาต่อตาฟันต่อฟัน
เวลานี้เบื้องบนที่ชมการต่อสู้ทุกคนพากันส่ายหน้าให้ผู้อาวุโสเหลยเฮ่อ
ในสถานการณ์อย่างนี้ เยี่ยหวันหวั่นทำผิดพลาดใหญ่หลวงแล้ว แต่แม้เป็นเช่นนี้ก็ยังต้องยึดหลักปฏิบัติและตัดสินตามคดี อีกทั้งผู้อาวุโสเหลยเฮ่อเป็นอาจารย์ของเมิ่งเทียนและเมิ่งเข่อ จำต้องหลีกเลี่ยงการสงสัย ห้ามลงมือด้วยตัวเอง
เมื่อเห็นผู้อาวุโสเหลยเฮ่อถอยกลับไป ผู้อาวุโสกงจึงยอมล้มเลิกด้วย
————————————————————————————-
บทที่ 1682 ใครให้ความกล้าเธอมา
“บังอาจ!”
ทันใดนั้น กรรมการตัดสินกระโดดขึ้นเวทีอย่างรวดเร็วแล้วชี้เยี่ยหวันหวั่นพร้อมตะคอกเสียงเย็น “บอกกฎการแข่งขันกับเธอชัดเจนไปแล้วนะ สู้พอเป็นพิธี เธอฆ่าเพื่อนร่วมโรงเรียนยังไม่ยอมให้จับแต่โดยดีอีก!”
เยี่ยหวันหวั่นหันมองกรรมการตัดสินและอดขมวดคิ้วน้อยๆ ไม่ได้ “ไอ้ตัวอัปลักษณ์แก่หงำไม่ยอมตาย แกว่าใครนะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น กรรมการตัดสินอึ้งตะลึงเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้บอกว่าตัวเขาอัปลักษณ์งั้นเหรอ!
ใครให้ความกล้าเธอมา
ก่อนจะบอกว่าคนอื่นอัปลักษณ์ ตัวเองช่วยไปส่องกระจกก่อนได้หรือเปล่า!
“บังอาจ!” กรรมการตัดสินตะคอกเสียงดัง ทำท่าจะเข้าไปคว้าเยี่ยหวันหวั่น
เห็นดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็ยกเท้าขวา ราวกับมังกรน้ำออกทะเล ความเร็วเร็วถึงขีดสุด เห็นแค่เงาสายหนึ่งวาบผ่าน จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงทะลวงอากาศ
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว เยี่ยหวันหวั่นถีบช่วงล่างของกรรมการตัดสิน
จากนั้นกรรมการตัดสินก็ถูกถีบลอยไปและตกจากเวที
“อั่ก…เธอ…”
กรรมการตัดสินสองมือกุมเป้า หน้าผากมีเหงื่อเย็นไหลไม่หยุด ผู้หญิงคนนี้ ก็แม่งอำมหิตเกินไปแล้ว…!
ก็อย่างที่เขาว่ากันว่าตีคนไม่ตีหน้า ถีบคนไม่ถีบ…
“จิ๊…อ่อนแอจริงๆ…ไม่มีที่สู้ได้สักคน ถุย!” เยี่ยหวันหวั่นส่ายหน้าก่อนกวาดตามองทั่วทั้งสนาม “เอาที่แข็งแกร่งกว่านี้มาหน่อยไม่ได้เหรอ”
จากนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็หันมองที่นั่งสิบผู้แข็งแกร่งแล้วพลันยิ้มเอ่ย “พวกนาย…ลงมา”
ได้ยินดังนั้น เหล่าผู้ประลองสิบผู้แข็งแกร่งก็มองหน้าสบตากัน แต่กลับไม่มีสักคนขยับเขยื้อน
…
บนที่นั่งกิตติมศักดิ์ ศิษย์พี่รองเจี้ยนหู่มองผู้อาวุโสกงและรีบร้อนเอ่ยปาก “อาจารย์ รุ่นน้องเธอบ้าหรือเปล่า เห็นใครก็จะสู้ เดี๋ยวคงไม่ได้ฆ่าจนเลือดร้อน มาฆ๋าพวกเราหรอกนะ…”
ได้ยินคำพูดนี้ ผู้อาวุโสกงก็ไม่ตอบสนองใดๆ แต่ในดวงตากลับฉายแววกังวล
เห็นชัดว่าเยี่ยหวันหวั่นเมาหัวราน้ำแล้ว
หลังจากเมาหัวราน้ำนี้ก็จะยิ่งตกอยู่ในหายนะ ตัวเขาบอกอีกฝ่ายนานแล้วว่าเป็นทหารรับจ้างจะต้องไม่ดื่มเหล้า ดื่มเหล้าทำให้เรื่องราวยุ่งเหยิง แต่เธอกลับไม่ฟังแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามยังพกน้ำเต้าเหล้าติดตัวอีกด้วย!
ด้านล่างเวที จางต๋ากับจางจั้วเหนียนสบตากัน หัวใจเต้นรัวขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะจางจั้วเหนียน ทั้งร่างเขาถูกเหงื่อเย็นชุ่มโขกนานแล้ว
เขานึกไม่ถึงสักนิดเดียวว่า เยี่ยหวันหวั่นถึงกับเป็นสัตว์ประหลาดตั้งแต่หัวจรดหาง ผู้แข็งแกร่งระดับ S นั้นอย่างเมิ่งเข่อถูกเยี่ยหวันหวั่นอัดจนบาดเจ็บหนักไม่ว่า แต่แม้กระทั่งเมิ่งเทียน ผู้หญิงคนนั้นพูดว่าฆ่าก็ฆ่า ไม่มีความเมตตาแม้แต่น้อย
ตอนนั้นตัวเองถึงกับยั่วยุคนโรคจิตอย่างนี้!
ยังดีว่าเขาเป็นแค่นักเรียนทหารรับจ้างระดับ C เยี่ยหวันหวั่นเลยอาจจะดูถูกตัวเขา ไม่งั้นตัวเขาได้ถูกคนโรคจิตนั่นฆ่าไปแล้ว!
“จำเอาไว้ว่าหลังจากนี้อย่ายั่วยุเธออีก ถ้ายั่วยุแล้วก็อย่ามาสร้างปัญหาให้ฉัน!” จางต๋าเอ่ยกับจางจั้วเหนียนอย่างดุดัน
“อา…เธอยังมีโอกาสอีกเหรอ เธอฆ่าเมิ่งเทียนเชียวนะ” จางจั้วเหนียนหัวเราะหยันเอ่ย
ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้เยี่ยหวันหวั่นแข็งแกร่งจนเหมือนคนโรคจิตแล้วยังไง! เขามีรุ่นพี่สื่อเสินคุ้มภัย แถมยังมีทหารรับจ้างระดับ S+ รุ่นเก่ามากมาย ยังมีทหารรับจ้างระดับ SS ที่มีความสัมพันธ์กับเขาไม่เลวด้วย
เมิ่งเทียนทหารรับจ้างระดับ S อย่างนั้น อย่าว่าแต่ S+ ต่อให้เป็นระดับ S สูงสุด เมิ่งเทียนก็ยังไม่คู่ควรจะยกรองเท้าให้คนอื่นเขาด้วยซ้ำ
ต่อให้เยี่ยหวันหวั่นไม่ตาย รอลูกศิษย์คนโตของผู้อาวุโสเหลยเฮ่อกลับมาก็ไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไว้แน่!
จำต้องรู้ว่า ศิษย์คนโตของผู้อาวุโสเหลยเฮ่อบรรลุถึงขั้นทหารรับจ้างระดับ SS นานแล้ว
…
บนที่นั่งกิตติมศักดิ์ เนี่ยหลิงหลงจ้องมองเยี่ยหวันหวั่นบนเวทีด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“เยี่ยหวันหวั่น…” เนี่ยหลิงหลงพึมพำในลำคอ จากนั้นใบหน้าก็ผุดรอยยิ้มเหยียดหยัน
ดูท่าว่าหลังจากดื่มเหล้า ค่าพลังต่อสู้ของเนี่ยอู๋โยวคงจะฟื้นคืนกลับมาแล้ว