บทที่ 1719 เด็กหนุ่มต้องระวังความปลอดภัย
หลังสังเกตเห็นสายตาแปลกๆ ของเด็กสาวพวกนั้น สีหน้าของชีซิงพลันตื่นตัวขึ้นมา
“น้องชายเป็นคนจีนเหรอ หรือว่าคนประเทศ R” เด็กสาวใจกล้าคนหนึ่งก้าวมาชวนคุยคนแรก
“น้องชายหล่อมากเลย! เป็นศิลปินเหรอ?”
“ถ่ายรูปกับพวกเราได้ไหม”
“พี่ชาย เพิ่มวีแชตกันเถอะ!”
“พี่ชายมีแฟนหรือยัง”
…
ชีซิงยังไม่ทันตรวจสอบเจตนาของคนพวกนั้น ก็ถูกคำถามของคนแล้วคนเล่าถาโถมใส่ สิ่งที่ทำให้เขาตกใจคือ เด็กสาวพวกนี้กลับไม่กลัวเขาแม้แต่น้อย
ชื่อเสียงของเขาที่รัฐอิสระก็นับว่าทำให้คนได้ยินขวัญผวา ยังไม่เคยมีใครกล้าไม่ให้เกียรติเขามาก่อน
แต่เพราะที่นี่คือประเทศจีน เขาดูออกว่าเด็กสาวพวกนี้ไม่มีแม้แต่แรงมัดคอไก่ แล้วก็ไม่ได้มีเจตนาร้าย เขาจึงไม่ได้ลงมือ
อีกอย่างพวกเขาพาภารกิจมาจำต้องปกปิดตัวตน ห้ามแหวกหญ้าให้งูตื่น
แต่เห็นเขาไม่ตอบกลับ เด็กสาวพวกนั้นแต่ละคนกลับพากันขยับเข้ามาใกล้ สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแบบป้าๆ ที่ตื่นเต้น กระทั่งเริ่มจะยื่นมือเข้ามาลูบคลำแล้ว
ไม่นานใบหน้าของเขาก็ถูกลูบไปหลายครั้ง…
…
ตอนที่เยี่ยหวันหวั่นกับเป่ยโต่วเข้าห้องน้ำกลับมาก็เห็นฉากแบบนี้
ชีซิงถูกเด็กสาวกลุ่มหนึ่งล้อมไว้ แต๊ะอั๋งบนล่าง ใบหน้าหล่อเหลาเยาว์วัยตึงเครียด
“เชี่ย! เกิดเรื่องอะไรขึ้นเนี่ย!” เป่ยโต่วมีสีหน้าเปี่ยมความตกใจ
เยี่ยหวันหวั่น “เอ่อ…”
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองค่าความหน้าตาดีที่ไม่ธรรมดาของชีซิงก็ตอบสนองทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากเธอจึงจงใจสวมผ้าปิดปาก นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายเธอไม่ได้ดึงดูดความสนใจชีซิงก็กลับเกิดปัญหาขึ้นแล้ว
อาชีพที่ประเทศจีนของเธอคือผู้จัดการ เธอย่อมคุ้นชินกับสถานการณ์อย่างนี้ เยี่ยหวันหวั่นเดินเข้าไปอย่างใจเย็น เบียดเข้าไปในฝูงชนแล้วปกป้องชีซิงไว้ด้านหลัง
หลังจากขวางสายตาแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็ยิ้มเอ่ยกับเด็กสาวพวกนั้น “ขอโทษที ขอทางหน่อย น้องชายฉันไม่ใช่ดาราเป็นแค่คนธรรมดา รบกวนอย่าทำเขาตกใจกลัวเลย”
พูดจบก็มองไปยังเด็กสาวหนึ่งในนั้น “ลบรูปได้ไหม”
เด็กสาวมีสีหน้าลังเล แต่เห็นพี่สาวอีกฝ่ายพูดแล้วจึงได้แต่จำยอมลบรูปที่ตัวเองเพิ่งถ่ายเมื่อครู่
พี่สาวท่านนั้นแม้จะพูดอย่างเด็ดขาดทำให้คนไม่สามารถคัดค้าน แต่น้ำเสียงอ่อนโยนมากไม่ทำให้คนไม่พอใจแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นเธอจึงเชื่อฟังคำพูดของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว
เยี่ยหวันหวั่นเห็นเด็กสาวลบภาพอย่างปวดใจเหลือแสน สุดท้ายเหลือแค่ภาพหน้าข้างหนึ่งใบซึ่งมองหน้าตาไม่ออก จึงเอ่ยปาก “เก็บภาพนี้ได้”
เด็กสาวเดิมทียังคงไม่พอใจอยู่บ้าง พอฟังจบก็ดีใจทันที “จริงเหรอ ขอบคุณค่ะๆๆ!”
“ไม่เป็นไร”
สุดท้ายเมื่อส่งเด็กสาวพวกนั้นไปแล้ว เยี่ยหวันหวั่นถึงถอนหายใจ
จากนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็มองชีซิงบนที่นั่ง และย้ำเตือนอย่างเปี่ยมความจริงใจ “ชีซิงจำไว้นะ หนุ่มงามอยู่ข้างนอกเนี่ยต้องเรียนรู้จัดการปกป้องตัวเอง ที่นี่มีอันธพาลหญิงเยอะมาก เข้าใจไหม”
เป่ยโต่วฟังถึงคำพูดนี้ก็เกาหัวโดยไม่รู้ตัว พี่เฟิง แน่ใจนะว่าพี่พูดคำนี้ออกมาจะไม่มีปัญหาน่ะ?
ชีซิงเพิ่งเห็นสงครามแบบนี้ครั้งแรกก็เพิ่งได้สติกลับมา “เข้าใจแล้วครับ”
เป่ยโต่วที่อยู่ด้านข้างเผยสีหน้าปวดใจสุดแสน “เฮ้อ รู้ว่าจะเป็นแบบนี้ก็ให้ผมอยู่คนเดียวดีกว่า! ชีซิง หลังจากนี้เรื่องอันตรายอย่างนี้ยกให้ฉันเถอะ!”
เยี่ยหวันหวั่นกลอกตาใส่เป่ยโต่วอย่างหมดคำพูด “อย่าคุยไร้สาระแล้ว ไปกัน!”
“พี่เฟิง ต่อจากนี้พวกเราจะไปไหนเหรอ” เป่ยโต่วถามอย่างตื่นเต้น
เยี่ยหวันหวั่นมองท้องฟ้าสีครามไกลโพ้น “ฉันจะกลับบ้านก่อนหนึ่งรอบ พวกนายเคลื่อนไหวตามอิสระได้”
“กลับบ้าน? บ้านหลังนั้นตอนที่พี่อยู่ประเทศจีนเหรอ”
“อืม”
เพราะการก่อเรื่องใหญ่ของครูประจำชั้นเหลียงลี่หวาก่อนหน้านี้ ทางฝั่งพันธมิตรอู๋เว่ยนั้นจึงรู้สถานการณ์ของเธอหมดแล้ว ดังนั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องปกปิด
สิ่งที่เธออธิบายกับพวกชีซิงคือ ตอนอยู่ประเทศจีนเธอใช้ตัวตนเยี่ยหวันหวั่นปฏิบัติการ แต่พ่อแม่ของเยี่ยหวันหวั่นไม่รู้ตัวตนของเธอ
“งั้นพี่เฟิง พวกเรากลับไปเป็นเพื่อนพี่ดีกว่า” ชีซิงมองเยี่ยหวันหวั่นขณะเอ่ยเรียบๆ
————————————————————————————-
บทที่ 1720 นายอยากเล่นดูเหรอ
ยังไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก เป่ยโต่วก็พลันเข้ามาใกล้แล้วพูดว่า “ท้องร้องนิดหน่อยแล้ว ไปกินอะไรกันก่อนเถอะ…”
พอได้ยินว่ามีของกิน ผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสสามที่สวมสีแดงฉูดฉาดทั้งตัวก็เดินเข้ามาทันที
“เอาสิ” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าน้อยๆ ก่อนพาพวกเป่ยโต่วกับชีซิงออกจากสนามบินมาถึงร้านฟาสต์ฟู้ด KFC แห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับสนามบิน
“นี่คือร้านอาหารอะไร…ไม่เคยเห็นมาก่อน…”
พวกเป่ยโต่วตามเยี่ยหวันหวั่นเข้ามาในโถงใหญ่ เป่ยโต่วเหมือนเด็กขี้สงสัยไม่ปานมองสำรวจไปทั่ว
ที่รัฐอิสระย่อมไม่มีที่อย่างนี้ พวกเป่ยโต่วก็ไม่เคยกินและไม่เคยเห็นมาก่อน
“อืม…เอาปีกไก่นิวออลีนส์หนึ่งชุด…ไม่สิ เอาสองชุด…”
เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งพาพวกเป่ยโต่วกับชีซิงสี่คนนั่งลง ก็เห็นแค่ว่าชายผมยาวถึงเองสวมชุดออกกำลังกายสบายๆ บนหัวใส่หมวกแก๊ปอย่างตามใจคนหนึ่ง ทั้งที่เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่กลับสวยจนราวกับเป็นหญิงงามล้ำเลิศคนหนึ่ง
“น้องสาวท่านนี้หน้าตาสวยจัง…สวยกว่าเทพธิดาของผมอีก!”
เป่ยโต่วจ้องชายผมยาวคนนั้น ดวงตาเป็นประกายวาววับ
“หืม!?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ชายหนุ่มสีหน้าไร้อารมณ์เดินมาถึงข้างตัวเป่ยโต่ว “พูดว่าใครเป็นผู้หญิง”
“เวร…ผู้ชายนี่…” เป่ยโต่วจ้องชายตรงหน้าด้วยสีหน้าตะลึง
ทำไมถึงยังเห็นผู้ชายหน้าตาดีในที่อย่างนี้ได้กัน
“เด็กน้อย นายนี่ไม่รู้ห่าเหวอะไรเลยจริงๆ ” ชายหนุ่มเหล่มองเป่ยโต่วแวบหนึ่ง
“ว่ายังไงนะ ฉันให้โอกาสนายอีกครั้งหนึ่ง” ระหว่างที่พูดเป่ยโต่วมีสีหน้ายิ้มแย้ม เขาลุกขึ้นจ้องชายหนุ่มทันควัน
“เหอะ…อยากเล่นดูเหรอ” มุมปากชายหนุ่มยกขึ้นน้อยๆ วาดเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย ฝ่ามือขวาก็ไม่รู้ว่าเคลื่อนไหวยังไง กลับเคลื่อนย้ายมาที่หัวไหล่ของเป่ยโต่ว
แทบจะในพริบตานั้น ได้ยินแค่เสียงดัง ‘ปึง’ เป่ยโต่วที่เดิมทียืนตรงพลันงอตัวลงกลับไปบนที่นั่งใหม่อีกครั้ง
“เข้าใจผิด เข้าใจผิดกันทั้งนั้น…”
ชั่วพริบตานั้นเด็กสาวหน้าตาน่ารักสดใสบริสุทธิ์คนหนึ่ง ในมือถืออาหารชุดเซตครอบครัว มองพวกเป่ยโต่วกับเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าขอโทษขอโพย
“ท่านเทพ…ไปกันเถอะ…ภรรยาคุณใกล้คลอดแล้ว ยังจะมาก่อปัญหาที่นี่อีก…” เด็กสาวหันมองชายหนุ่มพลางรีบเอ่ยปาก
“อ่า…ขอโทษที”
ชายหนุ่มหาวหนึ่งที จากนั้นแทะขาไก่นิวออลีนส์ตามหลังเด็กสาวก้าวออกจาก KFC ไป
…
“เชี่ย…”
เวลานี้เห็นชายหนุ่มจากไปแล้ว หน้าผากเป่ยโต่วไหลซึมเหงื่อเย็นชุ่มโชก
“ทำไมเหรอ” เห็นดังนั้นชีซิงก็มองเป่ยโต่วและเอ่ยถาม
“ผู้ชายคนนั้น…น่ากลัวเป็นบ้าเลย…น่ากลัวจริงๆ นะ…” เป่ยโต่วส่ายหน้า “ชั่วชีวิตนี้ยังไม่เคยเจอผู้ชายที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน ตอนนั้นที่ฉันเผชิญหน้ากับเจ้าสวะหมะ ก็น่าจะรู้สึกอย่างนี้แหละ”
“เปรียบเทียบกับเจ้าสวะหมา สมองแกพังไปแล้วเหรอ” ผู้อาวุโสสามชายตามองเป่ยโต่ว
เจ้าสวะหมาได้ฉายาว่าแข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า นี่ไม่ใช่เพียงแค่ฉายาอย่างเดียว
“จะหลอกพวกนายไปทำไม…ผู้ชายคนนั้นโคตรน่ากลัวจริงๆ เมื่อกี้เขาตีฉันหนึ่งทีด้วย ฉันรู้สึกเหมือนทั้งร่างเกือบแตกสลายแล้ว…ถึงขั้นรู้สึกว่า ขอแค่เขาต้องการ ก็ฆ่าฉันได้ง่ายๆ ทุกเมื่อ…ไม่สิ นิ้วเดียวก็พอแล้ว…” เป่ยโต่วสูดหายใจลึก
ได้ยินคำพูดนี้ของเป่ยโต่ว เยี่ยหวันหวั่นกับพวกผู้อาวุโสใหญ่สบตากันก่อนหัวเราะน้อยๆ ไม่ได้จริงจังอะไร
คำพูดของเป่ยโต่ว แค่ฟังๆ ไปก็พอแล้ว