แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – บทที่ 381 กลยุทธ์ทุกข์กาย / บทที่ 382 ไม่ให้คุณไป!

บทที่ 381 กลยุทธ์ทุกข์กาย / บทที่ 382 ไม่ให้คุณไป!

บทที่ 381 กลยุทธ์ทุกข์กาย

“คุณย่า ชิ่นอวี้เข้าใจค่ะ ในเมื่อเรื่องไม่ดีในบ้านไม่ควรเอาไปโพทะนานอกบ้าน”

เดิมทีหมิงหย่วนคิดจะพูดอะไรอีกสักหน่อย แต่กลัวว่าหากพูดมากเกินไปจะแย่กว่าไม่ได้พูด ถึงได้บอกลาคุณหญิงย่าแล้วจากไปอย่างเชื่อฟัง

หลังจากหมิงหย่วนออกไปแล้ว ใบหน้าของคุณหญิงย่าก็ได้กลับมาใจเย็นอย่างที่เคยพลางสั่งว่า “เหล่าจง นายส่งคนไปสืบดูสิ”

เธอรู้จักหลานชายตัวเองดีว่าไม่ใช่คนเหลวไหลอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นจึงไม่เคยถามถึงฐานะและความเป็นมาของเยี่ยหวันหวั่น ทั้งๆ ที่รู้ว่าตระกูลของเธอกับตระกูลซือต่างกันราวฟ้ากับเหว ก็คิดว่า ขอเพียงหลานชายชอบ คนแก่อย่างเธอนี้ยอมตายก็จะสนับสนุนการตัดสินใจของเขา

แต่ปัญหาข้อแรกคือ ผู้หญิงคนนี้จะต้องจริงใจต่อเจ้าเก้า!

เธอไม่มีทางเชื่อคำพูดคนอื่นง่ายๆ แต่ไม่รูลมก็คงไม่พัด ในเมื่อเธอรู้แล้ว ก็จะอยู่เฉยไม่สนใจไม่ได้

“ครับ” พ่อบ้านตอบรับ

ตกกลางคืน เวลาดึก

คุณหญิงย่านอนไม่หลับทั้งคืน

จนกระทั่งเช้าวันถัดมา พ่อบ้านใช้ความเร็วอย่างที่สุดนำข้อมูลที่สืบมาได้วางไว้ตรงหน้าเธอ

“คุณหญิงท่าน ผมให้คนไปสืบมาแล้ว ยาเสพติดที่กล่าวถึงในข้อมูลที่คุณหนูชิ่นอวี้ให้มา เป็นชนิดที่หากเสพเข้าไป จะติดชั่วชีวิต แต่ว่าสองปีมานี้คุณหนูเยี่ยอาศัยอยู่ที่สวนจิ่นหยวนมาตลอด จากที่แพทย์ส่วนตัวของสวนจิ่นหยวนบอก เขาเคยตรวจร่างกายทั้งหมดของคุณหนูเยี่ย ร่างกายของคุณหนูเยี่ยปกติดีทุกอย่าง ไม่มีร่องรอยว่าเคยฉีดสารเสพติดเลยแม้แต่น้อย คิดว่าคงจะเป็นข่าวลือ”

สีหน้าของคุณหญิงท่านผ่อนคลายลง ทำสัญญาณให้เขาพูดต่อไป

พ่อบ้านจงจึงรายงานต่อไปว่า “ส่วนเรื่องมั่วเซ็กส์ ก็ไม่มีหลักฐานแม้แต่น้อย สังคมเพื่อนฝูงของคุณหนูเยี่ยก็บริสุทธิ์มาก เพียงแต่ว่า…”

“เพียงแต่อะไร?”

“เพียงแต่ก่อนที่คุณหนูเยี่ยจะรู้จักกับคุณชายเก้ามีคู่หมั้นอยู่คนหนึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงครับ แต่ก็พูดไม่ได้ว่าคุณหนูเยี่ยทรยศคุณชายเก้า เพราะตอนที่มาอยู่กับคุณชาย เหมือนว่าคุณหนูเยี่ยจะไม่ได้ยินยอมพร้อมใจ…”

สำหรับผลลัพธ์นี้ ชัดเจนว่าคุณหญิงย่าคาดไม่ถึง ในเมื่อไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนไม่ชอบหลานชายของเธอ

“ถ้าอย่างนั้นก่อนหน้านี้ที่เขากับเจ้าเก้าแสดงว่ารักใคร่กันดี นั่นมันเรื่องอะไรกัน?”

“เรื่องนี้…ในเมื่อคนเรามีความรู้สึก…บางทีอาจจะอยู่ๆ กันไปความรู้สึกคนสองคนก็เลยค่อยๆ ก่อตัว…” พ่อบ้านจงเรียบเรียงคำพูดก่อนจะเอ่ยออกมา

คุณหญิงย่าสูดหายใจเข้าลึก ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า “ฉันไม่ได้หวังอะไรจากเขาเลย ไม่สนด้วยว่าพวกเขาสองคนจะรู้จักกันได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้คบกันแล้ว ฉันขอแค่ให้เขาจริงใจกับเจ้าเก้า”

พ่อบ้านจงพูดปลอบใจขึ้นว่า “ตั้งแต่คุณชายเก้ามีความรัก เหมือนว่าจะเป็นไปในทางที่ดีนะครับ คุณหนูเยี่ยคนนั้นก็ดูไม่ใช่คนที่จิตใจร้ายกาจอะไร

วันนี้ผมยังได้ยินผู้ช่วยสวี่บอกว่า คุณหนูเยี่ยตั้งใจไปที่บริษัทบังคับให้คุณชายเก้าทานข้าว คุณท่านก็รู้ เวลาคุณชายเก้าทำงานไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แต่คุณหนูเยี่ยกลับมีวิธี ต่อให้ต้องป้อนข้าวคุณชายเก้าด้วยตัวเองก็ต้องให้เขาทานข้าวให้ได้ เวลาสั้นๆ บนรถก็อยู่เป็นเพื่อนคุณชายเก้าด้วย

เพราะฉะนั้นพูดได้ว่า ลูกหลานย่อมมีโชคของตัวเอง คุณชายเก้ามีบรรพบุรุษคอยคุ้มครอง คุณหญิงท่านวางใจเถอะครับ”

สีหน้าคุณหญิงย่าผ่อนคลายลง ผ่อนลมหายใจยาวเหยียด “ขอให้เป็นแบบนั้นแล้วกัน”

ในสัปดาห์นี้ เยี่ยหวันหวั่นดูแลความเคลื่อนไหวทุกอย่างของซือเยี่ยหานอย่างใกล้ชิด คอยสังเกตการทานอาหารทั้งสามมื้อและการพักผ่อนของซือเยี่ยหาน

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พรุ่งนี้จะเป็นวันที่ซือเยี่ยหานต้องเดินทางไปดูงานแล้ว

หลายวันมานี้เธอหาโอกาสและเหตุผลดีๆ ในการขัดขวางเขาไม่ได้เลย

เธอเคยลองคิดอย่างละเอียดดูแล้ว เรื่องที่ไม่สลักสำคัญอะไร ซือเยี่ยหานตามใจเธอได้ แต่เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีทางยอมให้เธอก่อเรื่องแน่นอน

เสียงกระซิบข้างหมอนกับกลยุทธ์หญิงงามล้วนไม่ได้ผล เพราะฉะนั้นก็เหลือเพียง…กลยุทธ์ทุกข์กายแล้วสินะ…

เยี่ยหวันหวั่นปวดหัวอยู่นาน หมดหนทางแล้ว สุดท้ายทำได้เพียงกัดฟันยกน้ำแข็งหลายถาดที่ตัวเองเตรียมไว้ก่อนแล้วออกมา แล้วยกเข้าไปในอ่างอาบน้ำ…

……………………………………………………….

บทที่ 382 ไม่ให้คุณไป!

เยี่ยหวันหวั่นแช่ตัวอยู่ในอ่างน้ำแข็งอยู่นานโข แช่น้ำแข็งจนตัวสั่นถึงได้ปีนออกมา

ตั้งแต่มีชีวิตใหม่ยังไม่เคยต้องทรมานทรกรรมแบบนี้เลย พยายามสุดๆ แล้ว…

เมื่อกลับมาถึงห้องรับแขก เยี่ยหวันหวั่นเก็บข้าวของทั้งหมดที่ตนเองเตรียมไว้เมื่อสองสามวันก่อน ยัดลงกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ใบหนึ่ง จากนั้นลากมันกลับจิ่นหยวนด้วยกัน

ตอนเรียกรถมาส่งถึงจิ่นหยวนก็กลางดึกแล้ว

เยี่ยหวันหวั่นส่งกระเป๋าสัมภาระในมือให้คนรับใช้ยกขึ้นไปเก็บบนตึก ก่อนถามขึ้น “คุณชายเก้ากลับมาหรือยัง?”

“ยังไม่กลับเลยค่ะคุณหนูเยี่ย” คนใช้เอ่ยตอบ

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินเช่นนี้ คิ้วพลันขมวดแน่น

เพื่อโครงการนี้ ซือเยี่ยหานทุ่มเททำงานหนักต่อเนื่องมาเป็นเวลาเกือบสามปีเต็มแล้ว ในระยะนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ เขาก็ยิ่งทำงานล่วงเวลาทุกวัน แม้แต่เวลานอนสามชั่วโมงก็ยังรับประกันไม่ได้

นี่ยังเป็นผลจากการที่เยี่ยหวันหวั่นจับตามองแล้ว อาศัยช่องบังคับให้เขางีบพักผ่อนสักหน่อย

แม้จะรู้เรื่องสุขภาพของเขาดี รู้ว่าหากเขายังทำแบบนี้ต่อไปร่างกายจะทรุดโทรมแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งได้…

เยี่ยหวันหวั่นทิ้งตัวนอนบนเตียง รอจนถึงเช้าตรู่ซือเยี่ยหานก็ยังไม่กลับมา

รู้สึกตัวตื่นอีกทีก็เป็นตอนเช้าของวันใหม่แล้ว ข้างกายยังหลงเหลือกลิ่นอายเย็นเยียบที่คุ้นเคย

มองเห็นฟ้าสางนอกหน้าต่าง เยี่ยหวันหวั่นพลันตื่น กุลีกุจอลุกขึ้นวิ่งลงบันไดลงตึกไปอย่างรวดเร็ว

มองจากไกลๆ เห็นรถหลายคันจอดอยู่หน้าประตู คันหนึ่งคือรถคันหลักของซือเยี่ยหาน ส่วนคันอื่นๆ เป็นรถของบอดี้การ์ด

ซือเยี่ยหานกำลังกำชับอะไรสักอย่างกับคนใช้ของจิ่นหยวน พูดจบก็เดินออกไปด้านนอก

สวี่อี้ก้าวเล็กๆ ไปข้างหน้า เปิดประตูเบาะหลัง พวกหลิวอิ่งก็ทยอยเตรียมตัวขึ้นรถ

เห็นซือเยี่ยหานกำลังจะไปแล้ว รูม่านตาของเยี่ยหวันหวั่นพลันหดเกร็ง พุ่งตัวตามไปด้วยความเร็วสุดกำลัง…

พริบตาที่ซือเยี่ยหานกำลังจะก้าวขาขึ้นรถ ก็พลันถูกอะไรบางอย่างชนแผ่นหลังอย่างแรง

วินาทีถัดมาก็มีแขนนุ่มหอมละมุนกอดรัดเอวของเขาไว้แน่น

ซือเยี่ยหานชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ หันกายกลับมา

จากนั้นจึงเห็นเยี่ยหวันหวั่นในชุดนอน ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใส่ร้องเท้าแตะเพียงข้างเดียว หายใจหอบกระชั้น สีหน้าท่าทางรีบร้อน…

“ไม่ให้คุณไป!”

ซือเยี่ยหานเห็นหญิงสาวเท้าเปล่าอยู่ข้างหนึ่ง จึงคิ้วขมวดถาม “รองเท้าล่ะ?”

นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังจะมาสนใจเรื่องรองเท้าอยู่อีก!

เยี่ยหวันหวั่นหอบหายใจ จับมือของซือเยี่ยหานไว้แน่น พลางเอ่ยซ้ำอย่างร้อนใจ “อย่าไปนะ! อย่าไปทำงานต่างประเทศ! อย่าไปประเทศ B เลย!”

ในช่วงเวลานั้น สายตาของทุกคนทั้งสวี่อี้ หลิวอิ่ง และบอดี้การ์ดต่างมองมาที่เยี่ยหวันหวั่น

คนใช้ของจิ่นหยวนเห็นเช่นนี้ก็รีบร้อนช่วยเก็บรองเท้าแตะอีกข้างที่เธอทำหล่นมาให้

ซือเยี่ยหานกำลังจะช่วยเธอสวมรองเท้า เยี่ยหวันหวั่นก็สะบัดเท้ารองเท้าแตะอีกข้างออกด้วยความหงุดหงิด “ไม่ต้องสนใจเรื่องรองเท้าแล้ว! ที่ฉันพูดคุณได้ยินแล้วหรือยัง ห้ามไปประเทศ B”

ช่วงนี้อารมณ์ของเยี่ยหวันหวั่นแปรปรวนอยู่ตลอด หงุดหงิดโมโหง่าย ซือเยี่ยหานเห็นเป็นเรื่องปกติแล้ว คิดเพียงว่าเธอกำลังอารมณ์เสียอีก จึงเอ่ยว่า “อาทิตย์เดียวฉันก็กลับมาแล้ว”

เยี่ยหวันหวั่นโกรธจวนจะไม่ไหว กลับมากับผีน่ะสิ กลับมาน่ะกลับมาแน่ แต่ถ้ารอจนคุณกลับมา ชีวิตอันแสนสั้นของคุณก็แทบไม่เหลือแล้ว!

เยี่ยหวันหวั่นร้องห่มร้องไห้แนบตัวติด “ไม่ให้ไปๆ ฉันไม่สบาย ทรมานจะตายอยู่แล้ว คุณจะทิ้งฉันไว้คนเดียวเหรอ?”

ซือเยี่ยหานขมวดคิ้วเบาๆ “ไม่สบายตรงไหน?”

เยี่ยหวันหวั่นรีบบอก “ฉันเวียนหัว ตาลาย แขนขาอ่อนแรง หายใจก็ลำบาก ต้องเป็นไข้แน่ๆ เลย…”

…………………………………

Options

not work with dark mode
Reset